Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 251

ตอนที่ 251

บทที่ 251 ภายในหนึ่งเดือน ฉันต้องจีบเธอติด

อยู่ในช่วงรอผลการสอบระดับบัณฑิตศึกษา เวินจิ้งทำงานอยู่ที่บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปชั่วคราว

งานก็คือ…เลขาของมู่วี่สิง

บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปไม่ได้จัดตั้งห้องสำนักงานเลขา เดิมทีมู่วี่สิงมีแค่เกาเชียนที่เป็นผู้ช่วย

แต่เมื่อเวินจิ้งได้ติดต่อถึงรู้ว่า มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ซับซ้อน ปกติประสิทธิภาพในการทำงานของเกาเชียนต้องสูงแค่ไหนถึงจะสามารถทำทุกอย่างให้เสร็จ?

วันแรกที่มาทำงานเธอยุ่งมาก ไม่มีเวลาทานอาหารเที่ยง ยุ่งตลอดทั้งวันจนถึงกลางคืน

กี่วันมานี้มู่วี่สิงประชุมทางวีดีโอคอล เวินจิ้งนอกจากชงกาแฟก็ไม่ได้เข้าไปอีก

ช่วงเย็น ซูยินมาประชุมที่เทียนอี และรวดมาดูเวินจิ้งทำงาน

เวินจิ้งนำงานลงไปห้องพักผ่อนชั้นล่าง และไม่ว่าง

ซูยินมองร่างของเธอที่กำลังยุ่ง ขมวดคิ้ว “มู่วี่สิงยอมให้เธอเป็นทาสได้อย่างไร?”

เวินจิ้งหัวเราะ “งานเยอะมากจริงๆ แต่ฉันกลับรู้สึกว่าค่อนข้างสมบูรณ์”

ซูยินกรอกตาขาว “กลของความรัก…”

“ก่อนหน้านี้เธอกับมู่วี่สิงทำสงครามเย็นกันไม่ใช่เหรอ ตอนนี้ดีกันแล้วเหรอ?”

เวินจิ้งลดสายตาลง เฮ้อ…เธอก็ไม่รู้จะพูดยังไงดี

เธอซื่อสัตย์กับความติดของตัวเอง แต่กลับรู้สึกสบายใจกับมู่วี่สิงมากขึ้น

ไม่ได้มีความสงสัยและข้อสงสัยมากมาย

“ไม่ต้องพูดแล้ว เธอกับคุณลี่ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?”

ซูอินจับคางของเธอ ใบหน้าแสดงความหดหู่ “จะยังไงได้ คุณปู่ออกคำสั่ง เดือนหน้าฉันต้องแต่งงานกับหลิงอี้”

เวินจิ้งไม่ค่อยมีความคุ้นเคยเท่าไหร่

แม้ว่าเขาจะหน้าตาหล่อเหลาและสะดุดตา แต่กับมู่วี่สิงก็รู้จักกันมานาน เธอไม่รู้สึกว่าจะมีผู้ชายคนไหนดูดีไปกว่ามู่วี่สิง

“ตอนนี้อยู่ที่หนานเฉิงก็จัดคนมาดูแลฉัน คนของตระกูลลี่ไม่มีวิธีที่จะสามารถจับฉันกลับไปได้ แต่เดือนหน้า คุณปู่ลี่มาด้วยตัวเอง ฉันก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว”

ตอนนี้เธอทำได้เพียงดูหนึ่งก้าวเดินหนึ่งก้าว

“ฉันคิดว่าหลิงอี้คงจะไม่เห็นด้วย แต่ว่า เขาไม่ได้คัดค้านการแต่งงาน”

“ตอนนั้นเขาก็ยื่นข้อเสนอกับฉัน ให้ร่วมมือกับเขา” เวินจิ้งขมวดคิ้ว

คิดไว้ว่าตอนนั้น หลิงอี้ก็ยอมรับงานแต่ง

“ตอนนี้เขาก็อยู่หนานเฉิง เขาคิดว่าเธอเป็นฉัน ดังนั้นเวินจิ้ง…เขาอาจจะมาหาเธอ” ซูยินหลบสายตาเล็กน้อย “หวังว่ามู่วี่สิงจะไม่โกรธ…”

เวินจิ้งนึกถึงคำพูดของมู่วี่สิง ให้เธอไม่ต้องยุ่งเรื่องของซูยิน

“เขาจะโกรธ” เวินจิ้งขมวดคิ้วสวย และพูดอย่างมั่นใจ

“ดี ฉันเริ่มไปติดต่อหลิงอี้ก่อน เธอเพิ่งจะคืนดีกับมู่วี่สิง ไม่ควรจะทำสงครามเย็นกันอีก” ซูยินพูด

แต่ว่า เธอก็ไม่มีแหล่งติดต่อหลิงอี้ได้ และไม่มีทางไปถามตระกูลลี่

“เวินจิ้ง ถ้าหลิงอี้มาหาเธอจริงๆ เธอต้องบอกตรงๆ ฉันไม่ควรทำให้เธอลำบากใจอีก”

ซูยินพูดซ้ำอีกครั้ง

เดี๋ยวต้องไปประชุม ไม่นานเธอก็ไปที่ห้องประชุม

ตอนนี้รับผิดชอบงานด้านประชาสัมพันธ์ของเทียนอี ซูยินไม่ค่อยมีเวลาว่างมากนัก

เวนจิ้งได้รับกำหนดการเดินทางของมู่วี่สิง การประชุมของเขาจะดำเนินจนถึงค่ำ จึงรวดเตรียมของกินไปให้เขา

แต่เพิ่งเดินออกจากร้านอาหาร มีไพลินปอร์เช่มาจอดเฉียงอยู่ข้างกายเธอ

หลิงอี้สวมเสื้อเชิ้ตสีดำ ด้วยท่าทางภาคภูมิใจ

เมื่อเห็นเวินจิ้ง เขายกเท้าเดินไปหาเธอ

เวินจิ้งถอยโดยไม่รู้ตัว

การป้องกันตัวของเธออยู่ในสายตาของเขา

“คู่หมั้นของฉัน ทำไม ไม่อยากเจอฉันเหรอ?” น้ำเสียงของหลิงอี้น่าตกใจ

“คุณผู้นี้ ฉันไม่รู้จัก” เวินจิ้งหันตัวเดินจากไป

แต่หลิงอี้หยุดเธอไว้อย่างง่ายดาย “ซูยิน ฉันรู้ว่าเธอไม่อยากแต่งงานกับฉัน แต่ว่า ถ้าเธอร่วมมือกับฉันดีๆ ฉันอาจจะสบายใจขึ้น ก็ยื่นข้อเสนอยกเลิกงานแต่งกับทางบ้าน”

เวินจิ้งมองเขาอย่างเย็นชา และไม่เชื่อ

“คำพูดของหลิงอี้อย่างฉันเชื่อถือได้ อีกอย่าง ฉันไม่ชอบการบังคับผู้หญิงมากที่สุด” สองมือของหลิงอี้ใส่ในกระเป๋า น้ำเสียงเย็นชาและหยิ่ง

“ตอนนี้คุณก็กำลังบังคับฉันไม่ฝช่เหรอ?” เวินจิ้งพูดอย่างเย็นชา

หลิงอี้ยกริมฝีปาก ท่าทางโกรธของผู้หญิงคนนี้ ค่อนข้างน่าสนใจ

“คบกับฉันเถอะ” เขาโน้มตัวลง น้ำเสียงทำให้ร้อน

เวินจิ้ง: …

“คุณหลิง ทำยังไงคุณถึงจะเชื่อ ว่าฉันไม่ใช่ซูยิน” เวินจิ้งรู้สึกรำคาญมาก

ทันใดนั้นเขาก็จับข้อมือเธอ ดึงเธอเข้ามาใกล้ ฉันอาจจะเชื่อ”

เวินจิ้งโกรธ ยกมือขึ้นผลักเขาออก

แต่ไม่ไกล มีปาปารัสซี่ได้ถ่ายชอตนี้ไว้ได้

หลิงอี้ปล่อยมือออก

“ซูยิน ฉันจะรอคำตอบจากเธอ”

เวินจิ้งมองเขาหันไปขึ้นรถ ลมหายใจในจมูกยังได้กลิ่นอายของคนแปลกหน้า

เธอใบหน้าตึง “คุณมีโรคหลงผิดรึเปล่า ฉันไม่ใช่ซูยิน”

กระจกรถเลื่อนลง เผยให้เห็นใบหน้าที่เย่อหยิ่งและหล่อเหลาของเขา “ไม่ว่าเธอจะใช่ซูยินไหม ภายในหนึ่งเดือน ฉันต้องจีบเธอติด”

รถวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว เวินจิ้งโกรธ เพิ่งพบว่าในมือมีนามบัตรอยู่หนึ่งแผ่น

เป็นข้อมูลการติดต่อของหลิงอี้

ประธานบริษัทหลิงซื่อ

เธอโยนทิ้งลงถังขยะอย่างไม่คิด

กลับมาถึงบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป มู่วี่สิงประชุมเสร็จ

เมื่อเห็นเวินจิ้ง ความเย็นชาในสายตาของเขาก็ลดลง

“ประชุมเสร็จแล้วเหรอ?” เวินจิ้งแปลกใจ

“อืม กลับบ้าน” มู่วี่สิงเดินมาโอบเธอ

“แต่ว่า งานของฉันยังไม่เสร็จ” เวินจิ้งดันเขา

เธอมาทำงานวันแรก หลายสิ่งหลายอย่างติดต่อครั้งแรก จัดการได้ช้า

“ไม่มีงานอะไรที่จำเป็นต้องทำให้เสร็จภายในวันนี้” มู่วี่สิงใบหน้าตึง

“แต่ว่า…”

“ไม่มีแต่ เธอเป็นเลขาของฉัน ไม่ฟังคำพูดของเจ้านาย?” น้ำเสียงของมู่วี่สิงโหดมาก

เวินจิ้งใบหน้าเล็กขมวดคิ้ว เธอรู้ว่ามู่วี่สิงมีน้ำใจกับเธอ

อย่างน้อยตอนนี้ เกาเชียนยังคงทำงานล่วงเวลา

อีกอย่างเธอยังรู้ว่า เกาเชียนทำงานตลอด24ชั่วโมงมาโดยตลอด เป็นแบบอย่างจริงๆ

“ฉันไม่ฟังก็ไม่ได้ คุณบอกให้กลับก็ต้องกลับ” เวินจิ้งไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับเขา

แต่เมื่อนึกถึงคำพูดเมื่อครู่ที่หลิงอี้พูด สีหน้าไม่ดีเลย

กลางคืน ซูยินโทรหาเวินจิ้งตลอด

เมื่อเธออาบน้ำออก ก็หลังครึ่งชั่วโมงแล้ว

“เวินจิ้ง เธอรับสายสักที!” น้ำเสียงของซูยินตื่นตระหนกมาก

“เกิดอะไรขึ้น?”

“ดูข่าวที่ฉันส่งให้เธอ เธอมีข่าวกับหลิงอี้บนเวยป๋อแล้ว วันนี้เธอเจอเขาเหรอ?”

เวินจิ้งเปลี่ยนเป็นใส่หูฟัง และเปิดข่าว สิ่งที่ผ่านตามาคือภาพที่หลิงอี้กอดเธอแถวบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป

ไม่พูดไม่ได้ ภาพที่ถ่ายได้จากมุมนี้ดูแล้วช่างอบอุ่นเหลือเกิน

หากไม่ใช่คนที่เกี่ยวข้องกับเธอ ก็คงจะคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคนนั้นสนิทกันมาก

แต่เห็นได้ชัดว่าตอนนั้นเธอผลักหลิงอี้ออก

แต่ว่า รูปภาพไม่ได้ถ่ายโดนใบหน้าเต็มของเธอ รายงานเพียงแค่ว่าคู่หมั้นของคุณชายของบริษัทหลิงซื่อถูกเปิดเผย แต่ไม่ได้บอกว่าเป็นใคร

เธอไม่ถูกเปิดเผย…อย่างนั้นก็ดี

แต่การแต่งตัวในวันนี้ของเธอ มู่วี่สิงรู้ดี

แต่ขอให้เขาไม่เห็น

เวินจิ้งนำเรื่องนี้มาบอกให้ซูยิน อีกอย่างเธอได้บอกตัวตนของตัวเองแล้ว แต่หลิงอี้…เธอมองไม่ออกว่าเขาเชื่อหรือเปล่า

แต่เห็นได้ชัดว่าข่าวนี้ปาปารัสซี่จงใจถ่าย หรือว่าหลิงอี้เป็นคนจัดมา?

ใบหน้าของเวินจิ้งนิ่งลงมา

“ฉันจะไปหาหลิงอี้พูดให้รู้เรื่อง!”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท