Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 312

ตอนที่ 312

บทที่ 312 อดีตภรรยาของฉันเรื่องเยอะ

“เมื่อกี้อั้ยเถียนบอกแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าเราจะคืนดีกัน?” มู่วี่สิงเลิกคิ้ว

“ใครจะคืนดีกับคุณ ฉันไม่เห็นด้วย”

“เธอกำลังโกรธฉัน ที่ฉันตอบรับหย่ากับเธอ” มู่วี่สิงหรี่สายตา

“ฉันไม่กล้า” เวินจิ้งโกรธ

อารมณ์ของเธอ เข้ามาในสายตาของมู่วี่สิง

จับคางไว้ทันที เวินจิ้งต้องเผชิญหน้ากับสายตาที่ลึกซึ้งของมู่วี่สิง “อดีตภรรยาของฉันเรื่องเยอะ มีอะไรไม่กล้า?”

“นั่นเพราะคุณดื้อรั้นและไม่มีเหตุผล”

มู่วี่สิงหัวเราะเบาๆ “อืม ฉันดื้อและไม่มีเหตุผล แต่ว่า เป็นแค่กับเธอเท่านั้น”

สองชั่วโมงต่อมา เครื่องบินลงจอดที่สนามบิน

เวินจิ้งลงจากเครื่องก่อน ออกมาจากสนามบิน เธอวางแผนที่จะต่อรถกลับไปเอง

มู่วี่สิงเดินมา รู้ว่าเธอต้องปฏิเสธ จับข้อมือเธอไว้แล้วพาเธอขึ้นรถ

เวินจิ้งโกรธ แต่คนบางคนกลับนิ่งมาก

“หลังจากส่งเธอกลับไปแล้ว ฉันจะไม่รบกวนเธอ” มู่วี่สิงพูดเงียบๆ

เวินจิ้งขมวดคิ้ว มองใบหน้าที่มุ่ยของมู่วี่สิง ความเสียใจค่อยๆปรากฏ

“งั้นก็ได้โปรดคุณมู่ไม่ต้องจัดคนมาตรวจสอบตำแหน่งที่อยู่ของฉันอีก” เวินจิ้งรีบจัดการกับอารมณ์ตัวเองอย่างรวดเร็ว

ตั้งแต่มู่วี่สิงปรากฏที่เขาเทียนเฉิง เธอเพิ่งรู้ว่าตัวเองไม่เคยอยู่พ้นสายตาของมู่วี่สิงเลย

ไม่ว่าเขาจะจัดคนมาติดตาม หรือจัดคนมาปกป้องเธอ

เธอล้วนไม่ชอบความรู้สึกที่ถูกจับตามอง

เมื่อได้ยินที่พูด สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชาลง และพูดอย่างประชด “ไม่อยากให้ฉันรู้ว่าเธอกำลังออกเดตกับหลิงอี้?”

เวินจิ้งรีบโต้ แต่คำพูดก็ถูกเธอกลืนลงไปอย่างรวดเร็ว

“คุณรู้ก็ดี”

บรรยากาศภายในรถเยือกเย็นลง เวินจิ้งสัมผัสได้ถึงความโกรธของมู่วี่สิงอย่างชัดเจน

ไม่มีใครพูดอะไรอีก

เมื่อส่งเวินจิ้งกลับถึงถนนอันหนิง รถของมู่วี่สิงก็ขับออกไปไกลจากสายตาของเวินจิ้งอย่างรวดเร็ว

เธอยืนที่ระเบียง สายตามองลงไปชั้นล่างนานๆที

ก็ไม่รู้กำลังยึดติดอยู่กับอะไร

แต่ก็คาดหวัง ว่ามู่วี่สิงยังไม่ไปไหน

ประเทศบี ตระกูลหลิน

หลังจากหลินเจิ้งจากไปแล้ว บ้านตระกูลหลินเงียบเหงาไม่น้อย

ตอนที่หลินเวยกลับมา ฉีเซินกำลังนั่งอยู่ห้องรับแขกรอเธอ

“ยังไม่กลับไปหนานเฉิง?” เธอขมวดคิ้ว

“แม่ ผมอยู่ที่นี่นานหน่อยได้ไหม พอดีที่จะได้อยู่เป็นเพื่อนแม่” น้ำเสียงของฉีเซินอ่อนโยน

แต่หลินเวยสัมผัสได้ถึงความเยือกเย็น

“ฉันยุ่งเกี่ยวกับบริษัทหลินซื่อ แกรีบกลับไป ช่วงนี้บริษัทฉีไม่ได้ว่าง”

“บริษัทฉีซื่อจะเทียบกับบริษัทหลินซื่อได้ยังไง มรดกของหลินเจิ้ง กับสิบบริษัทหลิงซื่อยังเทียบเคียงไม่ได้ แม่ ทำไมมรดกก็แบ่งมาให้ผมบ้างสักนิด?” สีหน้าของฉีเซินค่อยๆเยือกเย็น

“แกอยากถามอะไร?” หลินเวยหยุดฝีเท้า

“คุณไม่ใช่แม่ผม” น้ำเสียงของฉีเซินมั่นใจมาก

สีหน้าของหลินเวยไม่ตื่นตระหนกเลยสักนิด เธอรู้ ว่าฉีเซินรู้ความจริง แต่เป็นเรื่องที่ไม่ช้าก็เร็วที่ต้องรู้อยู่ดี

ตอนนี้เธอแค่อยากมอบความรักความเป็นแม้ให้เวินจิ้ง สำหรับฉีเซิน เธอไม่สามารถสนิทกับเขาได้

“แกรู้หมดแล้ว”

ฉีเซินหัวเราะ “แน่นอน การกระทำของคุณชัดเจนดี คุณปู่ไม่ยอมเจอหน้าผม ผมจะไม่รู้เหรอ?”

“ลูก ขอโทษ” หลินเวยลดสายตาลง

สำหรับฉีเซิน เธอมีความผิด

ดังนั้นเธอได้ปูเส้นทางอนาคตให้เขาเรียบร้อยแล้ว ดูแลบริษัทฉีซื่อ ไม่มายุ่งเกี่ยวกับบริษัทหลินซื่อ

“แม่ ปีนั้นคุณเพื่อที่จะมีอำนาจจึงเก็บผมมาเลี้ยง ผมถึงมีตำแหน่งเช่นทุกวันนี้ คุณไม่ต้องขอโทษผม”

หลินเวยมองฉีเซิน ในสายตาของเธอ เธอเห็นความเกลียดชังอย่างชัดเจน

ความทะเยอทะยานของเขาเธอรู้ดี ไม่เพียงแค่บริษัทฉีซื่อ ยังไม่พอ

แต่ตระกูลหลิน ไม่ใช่บ้านของเขา

“แต่ผมอยากรู้ ทำไมคุณถึงให้ผมหยุดจีบเวินจิ้ง?” ฉีเซินถามเสียงเย็น

ทั้งทั้ง ที่ผมไม่มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือด

“แกยังอยู่ในนามลูกชายของฉัน สถานะนี้ ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง”

“ดังนั้น ผมก็ต้องถูกคุณควบคุม?” ฉีเซินตาแดงก่ำ ดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธ

บนทางเดินชีวิตของเขา เขาปฏิบัติตามข้อตกลงของหลินเวยมาตลอด

เขาไม่เคยมีอำนาจตัดสินใจด้วยตัวเองเลย

ดังนั้นเมื่อรู้ตัวตนของตัวเองแล้ว เขามีความสุขมาก

ที่คิดว่าตัวเองสามารถกำจัดมันออกไปได้

หลินเวยใบหน้าซีดขาว เธอฟังออกความหมายที่ฉีเซินพูด

สุดท้ายลูกชายที่เติบโตข้างๆเธอ แม้ว่าจะไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือด แต่ก็รัก

“ฉันคิดว่สิ่งที่ฉันทำมาทั้งหมด ก็เพื่อให้แกได้ดี”

“ผมไม่ต้องการ” ฉีเซินโต้

“ตำแหน่งทั้งหมดที่แกมี ล้วนเป็นแม่อย่างฉันที่ให้แก ฉีเซิน เว้นก็แต่แกจะไม่ใช่ประธานของบริษัทฉีซื่อ!”

ฉีเซินเงียบ อำนาจและตำแหน่งเป็นสิ่งที่เขาฟักใฝ่มาโดยตลอด

เขารู้มาโดยตลอด เพียงแค่เขามีความต้องการมาก ถึงจะสามารถได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ

ถ้าหากทุกอย่างไม่มีแล้ว…

เขาทำไม่ได้จริงๆ

“แม่ คุณลงมือหนักแบบนี้มาโดยตลอด” น้ำเสียงของฉีเซินเบาบาง

หลินเวยไม่ปฏิเสธ

พริบตาเดียวก็ถึงวันเปิดเรียน

วันแรก เวินจิ้งไปรายงานตัวที่วิทยาลัย

วันแรกก็ต้องจ่ายค่าเทอมแล้ว

แต่เวินจิ้งถูกรายงานมาว่าได้ชำระค่าเทอมแล้ว

หยุดไปชั่วขณะ เธอถามอย่างสงสัย “แต่ฉันยังไม่เคยจ่ายค่าเทอม”

อาจารย์ผู้ดูแลตรวจสอบ “เป็นแม่ของเธอที่มาชำระให้เมื่อวาน”

เวินจิ้งขมวดคิ้ว ตอนนี้ยังติดต่อเจี่ยนอีไม่ได้ น่าจะไม่ใช่เธอ

งั้นก็เป็น…หลินเวย

เธอรีบโทรไปหาเธอ

หลินเวยรู้ว่าเวินจิ้งจะถามถึงเรื่องค่าเทอม จึงเอ่ยปากก่อน “ฉันเป็นแม่ของเธอ ค่าเทอมขอฝเธอฉันต้องรับผิดชอบ”

เวินจิ้งเงียบ เธอไม่สามารถยอมรับความสัมพันธ์แม่บูกของเธอกับหลินเวยได้

“ฉันจะคืนเงินให้คุณ”

“เสี่ยวจิ้ง เธอยังโกรธฉันอยู่เหรอ?”

“ไม่ใช่ แต่ฉันหวังว่าคุณไม่ควรมาแทรกแซงชีวิตของฉัน”

“ฉันอนุญาตให้เธอมาศึกษาที่มหาวิทยาลัยหลินไห่ ไม่ว่าจะสืบทอดบริษัทหลินซื่อหรือไม่ ฉันก็เคารพการตัดสินใจของเธอ”

นี่เป็นการประนีประนอมที่ใหญ่ที่สุดของหลินเวย

ช่วงบ่าย เวินจิ้งเข้าไปที่ห้องอาจารย์ อาจารย์สอนระดับบัณฑิตของเธอไป๋สือปีนี้ได้คัดเลือกบัณฑิตวิทยาลัยหนึ่งคน เรื่องนี้แพร่กระจายไปทั่วมหาวิทยาลัยหลินไห่อย่างรวดเร็ว

วันแรกที่เปิดเทอม ข่าวของเวินจิ้งก็ถูกหยิบออกมา คะแนนสอบข้อเขียนได้ที่สาม สอบภาคหลักได้ที่หนึ่ง เห็นได้ชัดว่าทำให้ทุกคนต่างพากันอิจฉา และรูปร่างหน้าตาของเวินจิ้งที่สวยงามและละเอียดอ่อนมาก ภาพถ่ายบนอินเทอร์เน็ตอยู่ในชุดสีขาว บริสุทธิ์สะกดใจคน ไม่นานก็มีแฟนคลับไม่น้อย

ปกติเธอจะเข้าเวยป๋อน้อยมาก ทันใดนั้นก็มีแฟนคลับมากมายขนาดนี้ ค่อนข้างอึดอัด

แต่ว่า สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่เธอกังวล

ตามการจัดการของมหาวิทยาลัย บัณฑิตต้องพักในมหาลัย เวินจิ้งไม่คิดว่าหลิงเหยาจำเป็นเพื่อนร่วมห้องกับเธอ

ทั้งสองเคยเจอหน้ากันหนึ่งครั้ง หลิงเหยาเห็นว่าเป็นเวินจิ้ง ก็แปลกใจเหมือนกัน

“เธอคือ…เวินจิ้ง?” หลิงเหยามองดูเธอ

เธอไม่รู้จริงๆว่าผู้หญิงคนนี้นมีเสน่ห์แค่ไหนที่ทำฝห้พี่ชายของเธอหลงใหล

ในแง่ของรูปลักษณ์ รอบตัวของหลิงอี้สวยและเซ็กซี่กว่าเวินจิ้ง

“สวัสดี”

“ฉันเป็นนักศึกษาศัลยกรรมหน้าอก เธอล่ะ?” หลิงเหยาถาม

“ฉันเรียนด้านประสาทวิทยา”

“ประสาทวิทยา? เธอเป็นนักศึกษาคนเดียวที่ไป๋สือรับเข้ามา?” หลิงเหยาอุทาน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท