Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 232

ตอนที่ 232

บทที่ 232 หากสามารถรักกันได้

“คุณแม่ เรื่องการมีเด็กผมและเวินจิ้งจัดการเองได้ ไม่ต้องกังวล”

ประตูด้านนอก มีเสียงมั่นคงดังมา

เมื่อเห็นมู่วี่สิง เวินจิ้งก็ผ่อนคลายได้บ้างเล็กน้อย

ทุกครั้งที่เผชิญหน้าการวางไข่กับเจี่ยนอี เธอมีความกดดัน

“พวกเธอสองคนวางแผนกันไว้ยังไง?” เจี่ยนอีถาม

“รอให้เวินจิ้งมั่นคงทางวิชาการ เรื่องนี้ไม่สายเกินไป”

เจี่ยนอีขมวดคิ้ว ยังคงไม่พึงพอใจ

อย่างไรก็ตามมู่วี่สิงได้เอ่ยปากแล้ว เธอก็ไม่ได้พูดอะไรอีก

“พอแล้ว พวกเธอมีการวางแผนก็ดี ดูแล้วฉันคงจะคิดมากไปเรื่อยเปื่อย” แม้ว่าเจี่ยนอีจะไม่พึงพอใจ แต่เมื่อเห็นทั้งสองคนรักกัน ก็พึงพอใจ

สั่งให้คนขับรถส่งเจี่ยนอีกลับไป มู่วี่สิงเดิมต้องจัดการเรื่องธุรกิจ แต่ก็หยุดชั่วคราว และเดินไปยังห้องนอน

เวินจิ้งกำลังคุยสายกับอั้ยเถียน ช่วงนี้เทียนอีเกิดเรื่องวุ่นวายทั่วเมือง อย่างไรอั้ยเถียนก็ทำงานที่เทียนอีมาหลายปี ความรู้สึกที่มีต่อเทียนอีไม่น้อย

“นายฉืออี้เหิงคนนั้นอีกแล้ว เขาพอรึยัง?”

“วันนี้ฉันเจอเขาที่สถานีตำรวจ หลักฐานในมือของเขายังรอการยืนยัน แต่ชื่อเสียงของเทียนอียากที่จะรักษาแล้ว”

“มู่วี่สิงคิดได้ยังไง? ตอนนั้นที่ซื้อเทียนอีไว้ ตอนนี้คงไม่อยู่เฉยหรอกนะ?”

“เสี้ยวหงกลับมาแล้ว ตอนนี้เขากำลังจัดการปัญหาของเทียนอี”

เสียงของอั้ยเถียนหยุดลงกะทันหัน

ชื่อนี้ ผู้ชายคนนี้ไม่ได้ปรากฏในโลกของเธอมานานแล้ว

เวินจิ้งก็ตระหนักถึงเช่นกัน แต่ก็คำพูดก็ได้โพล่งออกมาแล้ว

“อั้ยเถียนเวลาไม่เช้าแล้ว”

มีเสียงของผู้ชายคนหนึ่งดังมา

อั้ยเถียนดึงสติกลับมา “จิ้งจิ้งฉันวางสายก่อน”

“ฝันดี”

หลังจากวางสาย เวินจิ้งถอนลมหายใจ ดูเหมือนว่าอั้ยเถียนยังไม่ลืมเสี้ยวหง

“คิดอะไรอยู่?”

มู่วี่สิงเดินเข้ามา สายตาประทับใบหน้าเล็กที่โศกเศร้าของเวินจิ้ง

เขาลดสายตาลง แล้วจูบหน้าผากของเธอ

เวินจิ้งส่ายหน้า “แค่เป็นห่วงอั้ยเถียน กลัวว่าเธอจะเสียใจภายหลัง”

“แล้วเธอล่ะ เธอเสียใจไหม?” มู่วี่สิงมองเธออย่างร้อนแรง

เวินจิ้งหยุดครู่หนึ่ง ตามองขึ้น ส่ายหัวอย่างแน่วแน่

“ทางด้านเทียนอี ตอนนี้เป็นยังไงบ้างแล้ว?” เธอถาม

“ไม่มีเรื่องอะไรหรอก”

“จริงเหรอ?”

“ไม่เชื่อฉันเหรอ หืม?” มู่วี่สิงหรี่ตามองเธอด้วยสายตาอันตราย ฝ่ามือรัดเอวเล็กของเวินจิ้ง บีบเล็กน้อย

ทันใดนั้นเวินจิ้งก็นั่งไม่นิ่ง ร่างถูกมู่วี่สิงโอบกอดไว้ในอ้อมแขน เธอถูกเขาจองจำไว้อย่างสมบูรณ์

“เชื่อไม่เชื่อ! ฉันก็แค่เป็นห่วง!” เวินจิ้งอธิบาย

“ผลลัพธ์จะมีพรุ่งนี้” มู่วี่สิงพูดที่ข้างหูของเธอ

เวินจิ้งยังไม่กระจ่าง ก็ถูกมู่วี่สิงจูบ และไปถึงเตียงอย่างรวดเร็ว

วันถัดไป ชื่อเสียงของบริษัทผลิตยาเทียนอีได้ครองหัวข้อข่าวสารตั้งแต่ต้น

เกี่ยวกับเรื่องเมื่อวานยาสามชนิดของบริษัทผลิตยาเทียนอีถูกสงสัยว่ามีส่วนผสมของสารที่เป็นอันตราย ผลการตรวจสอบออกมาแล้ว

จากกระบวนการวิจัยและพัฒนาจนถึงการอนุมัติของตลาด บริษัทผลิตยาเทียนอีได้ให้คำอธิบายที่สมเหตุสมผล และยาทั้งหมดนี้ได้รับการทดสอบล่วงหน้าแล้ว ว่าไม่เคยเกิดปัญหาใดๆ

ก่อนที่ฉือซินจะเสียชีวิต แน่นอนว่ามีการใช้ยาในทางที่ผิด ณ ปัจจุบันตำรวจกำลังดำเนิคดีกับเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องในคดี และรอการสืบสวนเพิ่มเติม

แม้ว่าบริษัทผลิตยาเทียนอีจะชี้แจงเรื่องนี้แล้ว แต่เรื่องนี้ทำให้มีผลกระทบต่อชื่อเสียงเป็นอย่างมาก ยากที่จะกู้คืน

เวินจิ้งได้รับข่าวสารจากทางนั้นของซูยิน ณ ปัจจุบันบริษัทผลิตยาเทียนอีได้ปรับกลยุทธ์การดำเนินงาน และตลาดในอนาคตจะถูกโอนย้ายไปต่างประเทศ ตลาดภายในประเทศปัจจุบันจะยังไม่ได้รับการมุ่งเน้น

รายงานการลาออกของเวินจิ้งออกมาตั้งนานแล้ว และส่งให้ถึงมือเสี้ยงหงด้วยตนเอง

ออกจากบริษัท เวินจิ้งเก็บของให้เรียบร้อย

บริษัทผลิตยาเทียนอีได้ออกประกาศแล้ว ว่าสำนักงานใหญ่จะถูกโอนย้ายไปประเทศเอ และมีเพื่อนร่วมงานจำนวนมากที่ลาออก แม้ว่าจะมีข้อร้องเรียน แต่บริษัทได้จัดให้มีการว่างงานสำหรับพนักงานส่วนใหญ่แล้ว ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย

“ซูยิน เธอจะอยู่เทียนอีต่อไหม?”

ชั้นล่างของร้านกาแฟ เวินจิ้งและซูยินนั่งลงตำแหน่งข้างหน้าต่าง ซูยินดื่มชานมใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ใบหน้าดูสับสน “คงอาจจะ ยังไงฉันก็ไม่มีที่ให้ไป”

“คุณลี่กลับไปบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปเหรอ?” เวินจิ้งถาม

เมื่อได้ยิน สีหน้าของซูยินเกร็ง

“ฉันไม่รู้เรื่องของเขา” เวินจิ้งก็ไม่ได้พูดมาก เธอดูออก สถานะของลี่หนานเฉิงกับซูยินไม่ธรรมดา หากสามารถรักกันได้แล้วใครจะเลือกทำร้ายใคร

สามวันต่อมา บริษัทผลิตยาเทียนอีได้ย้ายอย่างเป็นทางการ และสำนักงานใหญ่หนานเฉิงปิด

เสี้ยงหงเป็นคนสุดท้ายที่ออกไป จากนั้นเขายังคงเป็นผู้ดูแลบริษัทผลิตยาเทียนอีประเทศเอ

ซูยินเดินตามหลังของเขา มีพนักงานไม่มากที่จะเต็มใจเดินทางไปยังประเทศเอเพื่อพัฒนา ซูยินเป็นหนึ่งในนั้น

“เธอตามฉันไป หนานเฉิงเห็นด้วยไหม?”

หน้ารถ เสี้ยงหงหันไปมองเธอ

“ฉันคือฉัน เขาคือเขา ทำไมต้องให้เขาเห็นด้วย?” ซูยินพูดเสียงเบา

เสี้ยงหงเลิกคิ้ว “เรื่องของเธอ ไม่ใช่เรื่องของเขาเหรอ”

“เสี้ยวหง คุณอย่าพูดไร้สาระ”

“เฮ้อ รถสองคันนั้นจอดอยู่นานแล้ว วันนี้ฉันมาก็เห็นแล้ว” ซูยินพูดทันที

ตรงข้ามทางม้าลาย รถเบนต์ลีย์สีขาวจอดอยู่ข้างถนน แม้จะดูเรียบ แต่รถคันนี้มีจำนวนจำกัด ซูยินเคยถูกใจ จึงมีความคุ้นเคยเป็นอย่างมาก

เสี้ยวหงขมวดคิ้ว เมื่อเงยหน้าขึ้นมองไป รถก็ออกพอดี

หลังจากหยุดครู่หนึ่ง เขาก็รีบขึ้นรถ มองซูยินอย่างขออภัย “ฉันยังมีธุระ เธอต่อรถกลับไปเถอะ”

ซูยินเบ้ปาก มองรถของเสี้ยงหงจากไป ยากจริงๆกับการที่เห็นท่าทางที่วิตกกังวลแบบนี้

เป็นไปได้ไหม ว่าเขาไล่ตามเบนท์ลีย์คันนั้น?

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป ซูยินมาถึงการ์เด้นเจียวาน เวินจิ้งได้เตรียมชายามบ่ายด้วยตัวเองไว้ให้ตั้งนานแล้ว ซูยินช่อบทานขนมมาก แค่เข้ามาปากก็ไม่เคยได้หยุด

“ไปประเทศเอเมื่อไหร่?” เวินจิ้งรินชาแดงให้เธอ และยิ้มเบาๆ

ซูยินมาที่นี่ในวันนี้เพื่อมากล่าวลา กลัวรบกวนการทบทวนของเวินจิ้ง เลยไม่ได้นัดไปข้างนอก

“วันมะรืน เสี้ยงหงไปด้วยกันกับฉัน” ซูยินพูด

เสียงเพิ่งสิ้นสุดลง มีเสียงเครื่องยนต์ดับอยู่ข้างนอก เวินจิ้งมองดูเวลา ปกติมู่วี่สิงไม่กลับมาเช้าขนาดนี้

มองขึ้นไป ไม่เพียงแต่มู่วี่สิงที่กลับมา ยังมีลี่หนานเฉินก็มาด้วย

ซูยินสีหน้าซีด

เวินจิ้งสังเกตเห็นอารมณ์ของเธอ และขมวดคิ้ว

“ทำไมกลับมากันแล้ว?” เธอถามมู่วี่สิง

ไหล่ถูกโอบไว้ มู่วี่สิงก้มลงจูบปากของเธอ น้ำเสียงอ่อนโยน “กลับมาอยู่กับเธอเช้าหน่อยไม่ดีเหรอ?”

เวินจิ้งแก้มแดงเล็กน้อย ช่วงนี้ทำงานอยู่ที่บ้านเกือบทุกวัน…

มันไม่ง่ายที่เธอจะบอกเขาว่าในที่สุดก็ไปบริษัทเสียที

“ทำไมถึงไม่ดี” เวินจิ้งพึมพำ

“เราขึ้นไปข้างบน” มู่วี่สิงพาเธอขึ้นไปชั้นสอง เวินจิ้งมองไปที่ซูยินอย่างเป็นห่วง ฝีเท้าไม่ขยับ

สายตาของซูยินถูกลี่หนานเฉิงดึงดูดไว้

แต่ว่า เธออยากหลบหนี

ก้าวเท้าก็วิ่งออกไป แต่ลี่หนานเฉิงเร็วกว่าคว้าไหล่ของเธอไว้ เธอถูกเขาผลักไปที่กำแพง

“อยากดูเหรอ?” เห็นเวินจิ้งยืนแข็ง

มู่วี่สิงจับหน้าเธอหันมาอย่างไม่ค่อยพอใจ

เวินจิ้งรู้สึกเขินอาย และหันไปทันที

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท