Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 261

ตอนที่ 261

บทที่ 261 ที่แต่งงานกันคือจริงจัง

“แต่ว่า อย่างนั้นความสัมพันธ์ของเราก็จะถูกเปิดเผยแล้วอ่ะสิ”

เวินจิ้งขมวดคิ้วมุ่น ถึงแม้ว่าคนรอบข้างจะรู้ความสัมพันธ์ของเธอและมู่วี่สิงกันหมดแล้ว แต่ถ้าจัดงานแต่งขึ้นมาจริงๆ เรื่องมันก็จะยิ่งแพร่ออกไปแน่นอน

เธอรู้ว่าแฟนคลับของมู่วี่สิงน่ากลัวขนาดไหน

“ผมไม่แคร์หรอก ก็ผมอยากให้ทุกคนรู้ว่า คุณคือคุณหญิงมู่ ห้ามใครมามีความคิดอย่างอื่นกับคุณ” มู่วี่สิงพูดด้วยความครอบงำ

เวินจิ้งอดไม่ได้ที่จะขำออกมา “อืม คำพูดนี้ฉันควรจะเป็นคนพูดมากกว่านะ”

มู่วี่สิงหน้าตาดี หล่อเหลาขนาดนี้ ผู้หญิงที่อยากได้เขามีเยอะแยะจะตาย

วันเวลาของงานแต่งงานถูกกำหนดได้แล้วอย่างรวดเร็ว

อยู่อีกสองเดือนต่อมา เป็นช่วงเวลาที่เธอสอบปริญญาโทรอบสองเสร็จไม่นาน

แต่ถ้าจะจัดงานแต่งแล้ว ก็ไม่ใช่มีแค่บ้านตระกูลหลินที่ต้องเตรียมเพียงบ้านเดียว บ้านตระกูลมู่ก็ต้องทำเหมือนกัน

เวินจิ้งไม่รู้ว่ามู่วี่สิงคิดอย่างไร นอกจากคุณปู่คนเดียวแล้วเธอไม่เคยเจอคนอื่นๆ ในบ้านตระกูลมู่เลยสักคน มู่วี่สิงคิดจะเชิญพวกเขามาไหมนะ

“คิดอะไรอยู่” เห็นเวินจิ้งดูรูปชุดแต่งงานนิ่งๆ มู่วี่สิงเดินมากอดเธอ

เวินจิ้งหันหน้าไป รอยยิ้มที่ใบหน้าหยุดชะงัก

“ในงานแต่งงาน นอกจากคุณปู่แล้ว บ้านตระกูลมู่ยังมีใครจะมาเข้าร่วมอีกไหม”

“คุณปู่ และน้องสาวของผม มู่ซือซือ”

“น้องสาว? ฉันไม่เคยรู้เลยว่าคุณยังมีน้องสาวด้วย” เวินจิ้งทำหน้าอึ้งอย่างจงใจ

“เธอร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง” ความหนาวเย็นลอยผ่านตาของมู่วี่สิง

เวินจิ้งตะลึง ไม่คิดว่าจะสัมผัสโดนเรื่องเศร้าของมู่วี่สิง

เธอยิ้มและพูดว่า “น้องสาวของคุณต้องสวยแน่ๆ เลย เพราะพี่ชายหล่อขนาดนี้”

“ก็เพราะว่าเธอ…สวยเกินไปแล้ว ชีวิตเลยไม่ราบรื่น” น้ำเสียงของมู่วี่สิงเยือกเย็นกว่าเดิมแล้ว

เวินจิ้งไม่ถามต่ออีกอย่างรู้ทัน เปลี่ยนเรื่องพูด “ชุดแต่งงานนี้ฉันคิดว่าไม่มีปัญหา ฉันชอบมาก”

มู่วี่สิงมองลงไปข้างล่าง นี่คือเขาเป็นคนออกแบบเอง ตั้งแต่ตอนนั้นที่เขาจดทะเบียนกับเวินจิ้ง เขาก็เริ่มเตรียมการแล้ว

“ชุดแต่งงานจะทำการขนส่งทางอากาศจากยุโรปในสัปดาห์หน้า แล้วก็ชุดราตรีอื่นๆ คุณก็เลือกทีเดียวได้เลย”

รอยยิ้มที่ใบหน้าของเวินจิ้งยิ่งลึกเข้าไปอีก “มู่วี่สิง คุณนี่มีการวางแผนตั้งแต่แรกจริงๆ เลยนะ ฉันกลับไม่เคยรู้อะไรบ้างเลย”

“แต่งงานกับคุณ ผมจริงจังเสมอ” มู่วี่สิงเชยหน้าเล็กของเธอขึ้นมา คำพูดอย่างเร่าร้อน

เวินจิ้งตั้งสติไว้ดีๆ ที่แต่งงานกันคือจริงจัง

แล้วความรักล่ะ?

ตอนบ่าย เวินจิ้งไปที่บ้านฉี หลินเวยสนใจเรื่องของงานแต่งมาก บ่นให้เวินจิ้งมาคุยต่อรองเรื่องนี้ตลอด

คุณตาอายุเยอะแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะจัดการเอง เลยให้หลินเวยเป็นคนรับผิดชอบทั้งหมด

“เสี่ยวจิ้ง ฉันคิดว่าจะจัดงานแต่งที่ปราสาทโบราณตระกูลหลิน ส่วนพื้นหลังที่ตกแต่งเธอชอบแนวไหนหรอ”

นักวางแผนที่อยู่ข้างๆ หลินเวยเอาแท็บเล็ตมาให้ บนหน้าจอคือรูปทัศนียภาพหลายรูป

เกี่ยวกับงานแต่งแล้ว เวินจิ้งไม่เคยคิดภาพว่ามันจะเป็นยังไงเลย

เมื่อก่อนที่คบกับฉืออี้เหิงไม่เคยคิดมาไกลขนาดนี้

ส่วนหลังจากที่แต่งงานกับมู่วี่สิงแล้ว ก็ยิ่งไม่ได้คิดเรื่องนี้เลย

เห็นว่าเวินจิ้งเหมือนจะสับสนมาก หลินเวยยิ้ม “เธอคิดว่าคอนเซ็ปต์ ‘เจ้าหญิง’ เป็นไงบ้าง ตกแต่งเป็นทะเลสีขาวบริสุทธิ์ ฉันว่าฉันชอบมากนะ”

“อย่างนั้นก็ตามความเห็นของคุณนายฉีเลยค่ะ”

“เสี่ยวจิ้ง เรียกฉันว่า ‘แม่’ ได้ไหม” หลินเวยมองเวินจิ้งอย่างคาดหวัง

เรียกแต่คำว่าคุณนายฉีตลอด รู้สึกว่ามันไม่สนิทกันเลย

เวินจิ้งมองลงไปข้างล่าง เนิ่นนานกว่าจะเรียกเบาๆ ออกมาคำหนึ่ง “แม่”

หลินเวยยิ้มออกมา กอดเวินจิ้งไว้แน่นๆ “แม่เป็นคนผิดเอง เสี่ยวจิ้ง แม่ขอโอกาสได้ชดเชยเธอจะได้ไหม”

เวินจิ้งสีหน้าเรียบเฉย เธอไม่ได้รู้สึกว่าการใช้ชีวิตในเมื่อก่อนมันลำบากขนาดไหน แต่พออยู่ในบ้านตระกูลหลิน เธอกลับรู้สึกอึดอัดทุกที่เลย

แต่ถ้านี่ก็คือชีวิตของเธอ เธอก็พร้อมที่จะไปยอมรับ

เธอยิ้มอ่อนๆ “แม่ ชีวิตในเมื่อก่อนของฉันมีความสุขมาก ท่านไม่ต้องขอโทษหรอกนะ”

สีหน้าของหลินเวยมืดลง “เธอควรจะเป็นเจ้าหญิงตั้งแต่แรกอยู่แล้ว”

เวินจิ้งมองลงไปข้างล่าง เธอหวังว่าเธอเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งมากกว่า

“เฮ้ย นี่พี่สาวของผมไม่ใช่หรอ” ตอนฉีเซินเข้ามาเวินจิ้งกำลังคิดว่าจะไปแล้ว

พอเห็นฉีเซินสีหน้าของเธอมืดลงมาทันที นึกถึงคราวก่อนเขาจงใจพาเธอไปขังไว้ในคลับ เธอพูดด้วยเสียงเย็นชาว่า “ฉีเซิน นายจงใจทำให้ฉันกับหลิงอี้ถูกขังไว้ในคลับใช่ไหม”

“โกรธแล้วหรอ” ฉีเซินยักคิ้ว สีหน้านิ่งเฉย

“ใช่ นายทำแบบนี้ทำไม หรือว่านายหลอกใช้ฉันตั้งแต่แรกแล้ว”

ฉีเซินหัวเราะ “หลอกใช้? เวินจิ้ง เราคุยกันไว้ตั้งแต่แล้วนะว่าใช้ประโยชน์ร่วมกัน อีกอย่าง คืนนั้นหลิงอี้ก็ไม่ได้เซ็นสัญญากับผมด้วย ดังนั้นข้อตกลงของเราก็ไม่สามารถไปต่อได้แล้วเหมือนกัน”

“นายมันขี้โกง…ฉีเซิน ฉันตาบอดไปแล้วจริงๆ ถึงได้เชื่อคำพูดของนาย”

“ที่ผมพาคุณไปก็แค่หวังว่าหลิงอี้จะเห็นหน้าคุณบ้างร่วมงานกับผม แต่ตอนนี้เขาปฏิเสธแล้ว ผมว่าคุณก็ไร้ประโยชน์เหมือนกันนะเนี่ย” ฉีเซินพูดอย่างเลือดเย็น

เห็นเวินจิ้งโกรธกว่าเดิม น้ำเสียงของฉีเซินก็อ่อนลงมานิดหน่อย “พี่สาว ความสัมพันธ์ของคุณกับแม่ตอนนี้ก็ดีขึ้นมากแล้วไม่ใช่หรอ บางครั้งมีหลายเรื่อง ไม่รู้จะดีกว่านะ”

“ฉีเซิน นายไม่คิดจะบอกฉันเรื่องพวกนั้นตั้งแต่แรกอยู่แล้ว” เวินจิ้งทำหน้าเคร่งเครียด

“ผมส่งคุณกลับไปเหอะ คุณผู้หญิงคนเดียวไม่ปลอดภัย” ฉีเซินออกไปกับเธอด้วยกัน ไม่มีการตอบกลับ

เวินจิ้งไม่ได้สนใจเขา “อยู่ข้างๆ คุณนี่แหละอันตรายที่สุด”

ฉีเซินหรี่ตาลง ไม่ได้บังคับ

เขาไม่คิดจะบอกเรื่องพวกนั้นให้เวินจิ้งรู้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว สำหรับเธอมันโหดร้ายเกินไปแล้ว

ทำงานที่บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปได้ครึ่งเดือนแล้ว เวินจิ้งค่อยๆ ปรับได้แล้ว จัดการเรื่องงานขึ้นมาก็ราบรื่นมาก

ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นเลขานุการ แต่ส่วนมากแล้วก็ไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับแผนกอื่นๆ รับผิดชอบแค่จัดการเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ของมู่วี่สิงอย่างเดียว

เกาเชียนยุ่งกว่าเธอตั้งหลายเท่า ทำให้เวินจิ้งอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่ามู่วี่สิงแอบลดงานให้เธอน้อยลงไม่น้อยเลย

สัปดาห์หน้าก็คือการสอบรอบที่สองของมหาวิทยาลัยหลินไห่ ปกติเวินจิ้งเลิกงานแล้วก็จะกลับไปอ่านหนังสือ

บางครั้งที่เจอปัญหาอยากจะถามมู่วี่สิง แต่ช่วงนี้เขามีงานเลี้ยงอาหารค่ำเกือบทุกคืน พอกลับมาถึงเวลาก็ดึกมากแล้ว

ความง่วงนอนมาเยือน เวินจิ้งฟุบลงบนโต๊ะ คิดว่าจะหลับครู่หนึ่งค่อยตื่นมาทบทวน แต่จนถึงมู่วี่สิงกลับมาตอนกลางคืนเธอก็ยังไม่ตื่น

มู่วี่สิงเดินเข้าไปห้องอ่านหนังสือ ภาพที่ส่งเข้ามาในตาคือหน้าตาของเวินจิ้งที่นอนหลับอย่างสงบ

รอบๆ มือของเธอวางเต็มไปด้วยเอกสารทบทวน เขาอุ้มเธอขึ้นมา

เวินจิ้งลืมตาขึ้นอย่างงงงัน พอเห็นมู่วี่สิง ในน้ำเสียงมีการตำหนิเล็กน้อย “ทำไมดึกขนาดนี้อ่ะ”

แล้วอีกอย่าง เธอยังได้กลิ่นเหล้าที่ตัวของมู่วี่สิง

ในขณะนั้นก็ยิ่งรู้สึกไม่ชอบใจแล้ว

ผู้ชายขมวดคิ้วมุ่น อุ้มเวินจิ้งกลับไปที่ห้องนอน พูดด้วยเสียงต่ำว่า “งานเลี้ยงอาหารคืนนี้ได้ดื่มเหล้านิดหน่อย”

“อืม ฉันรู้” เวินจิ้งกอดคอเขาไว้

เธอเข้าใจว่าบางครั้งมู่วี่สิงต้องมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม เพราะฉะนั้นก็ไม่ได้โกรธ

“ช่วงนี้คุณก็ทบทวนอยู่ในบ้าน รองานแต่งจบแล้วคุณค่อยมาบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป หืม?” มู่วี่สิงบอก

เวินจิ้งก็ได้ตอบกลับ

ช่วงนี้เธอเตรียมสอบรอบที่สอง หลังสอบเสร็จไม่นานก็คืองานแต่งแล้ว เหมือนว่าจะไม่ค่อยมีเวลาอะไรแล้วด้วย

“ทำไมคุณไม่จัดห้องเลขานุการห้องหนึ่งล่ะ ปกติคุณมีงานตั้งเยอะตั้งแยะ เกาเชียนเหนื่อยมากเลยนะ”

คำพูดเพิ่งจบลง ปลายคางกลับถูกมู่วี่สิงเชยไว้ทันที “เป็นห่วงผู้ชายคนอื่นหรอ”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท