Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 271

ตอนที่ 271

บทที่ 271 อยากรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเขา

“ในวันแต่งงาน คุณพาฉีเซินไปต่างประเทศ” หลินเจิ้นพูดด้วยความโกรธ

“แต่เด็กคนนั้นไม่ยอมเชื่อฟังหรอก”

ฉีเซินมักเย่อหยิ่ง อีกทั้งร้อนรนอยู่เสมอ

ตอนนี้เขาได้รับช่วงต่อบริษัทฉีซื่อกรุ๊ปไว้แล้ว และแม้กระทั่งอำนาจการตัดสินใจหลายอย่างก็อยู่ที่เขาแล้ว

เดิมทีแล้วบริษัทหลินซื่อวางแผนที่จะให้เขามารับช่วงต่อ แต่เมื่อหลินเจิ้นได้ค้นพบตัวตนของเวินจิ้ง และเขาก็ได้หยุดความคิดนั้น

ไม่อย่างนั้นตอนนี้ฉีเซิน ก็สามารถที่จะต่อสู้แข่งขันกับตระกูลมู่ได้

“ฉันจะไม่ปล่อยให้เขามาทำลายพิธีแต่งงานของหลานสาวฉัน!”

“พ่อ ไม่มีทาง ฉันจะคอยดูเด็กนั่นเอง”

…………

มู่วี่สิงได้ส่งมู่ซือซือกลับไปที่บ้านใหญ่ ระหว่างทางไม่มีใครพูดอะไรกันสักคำ

ใบหน้าที่ปกติของมู่ซือซือนั้น เมื่อได้เห็นฉีเซิน ความเกลียดชังในดวงตาของเธอนั้นแรงกล้าเกินกว่าที่จะมองข้ามไปได้

มู่วี่สิงได้ผลักเธอกลับไปที่ห้อง พูดกำชับ “พักผ่อนให้เต็มที่ อย่าคิดฟุ้งซ่าน”

“อืม ฉันรู้แล้ว” มู่ซือซือนิ่งเงียบอย่างหวาดกลัว

แต่เริ่มก็นิ่งขึ้น มู่วี่สิงก็ยิ่งรู้สึกกังวลใจ

“พี่ชายอยู่ที่นี่เสมอนะ”

“พี่ ฉันไม่ใช่มู่ซือซือคนก่อนแล้ว ฉันจะกลับมา และแสดงให้เห็นว่าฉันได้ก้าวผ่านมันมาได้ ทำไมพวกคุณถึงไม่เชื่อฉันล่ะ” มู่ซือซือยิ้มขึ้น

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว และได้เผยให้เห็นนัยน์ตาที่เย็นชาของเขา

เวินจิ้งและมู่วี่สิงกลับมาถึงการ์เด้นมูเจียวานก็เป็นเวลาเย็นแล้ว ระหว่างไม่ได้พูดอะไรกัน

เมื่อมองไปที่ชายคนนั้น เวินจิ้งรู้สึกลังเล

อาหารค่ำได้ถูกยกเลิกชั่วคราว เหตุผลเดียวที่เธอคิดได้ ก็คือฉีเซิน

เขาไม่ได้อยู่ในลิสต์รายการของอาหารมือค่ำนี้

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องที่จู่ๆมู่ซือซือก็กลับมา

เธอรู้สึกอยู่ตลอดว่าคนสองคนนี้ต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกัน

แต่ใบหน้าของมู่วี่สิงนั้นได้ตึงเครียดอยู่ตลอดเวลา ออร่าที่อยู่รอบตัวก็ยิ่งเยือกเย็น ทำให้ผู้คนไม่กล้าเข้าใกล้

ในเวลานี้ เขาได้ถอนหายใจออกมาอย่างหนัก

พวกเขาทั้งสองไม่ได้ทานอาหารเย็น เวินจิ้งได้ไปทำบะหมี่ที่ห้องครัว และประตูห้องหนังสือได้ถูกเคาะขึ้น

กลับกลายเป็นว่า เห็นมู่วี่สิงยืนอยู่ที่หน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานพร้อมกับปลายนิ้วคีบบุหรี่ที่ยังไม่ได้จุด และยืนอยู่อย่างโดดเดี่ยว

เวินจิ้งเดินเข้าไป

“มู่วี่สิง” เธอเดินไปถึงด้านหลังเขา เขาก็เพิ่งจะรู้สึกตัว

อารมณ์บนใบหน้าของเขายังคงนิ่ง แต่ก็เต็มไปด้วยรัศมีที่อ่อนโยน

“ฉันทำบะหมี่ให้แล้ว คุณกินสักหน่อยไหม”

“ผมไม่หิว”

“ไม่หิวก็ต้องกิน หรือคุณไม่เชื่อฟังฉันแล้ว” เวินจิ้งทำหน้าอย่างจริงจัง

“ฟัง งั้นผมกินเป็นเพื่อนคุณ” มู่วี่สิงจับมือเล็กๆของเธอ

เวินจิ้งได้สั่นเล็กน้อย เพราะหนาวจัด

“มู่วี่สิง คุณบอกฉันได้ไหม เมื่อวันนี้ตอนเย็นเกิดอะไรขึ้น” เวินจิ้งมองเขา

ถ้าปล่อยไปเมื่อปีก่อน เธอไม่ต้องมาเป็นห่วงกับเรื่องพวกนี้

แต่ตอนนี้ ความสัมพันธ์ของเธอและมู่วี่สิงได้สนิทสนมกันมากขึ้น เธออยากรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเขา

“ตระกูลมู่และตระกูลฉีนั้นมีความสัมพันธ์ไม่ถูกกัน ฉีเซินเป็นคนของตระกูลฉี ปกติแล้วก็ไม่อยากจะเจอกัน แม้แต่นั่งกินข้าวด้วยกันก็เป็นไปไม่ได้” มู่วี่สิงพูดด้วยเสียงเรียบนิ่ง

เรื่องนี้ ………เวินจิ้งรู้ดี

แต่ถ้าพูดอย่างนี้ หลินเวยก็คือคนของตระกูลฉี

เพียงแค่คนของตระกูลมู่ไม่ได้ถูกกีดกัน

“ในงานแต่งของเรา ฉีเซินก็จะมาร่วมด้วย” เวินจิ้งขมวดคิ้ว

ตอนนี้เมื่อได้นึกถึง พิธีแต่งงานนี้อาจไม่ราบรื่น

“มันก็ไม่เสมอไป” มู่วี่สิงกล่าวพูดอย่างเฉยเมย

“คุณนายมู่ คุณอย่าคิดมาก ผมจะไม่ให้เกิดเรื่องอะไรขึ้น” เวินจิ้งพยักหน้า แต่ภายในใจเธอก็ยังกังวลอยู่

……………..

สองวันต่อมา อั้ยเถียนมายังเมืองหนานเฉิง

เวินจิ้งไปรับเขาที่สนามบิน อั้ยเถียนก็ได้วิ่งมาสวมกอดเธอ “คิดถึงฉันล่ะสิที่รัก”

เวินจิ้งยิ้ม “แน่นอน คิดถึงเธอมาก”

“รีบพาฉันไปดูปราสาทหน่อย ฉันอยากเห็นสถานที่จัดงานแต่งงานของเธอหน่ะ”

อั้ยเถียนเป็นคนที่ได้รอบรู้เรื่องเกี่ยวกับตระกูลหลิน แต่เวินจิ้งกลับรู้เรื่องเกี่ยวกับตระกูลหลินเพียงเล็กน้อย

“เธอบอกซิ เธอมาเป็นลูกสาวบ้านนี้ได้ยังไง” อั้ยเถียนหัวเราะเยาะเธอ

“เธอก็รู้ ฉันไม่คุ้นเคยกับสถานะนี้”

“ตระกูลหลินเป็นตระกูลที่ร่ำรวย มีกฎมากมายใช่ไหมล่ะ” อั้ยเถียนเติบโตมาในตระกูลที่ร่ำรวย แต่เธอไม่ได้ยึดติดกับครอบครัวของเธอ เธอจึงเป็นคนที่มีชีวิตอิสระ

เวินจิ้งส่ายหัว ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับกฎเกณฑ์ แต่จริงๆไม่ได้มีอะไร

แต่สุดท้ายก็มีความรับผิดชอบจำนวนไม่น้อยที่ต้องแบกไว้บนบ่า

ญาติที่อยู่รอบตัวของเจี่ยนอีนั้นมีน้อย แต่ตระกูลหลินเป็นตระกูลใหญ่ ในอนาคตจะต้อง เผชิญกับสภาพแวดล้อมของครอบครัวที่ซับซ้อนมากขึ้น

“ในเมื่อหลินเจิ้นและหลินเวยต่างโปรดปรานเธอทั้งคู่ อย่างนั้นเธอก็ไม่ต้องกังวล” อั้ยเถียนได้ขมวดคิ้ว เมื่อได้ฟังคำพูดของเวินจิ้ง

“สุขภาพของคุณตาไม่ค่อยจะดี หมอบอกว่ามีเวลาอีกแค่ครึ่งปี สำหรับแม่ฉัน ฉันก็ไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วเขาเป็นคนยังไง”

แม้ว่าเขาจะรักและเมตตากับเธอมาก แต่ดูเหมือนว่าจะสวมหน้ากาก ซึ่งไม่เป็นความจริง

“จิ้งจิ้ง ฉันเข้าใจเธอนะ แต่ไม่สามารถเลือกภูมิหลังของครอบครัวเองได้ เธอต้องปรับสภาพจิตใจของตัวเองให้ดี” อั้ยเถียนพูดด้วยความเสียใจ

………….

มาถึงบ้านตระกูลหลินก็บ่ายแล้ว อีกสามวันก็เป็นพิธีแต่งงาน หน้างานได้จัดเกือบจะพร้อมแล้ว

หลินเจิ้นรู้ว่าเวินจิ้งได้มาแล้ว จึงขอให้เธอไปที่ห้อง

อั้ยเถียนเดินไปในสวนดอกไม้

“หลานสาว มาช่วยประคองให้ฉันขึ้นหน่อย” หลินเจิ้นที่เพิ่งจะนอนให้น้ำเกลือ จิตใจยังไม่ค่อยดีนัก

“มีเรื่องที่ตาต้องการจะคุยกับเธอ ในเมื่อเธอเป็นลูกหลานของตระกูลหลิน แล้วเรื่องชื่อ ก็ต้องเปลี่ยนนะ”

สีหน้าของเวินจิ้งก็ได้เปลี่ยนไป ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยคิดเรื่องนี้ เพียงแต่เธอไม่ต้องการ

ชื่อเวินจิ้งนี้ เจี่ยนอีเป็นคนตั้งให้เธอ และเธอก็ชอบมันมาก

และในใจเธอไม่ต้องการตัดขาดความสัมพันธ์ความเป็นแม่ลูกของเธอและเจี่ยนอี

แม้ว่าเธอกลับมาตระกูลหลิน แต่เธอก็ยังคงเป็นลูกสาวของเจี่ยนอี

“คุณตา ชื่อของฉัน ฉันก็ชินกับมันมาหลายปีแล้ว” เวินจิ้งขมวดคิ้ว

“เธอจะต้องสืบทอดตระกูลหลินในอนาคต ชื่อนี้มีความสำคัญมาก ตาได้เลือกให้เธอหลายชื่อ เธอลองเลือกดู” น้ำเสียงของหลินเจิ้นไม่อาจปฏิเสธได้

พูดจบ แม่บ้านได้ยื่นสมุดมาให้เล่มหนึ่ง

เวินจิ้งไม่ได้เปิด และวางทิ้งไว้ข้างๆ

“คุณตา ถ้าฉันไม่ยอมเปลี่ยนชื่อล่ะ” น้ำเสียงเวินจิ้งแข็งขึ้นเช่นกัน

หลินเจิ้นลดใบหน้าลง เห็นได้ชัดว่าเขาโกรธ

อารมณ์ของเขาไม่ค่อยดี มันจะส่งผมกระทบต่ออาการป่วย และค่อยๆอ้าปากค้างอย่างแรง

แม่บ้านได้รีบหยิบยามาทันที และพูดกับเวินจิ้งด้วยน้ำเสียงจริงจัง “คุณหนู คุณท่านหวังดีต่อคุณนะ”

เวินจิ้งรู้สึกเจ็บจุกอก โค้งตัวลง และหยิบยามาให้คุณตากินด้วยตัวเอง

สีหน้าของหลินเจิ้นซีดเซียว และพูดค่อยๆ “ฉันก็ไม่สามารถบังคับเธอได้ แต่หลานสาว ฉันหวังว่าเธอจะฟังฉัน”

เวินจิ้งลดสายตา และได้กัดริมฝีปากของเธอแน่น

“คุณตา ขอโทษ”

เธอยืนขึ้น และได้กำชับแม่บ้านดูแลคุณตาให้ดี แล้วได้ออกจากห้องไป

เมื่ออั้ยเถียนเห็นเธอ เวินจิ้งอารมณ์ยังไม่ดี

“เกิดอะไรขึ้นเหรอ”

เวินจิ้งส่ายหัว แต่เธอไม่ได้เก็บมาใส่ใจ และได้บอกกับอั้ยเถียนไป

“ถ้าเธอไม่เปลี่ยนชื่อ ก็จะมีปัญหายุ่งยากภายหลัง สถานะของเธอก็จะมีคนตั้งคำถาม” อั้ยเถียนกล่าว

แต่เธอรู้ความรู้สึกของเวินจิ้งและเจี่ยนอี และเข้าใจความคิดของเธอดี

“ฉันรู้ แต่ชื่อนี้เจี่ยนอีเป็นคนให้มา ฉันจะไม่เปลี่ยน” เวินจิ้งพูดอย่างมั่นคง

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท