Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 297

ตอนที่ 297

บทที่ 297 ไม่ทันได้เตรียมใจ

“อวดดี! เธอคือหลานสาวของหลินเจิ้น เธอพูดแบบนี้ออกมาได้ยังไง!” หลินเจิ้นตบโต๊ะแล้วลุกขึ้นอย่างโมโห

พูดเพิ่งจบ สีหน้าของเขาก็เริ่มซีด ทรมานจนต้องกุมหัวใจจนแน่น

“เธอเป็นหลานสาวของฉัน……” เสียงของหลินเจิ้นกลายเป็นพูดอย่างที่ละคำๆ

ทันใดนั้นหลินเวยกับหลิงอี้ก็รีบเข้าไปพยุงหลินเจิ้น แล้วเรียกหมอมา

เวินจิ้งไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่แค่ตอนนี้ จะไม่ใจอ่อนอีกแล้ว

เธอกลับหลังหัน ไปกุมมือของมู่วี่สิงไว้

“ไม่หย่าได้มั้ย?” เธอมองเขาอย่างใจจดใจจ่อ

เธอเกลียดการถูกคนอื่นคุกคามที่สุด โดยเฉพาะ ยังเป็นคนที่ใกล้ตัวตัวเองที่สุด

“เวินจิ้ง ฉันพูดว่า พวกเราหย่ากัน” สีหน้าของมู่วี่สิงนั้นคาดเดาได้ยาก

เขาผลักเธอออก

“ฉันจะไม่เป็นอะไรหรอก พวกเรากลับไปหนานเฉิง จะต้องมียาถอนพิษแน่นอน” เวินจิ้งกุมมือมู่วี่สิง

แต่ก็ถูกเขาผลักออกอีกครั้ง

หน้าของเธอค่อยๆ ซีดลง

ขณะนั้น หลิงอี้ก็เดินมาอยู่ข้างเวินจิ้ง อธิบายผ่านสีหน้า “มีแค่ตระกูลหลินที่มียาถอนพิษ ยาที่อยู่ในร่างเธอคือตัวยาที่บริษัทหลินซื่อไม่ได้วางตลาด มีแค่คนในที่คิดค้นถึงจะมียาถอนพิษ เวินจิ้ง อย่าเอาร่างกายของเธอมาเดิมพัน”

“ไม่……ไม่มีทาง ทำไมพวกคุณต้องทำแบบนี้กับฉันด้วย……” ความสิ้นหวังถูกแสดงออกมาผ่านสีหน้าของเวินจิ้ง แล้วก็ค่อยๆ ทรุดลง ความสิ้นหวังทำให้เธอแทบหยุดหายใจ

เธอไม่อยากหย่า เธอแค่อยากจะหนีไปจากตระกูลหลิน หนีไปจากตระกูลที่น่ากลัวนี้……

“หนู ตาทำเพื่อหนูนะ” หลินเจิ้นกินยาไปแล้ว ก็เหมือนจะดีขึ้น แต่อารมณ์ก็ยังร้อนรนอยู่มาก

หลินเวยพูดอย่างเป็นห่วง “เสี่ยวจิ้ง พวกเราถึงจะเป็นคนที่ใกล้ชิดกับหนูที่สุด พวกเราไม่ทำร้ายหนูหรอก”

พูดจบ หลิงอี้ก็จะไปพาตัวเวินจิ้งมา

แต่เมื่อหลิงอี้แตะโดน เวินจิ้งก็สะบัดออกทันที

“ฉันจะไม่อยู่ที่นี่!”

เธอมองไปที่มู่วี่สิง “นายไม่พาฉันไป งั้นฉันไปเอง!”

พูดจบ เธอก็ดื้อจะออกไปด้วยตัวเอง

แต่ ร่างกายเธออ่อนแอและทรมาน ทนไม่ไหวตั้งแต่แรก ไม่นานจึงล้มตึงไป

มู่วี่สิงกำหมัดแน่น ในขณะที่จะเข้าไป แต่หลิงอี้เร็วกว่าเขาไปก้าวนึง

เขาพยุงเธอขึ้น ไม่ให้โอกาสเธอขัดขืน เลยพาเธอขึ้นมาบนห้อง

“หลิงอี้ นายปล่อยฉันนะ!” เวินจิ้งดันเขาออกตลอด

แต่หลิงอี้ไม่ไหวติง จับแขนเธอไว้ แล้วพูดขึ้นเสียงเข้ม “ตอนนี้มู่วี่สิงเขาไม่เอาเธอแล้ว เวินจิ้ง ตั้งสติหน่อย รอเซ็นต์ใบหย่าแล้ว ทุกอย่างจะดีขึ้นเอง”

ที่ห้องรับแขก หลินเวยได้สั่งให้พ่อบ้านเอาใบหย่ามา

“คุณมู่ เซ็นเถอะ”

มู่วี่สิงตาตก ความเย็นแพร่กระจายไปทั่วดวงตา

เขากำปากกาไว้ แล้วเซ็นชื่อตัวเองลงไปอย่างช้าๆ

หลินเวยถอนหายใจโล่ง

มองไปทางคุณพ่อ เห็นว่าอารมณ์ของเขาก็สงบลง

“จากนี้เวินจิ้งกับนายก็ไม่มีความสัมพันธ์อะไรกันอีกต่อไป”

พูดจบ ก็ให้พ่อบ้านส่งเขาออกไป

ไม่นาน ใบหย่าก็อยู่ในมือของเวินจิ้ง เธอมองชื่อของมู่วี่สิงบนนั้นตาละห้อย

มีอำนาจจริงๆ

เป็นลายมือของเขา

เวินจิ้งหยิบใบหย่าขึ้นมา จากนั้นก็จะฉีกมันออกอย่างแรง

รู้อยู่แล้วว่าเวินจิ้งจะทำแบบนี้ หลิงอี้เร็วกว่าเธอเลยห้ามเธอไว้

“เวินจิ้ง ฟังที่ฉันพูดนะ ร่างกายต้องมาก่อน ตอนนี้เธอรู้สึกเหมือนมีมดหลายตัวมากัดหัวใจของเธอ มันจะเป็นแบบต่อไปทั่วทั้งร่างของเธอ เธอทนมันไหวเหรอ?”

“ฉันทนไหว ฉันจะไม่เซ็นต์ ฉันจะไม่ยอมทำตามพวกคุณ!” เวินจิ้งพูดอย่างโมโห

พูดจบ ก็อยากจะแย่งใบหย่ามา

แต่หลิงอี้จับข้อมือเธอไว้ แล้วงอเอวลง สบตากับเธอ “นี่ฉันไม่ได้ขู่เธอนะ ถ้าเธอไม่กินยาถอนพิษ เธอจะตาย”

“ตายแล้ว เธอก็ไม่มีทางได้อยู่กับมู่วี่สิงแล้วจริงๆ นะ”

พอได้ยิน เวินจิ้งถึงเงยหน้าขึ้น อารมณ์ก็เหมือนจะเย็นลงเล็กน้อย

เธอกอดตัวเองแน่น ความรู้สึกตอนนี้ ไม่ใช่แค่เหมือนไฟลุกโชน หัวใจก็เหมือนโดนฉีกออกอีก

ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าคิดถึงมู่วี่สิง เธอกลัวว่า เธอจะทนไม่ไหวแล้ว

แต่ตอนนี้ เขาเซ็นต์และสบายไปแล้ว

ที่เขาทำเพราะเรื่องร่างกายของเธอใช่มั้ยนะ?

ในหัวของเวินจิ้งเริ่มยุ่งเหยิง ถ้าหากเธอเซ็นต์ด้วย เธอจะกลับไปอยู่ข้างกายของมู่วี่สิงได้มั้ยนะ?

เธอไปจากเขา ไม่ได้จริงๆ

น้ำตาถูกขับออกมาจากเบ้าตา ร่างกายเธอก็สั่นอยู่ตลอด มองดูหลิงอี้ยื่นใบหย่ามาให้ ปากกาก็ถูกเธอกำไว้ในมืออย่างสั่นเทา

ขอแค่เธอเซ็นชื่อ เธอกับมู่วี่สิงก็ไม่มีความสัมพันธ์อะไรกันอีก

แต่ก่อนคิดมาตลอดว่าอย่าไปตกหลุม เพราะว่าจะมีสักวันที่ต้องหย่า

แต่พอมาวันนี้ กลับมาแบบไม่ทันได้เตรียมใจ

แถมเธอยังยอมรับไม่ได้อีก

“เวินจิ้ง ร่างกายต้องมาก่อน อีกอย่าง ที่คุณปู่พูดก็ไม่ผิด เขาจะใช้ประโยชน์จากเธอถึงได้มาแต่งงานกับเธอ”

“นายไม่ต้องพูดอะไรแล้ว”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึก เช็ดน้ำตา แล้วเซ็นชื่อตัวเองลงไป

เรื่องในอนาคตเธอจะไม่คิดถึงมันแล้ว เพราะว่ามู่วี่สิงคิดไว้ให้เธอแล้ว ถ้างั้น เธอก็จะฟังเขา

หลิงอี้เห็นเวินจิ้งเซ็นชื่อลงไป แต่ก็ไม่ได้รู้สึกสบายใจเลยสักนิด

บังคับเธอ ไม่ได้ทำให้เขามีความสุขเลย

เขาคิดแต่โทษตัวเองไปตลอด

ความรู้สึกแบบนี้ ไม่เคยมีมาก่อน

“นายพักสักหน่อย”

หลินเวยที่อยู่ด้านนอก พอเห็นหลิงอี้ออกมา ก็ถามอย่างเป็นห่วง. “เสี่ยวจิ้งเซ็นต์หรือยัง?”

หลิงอี้พูดขึ้นก่อน “เรียกให้หมอมาเถอะ”

ขึ้นไปที่ห้องของคุณปู่ หลิงอี้ยื่นใบหย่าให้ไป

“คุณปู่”

“เรื่องใหญ่จะประสบความสำเร็จ ยังไงก็ห้ามใจอ่อน” หลินเจิ้นหรี่ตา น้ำเสียงค่อนข้างเย็นชา

หลิงอี้มองต่ำ “ผมกลัวว่าเวินจิ้งจะเกลียดพวกเรา”

“ฉันเหลือเวลาไม่มากแล้ว เธอจะเกลียดก็เกลียดเถอะ ต่อไปเธอจะรู้ว่า นี่เป็นความเจ็บปวดของคุณตาอย่างฉัน” หลินเจิ้นเสียใจ

…….

กินยาไปแล้ว เวินจิ้งก็ยังคงมึนๆ อยู่

หลินเวยคอยดูอยู่ข้างกายเธอ ไม่ห่างไปไหนสักก้าว

จนถึงกลางคืน หลิงอี้จึงมา “คุณนายหลิน คุณไปหาอะไรกินสักนิดเถอะ ผมจะอยู่เป็นเพื่อนเวินจิ้งเอง”

“อืม ลำบากเด็กคนนี้แล้ว” ความรู้สึกผิดเอ่อล้นออกมาบนใบหน้าหลินเวย

เธอไม่ชอบไม่เห็นด้วยต่อวิธีการของหลินเจิ้น แต่ว่าถ้าเขาจะทำขึ้นมา ก็ไม่มีใครหยุดเขาอยู่

จนถึงเวลาเที่ยงคืน เวินจิ้งจึงตื่นขึ้นมาอย่างมึนๆ ลืมตา ก็อยู่ในห้องที่คุ้นเคย

ที่นี่ที่ไหน……

พอความทรงจำในหัวเริ่มกระจ่างชัดขึ้น เธอก็หน้าซีดนิ่งไปสักพัก

เธอกับมู่วี่สิงหย่ากันแล้ว

หย่ากันแล้ว จริงๆ

หลิงอี้ ส่ายหัวอยู่ข้างเธอ

“เธอไม่เป็นไรแล้ว”

แต่เวินจิ้งไม่ได้มีความสุขเลยสักนิด มีแต่การสูญเสียที่ยิ่งใหญ่

เธอลุกขึ้นนั่ง ถึงสังเกตว่ามือเธอยังให้น้ำเกลืออยู่ ในหัวยังมึนๆ อยู่เล็กน้อย

“เธอหมดสติไปทั้งวัน นอนลงไปก่อนเถอะ ฉันจะให้หมอมาดู” หลิงอี้เห็นท่าทางที่ไม่สบายของเธอ จึงเรียกหมอเข้ามา

เวินจิ้งเงียบอยู่ตลอด คุณหมอพูดอะไรเธอก็ไม่ได้ฟัง ในหัวมีแต่มู่วี่สิง

เขาผลักเธอออกอย่างเย็นชา

เป็นเขาที่ผลักเธอ

เขายอมหย่าแล้ว…..เขายอมเซ็นชื่อแล้ว

น้ำตาของเวินจิ้งเม็ดใหญ่ๆ ก็ไหลลงมา บังคับไว้ไม่ได้เลย

“คุณเวิน อารมณ์ของคุณจะสะเทือนมากไม่ได้ ต้องพักผ่อนด้วย” คุณหมอขมวดคิ้ว แล้วตักเตือน

เวินจิ้งไม่ได้ตอบอะไรทั้งสิ้น เธอมองต่ำ และกัดริมฝีปากอย่างแรง

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท