Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 264

ตอนที่ 264

บทที่ 264 เปิดโลกกว้างให้เธอ

มู่วี่สิงเดินออกมาจากออฟฟิศ ที่ทำงานข้างๆ เวินจิ้งกำลังดูมือถืออยู่

ความรักใคร่ในตาทอประกายออก เขาเดินไปหา

“มาแล้วก็ไม่แจ้งผมหน่อย?” มู่วี่สิงมีความไม่พอใจเล็กน้อย

“ฉันกลัวรบกวนเวลาทำงานของคุณ…ฉันก็แค่อยู่ๆ ก็คิดถึงคุณแล้ว” เวินจิ้งเข้าไปกอดเขา

ส่วนที่ที่ไม่ไกล เกาเชียนก้มหัวลงเงียบๆ สายตาของลู่หวั่นกลับเป็นอารมณ์เสียมาก

“ผมไปทานข้าวกับคุณก่อน เพราะตอนกลางคืนผมจะไปห้องปฏิบัติการ น่าจะอยู่กับคุณไม่ได้แล้ว” มู่วี่สิงขมวดคิ้ว

แผนการวิจัยและพัฒนาเร่งด่วนมาก เสียเวลาไม่ได้

“แต่คุณสามารถไปกับผมได้”

ห้องปฏิบัติการอยู่ชั้นที่ยี่สิบเอก มู่วี่สิงเปลี่ยนชุดเป็นชุดปฏิบัติการ สวมใส่หน้ากากไว้ แต่เสน่ห์แห่งความสูงส่งนั้นยังคงยากที่จะมองผ่านได้

เมื่อก่อนเวินจิ้งเคยสัมผัสการผลิตยามาก่อน เธอสามารถช่วยจดบันทึกได้

ลู่หวั่นเห็นเวินจิ้งก็มาด้วย นัยน์ตาลึกซึ้งกว่าเดิม

“นี่คือรายงานของคราวก่อน คุณทำความคุ้นเคยก่อน เดี๋ยวอย่ามาสร้างปัญหาให้เราแล้วล่ะ”

เวินจิ้งพูดอย่างเฉยเมย “ถ้าผิดพลาดตรงไหน ก็รบกวนคุณลู่ชี้แนะทันทีเลยนะคะ”

มู่วี่สิงอยู่ตรงโต๊ะทดลองแล้ว ลู่หวั่นอยู่ข้างๆ เขา สองคนใช้ภาษาเฉพาะวงการในการสื่อสารตลอดเวลา ช่วงนี้เวินจิ้งกำลังทบทวนความรู้ด้านการแพทย์อยู่ตลอด ก็ไม่ได้ฟังไม่เข้าใจ

เวลาผ่านไปเรื่อยๆ มู่วี่สิงกำลังทำการทดลองของเหลว มือของลู่หวั่นดิ้นกะทันหัน ของเหลวนั้นก็ไหลลงมามีมือของเธอหมด

สีหน้าของมู่วี่สิงเคร่งเครียดขึ้นมาทันที “รีบล้างมือ!”

“ร้อน…” สีหน้าของลู่หวั่นเปลี่ยน เธอเพิ่งจะสังเกตได้ตอนนี้ว่าถุงมือนี้ขาด ของเหลวค่อยๆ กัดกร่อนผิวหนัง

เวินจิ้งรีบเดินไปเปิดก๊อกน้ำ เห็นลู่หวั่นไม่มีการเคลื่อนไหว เธอก็จับมือของเธอมาไว้ในน้ำ

“อ๊าย! เธอออกไป!” ลู่หวั่นกรี๊ดออกมา จ้องเธออย่างโกรธแค้นอยากจะดึงมือกลับ

“ของเหลวนี้ต้องล้างน้ำให้สะอาดแล้วใช้ของเหลวอัลคาไลน์ล้างผสมด้วยกัน ลู่หวั่น!” เวินจิ้งทำหน้าจริงจังพูด

ลู่หวั่นนิ่งสักพัก มือที่โดนของเหลวก็แอบสัมผัสข้อศอกของเวินจิ้ง จากนั้นก็ทำเป็นไม่อยากยอมต่อไป

มู่วี่สิงทำหน้าเคร่ง ผสมของเหลวเสร็จ เห็นลู่หวั่นทำหน้าปฏิเสธ เขาก็ยื่นมือมาจับข้อมือของเธอไว้ พูดด้วยความอ่อนโยนว่า “อดทนหน่อย”

พูดจบ ก็เอาของเหลวอัลคาไลน์ล้างให้เธอ

เพราะความเจ็บทำให้หน้าของลู่หวั่นซีดลงเรื่อยๆ จากนั้นค่อยๆ ชินแล้ว ในที่สุดก็ไม่ได้ร้อนขนาดนั้นแล้ว สีผิวก็กลับมาปกติเหมือนเดิม

แต่มืออีกข้างของเธอ ยังคงจับชุดปฏิบัติการของมู่วี่สิงไว้แน่นๆ อยู่

เธอพิงในอ้อมกอดของมู่วี่สิงอัตโนมัติ “ทรมานจัง…”

เสียงนั้นออดอ้อนและอ่อนหวาน

เวินจิ้งขมวดคิ้วมุ่น ดูกิริยาท่าทางของลู่หวั่น ความไม่พอในสายตาส่องประกายออก

มู่วี่สิงล้างมือให้เธอเสร็จก็ผลักเธอออก แต่ลู่หวั่นกลับเกาะเขาไม่ปล่อยเลย

“สภาพของคุณวันนี้ไม่ดี เดี๋ยวผมจะให้อานฉิงมารับคุณ” มู่วี่สิงทำหน้าเคร่ง ผลักมือของเธอออกอย่างไม่ไว้หน้าเลย

สายตาของลู่หวั่นค่อยๆ เบลอขึ้นมา ปกติเธอไม่เคยทำผิดพลาดแบบนี้เลย แต่วันนี้เธอฟุ้งซ่านแล้ว

เพราะว่ามีเวินจิ้งมาอยู่อีกหนึ่งคน

“ขอโทษนะ ฉันจะปรับให้เป็นเหมือนเดิม”

เวินจิ้งช่วยเก็บเครื่องมืออุปกรณ์ของที่นี่ มู่วี่สิงกลับเรียกเธอไว้ “เดี๋ยว ผมทำเอง”

“ฉันไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น” เวินจิ้งพูดเสียงเย็น

นึกถึงท่าทางตกอกตกใจของลู่หวั่นเมื่อกี้ มันเหมือนปฏิกิริยาที่ควรมีของคนที่อยู่ในห้องปฏิบัติการระยะเวลายาวขนาดนี้ซะที่ไหน

ก็แค่อยากจะอ้อนมู่วี่สิงแค่นั้นเอง

เธอรู้สึกไม่สบายใจมาก

หันหลังกลับ เธอก็ออกไปจากห้องปฏิบัติการทันที

รู้อยู่แล้วว่าสองคนนั้นทำวิจัยด้วยกันก็แค่เพราะเรื่องงาน แต่คนนั้นคือลู่หวั่น

ตอนมู่วี่สิงออกมาไม่เจอเวินจิ้ง

ข้างนอกกำลังฝนตกอยู่ เขาโทรหาเวินจิ้ง แต่กลับปิดเครื่องแล้ว

เวินจิ้งอยู่ในห้องน้ำ ของเหลวในเมื่อกี้ไม่รู้ว่ามาหยดโดนข้อศอกของเธอด้วยตั้งแต่เมื่อไหร่ เนื่องจากบริเวณไม่ใหญ่ เมื่อกี้เธอเลยไม่ได้รู้สึก

แต่ตอนนี้กัดกร่อนผิวหนังแล้ว

สีหน้าของเธอซีดลง กะว่าจะรีบไปโรงพยาบาลเลย

แต่ยังไม่ทันได้เดินออกจากห้องน้ำ เงาร่างของลู่หวั่นก็ขวางเธอไว้

เธอใส่รองเท้าส้นสูง ใบหน้าเต็มไปด้วยความหนาวเย็น

“เวินจิ้ง ดูน่าเกลียดมากเลยใช่ไหม” รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอมืดมนและเย็น

เวินจิ้งตัวสั่น นึกถึงเรื่องเมื่อกี้ ในไม่ช้าเธอก็เข้าใจ

ลู่หวั่นจงใจเอาของเหลวมาโดนมือของเธอ

“เธอทำแบบนี้ทำไม”

“อ๋อ เพราะฉันไม่อยากเห็นหน้าเธอไง” ลู่หวั่นเดินเข้าใกล้เธอ “เธออยู่ข้างๆ มู่วี่สิง มันขวางหูขวางตามากเลยนะ!”

ความเจ็บที่มือค่อยๆ รุนแรงขึ้น เวินจิ้งไม่อยากสนใจลู่หวั่น เธอต้องรีบไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด

แต่ลู่หวั่นจับมือเธอไว้ ดึงเธอกลับมา

เวินจิ้งยกขาขึ้น ถีบไปที่ขาของเธอสุดแรง

ลู่หวั่นไม่ได้สังเกตจนเกือบล้ม

เห็นเวินจิ้งจะไปเปิดประตู เธอหัวเราะออกมา “ก่อนที่ฉันจะเข้ามาก็ล็อกไว้แล้ว นอกจากจะมีคนผ่านมาเปิดประตู”

เวินจิ้งเม้มปาก ตบมือจับประตูแรงๆ

“มีคนอยู่ไหม–” เธอตะโกนเรียก “ช่วยด้วย–”

แต่ที่ตอบกลับมามีแค่เสียงของเธอเอง

ลู่หวั่นเดินมาด้วยท่าทางเย่อหยิ่ง “ไม่ต้องเสียแรงไปเปล่าๆ หรอก มือของเธอนี่มีแผลเป็นแน่นอนอยู่แล้ว ถึงไปโรงพยาบาลก็ไม่ทันแล้ว”

พูดจบ ลู่หวั่นก็หยิบขวดออกมา จับมือเวินจิ้งไว้สุดแรง อยากจะเอาสารละลายเทลงที่หน้าของเวินจิ้ง เธอพูดด้วยความเย็นชาว่า “สิ่งนี้สามารถทำให้ผิวกายของเธอดำและเน่าได้ เธอว่าถ้าหน้าของเธอมาโดน แล้วมันจะน่าเกลียดขนาดไหน มู่วี่สิงจะรังเกียจเธอไหมนะ”

เห็นว่าขวดนั้นจะเทลงมาแล้ว เวินจิ้งผลักเธอออกไปสุดแรง “ถึงมู่วี่สิงจะรังเกียจฉัน เขาก็ไม่มีวันแต่งงานกับเธอหรอก”

“ใช่หรอ”ลู่หวั่นหรี่ตาลง “ความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับเขา ผู้หญิงอย่างเธอเทียบได้ซะที่ไหน แค่ฉันทำให้เธอพัง ฉันมีวิธีแต่งงานกับเขาได้เอง”

ปลายคางถูกจับไว้ ลู่หวั่นสูงกว่าเวินจิ้งนิดหน่อย ยกมือขึ้น–

เวินจิ้งจ้องตาโตขึ้นมา กลิ่นกลิ่นฉุนทำให้เธอเปลี่ยนสีหน้า เธอยกมือขึ้นจับข้อมือของลู่หวั่นกลับ

ขวดนั้นหล่นลงมาจากมือของลู่หวั่น เวินจิ้งรีบถอยหลังไปทันที

ส่วนด้านหลังของลู่หวั่นก็คือผนัง ของเหลวกระเด็นไปทั่ว เธอใส่กระโปรงสั้น ของเหลวกระเด็นโดนน่องขาของเธอไม่น้อยเลย

ความโกรธแค้นในตาทอประกายออก ลู่หวั่นไม่สนของเหลวนั้น เก็บขึ้นมาอยากจะพุ่งเข้าไปหาเวินจิ้งสุดแรง “ออกไป!”

เวินจิ้งยกขาขึ้นถีบออก ลู่หวั่นที่ใส่รองเท้าส้นบางยืนไม่มั่นคงอยู่แล้ว ทั้งคนเกือบจะล้มลงไปข้างหลังแล้ว เมื่อมู่วี่สิงเดินเข้ามาก็รับเธอไว้พอดี

ลู่หวั่นเปลี่ยนสีหน้า มือรีบโยนขวดสารละลายอันน่าหวาดกลัวนั้นทิ้ง

หันหลังไปจับเสื้อเชิ้ตของมู่วี่สิงไว้แน่นๆ “วี่สิง เมื่อกี้เวินจิ้งน่ากลัวมากเลย…ของเหลวนั้นมีสารพิษ เธออยากจะทำให้ฉันพัง…”

เวินจิ้งพิงที่มือจับประตู ดูสีหน้าซีดขาวและวุ่นวายของลู่หวั่นนั้น ริมฝีปากน้อยค่อยๆ ยิ้มออก

ละครฉากนี้เปิดโลกกว้างให้เธอเลยจริงๆ

“ลู่หวั่น เธอนั่นแหละที่อยากทำให้ฉันพัง เธออิจฉาที่ฉันเป็นคุณหญิงมู่” เวินจิ้งอธิบาย

สีหน้าของเธอใจเย็นมาก ไม่มีกิริยาท่าทางของผู้ถูกกระทำเลยสักนิด

แต่ฝ่ามือที่กุมแน่นของเธอก็ได้เผยความกลัวของเธอออกมา

ถ้าสารละลายนั้นโดนหน้าเธอจริงๆ สำหรับผู้หญิงคนหนึ่งแล้ว เสียโฉมคือการโจมตีที่น่ากลัว

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท