Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 304

ตอนที่ 304

บทที่ 304 เธอต้องเป็นของเขา

บอดี้การ์ดรีบวิ่งตามมา แล้วจับเวินจิ้งไว้อีกครั้ง

“นี่เป็นคำสั่งของคุณนาย คุณหนูโปรดอย่าทำให้พวกเราลำบากใจ”

เวินจิ้งเม้มริมฝีปาก เธอลืมไปได้ยังไง ตระกูลหลินครอบคลุมทั่วประเทศบี

เธอยิ้มประชด

เมื่อมาถึงโรงพยาบาล เวินจิ้งถูกนำตัวมาถึงห้องผู้ป่วย ด้วยสีหน้าไม่ตกใจ

บอดี้การ์ดสิบคนข้างหลังกั้นเธอไว้ ไม่ให้หนีไปไหน

ประตูห้องผู้ป่วย หลิงอี้ยืนพิงกำแพง นิ้วมือหนีบบุหรี่ แต่กลับไม่ได้สูบบุหรี่

ภายในห้อง เสียงร้องไห้เบาๆดังออกมาจากข้างใน

“เวินจิ้ง คุณปู่…”

เมื่อได้ยินที่พูด ใบหน้าที่สงบของเวินจิ้งขึ้นลงเล็กน้อย

เธอเงยหน้า “คุณพูดว่าอะไรนะ?”

“เมื่อกี้คุณปู่ จากไปแล้ว เขาอยากเจอเธอ แต่รอไม่ไหว”

เวินจิ้งเม้มริมฝีปากแน่น ในใจ ก็มีความรู้สึกบ้าง

“อืม ฉันกลับไปได้เมื่อไหร่?” เวินจิ้งหายใจเข้าลึกๆ

เธอไม่อยากเกี่ยวข้องใดๆกับตระกูลหลิน

“อย่างน้อย ต้องรอให้งานศพของคุณปู่สิ้นสุด ได้ไหม?” หลิงอี้น้ำเสียงขอร้อง

“เสี่ยวจิ้ง อยู่รอได้ไหม?”

ตอนนี้ หลินเวยก็ออกมาจากห้องผู้ป่วย เห็นได้ชัดว่าเธอร้องไห้เป็นเวลานาน สีหน้าซีดเซียว

คุณนานหลินที่ดูสง่างามและสูงส่งมาโดยตลอด เวลานี้เหมือนว่าจะแก่ขึ้นเยอะ

เวินจิ้งยืนอยู่ประตูห้อง มองดูใบหน้าของคุณปู่ เหมือนว่า จากไปอย่างไม่สงบ

“วันงาน ฉันจะมา”

สิ้นเสียง หันไปเพื่อจะเดินจากไป

แต่บอดี้การ์ดขวางเธอไว้อีกครั้ง

หลินเวยเดินเข้ามา “เสี่ยวจิ้ง รอให้งานศพของคุณปู่ของเธอสิ้นสุด ฉันจะให้เธอกลับไป”

สิ้นเสียง จึงสั่งบอดี้การ์ดให้ส่งเวินจิ้งกลับตระกูลหลิน

“คุณนายหลิน ฉันบอกแล้ว ตอนนี้ฉันจะกลับหนานเฉิง” เวินจิ้งน้ำเสียงหนักแน่น

“เธอไม่อยากอยู่ขนาดนั้นเลยเหรอ?” หลินเวยมองเธอ ดวงตาแดง

“ตระกูลหลินสำหรับฉัน ไม่ได้รู้สึกอะไร”

สิ้นเสียง เธอหันเดินเข้าไปในลิฟต์

หลิวอี้กำลังจะตามไป หลินเวยเรียกเขาไว้ “ช่างเถอะ อย่าบังคับเธอ”

“ผมส่งเธอกลับ” หลิงอี้พูด

ข้างนอก เวินจิ้งกำลังจะเรียกแท็กซี่

หลิงอี้ขับรถมา “ฉันไปส่งเธอ”

เวินจิ้งมองเขาอย่างไม่ไว้ใจ

“วางใจ ฉันไม่ส่งเธอกลับไปตระกูลหลิน”

บนรถ เวินจิ้งจองตั๋วบินใหม่

หลิงอี้ไม่ได้พูด อารมณ์ยังคงตกอยู่ในความเศร้า

ตอนยังเด็กมากเขาอาศัยอยู่ในตระกูลหลิน ตั้งแต่เล็กก็เรียกเขาว่า “คุณปู่” หลินเจิ้งเป็นคนที่เขาเคารพนับถือมากที่สุด

นึกถึงเมื่อครู่คำพูดสุดท้ายของคุณปู่ เขามองไปที่เวินจิ้ง

“ต้องดูแลเสี่ยวจิ้งให้ดี”

เขามีโอกาสนี้ไหม?

เมื่อสังเกตถึงสายตาของหลิงอี้ เวินจิ้งขมวดคิ้ว

“มีอะไรจะพูด?”

“เธอรู้ไหมว่าคุณปู่พูดอะไรกับฉัน?”

“ให้คุณขอฉันแต่งงานให้ได้?” เวินจิ้งพูดเงียบๆ

เธอยังจำคำพูดที่โกรธของคุณปู่—ตายตาไม่หลับ

บางที สำเร็จแล้วจริงๆ

“เขากังวลเธอจนกระทั่งตายไป แม้แต่เสียชีวิต ก็ยังไม่สงบ” หลิงอี้พูดเงียบๆ

เวินจิ้งเงียบ บางทีในสายตาของคนอื่น เธออกตัญญู

เพียงเพราะเส้นทางที่หลินเจิ้งกำหนดไว้ให้ เธอยอมรับไม่ได้จริงๆ

เธอเกลียดการถูกกำหนดเส้นทางชีวิต

“หลิงอี้ ฉันจะไม่แต่งงานกับคุณ และจะไม่มีวัน” เวินจิ้งพูดอย่างสงบ

“สาเหตุล่ะ? ตอนนี้เธอก็โสดแล้ว” หลิงอี้เบรกกระทันหัน รถจอดอยู่ข้างถนน

“ฉันไม่ชอบคุณ” เวินจิ้งพูดเรียบๆ

“แต่งงาน ไม่จำเป็นต้องมีความรู้สึก ไม่ใช่เหรอ?” หลิงอี้ขยับเข้ามา ทันใดนั้นก็บีบคางของเธอ

เวินจิ้งสั่นเทา เมื่อรู้สึกตัวได้ก็ผลักเขาออก

แต่เดิมก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลิงอี้อยู่แล้ว

“แต่ว่า นั่นก็ไม่มีทางเป็นคุณ” เวินจิ้งพูดอย่างโกรธ

เธอเกลียดผู้ชายคนนี้

“เธอยังอยากกลับมาคืนดีกับมู่วี่สิง?”

เมื่อพูดถึงมู่วี่สิงชื่อนี้ เวินจิ้งอึ้ง

แม้แต่ในใจ ก็เจ็บปวดอย่างควบคุมไม่ได้

มู่วี่สิง…

เมื่อเห็นสีหน้าที่สั่นเทาของเวินจิ้ง หลิงอี้ปล่อยเธอ

เขาเกลียดความอิจฉานั้นมาก ที่ตัวเองไม่รู้จักเวินจิ้งให้เร็วกว่านี้

ถ้าหากเร็วกว่านี้ เธอต้องเป็นของเขา!

รถขับเข้าไปในสนามบิน เวินจิ้งแทบจะวิ่งลงจากรถ

เธอไม่อยากอยู่กับหลิงอี้แม้แต่วินาทีเดียว

“งานศพของคุณปู่อย่าลืมมา ยังไงเขาก็เป็นปู่ของเธอ” หลิงอี้กล่าวเตือน

เวินจิ้งตอบรับ แล้วหันไปเฉยๆ

หลิงอี้มองแผ่นหลังของเธอตลอด หากไม่ใช่ว่าที่นี่มีเรื่องมากมายให้ยุ่ง เขาคิด ว่าจะตามไปโดยไม่คำนึงถึงสิ่งใด

“พายุไต้ฝุ่นกำลังมา สถานการณ์ตอนนี้ของประเทศบีไม่ดีนัก รบกวนผู้โดยสารทุกท่านโปรดรัดเข็มขัดนิรภัย”

ภายในสนามบินมีการแจ้งเตือนเรื่องความปลอดภัย เวินจิ้งที่นั่งอยู่แถวหลังก็ตื่นขึ้นมาทันที

ขยี้ตาอย่างเหนื่อยล้า เวินจิ้งลืมตาขึ้นมา และหันด้านข้างมองฟ้ามืดนอกหน้าต่าง ที่ถูกปกคลุมไปด้วยเมฆ

ทั้งๆตอนที่เช็คอินท้องฟ้าก็ยังแจ่มใส ฝนคิดจะมาก็มา

กระแสอากาศชนระนาบ ทั่วห้องผู้โดยสารสั่นเล็กน้อย

เวินจิ้งขมวดคิ้ว และมองนาฬิกาเพื่อดูเวลา สามทุ่มยี่สิบ กว่าเครื่องจะลงก็อีกหนึ่งชั่วโมง และพายุฝนนี้ เหมือนว่าเพิ่งจะเริ่มขึ้น

เวินจิ้งไม่ได้มีผลกระทบอะไร ความเหนื่อยล้าทำให้เธอแต่ต้องการนอนหลับดีๆ แต่เมื่อเพิ่งหลับตา ทันใดนั้นข้างหูก็มีเสียงเจ็บปวดของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นมา “ไม่ไหวแล้ว…อา…ฉันเจ็บเหลือเกิน…”

เวินจิ้งหันไป คนที่นั่งข้างเธอเป็นผู้หญิงท้อง ดูท้องแล้วน่าจะแปดเดือน มือข้างหนึ่งจับท้อง มืออีกข้างจับราวแน่น

ใบหน้าของผู้หญิงท้องมีเหงื่อซึมออกมา หายใจไม่สะดวก เหมือนว่าเดี๋ยวคงต้องเป็นลม

เมื่อครู่เครื่องบินเกิดการกระแทก รวมทั้งอากาศในห้องโดยสารไม่ไหลเวียน สถานการณ์ของผู้หญิงท้องไม่ดีนัก

ทันใดนั้นอาการง่วงนอนก็หายไป ตามองไปที่ผู้หญิงท้องด้านข้างเหมือนจะล้มลงพื้น เวินจิ้งรีบนั่งตัวตรง และรีบก้มตัวลงอย่างรวดเร็วเพื่อยันหลังของผู้หญิงท้องเอาไว้ เพื่อไม่ให้เธอหล่นลงไป

และทางด้านนั้นก็จับเสื้อของเธอไว้อย่างมีสติ เวินจิ้งพยายามรักษาความมั่นคงของเธอ

พนักงานต้อนรับบนเครื่องได้ยินก็รีบมา เมื่อเห็นภาพ ก็ต้องตกใจแล้วรีบเรียกหัวหน้าลูกเรือเพื่อรายงานสถานการณ์

ห้องโดยสารวุ่นวายมากขึ้น เนื่องจากพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินถือชุดปฐมพยาบาลรีบเดินไปพร้อมกับลูกเรืออีกสองคน ติดตั้งผ้าม่านอย่างชำนาญ และลดที่นั่งลง

มีผู้โดยสารจำนวนมากลุกขึ้นมาดู แล้วยังเบียดมาทางนี้ ตอนที่เวินจิ้งช่วยอุ้มผู้หญิงท้อง ถูกผู้โดยสารท่านหนึ่งชน มือคลายออกทันที โชคดีที่ยังมีผู้โดยสารอีกคนมาช่วยพยุงผู้หญิงท้องไว้ด้วย

เวินจิ้งรู้สึกโกรธเล็กน้อย ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ไม่ควรวุ่นวายเพิ่มไปอีก เงยหน้าขึ้นมองคนข้างหน้ากี่คน และพูดเสียงเย็นชา “รบกวนทุกคนโปรดนั่งประจำที่ และอยู่ในความสงบ”

แต่คนเหล่านี้ไม่ได้ถอยไปไหน และดูเหมือนจะวุ่นวายมากยิ่งขึ้น

“เธอเป็นใคร? บุคลากรฉุกเฉินบนเครื่องบิน? อย่ายืนขวางทางตรงนี้”

“เธอยุ่งยาก พวกฉันก็ไม่ยุ่งยากงั้นเหรอ? ฉันยังต้องรอกลับบ้านเธอรู้ไหม? บริษัทสายการบินอะไรกัน ยังให้คนท้องขึ้นเครื่อง!”

“สภาพอากาศไม่ดีแบบนี้ แต่พวกเธอไม่มีความสามารถก็ไม่ต้องบินสิ เพื่อไม่ทำร้ายพวกเรา…”

คำร้องเรียน บางเรื่องสำหรับเธอ ก็รู้สึกกับพนักงานขายเหมือนกัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท