Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 245

ตอนที่ 245

บทที่ 245 ช่างนุ่มนวลอบอุ่นนัก ช่างร้ายกาจนัก

เวินจิ้งหัวเราะ คำตอบที่ได้ช่างตรงกับที่เธอคิดไว้ไม่มีผิด

เพียงแต่ว่าเธอได้ยินคำนั้นด้วยหูตัวเอง ช่างรู้สึกเสียใจยิ่งนัก

“ถ้าเช่นนั้นคุณก็อย่าทำดีกับฉัน ได้ไหม?” เวินจิ้งตอบเสียงต่ำ

เธอรู้บ้างไหม เธอจะตกลงไปในกับดักของเขา

เธอไม่เหมือนกับเขา

มู่วี่สิงหรี่ตาลง นัยน์ตาที่ยากจะคาดเดาความคิดเขาได้

“ผมอนุญาตให้คุณชอบผมได้”

ซักพักนึง เสียงของเขาจึงดังเข้มขึ้น

เวินจิ้งมองตาขึ้น ในตาแดงก่ำ

แล้วเขาหล่ะ?

ใช่สิ คำตอบของเขาก็ได้บอกเธอแล้ว

“ฉันไม่ชอบคุณ” เธอหายใจลึก น้ำเสียงเย็นลง

“คุณนายมู่ ผมจะทำดีแต่เฉพาะกับคุณ นี่เป็นสิ่งที่ผมสามารถให้คำมั่นสัญญากับคุณได้” มู่วี่สิงจูบลงที่ริมฝีปากของเธอ

ช่างนุ่มนวลอบอุ่นนัก ช่างร้ายกาจนัก

เวินจิ้งผลักเขาออกอย่างเย็นชา

กลับสู่การ์เด้นมู่เจียวานอันคุ้นเคย ทั้งหมดไม่มีการเปลี่ยนแปลง

แต่ครั้งนี้ ในใจของเธอสับสนวุ่นวายไปหมด

วันที่สองมู่วี่สิงก็ได้ออกไปทำงานด้านนอกแล้ว เวินจิ้งรู้สึกผ่อนคลายลง

ซูยีนช่วงนี้จะอยู่ที่เมืองหนานเฉิง เพื่อช่วยเวินจิ้งสืบเรื่องราวแต่กลับไม่มีข้อมูลอะไรเพิ่ม

หากขนาดตระกูลลี่ยังเช็คข้อมูลไม่พบ ก็เกรงว่าคนที่อยู่เบื้องหลังฉินเฟยนั้น อำนาจอิทธิพลก็น่าจะแข็งแกร่งลึกลับยิ่งกว่าตระกูลลี่เสียอีก

“พวกเราไปเดินเที่ยวใกล้ๆกันไหม วันทั้งวันเธอคงไม่อยากอยู่แต่ในบ้านไม่ออกไปไหนหรอก” ซูยีน มาหาเวินจิ้ง

เวินจิ้งตอบรับโดยง่าย เธอเองก็ชอบออกไปเดินเที่ยว เพียงแต่ท่าทีการเตรียมสอบยังคงเป็นอยู่ เธอเคยชินกับการอ่านหนังสือไปแล้ว

ซูยีนหน้าตาสะสวย แต่งหน้าละเมียดละไม อยู่ในห้างก็ดึงดูดสายตาคนมองไม่น้อย

เธอเองก็รู้สึกเคยชินไปแล้ว

พาเวินจิ้งเดินเข้าร้านเสื้อผ้า เธอเป็นลูกค้าวีไอพี พนักงานที่ร้านต้อนรับเธอเป็นอย่างดี

ปกติแล้วเวินจิ้งจะสั่งซื้อของใช้ต่างๆทางTaobaoทั้งหมด หลังจากที่อั้ยเถียนไม่ได้อยู่ที่เมืองหนานเฉิงแล้ว เวินจิ้งเองยิ่งไม่ได้ออกมาเดินเที่ยวเล่นเลย

ซูยีนมองดูเธอแต่งตัว ก็ขมวดคิ้ว

ดึงตัวเวินจิ้งเข้ามา เธอหยิบชุดเดรสออกมาสองสามชุดแล้วก็ส่งให้เธอ

“ลองให้ฉันดูแต่ละชุดเลยนะ”

เวินจิ้ง : ……

ชุดเดรสเหล่านี้ล้วนเป็นชุดสายเดี่ยว กระโปรงสั้นมาก เธอไม่เคยมีชุดแบบนี้มาก่อน

“เวินจิ้ง เธอไม่ควรใส่แต่ชุดเรียบๆนะ ผู้หญิงเรา ต้องรู้จักโชว์รูปร่างตัวเองบ้าง” ซูยีนกระพริบตามองที่เธอ

“รูปร่างฉันไม่ดีหน่ะ” เวินจิ้งขมวดคิ้ว

ไม่เหมือนกับซูยีน รูปร่างสูงโดดเด่นได้เปรียบ รัศมีเปล่งประกายเจิดจ้า

เดินไปหนใด ไม่อาจทำให้คนมองข้ามได้เลย

“ใครบอกหล่ะ รีบไปใส่ให้ฉันดูก่อน!” ซูยีนผลักเธอเข้าไป

เวินจิ้งเปลี่ยนชุดเดรสที่เธอคิดว่าดูมีเนื้อผ้ามากที่สุดแล้วอย่างล่าช้า ยืนมองอยู่หน้ากระจก เธอรู้สึกคับแคบ

โดยเฉพาะยิ่งต้องสวมรองเท้าส้นสูง ขาอันเรียวยาวของเธอดูแล้วไม่มีที่ติ เธอผอมบาง แต่สัดส่วนกำลังดี ประกอบกับเสื้อผ้าที่ยิ่งทำให้เธอดูงดงามเพลิดพริ้ง

“ไม่เลวเลย เปลี่ยนชุดต่อไป”

เวินจิ้งมองดูตัวเองในกระจก ก็ได้แต่รู้สึกว่าสายตาของซูยีนช่างยอดเยี่ยม ชุดเดรสเมื่อสวมอยู่บนตัวของเธอแล้ว ช่างพอดีเป็นการโชว์รูปร่างอันสวยงามของเธอ อีกทั้งไม่เป็นการเปิดเผยจุดด้อยของเธอด้วย

แต่พอเห็นราคาชุด เป็นตัวเลขห้าหลัก……

เวินจิ้งถอดออกก็รีบส่งคืนให้กับพนักงานร้าน

“เวินจิ้ง เธอไม่ชอบหรอ?” ซูยีนแปลกใจ

“ปกติแล้วฉันก็ไม่ค่อยได้ใส่หรอก สิ้นเปลืองเกินไป” เวินจิ้งส่ายหัว

โดยเฉพาะ เธอยิ่งไม่กล้าสวมใส่ชุดแบบนี้ต่อหน้ามู่วี่สิง แทบจะโชว์ให้เห็นกระดูกไหปลาร้าและแผ่นหลังของเธอ เธอไม่มีความกล้าขนาดนั้น

ซูยีน ขมวดคิ้ว แต่สุดท้ายก็หยิบชุดเดรสนั้นมา

“นี่เป็นของขวัญที่ฉันมอบให้เธอ เธออย่าปฏิเสธน่ะ”

พอพูดจบ ก็รูดบัตรเสร็จเรียบร้อย

เวินจิ้งหัวเราะ แต่ก็รู้ว่าซูยีนอยากให้เธอเปลี่ยนแปลงตัวเอง

ต่อมาก็ยังเดินเที่ยวที่ร้านขายเสื้อผ้าสตรีอีกสองสามร้าน เวินจิ้งช่วยซูยีนจ่ายเงิน เธอก็พูดมาหนึ่งประโยค “นี่ก็เป็นของขวัญที่ฉันมอบให้เธอ เธอก็อย่าปฏิเสธหล่ะ”

ซูยีน หัวเราะ “เธอยังมาคิดเล็กคิดน้อยกับฉันอีก ตระกูลลี่ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินอยู่แล้ว”

“ที่ฉันรูดก็เป็นบัตรของมู่วี่สิง เขาก็คงไม่ขาดแคลนเงินอะไรหรอก”

ทั้งสองคนมองไปหัวเราะไป

ชั้นหนึ่งพวกเธอได้เดินช้อปเสร็จแล้ว ท้ายสุดคือร้านขายเครื่องประดับ

เวินจิ้งลูบไปที่สร้อยบนคอของเธอ ความคิดเรื่องอดีตในสมองก็ค่อยๆผุดขึ้นมา

ชายผู้ดูอ่อนโยนและเอาแต่ใจอย่างเขา จะต้องซื้อสร้อยคอให้เธอสิ

เธอเหม่อลอย เสียงของซูยีนที่อยู่ด้านข้างดังขึ้น “ฉินเฟย?”

ซูยีนไม่รู้จักฉินเฟย เพียงแต่เพราะว่าเธออยู่ใกล้กับเวินจิ้งจึงพอเข้าใจบ้าง

และข่าวสมัยก่อนก็ลงรูปเธออยู่ไม่น้อย เธอจึงพอจำได้บ้าง

เวินจิ้งมองขึ้นไปในร้าน เป็นฉินเฟยจริงๆ หล่อนใส่ชุดเดรสสีดำเรียบ ด้านหลังเรียวบาง

“เกลียด ฉันไม่อยากเข้าไปแล้วหล่ะ” ซูยีนสีหน้าเข้มลง

แต่ว่า พนักงานร้านต้อนรับพวกเธออย่างเต็มที่ อีกทั้งฉินเฟยเองก็เห็นทั้งสองคนแล้ว

เวินจิ้งมองขึ้นไป สายตาของฉินเฟยสบกับเธอ

“เวินจิ้ง ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” ฉินเฟยวางของลง หยิบเงินออกมา

เวินจิ้งเม้มปาก ลองทบทวนดู ก็จริงที่ไม่ได้เจอกันนานแล้ว ตั้งแต่ตอนขึ้นศาลเมื่อสามเดือนก่อน

แต่ที่ฉินเฟยถูกพิพากษาจำคุกจนพ้นโทษออกมา ก็เป็นช่วงเวลาสั้นๆไม่ถึงหนึ่งเดือน

“ใช่สินะ” เวินจิ้งยิ้มอย่างเย็นชา แต่ก็ไม่อยากพูดคุยกับเธอมากไปกว่านี้

“ดูไปแล้ว เธอคงจะแค้นฉันมาก”

“แค้นหรือ? เธอไม่มีค่าขนาดทำให้ฉันต้องเก็บมาคิดขนาดนั้นหรอก”

ซูยีนมองที่เธอ “คุณฉินถ้าจะมาหาเรื่องก็อย่ามารบกวนความสุขของฉันกับเพื่อน พอเจอคุณแล้ว อารมณ์ฉันก็ไม่ค่อยดีเลย”

พูดจบ เธอก็เดินเข้าร้านเครื่องประดับ ในใจไม่ได้คิดถึงเรื่องฉินเฟยแล้ว

เรื่องในอดีตเธอไม่อยากตามเอาความแล้ว แต่ว่ากับผู้หญิงคนนี้ เธอไม่สามารถเผชิญหน้ากับเธออย่างสีหน้าเบิกบานได้อีก

ฉินเฟยขมวดคิ้ว เดินออกจากร้านเครื่องประดับ ตากลับมองไปที่ซูยีน

ถ้าหากจำไม่ผิด เธอก็คือหลานสาวบุญธรรมของตระกูลลี่ คิดไม่ถึงว่าจะใกล้ชิดกับเวินจิ้งขนาดนี้

เธอกดโทรศัพท์ “ท่านลี่ ดูเหมือนว่าฉันจะเห็นหลานสาวท่านแล้วนะ”

……

“เวินจิ้ง เกี่ยวกับเรื่องของฉินเฟย ตอนนี้ฉันก็ยังสืบไม่เจออะไรเลย มันน่าแปลกมาก” ซูยีนขมวดคิ้ว

เธอไม่ได้บอกเรื่องนี้กับลี่หนานเฉิง แต่ตัวเองสืบผ่านคนในเครือข่ายของตระกูลลี่ โดยปกติแล้วเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่รู้ข่าวคราวอะไรสักนิด

แต่ฉินเฟย นอกจากคนในตระกูลฉินเหล่านั้นก็สามารถสืบหาเรื่องราวได้หมด ส่วนเรื่องอื่นสืบหาไม่ได้อะไรเลย

ตระกูลฉินแทบจะไม่มีบทบาทอะไรไปตั้งนานแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะมีอำนาจเช่นนี้

แต่ว่า เธอก็สืบมาได้เรื่องหนึ่ง

“ฉินเจิ้งช่วงนี้วางแผนจะสนุกกับชีวิตบั้นปลายที่ต่างประเทศ ฉีเซินให้เงินเขาก้อนหนึ่ง”

เวินจิ้งขมวดคิ้ว ฉีเซินหรือ?

เขาเป็นคนที่คอยเตือนให้เธอระวังมู่วี่สิง

แต่เขากลับทำอะไร?

“ฉันเข้าใจแล้ว รบกวนเธอจริงๆนะ”

ผลสรุปนี้ก็เป็นไปตามที่เวินจิ้งคาดคิด อย่างไรเธอก็อยากจะเชื่อใจมู่วี่สิง

อย่าให้เป็นเขาเลย อย่า……

ซูยีนอมยิ้ม “ฉันกลับหวังว่าจะสามารถช่วยเหลืออะไรได้บ้าง เรื่องอยุติธรรมแบบนี้หากว่าฉันรู้หล่ะก็ ฉันเองก็ไม่อาจทนได้นานหรอก”

เวินจิ้งลดสายตาลง น้ำเสียงรู้สึกเบื่อหน่าย “เมื่อปีก่อนฉันก็อยากจะสืบดู แต่ว่าฉันไม่มีเครือข่ายคนรู้จักที่ไหน ยื่นฟ้องร้องแล้วก็ไม่มีข่าวคราวอะไร ฉันจึงจำใจต้องปล่อยผ่าน”

“จนมาพบว่ามู่วี่สิงมีส่วนพัวพัน?” ซูยีน ยกคิ้ว

เวินจิ้งพยักหน้า “ดังนั้น ฉันเองก็ไม่รู้ว่าควรจะสงสัยเขาดีไหม เขาช่วยเหลือฉันมาตลอด แต่กลับมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดากับฉินเฟย”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท