Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 206

ตอนที่ 206

บทที่206 สิ่งที่ทำร้ายคุณก็มีแต่ตัวของคุณเอง

จนกระทั่งตอนเย็น เวินจิ้งยังคงรออยู่ ดูท่าแล้วบริษัทโป๋ทงกรุ๊ปคงต้องการจะถ่วงเวลา

เธอยังไม่ได้กินอะไรเลย ตอนนี้เริ่มหิวจนหน้าซีด

ตอนนี้ก็เลย เวลาเลิกงานแล้ว เธอมองไปยังสัญญาที่วางอยู่ที่นี่ แล้วหยิบมันขึ้นมาวางไว้บนสุด

ทางเดินเงียบสงัดไร้ผู้คน แต่ประตูท้ายออฟฟิศยังคงเปิดไว้เพียงครึ่งเดียว

เวินจิ้งเคาะประตู หน้าตาอันหล่อเหลาของฉืออี้เหิงเข้ามาอยู่ตรงหน้า

“คุณฉือ” เธอเรียกเขาอย่างสุภาพ

ฉืออี้เหิงไม่ได้ทำงานใดๆอยู่และไม่ได้ยุ่งด้วย

เวินจิ้งขมวดคิ้ว เดินเข้าไป “คุณฉือ นี่มันคืออะไรกัน”

ฉืออี้เหิง เงยหน้าขึ้นมองเวินจิ้งอย่างไม่แยแส “ลูกน้องผมบอกผมแล้วแหละ ว่าบริษัทการผลิตยาเทียนอีต้องการจะยกเลิกสัญญา แต่ผมคิดว่าการขายของเหม่ยทงไม่ได้มีผลอะไรกับกลยุทธ์ของเรา”

“ตอนนี้บริษัทการผลิตยาเทียนอีเสนอที่จะยุติสัญญา ถ้าคุณฉือไม่เห็นด้วย ก็คงจะมีเพียงวิธีการทางกฎหมาย”

ลี่หนานเฉิงเคยพูดไว้แล้ว ว่าบริษัทโป๋ทงกรุ๊ปก็ไม่ยอมรับว่ากลยุทธ์ของตัวเองมีความผิดพลาด ดังนั้นบริษัทการผลิตยาเทียนอีก็เลยจำเป็นต้องยืนกรานที่จะยกเลิกสัญญา

“เวินจิ้ง ฉันรู้ว่าตอนนี้พวกคุณมีผู้สนับสนุนแล้ว มีเงินมากแล้ว แต่จะใช้ฟุ่มเฟือยแบบนี้ไม่ได้ เรื่องของเหม่ยทง ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรที่จะกระทบกับการซื้อขายยาบริษัทโป๋ทงกรุ๊ป ตอนนี้ชื่อเสียงในอินเทอร์เน็ตมันก็เสียไปแล้ว ผู้บริโภคไม่มีทางจะซื้อ”

“แล้วทำไมก่อนหน้านี้ บริษัทโป๋ทงกรุ๊ปถึงยอมเซนต์สัญญาทำกลยุทธ์การขายกับพวกเรา” เวินจิ้งถามด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ

ถ้าอย่างนั้นบริษัทโป๋ทงกรุ๊ปก็กำลังจะโกงพวกเขา!

“แล้วคุณว่ายังไง” ฉืออี้เหิงหรี่ตา ตอบไปอย่างฉะฉาน

“คุณฉือ ยกเลิกสัญญาเถอะ บริษัทการผลิตยาเทียนอีจะจ่ายค่าชดเชยให้คุณ” เวินจิ้งเริ่มสงบลง

เธอไม่รู้ว่าฉืออี้เหิงพุ่งเป้าไปที่บริษัทการผลิตยาเทียนอี หรือมุ่งเป้ามาที่เธอกันแน่

“เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ผมตอบคุณตอนนี้ไม่ได้หรอก”

เวินจิ้งยิ้มมุมปาก “ฉืออี้เหิง คุณกำลังคิดอะไรกันแน่”

ฉืออี้เหิงหัวเราะ “เวินจิ้ง คุณคิดว่าฉันมุ่งเป้าไปที่คุณงั้นเหรอ”

“ฉันไม่ได้คิดแบบนั้น ฉันแค่หวังว่าคุณฉือจะรีบจัดการแก้ปัญหาเรื่องนี้สักที”

“จุ๊ๆ ขอร้องผมขอร้องผมก่อน” ฉืออี้เหิงยื่นหน้าเข้ามาใกล้พร้อมทำตาหยี

เวินจิ้งถอยกลับไปอย่างไม่รู้ตัว ไม่รู้ว่าประตูของออฟฟิศถูกปิดไปตั้งแต่เมื่อไร

และเธอก็ไม่เห็นใครที่นี่เลย

“คุณนี่มันเกินไปแล้ว!” เวินจิ้งลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธ

ฉืออี้เหิงลูบคางพร้อมยิ้มมุมปาก “นี่มันมากไปเหรอ เวินจิ้ง ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ”

“ในเมื่อคุณฉือไม่ต้องการจะพูดคุยถึงเรื่องนี้ งั้นก็รอทนายแล้วกัน” เวินจิ้งหายใจเข้าลึกๆแล้วหันหลังกลับออกไป

แต่ประตูได้ถูกล็อคเรียบร้อยแล้ว เธอใช้แรงเปิดเท่าไรก็เปิดประตูไม่ออก

ฉืออี้เหิงค่อยๆเดินเข้ามาด้านหลังทีละก้าวๆ ขวางเวินจิ้งไวเที่หน้าประตู

“ทำไมอารมณ์ของเธอถึงกลายเป็นแบบนี้ซะหละ โผงผางขนาดนี้ผมไม่ชอบเลยนะ” นิ้วอันเรียวยาวของเขาเริ่มบีบคางของเธอ

เวินจิ้งยกมือขึ้นผลักเขาออกไป ฉืออี้เหิงไม่รู้สึกหงุดหงิดอะไรเธอ ได้แต่ขวางเธอไว้ไม่ให้มีทางหนีได้

“แล้วใครอยากให้คุณชอบห๊ะ!” เวินจิ้งจ้องไปที่เขา “ฉืออี้เหิง เปิดประตูเดี๋ยวนี้!”

“แล้วถ้าผมไม่เปิดหละ”

“ฉันจะแจ้งตำรวจ!” พูดจบ เวินจิ้งก็หยิบโทรศัพท์ออกมา แต่ทันทีที่หยิบมันออกมา ฉืออี้เหิงก็คว้าเอาโทรศัพท์นั้นทิ้งลงไปบนพื้น

“ฉืออี้เหิง!” เวินจิ้งยกเท้าขึ้นแล้วเหยียบกระแทกลงบนเท้าของเขาอย่างแรง

ฉืออี้เหิงรู้สึกเจ็บแต่อย่างไรก็ยังไม่ยอมปล่อยเธอ

“คุณไม่กลัวว่าฉันจะเปิดโปงเรื่องของคุณกับฉีเฟยเหรอ” เวินจิ้งจ้องเขา

ถ้าคนของตระกูลฉีรู้เรื่องนี้ เกรงว่าทางเดินของฉืออี้เหิงหลังจากนี้คงจะไม่ดีเท่าไร

“คุณขู่ผมเหรอ” ความเยือกเย็นในดวงตาของฉืออี้เหิงเริ่มปรากฏขึ้นมา

เวินจิ้งยิ้มอย่างไม่แยแส “คุณกล้าที่จะขังฉัน/ทำฉัน ฉันก็กล้าจะเปิดโปงมัน”

ทั้งหมดก็เป็นเพราะฉืออี้เหิงบีบบังคับเธอ

ทันใดนั้นเขาก็บีบคอเธออย่างแรง เวินจิ้งเงยหน้าขึ้นมอง ร่างกายเริ่มสั่นเทิ้ม

ดวงตาของฉืออี้เหิงค่อยๆแดงขึ้น

“เวินจิ้ง ครั้งนี้ผมคงไม่ให้โอกาสคุณอีก!” พูดจบฉืออี้เหิงก็ลากเวินจิ้ง ไปไว้บนโซฟา โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น หน้าจอแสดงผู้โทรเข้าคือ “สามี”

เห็นได้ชัดว่าเมื่อฉืออี้เหิงมองเห็นมัน ความเยือกเย็นในดวงตาของเขายิ่งแพร่กระจายมากขึ้น เขากดเวินจิ้งไว้ล่างตัวเขา แล้วพูดไปอย่างเยือกเย็น “เอาสิ ถ้าบอกให้มู่วี่สิงรู้ว่าพวกเรากำลังทำอะไรกัน การแต่งงานของพวกคุณก็คงจะต้องถูกยกเลิกแล้วหละ”

ดวงตาของเวินจิ้งเบิกกว้างด้วยความหวาดกลัว มือและเท้าทั้งผลักและเตะฉืออี้เหิง แต่ด้วยกำลังของเธอไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ในไม่ช้าก็ถูกเขากดไว้จนนิ่ง

เขาบ้าไปแล้ว!

“ฉืออี้เหิง ไอ้คนชั่ว!” เวินจิ้งยกมือขึ้นแล้วตบไปที่หน้าเขา

ฉืออี้เหิงเยาะเย้ย “ผมยอมรับ ไม่อย่างนั้นก็คงมาไม่ถึงวันนี้ ที่ถูกคุณฆ่าตายมานานแล้ว!”

เวินจิ้งมองไปยังใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธเกลียดของฉืออี้เหิง เขาเกลียดเธอเข้ากระดูก

เมื่อมองไปรอบๆ ตรงหน้าเป็นหน้าต่างที่สูงจากพื้นจรดเพดาน ไม่มีประตูอื่นแล้ว

เธอคิดที่จะหยิบโทรศัพท์ แต่ฉืออี้เหิงไม่คิดที่จะให้โอกาสนั้นกับเธอ

สีหน้าของเวินจิ้งเริ่มซีดขาวขึ้นเรื่อยๆ

“ฉันไม่ได้ทำร้ายอะไรคุณเลย ฉืออี้เหิง คุณเองที่ทำร้ายตัวเองมาตั้งแต่ต้น!” เวินจิ้งพูดด้วยความโกรธ

คำพูดนี้ทำให้ฉืออี้เหิงยิ่งโกรธ เขายิ่งบีบคอเธอแน่นขึ้นกว่าเก่าให้เธอเจ็บจนหายใจไม่ออก

มีเสียงดังสนั่นขึ้นด้านนอกประตู ฉืออี้เหิงเหล่ตาไปมอง และปล่อยมือออกจากเธอ ทันใดนั้นประตูก็ถูกคนด้านนอกถีบให้เปิดออก

ใบหน้าของฉีเซินปรากฏขึ้นตรงหน้า แววตาของเวินจิ้งแสดงออกถึงความผิดหวังออกมา

เธอคิดว่าควรจะเป็นมู่วี่สิง

ฉีเซินเข้าใจความหมายสีหน้าแบบนั้นของเธอดี เขายิ้มมุมปาก ยกเท้าขึ้นเตะฉืออี้เหิงออกไป จากนั้นคว้าข้อมือของเวินจิ้งไว้

เวินจิ้งเริ่มรู้สึกไม่ค่อยดี เธอเริ่มไออย่างรุนแรง และยืนอย่างไม่ค่อยมั่นคง

“ฉืออี้เหิง นี่แกกล้าทำเธอเหรอ” ฉีเซินมองด้วยสายตาเยือกเย็น

ฉืออี้เหิงตกใจมาก ไม่คิดว่าฉีเซินจะโผล่เข้ามา

“พวกเราไม่มีอะไรทั้งนั้น คุณฉี…….” ฉืออี้เหิงเปลี่ยนท่าทีเป็นความเคารพทันที

ฉีเซินไม่ได้สนใจมองเขา พูดไปอย่างเย็นชา “ฉืออี้เหิง อย่าคิดนะว่าฉันไม่รู้ว่านายจะทำอะไร”

ฉืออี้เหิงหน้าซีดจนยืนแทบไม่ไหว

ตอนนี้เวินจิ้งไม่มีแรงจะพูดอะไรแล้ว เธอผลักฉีเซินออกแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา

มู่วี่สิงโทรมาหาเธอ เธอต้องการจะโทรกลับในทันที

แต่ก็ถูกฉีเซินหยุดไว้

“ผมช่วยคุณไว้ ไปโรงพยาบาลกับผม แม่ของผมอยากพบคุณ” ฉีเซินออกคำสั่งกับเธอ

เวินจิ้งมองผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าพร้อมขมวดคิ้ว

ฉีเซินได้พยุงตัวเธอเพื่อพาออกไป และพูดอย่างเยือกเย็นก่อนที่จะไป“ฉืออี้เหิง นี่คือครั้งสุดท้าย”

เข้ามาในลิฟท์ เวินจิ้งพิงลงบนผนัง ตอนนี้โทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง เธอกดรับสายในทันที

“จะกลับเมื่อไร หนานเฉิงอยู่ข้างล่าง” มู่วี่สิงพูดด้วยเสียงต่ำ

“ฉันไม่เป็นอะไร ตอนนี้กำลังจะไปเยี่ยมคุณนายฉี” เวินจิ้งตอบ

“ฉีเซินอยู่กับคุณเหรอ” มู่วี่สิงถามอย่างกระตือรือร้น

เวินจิ้งเม้มปาก “ใช่”

“คืนนี้คุณกับหนานเฉิงนั่งเครื่องบินส่วนตัวกลับมาด้วยกันเลยนะ”

“ทำไมรีบร้อนขนาดนั้น” เวินจิ้งคิดว่าจะเป็นวันพรุ่งนี้

แล้วก็เรื่องเครื่องบินส่วนตัวนั่น…..จะใช่หรือไม่มันก็ดูเวอร์ไป

แต่เมื่อคิดถึงท่าทีของฉืออี้เหิงเมื่อกี้นี้แล้ว เธอก็รู้สึกกลัวขึ้นมา

“ นี่เพื่อความปลอดภัยของคุณนะ คุณนายมู่ “

เวินจิ้งยิ้ม เมื่อได้ยินเสียงของมู่วี่สิงแล้วเธอก็รู้สึกสงบลงได้ไม่น้อย

ฉีเซินที่อยู่ด้านข้างมองไปยังรอยยิ้มของเธอ แววตาก็ยิ่งลึกซึ้งมากขึ้น

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท