Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 227

ตอนที่ 227

บทที่ 227 ควรจะคิดเกี่ยวกับการมีลูกได้แล้ว

รถเพิ่งออกจากตระกูลฉี เวินจิ้งก็รับโทรศัพท์ของฉีเซิน หลินเวยโรคกำเริบเป็นลมไป

เวินจิ้งหันมาสนใจแม่ทันที เห็นแม่ดูเหมือนเหนื่อย สั่งให้คนขับพาเธอกลับบ้านก่อน

“เวินจิ้ง อยู่เป็นเพื่อนเธอนานๆ” เจี่ยนอีขอร้อง

เวินจิ้งไม่ได้คิดอะไรมาก พยักหน้าทันที

เจี่ยนอีมองดูร่างของลูกสาว น้ำตาไหลออกมาทันที ทำเช่นนี้ เป็นเรื่องถูกหรือผิด……..

……

หลินเวยถูกส่งไปที่โรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว เวินจิ้งเพิ่งรู้ว่าหลินเวยมีภาวะหัวใจล้มเหลวอย่างรุนแรง

ไม่นานมานี้เธอได้รับการวินิจฉัยว่าประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ แม้ว่าตอนนี้จะสามารถควบคุมได้แล้ว อาการจะจะกำเริบบ่อยขึ้น

เวินจิ้งมองไฟสีแดงในห้องฉุกเฉิน ความกังวลบนใบหน้าของเขาไม่สามารถปกปิดได้

ฉีเซินยืนอยู่ที่ปลายสุดของทางเดิน ก้นบุหรี่กองอยู่ข้างเท้า สายตาเย็นชา

ในขณะที่ เขาเดินมา “ตอนนี้ดึกมากแล้ว คุณกลับไปพักผ่อนเถอะ”

เวินจิ้งขมวดคิ้ว ส่ายหัว

ไม่ใช่เพียงเพราะคำแนะนำของเจี่ยนอี เธอก็เป็นห่วงคุณนายฉีเหมือนกัน

“คุณไม่ใช่คนของตระกูลฉี จะกังวลอะไร” ฉีเซินน้ำเสียงไม่ดี

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่อาการของหลินเวยกำเริบ แต่สถานการณ์เมื่อครู่อาการหนักมาก

ทำให้คิดถึงอาการที่ผิดปกติของแม่ในช่วงนี้ ฉีเซินหงุดหงิดมาก

“และ เรื่องที่แม่ของฉันจะรับคุณเป็นลูกบุญธรรม คุณก็ปฏิเสธแล้วนี่” ฉีเซินประชดประชัน

จากที่เขาสังเกต เวินจิ้งไม่มีสิทธิ์มาเป็นห่วงหรือดูแลหลินเวย

“รอคุณนายฉีพ้นขีดอันตรายแล้ว ฉันก็จะไป” เวินจิ้งไม่อยากเถียงกับเขา

เธอเข้าใจความรู้สึกของฉีเซินในตอนนี้ เพราะคนที่เกิดเรื่องเป็นแม่ของเขา

แต่ว่า เธอก็กังวลใจไม่แพ้กัน

ฉีเซินหรี่ตา สายตาที่คมมองไปที่เวินจิ้ง ความนุ่มนวลของสายตาค่อยๆหายไป

มีแค่ Nicotineที่สามารถทำให้เขาอารมณ์สงบลงได้

ณ ตอนนี้ โทรศัพท์ของเวินจิ้งก็ดังขึ้น เป็นมู่วี่สิงโทรมา

เธอเพิ่งนึกได้ว่ายังไม่ได้บอกเขาว่าเธอมาที่โรงพยาบาล

รับสายโทรศัพท์ เสียงที่มู่วี่สิงคุ้นเคยดังขึ้น “ยังอยู่ที่ตระกูลฉีเหรอ อืม”

“คุณนายฉีอาการกำเริบ ตอนนี้ฉันอยู่ที่โรงพยาบาล”

“รอฉัน ฉันกำลังจะไป”

วางสายโทรศัพท์ ไฟห้องฉุกเฉินดับลง เวินจิ้งเดินไปอย่างรวดเร็ว

คุณหมอถอดหน้ากากอนามัยออก กล่าวว่า “คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ต้องรออีกสักครู่จึงจะตื่น”

“ขอบคุณคุณหมอ”

หลินเวยถูกย้ายไปที่หอผู้ป่วยทั่วไป เวินจิ้งจะเข้าไป แต่ถูกฉีเซินกันไว้

“มู่วี่สิงมารับคุณแล้วไม่ใช่หรือ กลับไปสิ” ฉีเซินสีหน้าเคร่งเครียด

เวินจิ้งเหลือบมอง มองข้ามจากหน้าต่างเห็นคุณนายฉีกำลังนอนพัก ค่อยๆหมุนตัวกลับ

“คุณนายฉีไม่สบาย รบกวนรีบแจ้งฉันด้วย”

“อืม” ฉีเซินตอบรับอย่างเฉยเมย

เดินออกจากโรงพยาบาล มู่วี่สิงมาถึงตั้งนานแล้ว เวินจิ้งขึ้นรถอย่างสงบ แต่ยังมีความกังวลเป็นห่วงหลินเวย

มู่วี่สิงกุมมือเธอไว้ เขาขมวดคิ้ว “สำหรับคนตระกูลฉี คุณดูห่วงใยเป็นพิเศษ”

เวินจิ้งเงียบ

อารมณ์เช่นนี้ เธอเองก็ไม่เข้าใจ

เห็นได้ชัดว่าสามารถเฉยเมยต่อฉีเซิน แต่กับคุณนายฉี สำหรับความเมตตาและความอ่อนโยนของเธอทำให้ไม่สามารถปฏิเสธได้

“คุณอารมณ์เสียใช่ไหม” เวินจิ้งลืมตาขึ้น ความเหนื่อยล้าบนใบหน้าของมู่วี่สิงไม่สามารถปกปิดได้

“อืม” มู่วี่สิงยอมรับ

เขาไม่ชอบให้เวินจิ้งยุ่งเกี่ยวกับคนตระกูลฉี

เวินจิ้งรู้สึกอึดอัดแล้วขมวดคิ้ว อย่างน้อยในช่วงที่คุณนายฉีอยู่โรงพยาบาล เธอยังคงจะมาเยี่ยมอีก

และตอนนี้ตระกูลฉีมาอยู่ที่หนานเฉิงจะบอกว่าจะไม่มีการติดต่อเลย คงจะเป็นไปไม่ได้

……

กรณีการติดสินบนของมหาวิทยาลัยหนานเฉิงยังอยู่ระหว่างการสอบสวน ตอนนี้ตำรวจได้จับกุมผู้ต้องสงสัยแล้ว แต่กรณีนี้เกี่ยวข้องกับผู้คนจำนวนไม่น้อย จะตรวจสอบก็ค่อนข้างยากพอสมควร

แต่เนื่องจากมีหลักฐานเพียงพอ รวมกับที่ฉินเฟยยอมยอมจำนน เฉิยหยีรับผิด ปัจจุบันทั้งสองถูกควบคุมตัว ฉืออี้เหิงถูกฉินเฟยรายงาน นอกจากนี้ยังมีรายชื่ออยู่ในรายการผู้ต้องสงสัย

สื่อยังคงอัปเดตความคืบหน้าล่าสุดของคดีนี้ทุกวัน หลังจากเรื่องอื้อฉาวของฉินเฟยกับฉืออี้เหิงออกมา ชื่อเสียงของคนสองคนนี้ได้ก็จมลง และฉีเซินยังมายกเลิกงานแต่งงาน ในสายตาของนักข่าวมันเป็นวิธีที่ถูกต้องที่สุด

เวินจิ้งดูรายงาน ช่วงนี้เพื่อนร่วมงานรอบตัวกำลังพูดคุยเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเดินไปไหนก็จะได้ยินผู้คนพูดถึง

อั้ยเถียนเพิ่งกลับมาจากดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ รู้ว่าเรื่องของเวินจิ้งสามารถตรวจสอบได้ รู้สึกดีใจแทนเธอ

“ฉินเฟยกับฉืออี้เหิงควรจะได้รับโทษในคุกตลอดชีวิต ทำเกินไปจริงๆ” อั้ยเถียนกล่าวด้วยความโกรธ

“คงจะไม่ร้ายแรงขนาดนั้น ฉินเฟยยอมจำนนเอง ส่วนฉืออี้เหิงจะมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้หรือไม่ยังตรวจสอบอยู่ แต่คณบดีคนนั้น เธอเป็นคนร้ายที่สับเปลี่ยนวิทยานิพนธ์ของฉัน”

“แต่เธอก็รับคำสั่งมาจากฉินเฟย เวลาผู้หญิงหึงน่ากลัวจริงๆ”

ฉินเฟยชอยฉืออี้เหิงเขารู้กันทั้งมหาวิทยาลัย แต่คิดไม่ถึงว่าเธอจะจิตใจโหดร้ายขนาดนี้

“ตอนนี้ความจริงเปิดเผยแล้วก็ไม่น่ากลัวแล้ว แต่สายไปห้าปี” เวินจิ้งมอง ที่โชคดีคือมีมู่วี่สิงอยู่ข้างๆ

“อย่างไรก็ถือว่าโชคดีที่มาเจอหมอมู่ ไม่เสียเปล่า” อั้ยเถียนล้อเล่น

เวินจิ้งยกมุมปาก “พูดอะไรอย่างนั้น”

“ฉันหมายถึงอะไรคุณรู้ดี พวกคุณแต่งงานกันมาหนึ่งปีแล้ว น่าจะคิดเรื่องมีลูกได้แล้วนะ ฉันอยากได้ลูกบุญธรรม”

ฉันกกับหมอมู่แต่งงานเพราะผลประโยชน์ ไม่คิดเรื่องลูกหรอก” เวินจิ้งพูดเสียงเบา

และเธอกำลังจะศึกษาต่อ คงไม่สะดวกที่จะมีลูก

สิ่งที่สำคัญคือ…… เธอมักจะคิดเสมอว่าตัวเองกับมู่วี่สิงเป็นการแต่งงานเพื่อผลประโยชน์เท่านั้น

เกือบจะเลิกงานตอนเย็น วันนี้มู่วี่สิงมีนัดทานข้าวเย็น เวินจิ้งวางแผนจะไปเยี่ยมหลินเวย

มาถึงโรงพยาบาล ฉีเซินไม่อยู่ พยาบาลกำลังปรับสายน้ำเกลือให้หลินเวย

เห็นเวินจิ้ง หลินเวยกวักมือให้กับเธอ

“เด็กคนนี้ ทำให้เธอกังวลแล้วใช่ไหม” หลินเวยกล่าวอย่างอ่อนโยน

เวินจิ้งยิ้ม “คุณนายฉี วันนี้รู้สึกเป็นอย่างไรบ้าง”

“วันนี้ดีขึ้นมากแล้ว หมอเปลี่ยนยาให้แล้ว โรคของฉัน ต้องค่อยๆรักษา”

“ต้องดีขึ้นแน่นอน”

“ฉันก็อายุมากแล้ว หัวใจมีปัญหาตลอด หลายๆเรื่องฉันก็ปลงแล้ว” หลินเวยพูดแล้วก็ยิ้ม

ไม่ได้เป็นกังวลและกลัวเหมือนผู้ป่วยรายอื่น

เวินจิ้งรู้สึกไม่วางใจ หยิบสมุดบันทึกเวชระเบียนขึ้นมา เธอเรียนแพทย์มาก่อน สำหรับพยาธิวิทยาทั่วไปก็พอจะเข้าใจบ้าง

หลินเวยเป็นภาวะหัวใจล้มเหลวเรื้อรัง อาการไม่ร้ายแรงมาก แต่จะต้องใช้ยาเพื่อรักษาตลอด สภาพจิตใจไม่ควรได้รับอะไรที่กระทบจิตใจมากเกิน

“คุณนายฉี ฉันอยากดูยาที่คุณหมอสั่งให้” เวินจิ้งขมวดคิ้ว

เธอเปิดลิ้นชักข้างๆ เทเม็ดยาออกมาบางส่วน ตั้งใจจะนำกลับไปถามมู่วี่สิง

“มีอะไรหรือ” ดูการเคลื่อนไหวของเวินจิ้งอย่างสงสัย

“ความเจ็บป่วยของคุณในครั้งนี้ดูไม่ปกติ ฉันคิดว่าอาจจะเป็นปัญหาที่ยา ถึงแม้คุณหมอจะเปลี่ยนยาแล้วก็ตาม แต่ฉันต้องการยืนยันอีกครั้ง สามีของฉันเป็นอาจารย์ด้านประสาทวิทยา เคยวิจัยเกี่ยวกับด้านนี้บ้าง” เวินจิ้งกล่าว

“ก็ใช่ ฉันรู้จักชื่อเสียงของมู่วี่สิงบ้าง แต่ฉันก็รักษาที่โรงพยาบาลนี้มานานพอสมควรแล้ว คงจะไม่มีปัญหาอะไรหรอก”

หลินเวยขมวดคิ้ว พูดถึงมู่วี่สิง สีหน้าเธอไม่ค่อยดี

เวินจิ้งไม่สังเกตเห็น ออกจากโรงพยาบาล เธอโทรหามู่วี่สิง

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท