Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 249

ตอนที่ 249

บทที่ 249 ใครให้เธอชอบเขาหล่ะ

“คู่หมั้นที่รักของผม”

ทางออกของสวนคฤหาสน์ยังมีระยะห่างออกไปอีกช่วงหนึ่ง หลิงอี้เดินเข้ามา

เวินจิ้งขมวดคิ้ว ตกใจที่เห็นเขา “คุณคะ ฉันบอกคุณแล้วว่าฉันไม่ใช่ซูยีน”

หลิงอี้กลับไม่ได้สนใจคำพูดของเธอ แต่กลับพูดว่า “คุณแม่ของผมมาถึงแล้ว คุณหนูซู คุณควรจะไปพบท่านกับผมหน่อยนะ”

เวินจิ้งมองขึ้นไปอย่างโมโห “คุณได้โปรดอย่าล่วงเกินฉันอีก ฉันไม่รู้จักคุณค่ะ”

“ถ้าคุณไม่ร่วมแสดงกับผม คืนนี้คุณก็ไปไหนไม่ได้” หลิงอี้ยิ่งเข้าใกล้มากขึ้น แขนอันยาวของเขาโอบเข้าที่เอวอันเรียวบางของเวินจิ้ง

เธอถูกเขาโอบเข้าไปในอ้อมอก

เวินจิ้งตัวสั่น ใช้แรงผลักเขาออกไป

หลิงอี้ไม่ยอมปล่อยมือ

“หลิงอี้ คุณปล่อยฉันนะ!” เวินจิ้งโมโหแล้ว

หลิงอี้งุ้มริมฝีปากอันบางของเขา กลิ่นกายอันหอมละมุนของเธอ ทำให้เขาไม่อาจปล่อยมือได้

“ในเมื่อรู้จักชื่อของผม ยังมาบอกว่าไม่ใช่คู่หมั้นของผมอีกหรือ?” หลิงอี้ หรี่ตาขึ้น

เวินจิ้งเม้มปาก เธอไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมหลิงอี้ถึงได้คิดว่าเธอคือคู่หมั้นของเขามาตลอด

“คุณก็ไม่ใช่ไม่รู้ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม พวกเราก็ต้องแต่งงานกัน เรื่องจริงเรื่องนี้ไม่อาจเปลี่ยนแปลงไปได้” หลิงอี้ตอบอย่างเสียงเข้ม

เวินจิ้งสีหน้าครุ่นคิด เธอรู้แค่ว่า ตระกูลลี่ ไม่เห็นด้วยให้ซูยีนและลี่หนานเฉิงเคียงคู่กัน

ดังนั้นเพื่อเป็นการแยกเขาสองคนออกจากกัน ถึงได้จัดสรรคู่หมายที่จะให้มาแต่งงานกับซูยีน

“ในเมื่อพวกเราไม่สามารถปฏิเสธได้ ก็สู้ว่าร่วมมือกันดีกว่า?” หลิงอี้เสนอแนะ

เกาเชียนอยู่ด้านข้างรู้สึกกังวลใจ หากว่าคุณนายไปเกี่ยวพันอะไรกับหลิงอี้อีก bossจะต้องโมโหมากเป็นแน่

“คุณผู้ชายท่านนี้ ฉันไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดอะไรอยู่!” เวินจิ้งผลักเขาออก

หลิงอี้ผู้เป็นชายหนุ่มรูปงามแต่ไหนมา ก็มีผู้หญิงอยากจะใกล้ชิดเขาไม่น้อย เขาเคยชินกับการที่คนอื่นจะเป็นฝ่ายเข้าไปกอดเขา แต่กลับถูกผู้หญิงคนหนึ่งปฏิเสธถึงสามครั้ง ซึ่งเป็นครั้งแรกของเขาที่รู้สึกเช่นนี้

บนในหน้าของเธอแสดงออกชัดเจนว่าไม่ได้สนใจเขาเลย

เขาขมวดคิ้ว รู้สึกไม่สบอารมณ์อย่างมาก

แต่ก็อยากให้ผู้หญิงคนนี้ฟังเขาพูด

“ผมแค่ไม่อยากให้คุณแม่ของผมผิดหวัง ซูยีน ถ้าคุณสามารถปฏิเสธการแต่งงานนี้ได้ ตอนนี้ก็คงไม่ต้องอยู่ที่นี่แล้ว ไม่ใช่หรือ?” หลิงอี้กล่าว

ก็จริง ซูยีนก็ถูกบังคับมา

ไม่มีใครสามารถถอยหลังได้

เพียงแต่ว่า เธอนั้นไม่ใช่ซูยีน!

ข้างกายของนายหลิงนั้นก็ไม่ขาดสตรี เหตุใดต้องมาติดในบ่วงการแต่งงานเช่นนี้ด้วย การแต่งงานนี้ ซูยีนเธอไม่รับปากเป็นแน่ นายหลิง เปลี่ยนใจไปเสียเถิด”

เธอพูดจบ ก็รีบเดินออกไปจากสวนคฤหาสน์แห่งนี้

หลิงอี้มองไปที่ด้านหลังของเธอ นิสัยที่หยิ่งทะนงของเขาที่จะไม่ไปตามหญิงคนหนึ่ง

แต่ว่า เธอทำให้เขารู้สึกประหลาดใจอย่างมาก

ช่างไม่เหมือนกับซูยีนคนที่เขาได้ยินมา

……

ในรถ มู่วี่สิงกุมมือไว้ อารมณ์โกรธของเขาแผ่กระจายออกไป

“คุณจะช่วยซูยีน ก็ให้สิ้นสุดแค่นี้”

“ฉันก็ไม่ได้จะทำอะไร” เวินจิ้งรู้ว่า มู่วี่สิงจะต้องเห็นเธอกับหลิงอี้ใกล้ชิดกันแล้ว

“ซูยีนกับประธานลี่ออกไปแล้วใช่ไหม?” เธอถาม

“อืม พวกเขากลับไปเมืองหนานเฉิง”

“คนของตระกูลลี่ทำไมไม่มีใครอยู่?” เวินจิ้งถามอย่างสงสัย

ในเมื่อคืนนี้ซูยีนต้องมีการดูตัว คนของตระกูลลี่น่าจะต้องเข้ามาเฝ้ามอง

แต่ทั้งหมดกลับราบรื่นเกินไป

“เมืองหนานเฉิงได้เตรียมการไว้ก่อนแล้ว คนของตระกูลลี่ยังไม่ถึง แต่ก็ถ่วงเวลาได้ไม่นานหรอก” มู่วี่สิงตอบเสียงเรียบ

เวินจิ้งขมวดคิ้วอย่างกังวล

“เรื่องของพวกเขา คุณอย่าเข้าไปเกี่ยวพันมากเกินไป หืม?” มู่วี่สิงโอบเข้าที่ตัวเธอ

เขารู้ว่าความสัมพันธ์ของเธอกับซูยีนไม่เลว เพียงแต่ไม่อยากให้เธอต้องเข้าไปพัวพันกับเรื่องในตระกูลลี่

ท่านนายลี่เป็นคนโหดเหี้ยม หากรู้ว่าเวินจิ้งเข้าไปเกี่ยวด้วย ก็จะไม่ไว้หน้าเขาแน่

“การอยู่ในตระกูลลี่ มีหลายเรื่องที่ไม่เป็นอิสระ คุณนายมู่ ยังมีอีกหลายเรื่องที่ไม่เป็นอย่างที่คุณคิด ที่ว่าจะมีตอนจบดีเสมอไป” มู่วี่สิงกล่าว

ใจของเธอมักจะคิดแต่ด้านเดียว แต่เล็กเธอไม่ได้เติบโตในตระกูลใหญ่ ก็ไม่รู้หรอกว่าจริงแล้วมันน่ากลัวเช่นไร

เวินจิ้งมองที่เขา ดูเหมือนว่าจะเข้าใจความหมายของคำพูดที่มู่วี่สิงกล่าว

เธอไม่รู้สถานการณ์ของตระกูลลี่จริงๆ อีกทั้งเมื่อครู่ที่ได้สัมผัสกับ หลิงอี้ ดูเหมือนว่าเขาเป็นผู้ชายที่ซับซ้อนอันตรายคนหนึ่ง

เธอก็ไม่อยากจะเกี่ยวพันอะไรกับเขาอีกแล้ว

วันถัดมาทั้งสองคนกลับไปเมืองหนานเฉิง เนื่องจากมู่วี่สิงมีธุระด่วนจึงจำเป็นต้องเข้าไปที่บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปก่อน

เวินจิ้งต้องการจะกลับการ์เด้นมู่เจียวาน แต่ก็ดึงดันต่อเขาไม่ได้ จึงถูกเขาพาไปที่บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปด้วย

“ฉันจะโบกรถกลับไปเอง” เวินจิ้งหน้าตึง

“อยู่เป็นเพื่อนผมก่อน นะ?” เสียงของมู่วี่สิงอ่อนโยน

เวินจิ้งมองดูเขา สับสนลังเล

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว สีหน้าเย็นลง

“คุณนายมู่ อย่าตีรวนนะ” สีหน้าของเขาเข้มขึ้น

เวินจิ้งเม้มปาก “ฉันไม่ได้ตีรวน”

เธอมองที่เขา “ฉันรู้สึกเหนื่อย”

“บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปมีห้องพักผ่อน”

พูดจบ ไม่รอให้เวินจิ้งต่อต้าน เขาก็พาเธอไปที่ห้องทำงาน

ภายในห้องทำงานของประธานกรรมการใหญ่ มีห้องนอนที่มีพื้นที่ไม่เล็กห้องหนึ่ง อีกทั้งภายในห้องมีอุปกรณ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวันอย่างครบครัน

จริงแล้วเธอก็ไม่ได้เหนื่อยอะไร เพียงแต่ว่าอยากจะรักษาระยะห่างกับมู่วี่สิง

ไม่อยากจะนอนสักนิด เวินจิ้งคุยโทรศัพท์กับซูยีน เมื่อรู้ว่าตอนนี้เธอปลอดภัยแล้ว ก็รู้สึกวางใจ

ทันใดนั้นด้านนอกประตูก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เวินจิ้งขมวดคิ้ว

มู่วี่สิงเดินเข้ามา ในมือของเขาถือเอกสารอยู่จำนวนหนึ่ง

“อีกสักครู่ช่วยผมทำบันทึกการประชุม นะ?”

“ฉันบอกแล้วว่า ฉันเหนื่อย” เวินจิ้งส่ายหัว

กลับถูกมู่วี่สิงช้อนใบหน้าเธอเข้ามา “ถ้าคุณไม่ช่วยผม ผมคงจะยุ่งมากจนข้ามคืนเลยนะ”

เวินจิ้ง:……

เธอมองดูมู่วี่สิง นึกถึงว่าเพราะเธอต้องไปประเทศC มู่วี่สิงก็ไปเป็นเพื่อนเธอตลอด ทำให้ใจอ่อนลง

ใครให้เธอชอบเขาหล่ะ

“ค่ะ”

ชายหนุ่มงุ้มริมฝีปากขึ้น ช้อนด้านหลังศีรษะของเธอไว้และประทับจูบอันลึกซึ้งลงไป เวินจิ้งไม่ทันตั้งตัวจึงถอยหลัง แต่กลับถูกเขากดลงแนบแน่นขึ้น

“คนบ้า” เธอด่าด้วยความโมโห

“บ้าก็เฉพาะกับคุณคนเดียวนะ” มู่วี่สิงยิ้มลึกขึ้น

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชายหนุ่มคนนี้มองดูคำพูดคมคาย แต่บางทีคำพูดที่พูดออกมากลับมีความหมายต่างไป

แต่ก็เป็นการแซวหยอกเธอ

ที่มาประชุมด้วยคือ เสี้ยงหง ช่วงนี้บริษัทการผลิตยาเทียนอีร่วมมือกับบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป สาเหตุหลักก็เพื่อร่วมกันสืบสาเหตุการเสียชีวิตของฉือซิน

ถึงแม้ว่าบริษัทการผลิตยาเทียนอีจะออกคำให้การว่าสาเหตุการเสียชีวิตของฉือซินไม่เกี่ยวข้องอะไรกับยาของบริษัทการผลิตยาเทียนอี แต่ทางตำรวจก็ต้องการให้ทางเจ้าหน้าที่เฉพาะทางเข้าร่วมการตรวจสอบ บริษัทการผลิตยาเทียนอีจึงขอเสนอเข้าร่วมด้วย

ตอนนี้ทางเสี้ยงหงสืบได้เงื่อนงำบางอย่าง แต่ว่าเรื่องราวซับซ้อน ไม่ได้ง่ายเช่นนั้น

เวินจิ้งทำการบันทึกข้อมูลประเด็นหลักที่สำคัญไว้ ก้าวแรกสงสัยว่าฉือซินจะทานยาที่มีพิษเข้าไป

หลังจากการประชุมเสร็จสิ้นแล้ว เสี้ยงหงพาผู้บริหารระดังสูงของบริษัทการผลิตยาเทียนอีกลับไป ในห้องทำงานจึงเหลือเพียงแค่เวินจิ้งและมู่วี่สิง

นานแล้วที่เธอไม่ได้เข้าร่วมประชุมที่เข้มข้นเช่นนี้ เธอจึงรู้สึกอ่อนเพลีย

อีกทั้ง เรื่องเกี่ยวกับฉือซิน เธอก็คิดไม่ถึงว่ามู่วี่สิงจะรับมาตรวจสอบเอง

“มู่วี่สิง ทำไมคุณถึงทำอย่างนี้?”

“หากเป็นเรื่องที่เกี่ยวพันกับคุณ ผมก็จะสืบให้ชัดเจน” มู่วี่สิงจับมือเธอ

ก่อนหน้านี้ที่ฉืออี้เหิงคอยใส่ร้ายเวินจิ้งมาหลายครั้ง เขาก็ไม่อยากให้เธอถูกสงสัยไปตลอด

เรื่องนี้หากไม่สืบให้ชัดเจน เวินจิ้งก็จะกลายเป็นผู้ต้องสงสัยไป

ในใจเวินจิ้งกำลังโอนเอนเล็กน้อย พอเรียกสติกลับมาได้ หน้าของมู่วี่สิงก็เข้าใกล้เธอมากขึ้น

เธอพลักเขาออกโดยไม่รู้ตัว

แต่ว่าครั้งนี้ เธอถูกเขากดลงบนโต๊ะทำงาน ไม่มีหนทางหลบหนี

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท