Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 242

ตอนที่ 242

บทที่ 242 เธออยากให้เขาอยู่ข้างกาย

ฝนก็กำลังตกโปรยปรายอยู่ เวินจิ้งนอนไม่หลับพลิกไปมา

เสียงฟ้าผ่าก็ดังขึ้น เธอลืมตาทันที

ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่มู่วี่สิงมาอยู่ข้างกายเธอ

มือของเขาโอบเข้าที่เอวอันเรียวบางของเธอ มีท่าทีที่ใกล้ชิด

เขาไม่ได้อยู่ที่ห้องรับแขกหรอกหรือ?

เวินจิ้งผลักเขาออก แต่ก็ผลักมู่วี่สิงไม่ออก

เสียงอันทุ้มต่ำของเขาก็พูดขึ้น “ให้ผมอยู่เป็นเพื่อนคุณนะ?”

เวินจิ้งกัดที่ริมฝีปาก อยากจะปฏิเสธ แต่ร่างกายเธอกลับพยักหน้าออกไป

เธอรู้สึกกลัว เธออยากให้เขาอยู่ข้างกาย

แต่เธอก็ไม่อยากจะตกอยู่ในวังวนเดิมอีก

“ผมจะไม่ขึ้นไป ผมก็แค่กอดคุณไว้อย่างนี้” เขารู้ว่าเวินจิ้งต่อต้าน มู่วี่สิงจึงได้แต่นั่งอยู่ข้างเตียง

หลังของเวินจิ้งซบที่เขา สติและความคิดเริ่มกลับมาชัดเจน

ฝนด้านนอกได้หยุดลงแล้ว ในห้องนอนเงียบจนได้ยินเสียงหายใจของคนสองคน

เวินจิ้งหันหลังกลับ กลับมองเห็นมู่วี่สิงกำลังมองดูเธออยู่ตลอด

“ฉันจะนอนแล้ว คุณก็นอนเถอะ”

“ครับ ราตรีสวัสดิ์ คุณนายมู่” เขาดึงมือออกมา ตอนเดินออกไปก็ช่วยเธอปิดประตู

เวินจิ้งกลับพูดบอกเขาว่า

“เปิดประตูไว้เถอะ”

มู่วี่สิงพยักหน้า นอนลงบนโซฟา เขาไม่ได้ห่มผ้า ก็หลับตาลง

สายตาของเวินจิ้งกั้นด้วยทางเดิน มองเห็นแต่ด้านหลังของเขา

วันถัดมา แสงแดดสาดส่องเข้ามาให้ห้องนอน

การทำงานและพักผ่อนของเวินจิ้งช่วงนี้เป็นไปอย่างปกติ เธอจะตื่นนอนแปดโมงตรงเวลา

ด้านนอก มู่วี่สิงไม่อยู่แล้ว

แต่เขาก็ทำอาหารเช้าไว้ คือโจ๊กฟักทองที่มีรสหวานเล็กน้อย เป็นสิ่งที่เวินจิ้งชอบ

ด้านข้างแปะกระดาษโน้ตไว้ว่า คุณนายมู่ ทานอาหารเช้าแล้ว ก็ทบทวนหนังสือนะ

เธอหายใจลึก หยิบกระดาษโน้ตทิ้งไป หันหลังเดินออกไป

วันต่อๆมา เวินจิ้งแทบไม่ได้ออกจากประตู ทุกวันมู่วี่สิงก็จะมาเคาะประตู ทำอาหารเช้าและอาหารเย็น แต่เวินจิ้งก็ไม่ได้เดินไปอีก

……

เมื่อถึงคืนก่อนที่จะสอบ เวินจิ้งถึงได้ออกมาเดินเล่นด้านนอก ปลดปล่อยอารมณ์

วันเวลาที่เตรียมสอบถึงแม้ว่าจะยากลำบาก แต่ก็รู้สึกเต็มที่ และสามารถลืมเรื่องเบื่อหน่ายกังวลในใจไปได้ชั่วคราว

ตกเย็น แสงอาทิตย์ที่ลับขอบฟ้าลงมา เวินจิ้งเลือกนั่งลงในร้านหม้อไฟแห่งหนึ่ง

เพียงแต่ไม่นานนัก ฝั่งตรงข้ามก็มีเงาคนอันคุ้นตามานั่งลง

“มู่วี่สิง คุณตามฉันมาหรือ?” เวินจิ้งพูดอย่างโมโห

“ผมจะมาที่นี่ทุกวันอยู่แล้ว คิดว่าไม่แน่วันไหนก็คงจะได้เจอหน้าคุณ” มู่วี่สิงงุ้มริมฝีปากขึ้น

ร้านหม้อไฟร้านนี้อยู่ในเขตเล็กของถนนอันหนิง เธอและอั้ยเถียนแต่ก่อนก็มาบ่อยครั้ง จนขนาดเถ้าแก่ก็ยังจำได้ว่าเธอเป็นลูกค้าประจำ

เวินจิ้งไม่เชื่อคำพูดของมู่วี่สิง เขายุ่งขนาดนี้ อีกทั้งร้านหม้อไฟก็เป็นสถานที่ที่เสียงดัง มู่วี่สิงเองก็ไม่ชอบนัก

“ฉันอยากทานข้าวคนเดียว” เวินจิ้งพูดอย่างไม่ยินดี

“ผมไม่รบกวนคุณหรอก ที่นี่เขาก็ให้ทานคนละหม้ออยู่แล้วไม่ใช่หรือ?” มู่วี่สิงเลิกคิ้วขึ้น

เวินจิ้งครุ่นคิด มันก็จริงอยู่

เพียงแต่ว่ามู่วี่สิงมาอยู่ตรงข้ามกับเธอ เธอไม่อาจมองข้ามเขาได้

สั่งอาหารเสร็จ มู่วี่สิงก็สั่งอาหารแบบเดียวกับที่เธอทานทุกอย่าง

เวินจิ้งใส่หูฟัง ดึงความสนใจของตัวเอง ไม่ให้ถูกมู่วี่สิงดึงดูดไปได้

แต่ว่าจริงแล้ว……มันยากเหลือเกิน

โดยเฉพาะใบหน้าอันหล่อเหลาของมู่วี่สิง แม้ว่าจะอยู่ในร้านหม้อไฟก็ดูเป็นชายหนุ่มรูปงาม ดึงให้สาวๆมองมาที่เขาอยู่ตลอด

เวินจิ้งทานอาหารอย่างเงียบๆ แต่ความสงบก็ถูกทำลายลง

มีแฟนคลับที่จำมู่วี่สิงได้ กรูเข้ามาขอลายเซ็นเขา

มู่วี่สิงได้ลาออกมาหลายเดือนแล้ว แต่ชื่อเสียงของเขานอกจากจะไม่ลดลงแต่กลับโด่งดังขึ้น การเป็นประธานกรรมการบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ดูเหมือนว่ายิ่งทำให้เขาเป็นจุดสนใจ

เวินจิ้งทำเป็นมองไม่เห็น และเธอก็ไม่ทันสังเกตว่าน้ำซุปในหม้อไฟกำลังเดือดออกมา กับอารมณ์ที่เธอแสดงด้วย

มือของมู่วี่สิงยื่นออกมา กั้นมือของเธอไว้

แต่มือของเขากลับถูกน้ำซุปลวกเข้า

เวินจิ้งรีบวางตะเกียบลงอย่างรีบร้อน พร้อมกับลูบมือของเขาโดยไม่ทันคิด “คุณทำไมต้อง……”

เธอกำลังจะพูดออกมาถึงจะฉุกคิดได้ว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่

แต่ก็ไม่สามารถปล่อยมือได้แล้ว

มู่วี่สิงจับมือเธอแน่นขึ้น

“เป็นห่วงหรอ? หือ?” เสียงอันดึงดูดของเขาเปล่งออกมา

เวินจิ้งรู้สึกทั้งดื้อทั้งชา ในร้านหม้อไฟเสียงดังอึกทึกขนาดนี้ แต่ในดวงตาของเธอกลับมีแต่เขาคนเดียว

“คุณหมอมู่ คนนี้คือใครคะ?”

บรรดาแฟนคลับมองดูคนสองคนกำลังจับมือกัน สายตาอันริษยามองไปที่เวินจิ้ง

“ภรรยาผมเอง” มู่วี่สิงตอบอย่างตรงไปตรงมา

แก้มของเวินจิ้งแดงเรื่อ จ้องไปที่มู่วี่สิง เขาพูดมั่วอะไร?

“ฉันไม่ใช่นะ” เวินจิ้งรีบพูดอธิบาย

“ไม่ใช่หรือ? จะให้ผมหยิบหนังสือรับรองการจดทะเบียนสมรสออกมาไหม?” มู่วี่สิงยกคิ้ว

เวินจิ้งเป็นงง ผู้ชายคนนี้คงจะไม่พกเอกสารติดตัวขนาดนั้นหรอก?

มองดูที่เขาดูเหมือนว่ากำลังจะหยิบออกมา เวินจิ้งรีบหยุดเขาทันใด

“คุณหมอมู่ คุณแต่งงานแล้วจริงๆหรือ? ชายในฝันของฉันแต่งงานแล้ว……ทำอย่างไรดี ทำไมคนๆนั้นไม่ใช่ฉันหล่ะ……” เสียงคร่ำครวญของแฟนคลับเขาดังขึ้นทั้งร้านหม้อไฟ

เวินจิ้งมองขึ้นไป เห็นหญิงสาวรูปร่างอวบอ้วนกำลังร้องไห้สะอึกสะอื้นวิ่งออกไป แต่มู่วี่สิงเจ้าตัวเองกลับไม่มีปฏิกิริยาใดๆ

“คุณไม่ไปปลอบใจเหล่าแฟนคลับคุณหน่อยหรือ?” เวินจิ้งถาม

“ผมปลอบใจแค่ภรรยาของผม”

เวินจิ้ง : ……

ทานอาหารเสร็จ เวินจิ้งเดินไปชำระเงิน ตอนหยิบบัตรเครดิตสีดำใบนั้นออกมา ตะลึงเล็กน้อย

เธอควรคืนเขาไปแล้ว

ดูเหมือนว่าจะรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ มู่วี่สิงสีหน้าเข้ม “ของที่ผมให้ไป ก็ไม่ต้องการรับคืน”

“คุณก็อย่ามาตัดรอนความสัมพันธ์กับผม” เสียงของเขาดังข้างหูเธอ

เวินจิ้งงุนงง พอเรียกสติกลับมาได้ มู่วี่สิงก็ได้เช็คบิลแทนเธอเสร็จแล้ว

เธอรีบยัดบัตรเครดิตสีดำใบนั้นคืนให้เขา แต่มู่วี่สิงไม่รับคืน บัตรจึงตกลงบนพื้น

มองดูเขาไม่แยแส เวินจิ้งได้แต่เก็บบัตรขึ้นมา

ระหว่างทางเดินกลับห้อง มู่วี่สิงอยู่ข้างกายเธอตลอด

“พรุ่งนี้ผมจะส่งคุณไปที่สนามสอบ”

“ฉันนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินก็สะดวกดีแล้ว” เวินจิ้งปฏิเสธ

“คุณนั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน ผมก็จะนั่งเป็นเพื่อนคุณ” มู่วี่สิงดึงดัน

“แล้วแต่คุณ” ถึงอย่างไรเธอก็ไม่สนใจเขาแล้ว

“คุณนายมู่ ไม่ว่าเวลาไหน ผมก็จะอยู่เป็นเพื่อนคุณ”

ก่อนเข้าประตู มู่วี่สิงโอบเข้าที่เอวบางของเธอ จูบลงที่หน้าผากของเธอ

เวินจิ้งมองขึ้น เห็นใบหน้าอันหล่อเหลาที่เข้ามาใกล้ช่างทำให้แทบหยุดหายใจ

เธอเหมือนหยุดหายใจ ช่วงเวลานี้ อยากจะหยุดเวลาไว้ให้นานเท่านาน

“ฉันกลับก่อนนะ”

เธอผลักเขาออก

สายตาของมู่วี่สิงที่มองมายังเธอ จนเธอปิดประตูลง

เวินจิ้งพิงที่ประตู กลิ่นไอของมู่วี่สิงที่ยังคงติดอยู่ในจมูกของเธอ ไม่เลือนหายไป

วันที่ไม่เห็นเขา คิดถึงเขาจริงๆ

แต่พอเจอเขา กลับอยากจะอยู่ห่างจากเขา

วันถัดไป เวินจิ้งตื่นนอนเร็วขึ้น เตรียมหนังสืออุปกรณ์จะเดินออกประตู

กำลังจะเดินออกไป มู่วี่สิงก็ยืนอยู่ด้านหน้าแล้ว เห็นได้ชัดว่ากำลังรอเธออยู่

ชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงดำอันสบายๆ การแต่งตัวของเขาช่างดูหล่อยิ่งนัก

มือของเขายื่นออกมา เวินจิ้งลดสายตาลง ทำเป็นมองไม่เห็น

เธอเดินอ้อมเขาไป

มู่วี่สิงเดินตาม พยายามจะช่วยเวินจิ้งถือกระเป๋าหนังสือ

เวินจิ้งสูงไม่ถึงเขา ถึงจะเขย่งอย่างไรก็หยิบเอากระเป๋าหนังสือคืนมาไม่ได้

เธอจ้องมองเขาอย่างโมโห

“ขึ้นรถ ผมก็จะคืนกระเป๋าหนังสือให้คุณ”

เวินจิ้งโกรธ ชายหนุ่มคนนี้กำลังคุกคามเธอ?

แต่เธอไม่มีเวลาจะมาต่อล้อต่อเถียง ต้องรีบไปสนามสอบ จึงต้องขึ้นรถไปแต่โดยดี

บนเก้าอี้ข้างคนขับวางอาหารเช้าไว้หนึ่งชุด เธอหยิบขึ้นมา

เป็นเบอร์เกอร์ไข่ ร้านอาหารเช้าร้านนี้ เป็นร้านที่เธอไปทานบ่อยครั้ง

มู่วี่สิงไปรู้ว่าเธอชอบทานรสชาติไหนตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท