Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 280

ตอนที่ 280

ตอนที่ 280 ไม่อยากปล่อยเธอไปจริงๆ

“หลิงอี้ นี่อะไรกัน”

เวินจิ้งคาดไม่ถึงว่ารถที่คุณตาจัดให้มารับเธอนั้น ก็มารับหลิงอี้ไปด้วยเช่นกัน

และก็มีปลายทางเดียวกัน

“ก็ตาของคุณ เชิญผมให้ไปเป็นแขกที่บ้านคุณ คุณคงยังไม่รู้สินะ ตอนเด็กๆผมเคยอยู่ที่ตระกูลหลินอยู่ช่วงหนึ่ง ตาของคุณหวังมาตลอดว่าอยากมีหลานสาว อย่างนั้นผมก็แต่งานกับเขาได้”

“เหลวไหล!” เวินจิ้งขัดจังหวะเขา

เธอไม่เชื่อหลิงอี้

แต่หน้าตาของหลิงอี้ที่แสดงออกมาไม่เหมือนคนโกหกเลย

“เวินจิ้ง เธอต้องเชื่อสิ วาสนาของพวกเราถูกกำหนดไว้ตั้งแต่เด็กๆแล้ว”

หลิงอี้ยกริมฝีปาก

“ฉันแต่งงานแล้ว” เวินจิ้งพูดอย่างบริสุทธิ์ใจ

“ใครจะไปรู้เรื่องในอนาคตหละ เวินจิ้ง ฉันไม่รังเกียจผู้หญิงที่แต่งงานแล้วหรอกนะ”

เวินจิ้ง………………

“ตอนนี้ครอบครัวของฉันก็มีความสุขดี คุณหลิง โปรดรักษาระยะห่างให้เหมาะสมด้วย!”

หลิงอี้หรี่ตา “พวกเรายังใกล้ชิดกันไม่มากพอ”

เวินจิ้งเปิดประตูลงจากรถ โดยไม่ได้สนใจเขา

เมื่อเปรียบเทียบกับความหรูหราของปราสาทตระกูลหลินที่หนานเฉิง บ้านตระกูลหลินที่ประเทศ B มีบรรยากาศแบบสวนยุโรป ให้ความรู้สึกดูลึกลับ

หลินเวยออกมาจากห้องนั่งเล่น “เสี่ยวจิ้ง เธอมาแล้วเหรอ หลิงอี้ก็มาด้วยเหรอ”

“อื้ม ผมมีเรื่องจะคุยกับปู่ ช่วงนี้ เกรงว่าจะต้องรบกวนอยู่ที่นี่สักพัก” หลิงอี้พูดอย่างสุภาพ

หลินเวยพยักหน้า “ฉันจะให้คนไปเตรียมห้องให้เธอ”

หลิงอี้เดินไปยังห้องหนังสืออย่างคุ้นเคย เวินจิ้งมองไปยังเบื้องหลังของเขา ไม่ได้คาดหวังว่าสิ่งที่เขาเพิ่งจะพูดมานั้นจะเป็นเรื่องจริง

“เสี่ยวจิ้ง เธอกับหลิงอี้มาเที่ยวบินเดียวกันเหรอ”

“อื้ม” สีหน้าของเวินจิ้งเรียบเฉย เมื่อคิดถึงช่วงเวลานี้ที่มีหลิงอี้อยู่ที่นี่ด้วย เธอรู้สึกอึดอัดไปหมด

เหมือนจะรู้อารมณ์ของเวินจิ้ง หลินเวยตบไหล่เธอเบาๆ “พ่อแม่ของหลิงอี้กับคุณตาสนิทกันมาก ดังนั้น เจ้าเด็กคนนั้นเลยมาตระกูลหลินบ่อยๆ จนคุณตารับเขาเป็นลูกหลาน”

เวินจิ้งไม่สนใจอะไรกับเรื่องของหลิงอี้ สีหน้าของเธอไม่แยแสใดๆ

ขึ้นไปยังห้องพักของตนเอง คาดไม่ถึงว่าหลิงอี้จะพักอยู่ห้องตรงข้ามกับเธอ

เวินจิ้งไม่ได้สนใจอะไรเขา

หลิงอี้ก้าวไปหยุดตรงข้างหน้า เขาถามออกไป “คืนนี้ผมจะเข้าครัว คุณอยากกินอะไรเหรอ”

“แล้วแต่”

“หื้ม คุณช่วยมีท่าทีดีๆกับผมหน่อย ผมมีเวลาอยู่ที่นี่ไม่นาน คุณจะมาทำสีหน้าเย็นชาใส่ผมไม่ได้นะ”

เวินจิ้งลดหน้าลง มองไปยังหลิงอี้ “ดังนั้น พวกเราก็ไม่ควรก้าวก่าย/รบกวนกันและกัน”

“คนใจร้าย พวกเราจะเป็นเพื่อนกันดีๆไม่ได้เลยเหรอ”

“คุณหลิง คุณคงขาดแคลนเพื่อนสินะ” เวินจิ้งพูดอย่างไม่พอใจ

“อื้ม ขาดมาก”

“น่าเบื่อ” เวินจิ้งเดินเข้าห้อง “ปัง” เสียงปิดประตูดังขึ้น

ใบหน้าของหลิงอี้ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เมื่อได้หยอกล้อผู้หญิงคนนี้ เขารู้สึกสนุกจริงๆ

หลินเวยขึ้นมาพอดี จึงได้พบกับหลิงอี้อยู่ที่หน้าประตูห้องของเวินจิ้ง สีหน้าเขาก็นิ่งลง

“คุณป้าหลิน” เมื่อได้เห็นหลินเวย เขาจึงทักทายอย่างสุภาพ

“ทำไมพ่อของฉันดันให้เธอมาตอนนี้ได้” หลินเวยขมวดคิ้ว

เธอนึกขึ้นมาได้ว่าก่อนหน้านี้หลินเจิ้นไม่ค่อยชอบให้เวินจิ้งและหลิงอี้อยู่ด้วยกัน

หลินเจิ้นเคยพูดว่าถ้าเขามีหลานสาว ลูกเขยที่เหมาะสมที่สุดต้องเป็นหลิงอี้

และเรื่องของตระกูลหลิง ตระกูลหลินเองก็รู้อย่างลึกซึ้ง

แต่อย่างไรก็ตาม เวินจิ้งแต่งงานไปแล้ว ในฐานะที่เธอเป็นแม่ ก็ไม่ต้องการให้เรื่องยุ่งยากขึ้นไปอีก

แต่ดูเหมือนหลินเวยจะไม่ได้คิดแบบนั้น

“เรื่องธุรกิจ” หลิงอี้ขมวดคิ้ว

……….

ในตอนเย็น เวินจิ้งสัญญากับคุณตาไว้ ว่าจะลงไปช่วยในครัว

แต่คิดไม่ถึงว่าหลิงอี้จะเข้าครัวด้วยตัวเองจริงๆ

เขาเป็นคุณชายในบ้านเศรษฐีมาตลอด ไม่คิดเลยว่าเมื่อมาเข้าครัวทำอาหารก็ดูทะมัดทะแมง

เธอไม่อยากจะเสียเวลาอยู่กับเขา เวินจิ้งจึงหันหลังเดินกลับไป

หลิงอี้เรียกเธอไว้ “เวินจิ้ง มาช่วยผมหน่อยเถอะ”

“ฉันไม่ว่าง” เวินจิ้งเพิกเฉย

“ไม่อย่างนั้น ฉันก็ไม่รู้ว่าจะได้กินข้าวกันเมื่อไร” หลิงอี้ยกริมฝีปากอย่างเย็นชา

เวินจิ้งขมวดคิ้ว “แม่บ้านหละ”

“ตอนนี้มีแต่คุณที่ช่วยผมได้”

พูดจบ หลิงอี้ยื่นจานใบหนึ่งให้เธอ ในจานมีผักสดอยู่บนนั้น

“ผัดผักสิ”

เวินจิ้ง……………

เธอรับมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย แล้วเดินเข้าไปในครัว

เขากอดอก เอนหลังพิงกำแพง และจ้องมองเธออย่างสบายๆ

เวินจิ้งรู้สึกไม่ปกติ ที่ถูกจ้องมองอยู่จากด้านหลัง เธอจึงอยากจะรีบๆทำให้เสร็จ

เธอหยิบเครื่องปรุงที่อยู่ด้านข้างขึ้นมา หลิงอี้เอามือยื่นเข้ามา ส่งเครื่องปรุงอีกอย่างให้เธอ “นี่ต่างหากเกลือ”

“อ่า” เวินจิ้งอุทานออกมาอย่างเรียบเฉย

“ดูเหมือนว่าปกติจะเข้าครัวนะ” หลิงอี้พูดว่า

“อื้ม”

หลิงอี้ไม่ได้โกรธ เรื่องที่ถูกเวินจิ้งเมินเฉย มุมปากก็ค่อยๆปรากฏรอยยิ้ม

เมื่อเวินจิ้งทำผัดผักเสร็จ เขาก็ให้เธอช่วยทำอย่างอื่นต่อ

“หลิงอี้ นี่คุณจงใจหนิ!” เวินจิ้งหงุดหงิด

ถ้าไม่ใช้เพราะเพื่อให้ทุกคนได้รับประทานอาหาร เธอก็คงจะวางมือทิ้งไปแล้วจริงๆ

“แน่นอน ฉันก็แค่อยากมีเวลาได้ทะนุถนอมและอยู่กับคุณตามลำพัง”

“คุณยังไม่ได้รับอนุญาตให้พูด” เวินจิ้งจ้องไปยังเขา

คำพูดนี้ถ้ามีใครได้ยินเข้า อาจทำให้เข้าใจผิดได้

“ได้ ฟังคุณก็ได้” หลิงอี้เชื่อฟังและปิดปากสนิท

จากนั้น หลิงอี้ก็เงียบไปจริงๆ จดจ่ออยู่กับการเข้าครัว

เมื่อหลินเวยได้ประคองหลินเจิ้นลงมาถึง เวินจิ้งก็ยกอาหารมาเสิร์ฟ

“เสี่ยวจิ้ง ทำไมเธอต้องมาเข้าครัวด้วย” หลินเวยไม่พอใจเล็กน้อย

“ช่วงนี้ฉันให้แม่บ้านหยุดพักผ่อน ให้พวกเขาหนุ่มๆสาวๆทำเถอะ” หลินเจิ้นกล่าว

“คุณปู่ ผมมีความสุขมาก”

เวินจิ้งนิ่งไปครู่หนึ่ง สายตาจับจ้องไปยังเวินจิ้งและหลิงอี้

“เย็นนี้ต้องให้หลิงอี้เข้าครัว ลำบากเธอแล้วหละ” หลินเวยพูดกับหลิงอี้อย่างเกรงใจ

“มีเวินจิ้งคอยช่วย สบายครับ”

เวินจิ้งลดสายตาลง ไม่พูดอะไรสักคำ

เห็นได้ชัดว่าหลินเจิ้นและหลิงอี้มีความสัมพันธ์ที่ดีมาก แม้ว่าการพูดคุยกันส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของธุรกิจ แต่ตระกูลหลินและตระกูลหลิง ทั้งสองเป็นเพื่อนกัน มีความร่วมมือที่แน่นแฟ้นกันมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว หลิงอี้จึงรู้จักนิสัยและความชอบของหลินเจิ้นเป็นอย่างดี บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเย็นวันนี้ จึงมีความสนิทสนมกลมกลืน

“เสี่ยวจิ้ง โครงการนี้ ปู่ยกให้เธอ เธอจะว่ายังไง”

เวินจิ้งหยุดนิ่งไป ไม่สนใจฟังคำพูดของทั้งสองคน

เธอเงยหน้าขึ้น มองหลิงอี้ด้วยความสงสัย

หลิงอี้จึงพูดขึ้น “ไม่นานมานี้ ผมคิดว่าจะผลิตยาตัวใหม่ เวินจิ้ง เธอมีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อน และก็ยังเป็นคนของตระกูลหลิน คุณปู่ก็การให้เธอรับผิดชอบในการวิจัยพัฒนานี้”

เวินจิ้งยิ่งสงสัย แต่เธออยู่ที่ประเทศ B แค่สามเดือน

และการวิจัยและพัฒนา ต้องใช้เวลามากแน่นอน

“ฉัน…..”

“หลานเอ้ย ตามีเวลาไม่มากแล้ว กิจการมากมายในบริษัทหลินซื่อ ก็ล้วนแต่ได้หลิงอี้ช่วยดูให้ แต่ สุดท้ายก็จะต้องยกให้เธอทั้งหมด เธอลองรับไปลองดูนะ”

น้ำเสียงของหลินเจิ้นแฝงไปด้วยคำสั่ง

“พ่อ เวินจิ้งยังต้องไปเรียนต่อนะ ความกดดันของเธอจะมากเกินไปหรือเปล่า” หลินเวยขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ

“เธอไม่ได้เด็กแล้วนะ ทำงานมาสามปีแล้ว” หลินเจิ้นพูดอย่างหนักแน่น

“เวินจิ้ง เธอคิดยังไง” หลิงอี้มองไปยังเวินจิ้ง

เวินจิ้งเม้มปาก แม้ว่าก่อนหน้านี้คุณตาจะเคยพูดกับเธอเรื่องการรับช่วงต่อบริษัทหลินซื่อ แต่เธอก็ยังรู้สึกไม่พร้อม

และก็ไม่ค่อยจะยินยอม

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท