Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 203

ตอนที่ 203

บทที่203 ทิ้งไม่ลงจริงๆ

หลินเวยอาการยังคงโคม่าอยู่ ที่มือและเท้าของเธอได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง ร่างกายของเธอเต็มไปด้วยผ้าพันแผล สถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นเท่าไหร่

ต้องใช้เวลาอย่างน้อยสิบสองชั่วโมง ถึงจะพ้นขีดอันตราย

ฉีเซินยืนอยู่ข้างๆ ด้วยใบหน้าที่ตึงเครียดตลอดเวลา

ได้เห็นเวินจิ้งเข้ามา เขาก็หยุดชะงัก ตอนเธอกำลังเดินมา

“เวินจิ้ง ครั้งนี้ขอโทษจริงๆ” ฉีเซินได้ขอโทษอย่างสุภาพอีกครั้ง

ขณะที่แม่เขาเพิ่งจะกำลังตกอยู่ในอันตราย เขาไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากจำเป็นต้องให้เวินจิ้งไปบริจาคเลือด

แต่หลังจากที่เธอได้นอนสลบไป เขาก็เริ่มหงุดหงิด

“มันเป็นเรื่องยากที่คุณจะต้องมาพูดคำขอโทษ” เวินจิ้งกระซิบและให้ความสนใจไปยังร่างของหลินเวย

เมื่อได้เห็นบาดแผลมากมายบทร่างของเขา นัยน์ตาของเวินจิ้งก็เผยให้เห็นถึงความรู้สึกเจ็บปวด

“แม่ฉันได้กำชับฉันไว้ ว่าเขากังวลคุณนายฉีมาก”

แววตาลึกๆของฉีเซิน มองไปยังเงามืดของเวินจิ้ง พลางทำคิ้วอ่อนนุ่มลง

“ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม ตระกูลฉีของเราเป็นหนี้บุญคุณคุณ คุณจะให้ผมช่วยเหลืออะไรก็ได้ ขอให้คุณบอกมา”

เวินจิ้งได้หยุดชะงัก ขอความช่วยเหลืองั้นเหรอ

เธอคิดอย่างจริงจังเกี่ยวกับคำขอร้อง แต่ดูเหมือนว่ามู่วี่สิงก็สามารถช่วยเหลือเธอได้ทั้งหมด …….

“รอฉันคิดออกค่อยพูดอีกที ถ้าคุณนายฉีฟื้นแล้ว รบกวนคุณบอกฉันด้วย” เวินจิ้งอยู่ได้ไม่นาน

สุดทางของระเบียง มู่วี่สิงได้โทรหาเกาเชียน “ฉันต้องการข้อมูลทั้งหมดของหลินเวยกับเจี่ยนอี”

เมื่อทั้งสองกลับถึงโรงแรม ทันที่ที่เข้าถึงล็อบบี้ ร่างสูงชะรูดของลี่หนานเฉิงก็เดินเข้ามา “โย่ พวก ฉันรอนายตั้งนาน!”

มู่วี่สิงพลางทำคิ้วนุ่มนวล “มีอะไร”

ลี่หนานเฉิงได้มองเวินจิ้ง และพูดด้วยเสียงต่ำ “เสี้ยวหงก็มาแล้ว หลายคนก็อยากพบนาย แต่ดูเหมือนนายจะไม่สะดวก”

“ไม่สะดวกจริงๆ วันอื่นเถอะ” พูดจบ มู่วี่สิงก็โอบกอดเวินจิ้ง

เวินจิ้งเพิ่งได้ยินคำพูดของลี่หนานเฉิง และได้ดึงมู่งวี่สิงอย่าไม่ตั้งใจ “คุณมีธุระก็ไปเถอะ ฉันกลับไปก็จะนอนแล้ว”

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว พลางยกหน้าเล็กๆของเธอขึ้น “ถ้าคุณไปเป็นเพื่อนผม ผมก็จะไป”

“ฉันง่วงแล้ว ……” เวินจิ้งกระซิบ ถึงแม้ว่าจะได้มีโอกาสนอนมาแล้วตอนอยู่โรงพยาบาล แต่ร่างกายของเธอก็ยังรู้สึกไม่ค่อยสบาย

“งั้นผมก็จะไปนอนเป็นเพื่อนคุณ” มู่วี่สิงพูดอย่างตามใจ

ลี่หนานเฉิงได้ตามเข้าไปในลิฟท์อย่างอึดอัด เมื่อได้ยินคำสองคำนี้ หน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นหน้าตำ

“ได้เลย ถ้าจะทำกับฉันเหมือนหมาที่โดดเดี่ยวตัวนึง” ลี่หนานเฉิงพูดอย่างไม่พอใจ

หากมู่วี่สิงไม่ไป ก็ไม่สามารถรวมกลุ่มได้

เวินจิ้งยิ้มขึ้นทันที แต่นึกขึ้นได้ว่าไม่นานมานี้ ได้เห็นลี่หนานเฉิงใกล้ชิดกับผู้หญิงคนหนึ่ง

ปีศาจอย่างลี่หนานเฉิง มีความเป็นไปได้น้อยมากที่ยังโสดอยู่

อย่างไรก็ตาม ลี่หนานเฉิงก็คือเจ้านายของเธอ เวินจิ้งจึงไม่กล้านินทาเรื่องส่วนตัวของเขา

“พรุ่งนี้เช้าประชุมเก้าโมง หลังจากนั้นเวลาของคุณ ก็เป็นของมู่วี่สิงแล้ว” หลังออกไปลี่หนานเฉิงก็ได้พูดกับเวินจิ้ง

แก้มของเวินจิ้งก็เริ่มแดง “ถ้าไม่มีอะไร ฉันก็จะกลับไปที่หนานเฉิงแล้ว”

“ฮื้ม จะทิ้งคนบางคนได้เหรอ” ลี่หนานเฉิงแกล้ง

มู่วี่สิงงอริมฝีปากบางๆ “ทิ้งไม่ลงจริงๆ”

“ฮึ้ม” เวินจิ้งได้สับสนมึนงง ถ้าไม่กลับไป แล้วจะอยู่ที่นี่ทำไม

แต่ก่อนที่จะแยกกัน เธอต้องไปเยี่ยมคุณนายฉี

“อีกสักสองวันค่อยกลับ” มู่วี่สิงไม่ได้พูดอย่างละเอียด

เวินจิ้งมองไปที่ใบหน้าอันหล่อเหลา และอดไม่ได้ที่จะทำตาม

วันรุ่งขึ้น ลี่หนานเฉิงและเวินจิ้งได้มาถึงบริษัทโป๋ทงกรุ๊ปตรงเวลา และฉืออี้เหิงกำลังรออยู่ในห้องประชุม

การสนทนาครั้งล่าสุด ทั้งสองบริษัทได้นำข้อกำหนดใหม่มาใช้ ถ้าไม่มีปัญหาบริษัทโป๋ทงกรุ๊ปก็จะเริ่มทำการขายได้อย่างเป็นทางการ

ทุกอย่างเป็นที่แน่นอนแล้ว ท่าทีของฉืออี้เหิงนั้นดีกว่าเมื่อก่อน

อย่างไรก็ตามอีกฝ่ายคือลี่หนานเฉิง ลูกชายคนที่สามของตระกูลลี่ เมื่อก่อนหนานเฉิงก็เป็นบุคคลที่โด่งดัง ทุกคนต่างก็หวาดกลัว

หลังจากการประชุมสิ้นสุดลง ลี่หนานเฉิงก็ได้ออกไปก่อน เวินจิ้งยังคงอยู่เพื่อติดตามงานต่อไป

ฉืออี้เหิงนั่งอยู่ตรงข้ามเธอ เมื่อมองไปยังเวินจิ้งเขาพลางขมวดคิ้วอย่างเบาๆเล็กน้อย

“คุณฉือ นี่เอกสาร ช่วยเซ็นชื่อหน่อยค่ะ” เวินจิ้งได้มอบเอกสารไปยังเขา

สายตาที่ลึกลับของฉืออี้เหิง ทำให้เวินจิ้งขมวดคิ้ว

“อืม” เขาตอบรับแล้วเซ็นชื่อ เขาถาม “รอทานข้าวด้วยกันไหม”

“ขอโทษด้วยค่ะ ฉันยังมีธุระอื่นจะต้องทำ”

“เดี๋ยวผมคงจะอยู่ในเมือง B อีกนาน เกรงว่าไม่น่าจะกลับไปเมืองหนานเฉิง” ฉืออี้เหิงกล่าวขึ้น

เมื่อได้ยิน เวินจิ้งก็ได้ยิ้ม “นี่มันไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไหร่ค่ะ ได้เข้ามาที่บริษัทโป๋ทงกรุ๊ปก็ไม่ต่างอะไรกับบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปหรอกค่ะ”

คำพูดประชดประชัดของเวินจิ้งนั้น ฉืออี้เหิงได้ยินอย่างชัดเจน

เขาได้ทำหน้าเย็นชา “ใช่ ไม่เพียงแต่พวกเราเป็นหุ้นส่วนกัน เวินจิ้ง พวกเราก็ได้เจอกันบ่อยๆ”

เวินจิ้งขมวดคิ้ว เธอรู้ดี และกลัวว่าที่จะต้องติดต่อกับฉืออี้เหิงไปอีก

“อืม ตราบใดที่คุณฉือไม่ต่อต้าน ความร่วมมือของพวกเราก็ราบรื่นค่ะ” เวินจิ้งยิ้มอย่างเฉยเมย และกลับออกไป

เมื่อเดินออกจากห้องประชุม รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอก็ค่อยๆจางไป

ขณะนั้น โทรศัพท์ก็ได้ดังขึ้น เป็นสายโทรเข้าของมู่วี่สิง

เขากำลังรอเธออยู่ชั้นล่างแล้ว

ขณะนั้น เสียงของฉืออี้เหิงก็ได้ดังขึ้นอยู่ข้างหลัง

“รีบร้อนอะไรกัน มู่วี่สิงมาแล้วเหรอ” ฉืออี้เหิงพูดอย่างเย้ยหยัน

เวินจิ้งเงิยหน้าด้วยแววตาที่เย็นชา “มันเป็นเรื่องส่วนตัวของฉัน คุณฉืออย่าได้กังวลอะไรไปเลยค่ะ”

“งั้นเหรอ” ฉืออี้เหิงได้เอามือทั้งสองล้วงกระเป๋ากางเกง และก้าวเข้ามาใกล้

เวินจิ้งถอยหลังกลับอย่างไม่รู้ตัว แต่กลับกลายเป็นว่าได้ถูกเขาบังคับให้ติดกับผนัง และอดไม่ได้ที่จะโกรธ “ฉืออี้เหิง คุณกำลังจะทำอะไร!”

“แกล้งคุณ” ชายคนนั้นได้หยอกเย้าริมฝีปากอย่างสนุกสนาน

เวินจิ้งทำหน้านิ่ง ผลักเขาอย่างไวและเดินเข้าลิฟต์ไปอย่างรวดเร็ว รอยยิ้มที่เยือกเย็นของฉืออี้เหิง ได้สะท้อนอยู่ในหัวกับเรื่องที่ไม่สามารถลืมได้

“เกิดอะไรขึ้นเหรอ” เมื่อได้ขึ้นรถ สีหน้าของเวินจิ้งได้ซีดเซียว

เธอส่ายหัว และถูกมู่วี่สิงกุมมือไว้ เธอรู้สึกอยากได้ที่พึ่งจากเขา

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว และสังเกตเห็นได้ชัดถึงความผิดปกติของเวินจิ้ง

“ฉืออี้เหิงเหรอ” น้ำเสียงเขาเยือกเย็นมาก

เวินจิ้งได้ตัวแข็งทื่อ “ไม่เป็นไรจริงๆ”

มู่วี่สิงไม่ได้ถามต่อ ใบหน้าหล่อเหลาได้ส่งประกายความน่ากลัวออกมา

ในเช้าวันนี้หลินเวยได้ฟื้นขึ้นมาแล้ว เวินจิ้งได้ไปเยี่ยมเธอ และมู่วี่สิงกำลังรอเธออยู่ข้างนอก

ฉีเซินได้ออกไปยืนอยู่ข้างๆ ยืนอยู่ข้างหลังเวินจิ้ง

เมื่อได้เห็นเวินจิ้ง เผยให้เห็นถึงรอยยิ้มที่อ่อนแอของหลินเวย “เธอ ยังอยู่ในเมือง B เหรอ”

“อีกไม่กี่วันก็กลับแล้วค่ะ คุณนายฉี ฉันและแม่เป็นห่วงคุณมาก”

“ฉันรู้ว่าเธอเป็นคนบริจาคเลือดให้ฉัน ลำบากเธอแล้ว” หลินเวยจับมือของเวินจิ้ง ความเย็นนั้นทำให้เวินจิ้งสั่นไหว

เธอนั่งลง จับมือของหลินเวยแทน “ฉันก็ทำเต็มที่ที่สุด คุณนายฉีไม่ต้องห่วงเรื่องนี้”

“ก็ไม่ได้หรอก เธอได้ช่วยชีวิตฉันเอาไว้ เสี่ยวจิ้ง ฉันอยากให้เธอมาเป็นลูกบุญธรรมของฉัน เธอยินดีไหม” หลินเวยมองเธออย่างคาดหวัง

เวินจิ้งตกตะลึง คิดไม่ถึงไม่ถึงว่าหลินเวยจะขอร้องแบบนี้

“เธอเป็นเด็กที่ฉันชอบมาก ดูแล้วฉันก็มีเพียงแค่ฉีเซินลูกชายคนเดียว คิดอยู่เสมอว่าอยากจะมีทั้งลูกชายและลูกสาว ถ้าเธอยอมให้ฉันเป็นแม่ของเธอ ฉันก็ไม่เสียดายอะไรแล้ว” คำพูดของหลินเวยค่อนข้างจริงจัง

พูดจบ แต่ฉีเซินกลับชิงพูดก่อน “แม่ ผมไม่เห็นด้วย”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท