Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 310

ตอนที่ 310

บทที่ 310 บรบจุดอ่อนของเธอ

เวินจิ้งมองแผ่นหลังที่กว้างของเขา ดวงตาแดงก่ำ

เขาไม่ให้เธอเกิดเรื่อง…

แต่เขาไม่อยู่ข้างกายเธอแล้ว เขาจะปกป้องเธอได้อย่างไร

ตอนนี้ทั้งสองคนไม่มีความเกี่ยวข้องกันตั้งนานแล้ว เธอไม่อยากพึ่งพิงเขาอีก

“ฉันจะอยู่ที่นี่รอจนถึงตอนเช้าค่อยออกไป” เวินจิ้งหันไปหัวชนฝา

มู่วี่สิงสีหน้าเปลี่ยนเป็นโกรธเล็กน้อย “เดี๋ยวฝนจะตกหนัก เธอรู้ไหมหากอยู่ที่นี่ต่อจะอันตรายมากแค่ไหน?”

“คุณเป็นอะไรกับฉัน ไม่ต้องสนใจฉัน?” เวินจิ้งก็โกรธ มองเขาตากระพริบ

เมื่อได้ยินที่พูด มู่วี่สิงหรี่สายตาอย่างเข้ม ทันใดนั้นก็ใกล้เข้ามา ร่างที่ผอมบางของเวินจิ้งถูกเขากอดไว้ในอ้อมแขน

เขาจับหลังศีรษะของเธอ แล้วก้มลงจูบเธออย่างรุนแรง

เวินจิ้งอึ้ง ตอนนี้หัวใจเต้นรัว มู่วี่สิงกอดเธอแน่น จมูกมีกลิ่นอายของความคุ้นเคย

เป็นกลิ่นอายของมู่วี่สิง

ริมฝีปากและฟันจูบสำหรับเขาเคยชินตั้งนานแล้ว ทันใดนั้นก็ตอบสนองโดยไม่รู้ตัว

แต่ว่า เธออยากปฏิเสธ

เธอไม่อยากเป็นแบบนี้ต่อไป

สุดท้ายก็ได้สติ และกัดเขาอย่างแรง

น้ำเสียงที่โกรธดังออกมาจากปากของมู่วี่สิง สายตาของเขาเพิ่มความดุดันมากขึ้น

เธอกล้ามาก กล้ากัดเขา!

“มู่วี่สิง คุณเกินไปแล้ว!”

“ถ้าหาก…ฉันก็ทำเกินไปแบบนี้ล่ะ!” สิ้นเสียง เขาไม่สนใจความเจ็บของลิ้น จูบลงไปอย่างรุนแรงอีกครั้ง

เวินจิ้งใส่ใจอาการบาดเจ็บในลิ้นของเขา จึงไม่กล้ากัดอีก…

ผู้ชายคนนี้รู้วิธีบีบจุดอ่อนของเธอ…

ลมหายใจเกือบจะถูกกลืนกิน เวินจิ้งแทบจะยืนไม่มั่น ทำได้เพียงพิงไว้ในอ้อมแขนของมู่วี่สิง

“เวินจิ้ง จำไว้ ฉันเป็นผู้ชายของเธอ” เสียงที่ขมขื่นของเขาดังก้องอยู่ข้างหูของเธอ

ทันใดนั้นเวินจิ้งก็ยิ้ม “คุณมู่คุณกำลังพาล?”

“ใช่” เขายอมรับอย่างตรงไปตรงมา และมือของเขาก็ยังวางลงเอวของเธอ

ความรู้สึกกรุบๆกระทันหัน เวินจิ้งได้แต่จับมือของผู้ชายไว้แน่น

“มู่วี่สิง คุณอย่ามามั่วนะ!” เธอโกรธแล้ว

ผู้ชายหัวเราะเบาๆ ย่อตัวลงอีกครั้ง

“ขึ้นมา ฉันอุ้มเธอไป” เดิมทีเวินจิ้งก็ลังเลเล็กน้อย ทันใดนั้นก็มีเสียงฟ้าร้อง สรุปคือฝนจะตกหนัก

เธอรีบกอดมู่วี่สิงไว้ พิงอยู่บนไหล่ของเขา เวลานี้ อารมณ์ก็สงบลงอย่างน่าอัศจรรย์

“มือถือฉันซิมการ์ดถูกเอาไปแล้ว คุณรู้ว่าฉันอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?” เวินจิ้งถามเขา

“ฉันตรวจเช็คตำแหน่งที่อยู่ของหลิงอี้

ทันใดนั้นเวินจิ้งก็นึกถึงหลิงอี้ เขายังอยู่บนเขาไหม?

เมื่อกี้เธอกลิ้งตกลงมา เส้นทางนั้นน่าจะเดินไม่ได้แล้ว

แต่ว่า เธอไม่อยากใส่ใจเขา

ก้าวออกมาจากขั้นบันได เวินจิ้งเอ่ยปากพูด “คุณวางฉันลงเถอะ ฉันเดินเองได้”

“อย่าอวดเก่ง” มู่วี่สิงไม่ได้ปล่อยมือ

เวลานี้ ด้านหน้ามีเสียงฉุกเฉินดังขึ้นมา มีบุคลากรทางการแพทย์ขึ้นมาแล้ว

พายุฝนฟ้าคะนองในครั้งนี้ ทำให้ดินถล่มหลายแห่งในภูเขาเทียนเฉิงล่มสลาย มีนักท่องเที่ยวติดอยู่เป็นจำนวนมาก ตอนนี้แต่ละคนก็ได้รับความช่วยเหลือออกมาแล้ว

มู่วี่สิงวางเวินจิ้งไว้บนเปล มือของเขาจับเธอไว้ตลอด และคอยอยู่เคียงข้างเธอ

เวินจิ้งดิ้นมือออกจากเขาไม่ได้ ทำได้เพียงให้เขากุมไว้อย่างนั้น

ร่างสูงของมู่วี่สิงในสายตา เขาขมวดคิ้ว สีหน้าเป็นห่วง

เขากังวลเกี่ยวกับเธอ

ทันใดนั้นเวินจิ้งก็ยิ้มอย่างเงียบๆ แค่นี้ก็พอแล้ว

เมื่อมาถึงเชิงเขา มีรถพยาบาลหลายคันมาแล้ว ทันใดนั้นก็มีร่างเดินเข้ามา เวินจิ้งมองเห็นหลิงอี้

แขนของเขาถูกพันไว้ บาดเจ็บเล็กน้อย ไม่ใช่เรื่องใหญ่

แต่เห็นได้ชัดว่ามู่วี่สิงบาดเจ็บเยอะกว่า

“เวินจิ้ง” เขามองเธออย่างเป็นห่วง

และตอนนี้ ถึงสังเกตถึงมู่วี่สิงที่อยู่ข้างกายเธอ

สีหน้าเปลี่ยนไป เขามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?

“ฉันไปโรงพยาบาลกับเธอ”

มู่วี่สิงเอ่ยปากพูดเรียบๆ “คุณหลิงมีบาดแผล คงไม่สะดวก”

สิ้นเสียง เขาก็ขึ้นรถพยาบาลไปพร้อมกับเวินจิ้ง

หลิงอี้ก็ขึ้นไปอย่างไม่ลังเลนั่งอยู่อีกด้านของเวินจิ้ง

ผู้ชายทั้งสองเบียดเธออยู่ตรงกลาง ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกเสียวซ่าบนหนังศีรษะ

แต่ ตอนนี้เธอไม่มีแรงไล่พวกเขา

เมื่อถึงโรงพยาบาล เวินจิ้งถูกส่งตัวไปที่ห้องตรวจเพื่อรักษาบาดแผล

มู่วี่สิงและหลิงอี้ยืนอยู่ข้างนอก

“ฉันจำได้ว่า คุณมู่ได้หย่ากับเวินจิ้งแล้ว” น้ำเสียงเยือกเย็นของหลิงอี้ดังมา

“แล้วยังไง ตอนที่เวินจิ้งเกิดเรื่อง นายไปอยู่ไหน?” สายตาที่แหลมคมของมู่วี่สิงมองไปที่หลิงอี้

เขารู้ว่าทั้งสองไปปีนเขาด้วยกัน แต่ตอนที่พบเวินจิ้ง มีเพียงเธอคนเดียว

หลิงอี้เม้มริมฝีปากบาง ตอนที่มองดูเวินจิ้งกลิ้งลงเขา หากไม่ใช่เพราะตรงกลางถูกแยกออก เขาต้องตามไปอยู่แล้ว

เพียงแต่…

ความหงุดหงิดในสายตากระจายออกมา เขาพูดเงียบๆ “ฉันตามหาเธอตลอด”

สุดท้ายใบหน้าของมู่วี่สิงก็เย็นชา หลิงอี้ไม่อยู่ในสายตา

ไม่นาน ประตูห้องตรวจเปิดออก คุณหมอเดินออกมา “ใครเป็นญาติผู้ป่วย?”

“ผม” มู่วี่สิงไปข้างหน้าอย่างไม่ลังเล

“ผู้ป่วยมีบาดแผลภายนอกเยอะ ผมได้รักษาบาดแผลเบื้องต้นให้แล้ว คืนนี้ต้องนอนค้างหนึ่งคืน”

มู่วี่สิงตอบรับ—แล้วเดินเข้าไปห้องผู้ป่วย

หลิงอี้มองร่างที่กำลังวุ่นของเขา สีหน้าค่อยๆนิ่ง

เวินจิ้งได้ถูกย้ายไปห้องผู้ป่วยเรียบร้อยแล้ว มือถือไม่อยู่ข้างกาย เธอไม่สามารถติดต่อใครได้

เมื่อเห็นมู่วี่สิงเดินเข้ามา เธอพูด “ขอยืมมือถือของคุณหน่อยได้ไหม”

เธออยากให้อั้ยเถียนมารับเธอพรุ่งนี้

“มือถือหาย?” มู่วี่สิงขมวดคิ้ว

เวินจิ้งพยักหน้า

มู่วี่สิงโทรหาเกาเชียนก่อน สั่งให้เขาตามหาบนเขาเทียนเฉิงหนึ่งรอบ หามือถือของเวินจิ้งแล้วนำกลับมา จากนั้นถึงจะส่งมือถือให้เวินจิ้ง

“รบกวนคุณแล้ว” เวินจิ้งพูดอย่างห่างเหิน

เธอกดโทรหาอั้ยเถียน เล่าเหตุการณ์ของเธอให้เธอฟัง

“จิ้งจิ้ง เธอยังอยู่ประเทศบี? ฉันคิดว่าเธอกลับไปแล้ว…ตอนนี้ฉันจะไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้” อั้ยเถียนพูดอย่างเครียด

“พรุ่งนี้เธอค่อยมา ตอนนี้ดึกมากแล้ว”

“ไม่ได้ไม่ได้ ฉันเป็นห่วงเธอมาก ทำไมเธอถึงไปปีนเขา ฉันตกใจแทบตาย” อั้ยเถียนบ่น

หลังจากวางสาย เวินจิ้งเงยหน้า พบว่ามู่วี่สิงมองดูเธอตลอด

เธอคืนมือถือให้เขา

“พรุ่งนี้ฉันกลับไปพร้อมกับเธอ” เขาพูดเงียบๆ

“ฉันจะนอนแล้ว คุณมู่ วันนี้ขอบคุณที่คุณช่วยฉันไหม” เวินจิ้งไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ายังไงกับเขา และไม่ตอบ ปิดไฟแล้วแสร้งทำเป็นนอนหลับ

มู่วี่สิงยืนอยู่ข้างเตียง แววตาไม่ชัดเจน

เป็นเวลานาน เวินจิ้งรู้สึกว่าเขานั่งลงข้างๆ

ระยะห่างของทั้งสองคน…ใกล้กันมาก จนได้ยินเสียงหายใจ

มู่วี่สิงก็อยู่ข้างกาย เธอจะหลับลงได้อย่างไร

เมื่อลืมตาขึ้น ทันใดนั้นเวินจิ้งก็สบตาเข้ากับดวงตาสีดำออบซิเดียนของเขา

“คุณกลับไปพักผ่อนเถอะ” เธอพูดเบาๆ

“ไม่ได้จองโรงแรม”

เวินจิ้ง: …

“ถ้าอย่างนั้นคุณก็คงต้องนอนที่นี่คืนหนึ่งนะ”

“อืม”

เวินจิ้ง: …

“คุณอยู่ที่นี่ ฉันนอนไม่หลับ”

สิ้นเสียง เสียงท้องร้องของเวินจิ้ง เธออายมาก

เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าวันนี้เธอกินแค่อาหารเช้า

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท