Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 283

ตอนที่ 283

บทที่ 283 ถอยออกมา

ดูเหมือนว่าจะมองทะลุเห็นถึงความกังวลของเวินจิ้ง หลินเจิ้นพูดด้วยเสียงต่ำ “คนข้างกายที่ฉันไว้ใจมากที่สุดตอนนี้คือเธอนะ เธอมีประสบการณ์ด้านนี้ ยาตัวนี้เป็นยาสำคัญของบริษัทหลินซื่อเมื่อปีที่แล้ว ห้ามมีข้อผิดพลาดเด็ดขาด”

“คุณตาคะ แต่ว่า……”

“ไม่มีแต่ เวลาสามเดือน เพียงพอแล้ว” น้ำเสียงของหลินเจิ้นยากที่จะปฏิเสธได้ เขาพูดต่อว่า “ตอนบ่ายเธอไปหาหลิงอี้ เขาจะพาเธอไปที่ห้องทดลอง”

“แต่ว่าคุณตาคะ หนูอยากอยู่เป็นเพื่อนคุณตา”

ที่ผ่านมา เธอมาที่นี่ไม่ใช่เพื่อเรื่องของบริษัทหลินซื่อ

แต่ตอนนี้เห็นได้ชัดเลยว่า ความตั้งใจของคุณตาอยู่ที่บริษัทหลินซื่อ

“ถ้าเธออยากให้ตาไปดูห้องทดลองด้วยตัวเอง งั้นเธอก็ไม่ต้องเข้ามายุ่งแล้ว กลายเป็นว่าตาก็อยู่ได้อีกไม่กี่วัน คิดไม่ถึงยังจะต้องมาวิ่งวุ่นเพื่อเรื่องบริษัทหลินซื่ออีก” น้ำเสียงหลินเจิ้นค่อยๆเปลี่ยนเป็นสิ้นหวัง

เวินจิ้งปวดใจ ทั้งที่รู้ว่าคุณตาใช้วิธีนี้หว่านล้อมเธอ แต่เธอก็ใจอ่อน

“คุณตา หนูไปค่ะ”

“อืม มีเธอช่วยฉัน คอยดูยาตัวนี้ ฉันก็สบายใจแล้ว”

เดินออกจากห้อง สีหน้าเวินจิ้งไม่ค่อยดีนัก

เมื่อกี้ฟังความหมายของหลินเจิ้นแล้ว ชัดเจนเลยว่าไม่สามารถหลีกเลี่ยงที่จะพบเจอหลิงอี้ได้

เธอรู้ตอนนี้ในส่วนอุตสาหกรรมการผลิตของบริษัทหลินซื่ออยู่ในมือของหลินเวย อีกส่วนที่เหลือก็ถูกหลินเจิ้นควบคุมไว้ในกำมือ

แต่ว่าหลินเจิ้นเชื่อใจหลิงอี้มาก ตามด้วยอายุที่ยิ่งมากขึ้น ก็ยิ่งเอางานอุตสาหกรรมการผลิตมอบให้หลิงอี้จัดการชั่วคราว

ถ้าหากมู่วี่สิงรู้ว่าเธอต้องใกล้ชิดหลิงอี้ ต้องโกรธแน่นอน

แต่เธอไม่สามารถปิดบังได้

ไม่มีการลังเล เธอโทรหามู่วี่สิง

ข้างหู เสียงที่น่าดึงดูดของผู้ชายแว่วมา “คิดถึงผม? หืม?”

“มู่วี่สิง ฉันมีเรื่องจริงจัง” เวินจิ้งสูดลมหายใจเข้าลึกๆ “ยาตัวใหม่ของบริษัทหลินซื่อทางนั้นมีปัญหา คุณตาเลยหวังให้ฉันไปช่วยทำการทดลอง”

“อืม คุณเลยคิดว่าผมจะไม่เห็นด้วย?” มู่วี่สิงฟังน้ำเสียงเธอออก

“ถ้าหาก หลิงอี้ก็อยู่ล่ะ?” เวินจิ้งกระวนกระวาย

“ผมก็ห้ามไม่ได้ ไม่ใช่หรอ?” น้ำเสียงของมู่วี่สิงกลับอ่อนโยน

แต่ถ้าฟังดีๆ ยังมีน้ำเสียงที่โกรธอยู่

เวินจิ้งกัดปาก นี่ก็ไม่ใช่เจตนาของเธอ

“ฉันปฏิเสธคุณตาไม่ได้”

“คุณหญิงมู่ ผมเชื่อใจคุณ แต่คุณต้องภาวนาว่า ผมจะสามารถควบคุมตัวเองได้”น้ำเสียงของมู่วี่สิงเคร่งขรึม

“คุณยังจะทำอะไรอีกหรอ?” เวินจิ้งทำปากจู๋

“พาคุณไป” น้ำเสียงมู่วี่สิงไม่ลังเลเลยสักนิด

เวินจิ้งใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เธอยังคงเชื่อว่ามู่วี่สิงทำจริง

แม้ว่าเขามักจะมีลักษณะที่อบอุ่นและเป็นผู้ใหญ่ แต่ความเผด็จการนั้นเย็นยะเยือกซึมเข้ากระดูก เธอรู้ดี

“คุณอย่าหึงมั่วซั่วนะ”

“ทำไม่ได้คุณหญิงมู่ข้างกายคุณมีผู้ชายอื่น ผมไม่ยอมง่ายๆหรอก”

“งั้นหลังจากเปิดเทอมแล้ว ฉันยังมีเพื่อนนักเรียนชายล่ะ”

ถึงแม้รู้สึกคาดไม่ถึง แต่ในใจเวินจิ้งมีความสุข มุมปากของเธอค่อยๆมีรอยยิ้มปรากฏขึ้น

“ต้องมีคนตาย”

เวินจิ้งหัวเราะเบาๆ “หยุดโวยวายนะ”

ตอนบ่าย เวินจิ้งมาที่บริษัทหลินซื่อ

หลังจากที่ติดต่อกับพนักงานวิจัยและการพัฒนาของฝั่งนี้แล้ว ก็เดินตรงไปที่ห้องทดลอง

แม้ว่าแต่ก่อนเธอเคยเข้าร่วมการวิจัยและพัฒนายามาก่อน แต่ก็ไม่ได้เป็นคนรับผิดชอบโดยตรง คุณสมบัติและประสบการณ์ของเธอยังไม่พอ

แต่ยา“ฮาต๋า”ตัวนี้ของบริษัทหลินซื่อ เวินจิ้งเปิดดูรายงาน ถึงได้เห็นชื่อที่คุ้นเคย——ลู่หวั่น

เธอคือนักวิจัยที่สำคัญของยาตัวนี้

ถึงนึกขึ้นได้ ตระกูลอานก็อยู่ใน ประเทศB งั้นลู่หวั่นก็อยู่

พอเข้าประตู ลู่หวั่นก็เดินมาเผชิญหน้า เจอเวินจิ้ง ก็คาดไม่ถึงอย่างเห็นได้ชัด

เธอดึงหน้ากากลง ผู้ช่วยข้างๆก็แนะนำว่า “ศาสตราจารย์ลู่คะ คนนี้คือเวินจิ้ง บริษัทหลินซื่อส่งคนรับผิดชอบมาค่ะ”

“เวินจิ้ง ทำไมคุณถึงอยู่ที่นี่?” ลู่เหวินพูดอย่างเย็นชา

“ คุณไม่ได้ยินที่ผู้ช่วยบอกหรอคะ ตอนนี้ฉันเป็นคนรับผิดชอบของบริษัทหลินซื่อ ในเมื่อยาตัวนี้บริษัทหลินซื่อเป็นผู้วิจัยและพัฒนาออกมา แน่นอนว่าฉันต้องอยู่ที่นี่”

“คุณไม่ได้อยู่ เมืองหนานเฉิงหรอกหรอ?”

มองดูสีหน้าที่ไม่สบายใจของลู่หวั่น เวินจิ้งหัวเราะเย้ย “ฉันอยู่ที่ไหน คิดว่าน่าจะไม่กระทบกับงานของคุณหนูลู่หรอก”

เธอสวมชุดทดลองเข้าไป ไม่ได้สนใจลู่หวั่นอีก

ตามความตั้งใจของคุณตา ภายในสามเดือนจำเป็นต้องหาปัญหาของยาตัวนี้ที่เกิดในช่วงนี้ให้ได้ ทำการทดลองขั้นตอนที่สี่ และภายในปีนี้ต้องรีบเอายาตัวนี้ออกวางตลาด

ลู่หวั่นมองเวินจิ้งอย่างไกลๆ สอบถามผู้ช่วยข้างๆ “เรื่องนี้ ทำไมฉันถึงไม่รู้?”

“ฉันก็พึ่งจะทราบเมื่อสักครู่นี้เองค่ะ ผู้อำนวยการพึ่งจะแจ้งให้ทราบค่ะ”

“เธอกับบริษัทหลินซื่อมีความสัมพันธ์อะไรกัน?”

“ฉันได้ยินมาว่า เธอคือหลานสาวของผู้อำนวยการค่ะ”

ได้ยินข่าว ลู่หวั่นก็ขมวดคิ้วขึ้นมา หลานสาว?

เวินจิ้งกับตระกูลหลินมีความสัมพันธ์แบบนี้กันได้ไง?

เธอเคยตรวจสอบมาก่อนแล้วว่าเวินจิ้งเกิดในครอบครัวธรรมดายิ่งกว่าธรรมดาเสียอีก ไม่มีทางที่จะมีความสัมพันธ์กับตระกูลหลินที่ร่ำรวยสูงส่งได้

แต่ตอนนี้……

“เธอไปตรวจสอบให้ชัดเจน ฉันต้องการข้อมูลที่เกี่ยวกับเวินจิ้งทั้งหมด

ลู่หวั่นมองเวินจิ้งอย่างไม่ละสายตา ในเมื่อเวินจิ้งอยู่ที่นี่ งั้นมู่วี่สิงก็มาด้วยสิ?

แต่ว่า เขาไม่ได้อยากเจอเธอแน่นอน

“ศาสตราจารย์ลู่ ยาผงสองชนิดนี้ห้ามผสมกันนะ……” ทันใดนั้น เสียงผู้ช่วยได้มาขัดจังหวะความคิดของลู่หวั่น

เธอได้สติขึ้นมา แต่เห็นยาที่พึ่งพัฒนาเสียหายไปแล้ว

“ยังมียาตัวใหม่มั้ย?”

“ต้องรอพรุ่งนี้ค่ะ ยาตัวใหม่ถูกเวินจิ้งเอาไปหมดแล้ว” ผู้ช่วยตอบเสียงเบา

ลู่หวั่นชักสีหน้า มองดูเวลา ก็ใกล้ค่ำแล้ว

งั้นก็รอพรุ่งนี้แล้วกัน

ตอนจะออกไป หลิงอี้เดินเข้ามาจากข้างนอก

“คุณหลิงทำไมถึงมาได้คะ?” ลู่หวั่นหยุดเดิน

แม้ว่าหลิงอี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของผู้รับผิดชอบ แต่ที่ผ่านมาไม่เคยเข้าห้องทดลองเลย

“ประธานหลินสั่งให้รีบเข้ากระบวนการพัฒนายาแล้ว ผมเลยมาดูๆ” หลิงอี้ตอบอย่างเย็นชา

พูดจบก็รีบเข้าไปทันที

ในสายตาลู่หวั่น เห็นแต่เขาเดินตรงไปหาเวินจิ้งอย่างเดียว

สายตาของเธอค่อยๆเต็มไปด้วยความเย็นชา

พอเจอหลิงอี้ เวินจิ้งก็ขมวดคิ้วขึ้นมา “คุณหลิง รบกวนใส่หน้ากากก่อนที่จะเข้ามาด้วยค่ะ”

หลิงอี้ยกริมฝีปากขึ้น “ตอนนี้ก็ดึกมาแล้ว ออกมากับผม ผมจะคุยเรื่องยาตัวนี้กับคุณ”

ตรงข้ามห้องทดลองมีห้องทำงาน เวินจิ้งนั่งบนโซฟา บนมือมีข้อมูลทั้งหมดของ“ฮาต๋า”

“รู้มั้ยว่าทำไมคุณตาของคุณต้องให้คุณเข้าร่วมในการวิจัยและพัฒนายาตัวนี้ให้ได้?” หลิงอี้ถาม

“คุณหลิง ยาตัวนี้วิจัยเสร็จแล้ว ฉันไม่ได้เข้าร่วมกระบวนการนี้ ตอนนี้ก็ถึงขั้นตอนทดลองแล้วค่ะ” เวินจิ้งรีบแก้คำที่เขาพูด

“นี่ยังวิจัยและพัฒนาไม่เสร็จหรอ? เพียงแค่คุณเข้ามาที่นี่ ก็เป็นส่วนหนึ่ง

ของสมาชิกการวิจัยและพัฒนาแล้ว ผมเชื่อว่ายาตัวนี้หลังจากวางตลาดแล้วต้องดังไปทั่ววงการแพทย์ แต่คุณเป็นตัวหลักของการวิจัยนี้ ต้องสร้างชื่อเสียงให้กับบริษัทหลินซื่อแน่นอน”

เวินจิ้งเม้มปาก เข้าใจความหมายที่หลิงอี้พูดมา

“คุณหลิง ฉันแค่รับปากคุณตาช่วยเขาวิจัยและพัฒนาฮาต๋า ให้สำเร็จแค่นั้น เรื่องที่เหลือ คุณไม่ต้องคิดมากแล้ว”

“ใช่หรอ? คุณแน่ใจว่าตัวเองจะสามารถถอยออกมาเองได้?” หลิงอี้หรี่ตา

“ฉันแน่ใจ” เวินจิ้งตอบอย่างไม่ลังเลสักนิด

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท