Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 237

ตอนที่ 237

บทที่ 237 หลงระเริง

เวินจิ้งไม่รู้ว่าตัวเองนอนหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ เมื่อตื่นมาก็อยู่ที่ห้องนอนแล้ว

ด้านข้าง มู่วี่สิงยังไม่ตื่นนอน

แขนของเขาโอบกอดเธอไว้ ร่างบางของเธอขดตัวในอ้อมแขนของเขา วางใจมาก

เธอเอนตัวพิงอกของเขา โดยไม่รู้ตัว

เงนหน้าขึ้น สายตามองตั้งแต่คางมองขึ้นไป

จนถึงคิ้วของเขา

โหน่งคิ้วของเขาสูงมาก จมูกโด่ง คุณสมบัติใบหน้ามีความลึกและเป็นมิติ เป็นใบหน้าที่สมบูรณ์แบบที่สุด

และผู้ชายคนนี้ เป็นสามีของเธอ

มือของเวินจิ้งยกขึ้นมา วางไว้บนตาของเขา ปกติมู่วี่สิงชอบสวมแว่น ไม่ผิดศีลห้าและมีอารยธรรม

แต่หากเขาถอดแว่นลงมา บางครั้ง ก็น่ากลัวมาก

เธออยากดึงมือกลับ แต่กลับถูกจับข้อมือไว้ มู่วี่สิงลืมตาขึ้น พลิกตัวแล้วกดเธอไว้ใต้ร่าง

เวินจิ้งรู้สึกเขินอาย ข้างหูมีเสียงแหบของเขา “จะทำอะไร?”

“ไม่ทำอะไร…” เสินจิ้งกระพริบตา หัวใจเต้นเร็วมาก

“ตื่นแล้วทำไมไม่ลุกขึ้นมา?” น้ำเสียงของมู่วี่สิงต่ำแหบเล็กน้อย

เวินจิ้ง: …

เธอไม่สามารถเอาแต่พูดว่าเธอหลงใหลในความงามของมู่วี่สิง และติดใจ

“ฉันหิวแล้ว” เวินจิ้งเปลี่ยนเรื่อง

“พอดี ฉันก็หิวเหมือนกัน”

สิ้นสุดเสียง ริมฝีปากของเขาเข้าไปใกล้ตอนที่เธอไม่ทันตั้งตัว ก็จูบปากเธอให้สนิท

ปฏิกิริยาในมือของเขายิ่งอยู่ยิ่งเกินเลย

เวินจิ้งดึงสติกลับมา เธอยังต้องไปสนามบิน ถ่วงเวลาไม่ได้!

เธอห้ามมู่วี่สิงไว้ “ต้องสนามบินแล้ว”

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ไม่พอใจอย่างชัดเจน

เวินจิ้งพูดด้วยน้ำเสียงนุ่ม “คืนนี้ได้ไหม?”

เมื่อเอ่ยคำนี้ออกมา หูของเธอก็แดงก่ำ

ผู้ชายจับคางของเธอ แล้วจูบดูดดื่มอีกครั้งก่อนจะคลายจูบ “ฉันจำไว้แล้ว”

ครึ่งชั่วโมงต่อมา มู่วี่สิงมาสนามบินกับเวินจิ้ง แปดโมงพอดี

จุดเช็คอิน เวินจิ้งเห็นเจี่ยนอีกับเวินโม่

สีหน้าของเจี่ยนอีดีขึ้นเยอะ เวลาที่อยู่กับเวินโม่ มักมีรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ

เวินจิ้งหยุดฝีเท้า เห็นคุณแม่มีความสุขเช่นนี้ ดูเหมือนเธอจะบรรเทาลงเยอะ

เพียงแค่เธอรู้สึกมีความสุข แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว

“แม่” เวินจิ้งเดินไป

เจี่ยนอีหันไป ยกรอยยิ้มขึ้น “เด็กดี ช่วงนี้ยุ่งกับการทบทวนไม่ใช่เหรอ ไม่ต้องมาก็ได้”

“คุณรีบไปแบบนี้ ทิ้งฉันไว้คนเดียว” เวินจิ้งก็ยังจี้อ้อนเหมือนตอนเด็ก

มีหลายอย่างที่เคยชินแล้ว แก้ไขไม่ได้

เจี่ยนอียิ้ม “ตอนนี้คุณหมอมู่ดูแลเธอ ฉันก็สบายใจ แต่ว่าก็ควรจะคลอดลูกให้เร็วๆ แม่รออุ้มหลานอยู่”

“แม่ เรื่องรีบไม่ได้” เวินจิ้งลดสายตาลง

“เรื่องของคนหนุ่มสาวของเธอสองคนฉันก็ยุ่งไม่ได้ รอให้แม่ปักหลักที่นั่นแล้ว เธอกับคุณหมอมู่ก็มาเยี่ยมเยือนฉันได้ทุกเมื่อ”

“แน่นอนอยู่แล้ว คุณเป็นแม่ฉันเสมอ” เวินจิ้งโอบกอดเจี่ยนอี

ใกล้ถึงเวลาตรวจสอบความปลอดภัยแล้ว เวินจิ้งมองแผ่นหลังของคุณแม่เดินจากไป น้ำตาก็รินไหลลงมา

เธอเคารพการตัดสินใจของเจี่ยนอี แต่ในใจก็ยังเป็นทุกข์ ปล่อยวางไม่ได้

พิงที่อ้อมแขนของมู่วี่สิงเธอพึมพำ “ฉันจะทำยังไงดี?”

เธอเพิ่งพบว่า เธอยังไม่สามารถเผชิญกับความจริงได้

คุณแม่แท้ๆของเธอ เธอจะเผชิญกับเธอยังไงดี

“คุณหญิงมู่ จำไว้ ตอนนี้เธอเป็นเมียของฉัน ตัวตนของเธอมีเพียงสิ่งนี้ รู้ไหม?” มู่วี่สิงจับหน้าเธอยกขึ้น

นอ้วมือเช็ดน้ำตาอุ่นๆของเธอ เวินจิ้งมองดวงตาสีดำออบซิเดียนของเขา ภายในทำให้คนรู้สึกอุ่นใจ

เธอเชื่อเขาได้เหรอ?

ตระกูลฉี

ฉีเซินผู้ได้ตรวจสอบเรื่องทุกสิ่งอย่างมาถึงสวนดอกไม้ หลินเวยกำลังดูอัลบั้ม

“คุณคอยขัดขวางไม่ให้ฉันชอบเวินจิ้ง ก็เพราะว่า เธอเป็นลูกสาวของคุณ ใช่ไหม!” ฉีเซินถามเสียงดังอยู่ข้างหู

หลินเวยมองขึ้น เผชิญกับคำถามของฉีเซิน สีหน้าไม่แยแส

เป็นเวลานาน หัวเราะเบาๆ “เมื่อแกรู้แล้ว แล้วมาถามฉันทำไม”

“ฉันไม่เชื่อ” ฉีเซินพูดอย่างมั่นใจ

เขาไม่เชื่อ เขากับเวินจิ้งท้ายที่สุดมีความสัมพันธ์เป็นพี่น้องกัน

“ฉันรู้ว่าแกยอมรับไม่ได้ แต่เธอเป็นพี่สาวของแก”

“ไม่ เธอไม่ใช่!” ฉีเซินรีบโต้ สีหน้าโกรธมาก

เวินจิ้งจะเป็นพี่สาวของเขาได้อย่างไร ไม่มีทางแน่นอน!

เธอคือผู้หญิงที่เขาชอบ…

“เมื่อแกรู้ตัวตนของเธอแล้ว ทำไมไม่คัดค้านเธอแต่งงานกับมู่วี่สิง!” ฉีเซินพูดด้วยความโกรธ

ในที่สุดอารมณ์ของหลินเวยก็อ่อนลง “ตอนที่ฉันรู้ พวกเขาได้แต่งงานกันแล้ว”

เวินจิ้งกับมู่วี่สิงแต่งงานกันสายฟ้าแลบ ก่อนแต่งงานเธอไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าพวกเขาไม่เคยรู้จักกัน

ดังนั้น เป็นไปได้อย่างมากที่มู่วี่สิงจะรู้ตัวตนของเวินจิ้งตั้งนานแล้ว

สายตาของหลินเวยเย็นชาขึ้นมา

“ถ้าหากมู่วี่สิงจริงใจกับเธอ ฉันไม่คัดค้าน แต่หากเขาจงใจเพื่อเข้าใกล้เวินจิ้ง ฉันไม่ปล่อยเขาไว้แน่”

“ผมต้องรีบเคลื่อนไหวแล้ว” ฉีเซินพูดอย่างเย็นชา

“อืม อย่าทำร้านพี่สาวแก”

หลินเวยเตือนฉีเซินอีกครั้ง

ทำไมเขาจะไม่รู้

ความเจ็บปวด ความไม่เต็มใจ และความผิดหวัง

อารมณ์ทั้งหมดเกี่ยวพันกัน ฉีเซินออกจากบ้านฉี มาถึงการ์เด้นมู่เจียวานโดยไม่ได้ตั้งใจ

เขามาที่นี่เพราะมีคอนโด เดิมทีนั่นเป็นเรือนหอของเขาและฉินเฟย ต่อมาก็ปล่อยว่าง

ขึ้นไปอีกห้าชั้น ก็เป็นคอนโดที่เวินจิ้งพัก

เขากดออด

เวินจิ้งอยู่บ้านคนเดียว ปกติไม่มีคนมา

เธอดูช่องตาแมว เห็นฉีเซิน และไม่ได้เปิดประตู

มือถือของเวินจิ้งดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นสายของฉีเซิน

“เวินจิ้ง ให้ฉันเข้าไป”

“ไม่สะดวก” เวินจิ้งตอบเสียงเฉยเมย

“เป็นเรื่องเกี่ยวกับแม่ของฉัน”

เวินจิ้งขมวดคิ้ว คุณแม่ของฉีเซิน ก็เป็นคุณแม่ของเธอเช่นกัน

แม้จะลังเล แต่เวินจิ้งก็ให้เขาเข้ามา

ฉีเซินดูการจัดวางที่อบอุ่น ทุกอย่างได้รับการตกแต่งจากความชอบของเวินจิ้ง

ในสายตาของเขาที่ความอิจฉา

“นั่งสิ มีธุระอะไร?” เวินจิ้งเว้นระยะห่างกับเขา

ครั้งสุดท้ายที่เห็นฉีเซินคือตอนที่อยู่ในชั้นศาล คำพูดของเขายังคงก้องอยู่ในหู

เวินจิ้งขมวดคิ้ว

“แม่ฉันบอกว่า เธอเป็นพี่สาวของฉัน” ฉีเซินจ้องมองเวินจิ้ง

สีหน้าของเธอเปลี่ยนไป สำหรับเรื่องนี้ เธอไม่สามารถสงบลงได้

“ใช่ไหม?”

“ฉันก็หวังว่าไม่ใช่”

“คุณมาที่นี่ เพื่อมาพูดเรื่องนี้?” เวินจิ้งถามอย่างใจเย็น

ฉีเซินเงียบ เขามา…มีแรงจูงใจอย่างแน่นอน

เพียงแค่อยากมาดูเวินจิ้ง

ถ้าหากเป็นพี่สาวของเขาจริงๆ เขาก็ต้องยอมรับความจริงข้อนี้

เพียงอต่ความรู้สึกในใจ ก่อตัวอย่างถอนไม่ขึ้นตั้งนานแล้ว

“อืม ฉันมาเยี่ยมเธอ พี่สาว” ฉีเซินจ้องมองเธอ

เวินจิ้งหัวเราะอย่างเย็นชา “ไม่คิดว่าเราสองคนจะกลายมาเป็นพี่น้องกัน”

“ฉันก็แปลกใจ ต่อไป เธอคงไม่ปฏิเสธที่ต้องพบฉัน?” ฉีเซินถาม

“ตัวตนของฉันยังไม่ได้รับการยืนยัน คุณฉี ไม่จำเป็นต้องรีบเร่ง อีกอย่าง ตอนนี้รู้สึกว่าชีวิตของฉันค่อนข้างดี”

ฉีเซินขมวดคิ้ว ฟังออกถึงความหมายที่เวินจิ้งพูด

บางที เธอไม่กลับไปอยู่กับหลินเวย

เป็นเพราะมู่วี่สิงเหรอ?

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท