Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 259

ตอนที่ 259

บทที่ 259 แค่อยากให้ผู้หญิงที่ชอบดู

วันถัดไป ตอนที่เวินจิ้งตื่นขึ้นมา ที่ข้างๆได้ว่างเปล่าตั้งนานแล้ว

ดังนั้น มู่วี่สิงยังโกรธอยู่หรือเปล่า?

ล้างหน้าเสร็จเดินออกมาจากห้องรับแขก กลับไม่พบร่างของมู่วี่สิง

อาหารเช้าอุ่นๆสไตล์จีนวางอยู่บนโต๊ะอาหาร แต่จัดไว้สำหรับของเธอเพียงคนเดียว

เขาไปทำงานแล้ว?

เวินจิ้งทานอาหารเช้าอย่างรีบร้อน รีบไปบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป

เพียงแค่กลับถึงห้องทำงาน แม้แต่เกาเชียนก็ไม่อยู่ เธอเปิดข้อความอีเมล์ มีกำหนดการเดินทางใหม่โดยมู่วี่สิง

วันนี้มู่วี่สิงจะต้องเข้าร่วมฟอรัมทางการแพทย์ เย็นๆถึงจะกลับมา

ดังนั้น ทำไมถึงไม่พาเลขาอย่างเธอไปด้วย…

อืม ยังโกรธอยู่แน่เลย…

ตลอดช่วงเช้า เวินจิ้งเหม่อลอย แต่ว่าเมื่อวานไม่ทำงาน งานที่ทำค้างก็ไม่น้อย เวินจิ้งรีบทำอย่างรวดเร็ว

ระยะนี้เทียนอีร่วมมือกับบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปเพื่อตรวจสอบกรณีของฉือซิน มีความคืบหน้าแล้ว แต่ก่อนหน้านี้เป็นซูยินที่ดูแล เวินจิ้งจำเป็นต้องประสานงานกับซูยิน

ตั้งแต่หลังจากซูยินจากไป พวกเธอก็ไม่เคยติดต่อกัน

เวินจิ้งปลดล็อคมือถือ หาวีแชทของซูยินเพื่อโทร

“เวินจิ้ง” น้ำเสียงตกอกตกใจของซูยินดังมา

“ซูยิน ฉันหาเธอเพื่อส่งมอบเรื่องของฉือซิน” เสียงของเวินจิ้งเป็นทางการ

“ได้ ฉันส่งอีเมล์ให้เธอ”

ทั้งสองคนคุยเรื่องงานเสร็จ เวินจิ้งกำลังจะวางสาย

ซูยินเรียกเธอไว้ “เวินจิ้ง ขอโทษ”

เวินจิ้งเงียบ อันที่จริงก็ไม่ได้โกรธ

เพียงแต่ความสัมพันธ์กับซูยิน ยากที่จะกลับไปเป็นเหมือนเดิม

จนถึงกลางคืนมู่วี่สิงถึงจะกลับมา เวินจิ้งเงยขึ้นมอง มู่วี่สิงเดินผ่านตรงหน้าเธอ

หลังจากรอให้เกาเชียนออกมา เวินจิ้งยกกาแฟเข้าไป

มองไปที่ผู้ชายที่กำลังมุ่งมั่นทำงานจากที่ไกลๆ เวินจิ้งเดินเข้าไป

“คุณมู่”

มู่วี่สิงเงยขึ้นมอง ภายใต้ดวงตาที่เย็นชา

เวินจิ้งรู้สึกเจ็บหัวใจ

“ทำไมวันนี้ไม่มาทำงานพร้อมกันกับฉัน?”

“เมื่อวานเหนื่อยขนาดนี้ วันนี้นอนเยอะหน่อยไม่ดีเหรอ? หืม?”

เวินจิ้งรู้สึกอาย ในหัวสมองค่อยๆปรากฏภาพของเมื่อวาน เหมือนว่าจะมีหลายครั้ง…

เธอก็ไม่รู้ว่าตัวเองหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่

“ดังนั้น คุณยกโทษให้ฉันแล้วเหรอ?”

มู่วี่สิงดึงเธอเข้ามากอดในอ้อมแขน “ภรรยามู่ ฉันจะโกรธเธอลงได้ยังไง”

เวินจิ้งมองเขาอย่างไม่มั่นใจ

“ทำไม อยากให้ฉันใช้ร่างกายยืนยันอีกครั้งเหรอ?” สายตาของมู่วี่สิงเปลี่ยนมาเป็นอันตราย

เวินจิ้งรีบดันอกของเขา และส่ายหน้า “คุณอย่ามาทำเรื่อยเปื่อย…”

ที่นี่ยังเป็นห้องทำงาน

“วันหยุดฉันจะไปทานข้าวกับคุณปู่” เธอมองมู่วี่สิง

“ฉันไปกับเธอด้วย” ไม่อาจปฏิเสธน้ำเสียงของมู่วี่สิงได้

เมืองเป่ย ตระกูลหลิน

ช่วงนี้หลิงอี้ยุ่งเรื่องของสาขาหนานเฉิง กลับมาถึงเมืองเป่ยก็ดึกแล้ว

ส่งลี่ผู้เป็นแม่รออยู่ที่ห้องรับแขก มีหนังสือพิมวางอยู่ตรงหน้า หัวข้อหน้าหนึ่งคือหลิงอี้กับเวินจิ้ง

“กลับมาแล้วในห้องครัวยังมีซุป แกไปดื่มก่อน”

หลิงอี้หยิบออกมา สายตาเห็นหัวข้อข่าวหนังสือพิมพ์ ยกริมฝีปากบางขึ้นมา

“ช่วงนี้แกกับซูยินก้าวหน้าได้เร็ว” ส่งลี่พูดอย่างพึงพอใจ

หลิงอี้วางถ้วยซุปลง หยิบหนังสือพิม แม้ว่าด้านหลังจะมืด แต่ว่าใบหน้าด้านข้างของเวินจิ้ง ประณีตและสวยงาม

“ดูแล้วแกชอบเธอมาก สายตาแม่ใช้ได้” ส่งลี่มองสายตาของลูกชายที่จ้องหนังสือพิม มีรอยยิ้มแอบแฝง

หลิงอี้พูด “แม่ เธอไม่ใช่ซูยิน”

“อะไรนะ?”

“ฉันบอกว่าช่วงนี้ให้แกสานสัมพันธ์กับซูยิน แกไปยุ่งกับผู้หญิงอะไร?” ส่งลี่พูดอย่างโกรธ

“ผมไม่สนใจซูยิน อีกอย่าง แม่ไม่รู้เหรอว่าเธอได้ไปแต่งงานที่ต่างประเทศแล้ว?” หลิงอี้พูดเยาะเย้ย

นี่เป็นสิ่งที่เขาเพิ่งรู้ ก่อนหน้านี้คิดว่าเวินจิ้งคือซูยิน เขาไม่คิดที่จะไปตรวจสอบ และตอนนี้ จะให้แต่งงานกับซูยินยิ่งเป็นไปไม่ได้

“แกพูดอะไร นี่เป็นตระกูลลี่ทำไมถึงไม่บอกฉัน” ส่งลี่สีหน้าเย็นชา

“แม่ อย่าคิดที่จะจับคู่ให้ผมอีก ตอนนี้ผมไม่สนใจผู้หญิงคนไหน” หลิงอี้หรี่ตาของเขาอย่างสนุกสนาน

“แกคิดจะทำอะไรพูด! ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร?” ส่งลี่ถาม

“หลานสาวของหลินเจิ้ง”

“หลินเจิ้ง?” ส่งลี่อึ้ง ชื่อนี้ เคยเป็นตำนาน

“แกแน่ใจ?” ส่งลี่ไม่กล้ามั่นใจ

“ไม่ง่ายเลยกว่าผมตรวจสอบเรื่องนี้ได้ ยังไงตอนนี้ เธอคือภรรยาของตระกูลมู่”

ส่งลี่ถลึงตาใส่ลูกชาย “แล้วแกอยากทำอะไร”

“แม่ ยากกว่าผมจะสนใจผู้หญิงคนหนึ่ง ไม่ใช่เหรอ?” สายตาชั่วร้ายของหลิงอี้ประกายออกมา

“คนของตระกูลมู่แกยังคิด เลิกบ้าได้แล้ว แม่จะให้แกมองผู้หญิงอีกครั้ง แกอย่าไปยุ่งกับผู้หญิงคนนั้นอีก” ส่งลี่ดุ

“อย่าจัดผู้หญิงให้ฉันไปเรื่อย อีกอย่าง นักข่าวที่ตามฉันให้ยกเลิกทิ้ง ข้าไม่อยากขึ้นหน้าหนึ่ง”

ใบหน้านี้ของเขา ให้แค่ผู้หญิงที่ชอบดูเท่านั้น

เวินจิ้งจามอย่างไร้สาเหตุ ใครด่าเธอ?

มู่วี่สิงเดินเข้ามา น้ำเสียงใส่ใจ “เป็นหวัดเหรอ? กินยาไหม?”

เวินจิ้งส่ายหน้า “ไม่ใช่ ฉันไม่เป็นไร คุณอย่าตื่นตูม”

ขณะนี้เธอกำลังดูเอกสารที่ซูยินส่งให้เธอ กรณีของฉือซินก้าวหน้ามากแล้ว

ระหว่างที่ฉือซินรับโทษ ในคุกเคยมีคนเสี้ยนหายาเสพติด การคาดเดาในตอนนี้ควรแยกออกจากเรื่องนี้

และในสามวันก่อน นักโทษที่ถูกวางยาฆ่าตัวตาย พบเพียงผงที่ทำให้เกิดการตายของฉือซิน

เบาะแสที่สำคัญที่สุดถูกทำลาย

หากมีการถามนักโทษคนนี้ ก็จะสามารถติดตามตรวจสอบได้อย่างราบรื่น

เวินจิ้งไม่คิดว่ากรณีนี้จะยุ่งยากขนาดนี้

น้ำอุ่นแก้วหนึ่งถูกยื่นมาด้านข้าง มู่วี่สิงพูดอย่างไม่พอใจ “ต่อไปกลับบ้าน ไม่ต้องทำงานแล้ว”

“เฮ้อ ฉันประสิทธิภาพน้อย แน่นอนว่าต้องทำงานนานกว่าคนอื่นอยู่แล้ว” เวินจิ้งพิงขาของเขา และขมวดคิ้ว

ตอนนี้งานเลขาไม่ได้ง่ายและสบายเหมือนตอนที่ทำงานธุรการในบริษัทผลิตยาเทียนอี ในทางกลับกัน ต้องระวังและอดทนมากขึ้น

อีกอย่างปริมาณงานเพิ่มเป็นสองเท่าจากงานเดิม

“เธอแค่รายงานฉัน ฉันเป็นสามีของเธอ” มู่วี่สิงทำให้โหด

ให้เวินจิ้งมาบริษัท ข้อแรกเพื่อไม่ให้เธอเบื่ออยู่บ้าน สอง อยากให้เธออยู่ข้างกาย

แต่ไม่ใช่ให้เธอแบ่งเบาภาระงานของเขา

“เจ้านาย พนักงานที่ขยันขนาดนี้ ให้ค่าล่วงเวลาดีไหม?” เวินจิ้งมองเขาเงียบๆ

“เงินเดือนของเธอสูงกว่าของเกาเชียน” มู่วี่สิงเคาะหัวสมองของเธอ

แฟนชอบเงินขนาดนี้

เวินจิ้งอึ้ง ตอนนี้คิดๆ ตอนที่เธอเข้ามาทำงานเหมือนว่ายังไม่เคยถามเงินเดือน ก็เข้ามาทำงานแล้ว

เลอะเทอะจริงๆเลย

วันถัดไป เวินจิ้งไปแผนกบุคคลแต่เช้า เธอเข้ามาทำงานก็หนึ่งสัปดาห์แล้ว งานเลขาแค่ชั่วคราว ไม่รู้ว่ามู่วี่สิงจะจัดงานอะไรให้เธอ

เมื่อถามแผนกบุคคลเวินจิ้งเพิ่งรู้ ว่าเธอได้เข้ามาทำงานอย่างเป็นทางการแล้ว เงินเดือน…หกหลัก…

“ไม่มีช่วงทดลองงานเหรอ?” เวินจิ้งกระพริบตา เธอกำลังฝันไปใช่ไหม…

“ภรรยามู่ นี่เป็นคำสั่งของคุณมู่ คุณเป็นพนักงานประจำของเรา”

“ออ”

เวินจิ้งอึ้ง ประจำ?

แต่หากเธอสอบเข้าบัณฑิตวิทยาลัยแล้ว ต้องมาทำงานไม่ได้แล้ว

เธอสื่อสารกับผู้อำนวยการฝ่ายบุคคล “แต่ว่า ฉันเป็นแค่พนักงานชั่วคราว”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท