Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 247

ตอนที่ 247

บทที่ 247 อย่าปฏิเสธผม

หลังจากนั้นสามวันมู่วี่สิงก็กลับมา เวลานั้นเวินจิ้งกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้เอนกายตรงระเบียง หนังสือในมือตกลงบนพื้น เธอนอนหลับแล้ว

เสียงรองเท้าหนังเหยียบลงบนพื้น มู่วี่สิงดึงประตูออก ในสิ่งเขาเห็นคือเวินจิ้งที่กำลังหลับสนิท

ผิวของเธอค่อนข้างขาว แสงอาทิตย์ส่องลงมาบนผิวขาวสว่างของเธอ

ผมยาวเหมือนน้ำตกที่ไหลกระจายออกมา ยิ่งสำหรับใบหน้าอันเรียวเล็กของเธอช่างงดงามน่าดึงดูด

สายตาของเขาอ่อนโยนลง

ก้มตัวลงมา หน้าหล่อเหลาของเขาเข้ามาใกล้ขึ้น ปลายนิ้วยกขึ้น

เมื่อสัมผัสโดนเวินจิ้ง เธอก็รีบลืมตาขึ้นทันที

ตอนที่มู่วี่สิงกลับมา เธอก็รู้ตัวแล้ว

เพียงแต่ ไม่อยากเผชิญหน้ากับเขา

แต่พอเขาเข้าใกล้ เธอกลับรู้สึกตื่นเต้นจนทำอะไรไม่ถูก

“คุณ……”

อยากจะพูดออกไป แต่ปลายนิ้วอันเรียวยาวของชายหนุ่มก็ได้แนบลงที่ริมฝีปากของเธอ เป็นการหยุดการเคลื่อนไหวของเธอ

“คุณนายมู่ ผมกลับมาแล้ว”

ริมฝีปากของเขาจรดบนหน้าผากของเธอ เป็นการจูบที่อ่อนละมุนมาก

ใจของเวินจิ้งรู้สึกชาไปสักพัก เธอหลับตาลง

มือของเขาขยับออก ริมฝีปากของเขากลับมาแทนที่ ประทับจูบลงบนริมฝีปากของเธอ

เวลาที่หมุนผ่านไปแต่ละนาที แต่ละวินาที สักพัก มู่วี่สิงถึงจะปล่อยห่างออกมา

แก้มของเวินจิ้งแดงระเรื่อจนแทบจะหยดออกมา

เธอดันไปที่หน้าอกของเขา “คืนนี้แม่บ้านไม่มานะ”

ช่วงนี้เธอต้องไปซื้อกับข้าวและทำอาหารเอง เป็นช่วงเวลาอันเงียบสงบ

“อืม ไปซุปเปอร์มาร์เกตเป็นเพื่อนผม?” มู่วี่สิงยังสวมชุดสูท เห็นขอบตาดำคล้ำดูลึกของเขา

เวินจิ้งยกมือขึ้น กลับต้องเก็บกลับมา

“ค่ะ” เธอตอบด้วยน้ำเสียงเรียบ สีหน้าไม่มีการแสดงอารมณ์ใดใด

ไม่ใช่วันหยุดสุดสัปดาห์ คนในซุปเปอร์มาร์เกตไม่มากนัก

เวินจิ้งรู้ว่าใบหน้าของเขาเป็นที่ดึงดูดคนจำนวนมาก และตัวเธอเองก็กลายเป็นจุดโฟกัสของผู้คนไปด้วย

ทั้งสองคนเดินไปยังเขตอาหารสด มู่วี่สิงถามเธอ “อยากทานอะไรหรอ?”

“ฉันได้หมด คุณตัดสินใจแล้วกัน”

เวินจิ้งพูดเช่นนี้ แต่ว่ามู่วี่สิงนั้นรู้รสปากของเธอดี กับข้าวที่เขาซื้อก็ล้วนเป็นสิ่งที่เธอชอบ

เวินจิ้งห้ามเขา “คุณเลือกในสิ่งที่คุณชอบเถอะ”

“คุณจะทำอาหารให้ผมหรอ?” มู่วี่สิงถาม

เวินจิ้งขมวดคิ้ว สักพักถึงจะพยักหน้า “ค่ะ”

วันนี้เขาน่าจะเหนื่อยมาก พอลงจากเครื่องบินก็กลับมาที่การ์เด้นมู่เจียวาน หลังจากนั้นก็ยังออกมากับเธออีก

เมื่อกลับถึงการ์เด้นมู่เจียวาน เงาคนที่ปากประตูลิฟต์นั้นดูคุ้นตา

พอเห็นฉีเซิน เวินจิ้งนิ่งงันไปสักพัก

“เวินจิ้ง เมื่อไหร่คุณจะกลับบ้านกับผม?” ฉีเซินมองไปที่เธอ งุ้มริมฝีปากขึ้นถาม

สายตาอันเย็นชาของมู่วี่สิงมองผ่านไป

“ฉันจะหาเวลาไปเยี่ยมคุณนายฉีนะ” เวินจิ้งตอบเสียงเรียบ

สำหรับการต้อนรับของหลินเวย เธอเองก็ไม่รู้ว่าจะตอบกลับเช่นใดดี

“ถ้าคุณจะกลับไปให้บอกผมนะ ผมจะมารับคุณเอง”

ลิฟต์มาถึงแล้ว ฉีเซินขึ้นไปก่อน

หน้าของเวินจิ้งถูกมู่วี่สิงดึงกลับมา ความโกรธบนหน้าเขาเห็นได้อย่างชัดเจน

“เป็นอะไรไป?” เวินจิ้งถามเสียงเรียบ

“ผมไม่อยากให้คุณใกล้ชิดกับตระกูลฉี” มู่วี่สิงพูดไปตรงๆ

“คุณนายฉีเป็นแม่บังเกิดเกล้าของฉัน สิ่งที่คุณขอ ฉันทำไม่ได้หรอก”

“ทำไมเขาถึงทอดทิ้งคุณ คุณรู้ไหม?” น้ำเสียงของมู่วี่สิงเริ่มเย็น

เวินจิ้งขมวดคิ้ว “คุณอยากจะพูดอะไร?”

“ตอนนั้นหลินเวยต้องการจะสืบทอดทรัพย์สมบัติบางส่วนของตระกูลหลิน จำเป็นต้องให้กำเนิดลูกชาย แต่คุณกลับไม่ใช่”

“ดังนั้น ที่คุณพูดนั้น เพราะเขาต้องการทำเพื่อเงิน จึงได้ทอดทิ้งฉันใช่ไหม?”

“นี่เป็นสิ่งที่ผมสืบข้อมูลมาได้” มู่วี่สิงไม่ได้ปฏิเสธ “และความจริง ก็เป็นเช่นนั้น”

“ฉันเข้าใจแล้ว แต่ว่าระหว่างฉันกับเขาจะใกล้ชิดกันหรือไม่ ก็ไม่เกี่ยวกับคุณ”

“คุณนายมู่ ผมก็แค่เป็นห่วงคุณนะ”

เวินจิ้งมองดูที่มู่วี่สิง แล้วกัดลงที่ริมฝีปาก

“ไม่จำเป็น”

……

ตกเย็น เวินจิ้งกำลังยุ่งอยู่ในครัว

มู่วี่สิงต้องจัดการธุระเรื่องงาน พอกลับมาถึงบ้านเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นไม่หยุด

เวลาที่เขาทำงานมักจะเคร่งขรึมจริงจัง บรรยากาศรอบข้างเต็มไปด้วยความตึงเครียด

อาหารส่วนใหญ่เป็นสิ่งที่มู่วี่สิงเลือกมา แต่ส่วนใหญ่นั้นเธอกลับปรุงไม่เป็น

วุ่นอยู่สักพัก สุดท้ายล้มเหลวหมด

เวินจิ้งรู้สึกหงุดหงิด มองดูเมนูการทำอาหารในAPP แต่พอลงมือทำเข้าจริงกลับไม่เป็นอย่างที่เธอคิด

เมื่อมู่วี่สิงเดินเข้ามาดู เวินจิ้งก็กำลังเก็บของ

พวกเขาคาดดูแล้วคืนนี้คงต้องสั่งอาหารมาทานแทน

“ปรุงไม่เป็นทำไมไม่บอกผมหล่ะ?” เขาโอบที่ตัวเธอ น้ำเสียงเอาใจแต่กลับรู้สึกทำอะไรไม่ถูก

เวินจิ้งเก้อเขิน เธอไม่กล้าบอกกับมู่วี่สิง

“โอเค พวกเราออกไปหาอะไรทานกัน” มู่วี่สิงกล่าว

เวินจิ้งกดหาโปรแกรมการสั่งอาหารมาทาน และดึงรั้งเขาไว้

“สั่งให้เขามาส่งเถอะ อย่าเสียเวลาทำงานเลย”

เพิ่งจะเริ่มทานไม่นาน ซูยีน ก็โทรเข้ามา

“เวินจิ้งที่แท้ก็เป็นผู้หญิงเลวคนนั้น!” เสียงอันโมโหของซูยีนดังเข้ามา

เวินจิ้งยังรู้สึกงง

“อะไรหรือ?”

“ฉินเฟยหน่ะ! หล่อนเป็นคนโทรไปแจ้งคุณปู่ของฉัน เขากับฉันได้งัดกันแน่ ในเมื่ออยากเข้ามายุ่งเรื่องของฉันนัก?”

“เพราะฉันทำให้คุณลำบากไปด้วยเลย” เวินจิ้งรู้สึกผิด

เดิมทีฉินเฟยเกลียดแค่เธอแค่นั้น ตอนนี้กลับมาทำให้ซูยีนเดือดร้อนไปด้วย

“ไม่เกี่ยวกับเธอหรอก คนเลวยังไงก็เป็นคนเลว! เวินจิ้ง รอให้ฉันออกจากตระกูลลี่ได้ก่อน ฉันจะจัดการเขาก่อนคนแรกเลย!” ซูยีนพูดด้วยความแค้น

เดิมทีเธอเป็นคนที่ถ้าใครไม่รุกรานเธอก่อน เธอก็จะไม่รุกรานคนนั้น แต่ตอนนี้ฉินเฟยจงใจทำร้ายเธอ เธอจะจดบัญชีนี้ไว้เป็นแน่!

“ซูยีน เธอใจเย็นก่อนนะ ทำไม ท่านนายลี่ต้องกักตัวเธอไว้ด้วย?” เวินจิ้งถาม

ซูยีนเงียบไป สักพักถึงจะตอบเสียงต่ำ “คืนพรุ่งนี้ตระกูลลี่มีงานเลี้ยง คุณปู่ต้องการให้ฉันดูตัว”

“ถึงอย่างไรก็ตาม ฉันก็ไม่ได้สนใจผู้ชายคนคนไหน พรุ่งนี้ฉันก็จะหาโอกาสหนีออกไป”

พรุ่งนี้เป็นงานเลี้ยงครอบครัวประจำปีของตระกูลลี่ ได้เรียนเชิญญาติสนิทมิตรสหายของตระกูลลี่ทั้งหมดมาร่วมงาน

และมู่วี่สิงเองก็อยู่ในรายชื่อนั้นด้วย

“พรุ่งนี้ไปเป็นเพื่อนผม? หืม?” มู่วี่สิงโอบเธอ

บทสนทนาเมื่อสักครู่ที่เธอคุยกับซูยีนเขาก็ได้ยินหมดแล้ว เดิมทีก็วางแผนจะไปกับเวินจิ้งอยู่แล้ว

เวินจิ้งลังเล เพราะไม่อยากไปกับมู่วี่สิง

แต่ในใจเธอก็เป็นห่วงซูยีน

“คุณนายมู่ อย่าปฏิเสธผม” น้ำเสียงของมู่วี่สิงแข็งขึ้น

เวินจิ้งลดสายตาลง สีหน้ายังคงเรียบเฉย

ถึงแม้ว่าเธอจะนิ่งลง แต่ก็ยังคงมีท่าทีห่างเหินกับมู่วี่สิง

สายตาของเขาที่ยากจะคาดเดาแผ่กระจายออกไป

……

วันถัดมา เมื่อเวินจิ้งตื่นขึ้นมา ก็ถูกมู่วี่สิงโอบกอดอยู่ในอ้อมอก

เธอตกตะลึง มองเห็นหน้าชายหนุ่มที่อยู่ใกล้ชิดมาก เขาหล่อเหลาไม่มีที่ติ

เธอรีบหันไปทางอื่น ดันตัวเขาออกไป

กลับถูกมู่วี่สิงกุมมือเธอไว้ ริมฝีปากของเขาขยับเข้ามาใกล้ใบหูของเธอ

“คุณนายมู่ เวลาที่ไม่มีคุณอยู่ที่ข้างกาย คุณไม่รู้หรอกว่าผมรู้สึกแย่ขนาดไหน”

การออกไปทำงานนอกสถานที่เป็นเวลาครึ่งเดือนนี้ ไม่มีช่วงไหนเลยที่เขาจะไม่คิดถึงเธอ

อยากกอดเธอ อยากจูบเธอ อยากจะทำทุกสิ่งกับเธอ

ตาของเขาเริ่มรู้สึกร้อนระอุขึ้น

เวินจิ้งรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงของมู่วี่สิงดี จึงรีบผลักเขาออกไป

แต่มู่วี่สิงก็ได้ดึงเธอกลับเข้ามาในอ้อมกอด จนเธอยากจะหลบหนี

เขาจับที่อุ้งมือเธอไว้ เขาหมุนตัวกดทับตัวเธอไว้ด้านล่าง ดวงตาสีเข้มขึ้น

“มู่วี่สิง คุณปล่อยฉันนะ!” เวินจิ้งจ้องเขาด้วยความโกรธ

“ไม่ปล่อย ให้ผมกอดคุณหน่อย นะ?” อารมณ์คุกรุ่นถูกเขาควบคุมไว้ สุดท้ายเขาก็ไม่ได้ทำอะไร

ไม่ได้ขืนใจ เพียงแต่แสดงความอ่อนโยนจนสุดใจออกมา

เวินจิ้งขยับไปไหนไม่ได้ สัมผัสสายตาอันลึกซึ้งของชายหนุ่ม เธอแทบจะสำลักออกมา

หันศีรษะไป ลมหายใจที่ติดจมูกไม่จางหายไป เธอหลับตาลง

ค่อยๆได้รับความรู้สึกอันคุ้นเคย ริมฝีปากของมู่วี่สิงสัมผัสลงบนริมฝีปากเชอร์รี่ของเธอ รสจูบของเขาเริ่มรุนแรงขึ้น

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท