Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 308

ตอนที่ 308

บทที่ 308 เธอยังชอบมู่วี่สิง

หนานเฉิง บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป

มู่เหิงผลักประตูห้องทำงานของประธานออกอย่างโมโห “ทำหมถึงตัดโครงการของเราออก”

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว เงยหน้าขึ้น ตาเฉียบคม “ในที่ประชุมพูดไว้อย่างชัดเจน งบประมาณไม่เพียงพอ”

“เพราะงบประมาณไม่พอ หรือว่าคุณไม่อยากให้ผมรับช่วงต่อโครงการนี้อยู่แล้ว”

“คุณคิดว่ามีความจำเป็นไหม?”

“ถ้าหากงบประมาณไม่เพียงพอ ฉันสามารถระดมทุนจากต่างประเทศ”

“อำนาจนี้อยู่ในมือของคุณปู่ เว้นก็แต่ได้รับการอนุญาตจากเขา” อารมณ์ของมู่วี่สิงเย็นชา

“ผมจะทำให้คุณปู่เห็นด้วย!”

มู่วี่สิงหัวเราะอย่างเยือกเย็น

หลังจากมู่เหิงออกไป เกาเชียนก็เข้ามา

ช่วงนี้บอสให้เขาติดตามความเคลื่อนไหวของเวินจิ้ง แต่หลังจากที่เธอออกไปจากตระกูลหลิน ก็ไม่มีข่าวสารใดอีก

“คุณมู่ ตอนนี้หาตำแหน่งที่อยู่ของคุณเวินไม่พบ” เกาเชียนรายงาน

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว หยิบมือถือ กดโทรไปยังเบอร์ที่คุ้นเคย

“ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้…”

มู่วี่สิงจับมือถือไว้แน่น คิ้วขมวดแน่น

ในประเทศบีคนที่เธอจะติดต่อได้ อั้ยเถียน หลิงอี้ และยังมีฉีเซินที่ไปงานศพของหลินเจิ้ง

“ไปหาที่อยู่ของหลิงอี้และฉีเซิน”

เกาเชียนรับคำสั่ง ไม่นานก็มารายงาน “คุณมู่ ฉีเซินกลับมาหนานเฉิงตั้งแต่เมื่อวานแล้ว อยู่บ้านตระกูลฉีตลอด ส่วนหลิงอี้ ตอนนี้อยู่บ้านตระกูลหลิง ตอนนี้ยังไม่พบเบาะแสของคุณหญิง”

“จับตาดูหลิงอี้ จองไฟล์บินของประเทศบีให้ฉัน…”

รุ่งเช้า เวินจิ้งแทบจะไม่ได้หลับทั้งคืน ตื่นมาด้วยขอบตาที่ดำ

หลิงอี้ทำอาหารเช้าด้วยตัวเอง เวินจิ้งไม่ค่อยหิว แทบจะไม่กิน

“เดี๋ยวกิจกรรมกลางแจ้งต้องใช้ความแข็งแกร่งทางร่างกาย เธอไม่ทานอาหารเช้าเดี๋ยวเป็นลมไป ต้องการให้ฉันอุ้มเธอกลับมา?” หลิงอี้พูดเสียงเงียบ

เวินจิ้งขมวดคิ้ว “ฉันไม่ออกไป”

“หากเธออยากได้ซิมการ์ดคืนเร็ว ก็ออกไปเดินเล่นกับฉัน”

เวินจิ้งเม้มริมฝีปาก หยิบช้อนในถ้วย “หวังว่าคุณหลิงจะพูดคำไหนคำนั้น”

หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ หลิงอี้พาเวินจิ้งมาถึงภูเขาเทียนเฉิง ที่นี่คือเทือกเขาที่สูงที่สุดในประเทศบี

เขาหวังว่าเธอจะออกมาเดินเล่น ผ่อนคลายจิตใจ

แต่ว่า เวินจิ้งหน้าบึ้งตึงตลอด

มีถนนสองสายบนภูเขาเทียนเฉิง เส้นหนึ่งคือนั่งกระเช้า อีกเส้นคือบันไดขั้น

“เดินบันไดได้ไหม?” หลิงอี้มองเวินจิ้ง

“นั่งกระเช้าดีกว่า” เวินจิ้งพยักหน้า

เธอแค่อยากรีบไปรีบกลับ

หากเดินขึ้นภูเขา คาดว่าน่าจะใช้เวลาครึ่งค่อนวัน

อีกอย่าง เธอไม่มีกระจิตกระใจพิชิตภูเขา

หลิงอี้ไม่ได้คัดค้าน ทั้งสองคนนั่งกระเช้า

ในที่สุดเวินจิ้งก็เงียบ มองเพียงพื้นดินตรงหน้าระยะทางยิ่งอยู่ยิ่งห่างจากเธอไป ความหวาดกลัวโจมตีเข้ามา

เธอกำหมัดแน่น สีหน้าขาวซีด

หลับตาลง หัวใจเธอเต้นเร็วขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งร่างกายก็สั่นเทาอย่างอดไม่ได้

“เมื่อกลัวความสูง ทำไมไม่บอกฉัน?” น้ำเสียงโกรธเล็กน้อยของหลิงอี้ดังมา อยากกอดเวินจิ้งไว้

แต่ยังไม่ได้แตะต้องเธอ ก็ลืมตาขึ้นมา มองเขานิ่งๆ “หลังจากวันนี้กลับไป ฉันจะได้ซืมการ์ดคืนไหม?”

เธอยังคงจำเรื่องนี้!

หลิงอี้โกรธเล็กน้อย ทำไมถึงต้องเป็นกับเวินจิ้ง เขาเก็บอารมณ์โดยไม่รู้ตัว

“ได้!”

เวินจิ้งยิ้ม “งั้นก็ดี”

เธอมองพื้น จับทั้งสองข้าง พยายามผ่อนคลาย

“มานั่งข้างๆฉัน” หลิงอี้พูดอย่างเป็นห่วง

เวินจิ้งส่ายหน้า “ฉันไม่เป็นไร”

เมื่อเห็นว่าหลิงอี้จะเข้ามา เวินจิ้งยกมือขึ้นขวางเขาไว้ “คุณอย่ามาแตะต้องฉัน”

“ฉันไม่แตะเธอ ฉันแค่เป็นห่วงเธอ” หลิงอี้ขมวดคิ้ว

จนถึงยอดเขา กระเช้าค่อยๆหยุดลง

เวินจิ้งถอนหายใจอย่างหนัก มองวิวธรรมชาติที่อยู่ข้างนอก จึงค่อยๆสงบลง

หลิงอี้พูดอย่างอารมณ์เสีย “ขอโทษ ฉันไม่รู้ว่าเธอกลัวความสูง ไม่งั้นคงไม่พาเธอมาแล้ว”

“ไม่เป็นไร” น้ำเสียงของเวินจิ้งเรียบเฉย

“ยังมีอีกระยะทาง จะไปอีกไหม?” หลิงอี้ชี้ไปทางเนินเขานั้น

“อืม”

ยืนอยู่บนยอดเขา มุมมองที่นี่กว้าง พอที่จะเห็นทั่วประเทศบี จิตใจของเวินจิ้งดีขึ้นไม่น้อย

ถ้าหาก หลิงอี้ไม่อยู่จะดีที่สุด

“หิวไหม?” หลิงอี้ถามอย่างเป็นห่วง

เวินจิ้งส่ายหน้า

นั่งกระเช้า ก็ไม่ได้ใช้พลังงานเยอะ แต่ว่า ในกระเป๋าของหลิงอี้กลับมีขนมกระต่ายซองใหญ่

เวินจิ้งอึ้ง เธอชอบกินขนมนี้มากที่สุด

หลิงอี้ช่วยเธอปอกกระดาษขนมแล้วยื่นให้เธอ

เวินจิ้งไม่ได้รับ

“ซื้อให้เธอ”

“ฉันไม่ชอบ”

“เพราะฉันเป็นคนซื้อให้ ดังนั้นเธอจึงไม่ชอบ?” หลิงอี้หรี่สายตา

“อืม ใช่” เวินจิ้งไม่ได้ปฏิเสธ

เพราะคนตรงหน้าคือคนที่เธอเกลียด ดังนั้นทุกการกระทำของเขา เธอเกลียดหมด

“เธอจะแบ่งความรู้สึกมาให้ฉันสักนิดก็ไม่ได้เหรอ?” จับหน้าเวินจิ้งหันมาอย่างแรง หลิงอี้หรี่สายตา

“ไม่ได้” สุดท้ายเวินจิ้งก็เย็นชา

“เธอยังชอบมู่วี่สิง?” น้ำเสียงของเขาเย็นชาขึ้นเล็กน้อย

เวินจิ้งเงยหน้าขึ้นมา เมื่อได้ยินมู่วี่สิงชื่อนี้ สีหน้าเปลี่ยนไป

ทุกครั้งที่ได้ยินและนึกถึงคนนี้ หัวใจมักเจ็บปวดอย่างควบคุมไม่ได้

หลิงอี้มองสีหน้าของเธอ แวบเดียวก็เข้าใจแล้ว

บรรยากาศระหว่างทั้งสองถึงขีดสุด

เดินลงจากเขาตลอดทาง เวินจิ้งเดินอยู่ข้างหน้า หลิงอี้เดินอยู่ข้างหลัง

ท้องฟ้า ค่อยๆมืดลง เมฆมืดลง

ทางลงเขามีอย่างน้อยสองชั่วโมง

เวินจิ้งเร่งฝีเท้า หลิงอี้ไล่ตามเธอตลอดทาง “ช้าหน่อย เดี๋ยวเราหาที่หลบฝนก่อน”

เวินจิ้งไม่อยากอยู่ที่นี่ต่อ แค่อยากรีบกลับไป

เม็ดฝนตกลงมา ทั้งสองไม่ได้พกร่ม เดี๋ยวก็เปียกกันหมด

เวินจิ้งหนาวจนตัวสั่นอย่างอดไม่ได้

ข้างหน้ามีศาลา หลิงอี้อดไม่ได้ลากเธอเข้าไปหลบฝน

“หลิงอี้ ฉันอยากรีบลงจากเขา”

“เธออยากจะล้มป่วยก่อนที่จะลงจากเขาใช่ไหม?” หลิงอี้ดุ

ตอนนี้ทั้งสองเปียกปอนทั่วตัว หากตากฝนต่อคงเป็นหวัด

เวินจิ้งเม้มริมฝีปาก เว้นระยะห่างจากเขา

มองเวลา สี่โมงเย็นแล้ว

หากยังไม่ลงไป เดี๋ยวฟ้าก็มืดลงแล้ว ก็จะยิ่งลงเขาได้ยาก

ทันใดนั้น ก็มีเสื้อมาคลุมไหล่ เป็นหลิงอี้

เวินจิ้งขมวดคิ้ว หยิบเสื้อลงมา แต่กลับถูกหลิงอี้กดมือไว้ “ฉันไม่หนาว”

“ฉันก็ไม่หนาว”

แต่เมื่อสิ้นเสียง ทันใดนั้นเธอก็จาม

“หากเธอป่วย ก็จะต้องพักที่บ้านฉันอีกนาน”

เวินจิ้ง: …

ผู้ชายคนนี้ขู่เธอเกินไปหรือเปล่า

เธอโมโหแล้วหันไป

หลิงอี้ยกริมฝีปากขี้นเล็กน้อย มองท้องฟ้าออกไปข้างนอก คาดหวังให้ฝนตกนานกว่านี้ เวลาได้อยู่กับเวินจิ้งตามลำพังแบบนี้ ก็จะนานขึ้น

ไม่นาน ท้องฟ้าก็ปลอดโปร่ง

ฝนมาเร็ว ไปเร็ว

เวินจิ้งคืนเสื้อให้หลิงอี้ เดินออกจากศาลา

หลิงอี้ยังคงเดินอยู่ข้างหลัง ทันใดนั้น เท้าลื่น เวินจิ้งเกือบลื่นล้ม

หลิงอี้รีบพยุงเธอไว้ เวินจิ้งกระแทกอยู่ในอ้อมแขนของเขาอย่างช่วยไม่ได้

กลิ่นอายที่ไม่คุ้นเคยทำให้เธอปฏิเสธอย่างรุนแรง และรีบผลักเขาออก

หลิงอี้ขมวดคิ้ว และพยุงเธอขึ้นมาก่อน

“ระวังหน่อย ให้ฉันจูงเธอไว้ ดีไหม?” หลิงอี้น้ำเสียงขอร้องเล็กน้อย

ถนนลื่น ลื่นล้มได้ง่าย

“ฉันจะระวัง” เวินจิ้งหลุดพ้นจากอ้อมแขนของเขา ใบหน้าเรียบเฉย

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท