Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 330

ตอนที่ 330

ตอนที่ 330 ลืมให้ลงวางให้ได้

ที่ มหาวิทยาลัยหลินไห่

เวินจิ้งอยู่ในห้องทดลองเพิ่งจะเสร็จจากคาบเรียน ไป๋สือเรียกเธอไปพบที่ออฟฟิศ

“ช่วงนี้มหาวิทยาลัยของเรากับมู่ซือกรุ๊ปกำลังร่วมมือกันพัฒนายาตัวใหม่ คุณคิดจะไปศึกษาดูไหม”

บริษัทมู่ซือกรุ๊ป……

เวินจิ้งนิ่งเงียบ ไม่ได้ตอบไปในทันที

แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะละทิ้งโอกาสที่จะเรียนรู้ เพียงแต่ถ้าเป็นบริษัทมู่ซือกรุ๊ป เธอก็เริ่มลังเล

“มหาวิทยาลัยมีโควตาให้สามคน คุณกลับไปคิดดูก่อน แต่เมื่อคุณเป็นภรรยาของมู่วี่สิง ผมคิดว่าคุณยิ่งควรจะไป” ไป๋สือกล่าว

“ขอบคุณคะศาสตราจารย์”

เธอเดินกลับมาหอพักอย่างล่องลอย หลิงเหยาได้กลับมาถึงแล้ว

ช่วงนี้เธอมีคลาสเรียนเยอะมาก สองคนมักจะได้เจอกันในตอนค่ำ

“เธอจะเข้าร่วมงานวิจัยของบริษัทมู่ซือกรุ๊ปนั่นหรือเปล่า” หลิงเหยาถามขึ้นมา

โควตานี้ในแผนกศัลยกรรมทรวงอกก็มีเช่นกัน แต่การแข่งขันค่อนข้างจะสูงมาก

“อาจจะ….ไปเถอะ”

“เธอแคร์มู่วี่สิงอยู่ใช่หรือเปล่า” หลิงเหยาเห็นเธอกังวล จึงถามไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น

ถ้าต้องไปบริษัทมู่ซือกรุ๊ป ก็คงหลบหลีกที่จะพบหน้ามู่วี่สิงไม่ได้แน่นอน

แต่การได้เข้าร่วมศึกษาในงานวิจัยและพัฒนานี้ ก็เป็นโอกาสที่หาได้ยากของนักศึกษาแพทย์

“ไม่มีสักหน่อย” เวินจิ้งหันหัวกลับไป

เมื่อได้ยินชื่อนี้ เธอก็เริ่มที่จะหักห้ามความรู้สึกตนเองไม่ได้

“มีแน่นอน ไม่อย่างนั้นเธอก็คงจะไม่ลังเลที่จะเข้าร่วมกิจกรรมหรอก”

“ฉันจะเข้าร่วม เธอหละ” เวินจิ้งยืนยันแน่นอน มองข้ามเรื่องที่ต้องเจอกับมู่วี่สิง เธอต้องการไปเพื่อการเรียนรู้

“ฉัน….ฉันไม่ไปแล้ว” ฉันไม่ค่อยสนใจเรื่องการวิจัยยา” หลิงเหยาส่ายหัว

ความปรารถนาของเธอตั้งแต่ต้น ล้วนแต่ทำเพื่อจะเป็นหมอผ่าตัด การวิจัยศึกษาอื่นๆ เธอไม่อยากจะเข้าร่วม

“ได้ยินมาว่าบริษัทมู่ซือกรุ๊ปจะตรวจดูรายชื่อก่อน ถ้าเธอเข้าร่วม มู่วี่สิงต้องเลือกเธอแน่นอน”

“ฉันกับเขาไม่ได้เป็นอะไรกัน อย่าคิดมากเลย”

“อู้ ไม่กี่วันก่อนฉันเพิ่งเห็นเธอลงมาจากรถเขา ถ้าไม่เป็นอะไรกัน เขาก็คงเป็นคนขับรถให้เธอคนเดียวสินะ” เวินจิ้งหยอกเธอ

เวินจิ้ง…..

“โอ้ อันที่จริงก็หลายปีแล้วที่มู่วี่สิงไม่มีผู้หญิงข้างกายเลย แต่สุดท้ายเขาก็แต่งงานกับเธอก็เพราะว่าเขาชอบเธอ เขาไม่ได้ชอบผู้หญิงคนไหนง่ายๆ ไม่มีทางลืมได้ง่ายๆหรอก” หลิงเหยาวิเคราะห์ “ฉันพนันให้เลย พวกเธอจะต้องแต่งงานกันใหม่ในอนาคตนี้แน่นอน”

“พวกเราหย่ากันแล้วก็คือหย่ากันจริงๆ ฉันกับเขาคงไม่มีทางเป็นแบบนั้นหรอก” เวินจิ้งส่ายหัว

“คนดูย่อมมองเห็นชัด ฉันดูออกแน่นอน” หลิงเหยาพูดอย่างมั่นใจในตัวเอง

หลังจากลงทะเบียนไปกับศาสตราจารย์ไป๋ เวินจิ้งก็ไม่ได้คาดคิดว่าเธอจะถูกเลือกจริงๆ

ส่วนนักศึกษาอีกสองคนที่ได้รับเลือกล้วนแต่มาจากสาขาวิชาอื่น ในวันศุกร์ พวกเขาจะต้องไปรายงานตัวที่บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปก่อน หลังจากนั้นในวันเสาร์จึงจะได้เข้าศึกษาในห้องปฏิบัติการ

เมื่อเข้าไปยังบริษัทมู่ซือกรุ๊ป มู่เหิงและผู้บริหารระดับสูงสองสามคนเดินออกมา เมื่อพบกับเวินจิ้งก็ได้หยุดลง

“เธอกับน้องชายฉันไม่ใช่ว่าหย่ากันแล้วเหรอ มาทำไมอีก”

“คุณมู่ ฉันมาเพื่อการเข้าร่วมการศึกษา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับมู่วี่สิง” เวินจิ้งไม่พอใจ

เธอไม่ชอบให้เรื่องอะไรก็ตามถูกเชื่อมโยงไปหามู่วี่สิงทั้งหมด

“อย่างนี้นี่เอง” มู่เหิงลูบคางตัวเอง กระพริบตาอย่างเย็นชา

เวินจิ้งไม่ได้ใส่ใจ รีบขึ้นบันไดไปอย่างรวดเร็ว

นักศึกษาอีกสองคนมาถึงแล้วเช่นกัน คนที่ออกมาต้อนรับพวกเขาก็คือผู้ช่วยผู้จัดการแผนกบุคคลที่เวินจิ้งเคยรู้จักมาก่อน

ครั้งนี้พวกเขาเข้าร่วมการวิจัยพัฒนาตัวยาทางระบบประสาทตัวใหม่ชื่อ “หลินต๋า” ยาชนิดนี้ เวินจิ้งจำได้ว่า หลินหยุน เป็นพนักงานหลักที่มีส่วนร่วมในการพัฒนา

สถานที่ใช้สำหรับวิจัยและพัฒนาอยู่ที่ชั้น 27 ของบริษัทมู่ซือกรุ๊ป ผู้จัดการได้พาทุกคนเข้าไปเยี่ยมชม ส่วนการเยี่ยมชมอย่างเป็นเป็นทางการจะเริ่มขึ้นในสัปดาห์หน้า

เมื่อออกมาจากบริษัมู่ซื่อกรุ๊ปก็เป็นเวลาเย็นแล้วว นักศึกษาอีกสองคนเป็นนักศึกษาชาย กำลังเตรียมตัวไปรับประทานอาหารกัน จึงถามเวินจิ้งว่าจะไปด้วยกันหรือไม่

“ฉันต้องรีบกลับไปมหาวิทยาลัย พวกเธอไปเถอะ”

“อย่างนั้นก็ได้ เจอกันสัปดาห์หน้า”

ออกจากบริษัทมู่ซือกรุ๊ป เวินจิ้งเดินไปยังป้ายรถเมล์

รถเก๋งสีดำคันหนึ่งค่อยๆเข้ามาช้าๆแล้วจอดที่ข้างๆเธอ “จะไปไหน ผมไปส่ง”

กระจกรถถูกเลื่อนลง เผยให้เห็นถึงใบหน้าหล่อเหลาของมู่เหิง

ใบหน้าของผู้ชายคนนี้มีความคล้ายมู่วี่สิงมาก เวินตกใจอยู่ครู่หนึ่ง เพราะเธอคิดว่าเป็นมู่วี่สิง

“ไม่ต้องรบกวนคุณดีกว่า”

“ไม่รบกวนหรอก เธอก็เคยเป็นคนของตระกูลมู่ ฉันก็แค่ต้องการทำความเข้าใจ ว่าผู้หญิงแบบที่มู่วี่สิงชื่นชอบเป็นยังไงกัน”

“คุณมู่ ฉันขอตัวก่อนค่ะ”

เวินจิ้งไม่ได้สนใจเขา รถเมล์ก็มาถึงพอดี เธอจึงรีบขึ้นรถ

มู่เหิงจ้องมองไปยังเวินจิ้งดวงตาค่อยๆแสดงออกถึงความรู้สึกสนุก

………….

ช่วงนี้มู่ซือซืออาศัยอยู่ที่การ์เด้นมูเจียวาน มู่วี่สิงก็เพิ่งย้ายออกมาจากตระกูลมู่

มู่วี่สิงกลับมาก็เป็นเวลาค่ำแล้ว ในห้องหนังสือ มู่ซือซือกำลังดูรูปถ่ายใบหนึ่งอยู่

“มู่ซือซือ เธอกำลังทำอะไรอยู่” มู่วี่สิงก้มลง คิดจะหยิบรูปถ่ายกลับคืนมา

มู่ซือซือดึงมือกลับทันที ไม่ต้องการให้พี่ชายหยิบไปได้

“ถ้าต้องการรูปถ่าย บอกฉันก่อนว่าเด็กผู้หญิงในรูปคือใคร” มู่ซือซือยกรูปถ่ายขึ้นมา

ในรูปนั้นเป็นรูปเด็กผู้หญิงอายุประมาณสามสี่ขวบ รอยยิ้มของเธอดูสดใส สวมกระโปรงสีขาว ซึ่งกำลังกินลูกอมรสนมกระต่ายขาว

แอ๊บแบ๊ว!”

นี่คงจะไม่ใช่คนรักของพี่ชายหรอกนะ

มู่วี่สิงไม่ได้ตอบอะไร และได้ดึงภาพถ่ายออกมาจากมือของน้องสาว

มู่ซือซือโกรธ แต่เนื่องจากเธอไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้ ทำได้เพียงมองมู่วี่สิงเอารูปถ่ายไปเก็บ

เธอรีบจ้องมองเขา “คงจะไม่ใช่เวินจิ้งนะ”

ได้ยินแบบนั้น มู่วี่สิงนิ่งไปชั่วครู่่ ขมวดคิ้วอย่างแน่น

“เป็นเธอแน่นอน ฉันอยากจะบอกว่าปกติพี่ไม่ได้สนใจผู้หญิงคนไหนเลย ทำไมถึงรีบแต่งงาน ที่แท้ก็เพราะเคยเจอกันตอนเด็กๆนี่เอง”

ตอนนี้เธอไม่ได้เกลียดชังเวินจิ้งมากเหมือนเมื่อก่อนแล้ว แต่ก็ยังกังวลถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับฉีเซิน

มู่วี่สิงเม้มริมฝีปากของเขา นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเงียบขรึมเมื่ออยู่ต่อหน้ามู่ซือซือ

“พี่ชาย ตอนนี้พวกเธอหย่ากันแล้ว นายควรจะลืมเธอได้แล้ว” มู่ซือซือเกลี้ยกล่อม

“ลืมไม่ได้” มู่วี่ซิงพูดตรงๆ

ตั้งแต่เด็กเขาก็รู้สึกว่าเธอจะต้องเป็นคนของเขา จะให้ลืมให้ลงวางให้ได้จะได้อย่างไร

มู่ซือซือมองไปยังพี่ชาย ในบางครั้ง เขาก็มักจะยึดติดเกินไป

จะเป็นกับคน หรือสิ่งของ ก็ใช่ทั้งนั้น

หลังจากพี่ชายออกไป มู่ซือซือก็ไปหารูปถ่ายนั้นออกมาอีก หยิบกรรไกรขึ้นมา และบรรจงตัดรูปถ่ายนั้น

เวินจิ้งไม่สามารถจะมายุ่งเกี่ยวอยู่กับพี่ชายของเธอได้อีก!

มู่วี่สิงเพิ่งจะรู้เรื่องนี้ตอนชั่วโมงถัดมา มองเห็น”เศษขยะ” ในถังขยะ ดวงตาของเขาก็เย็นชา ดุจดั่งลมพายุก็ไม่ปาน

“มู่ซือซือ ฉันให้เธอมาอยู่ที่นี่ไม่ใช่ให้เธอมายุ่งกับฉันนะ” น้ำเสียงมู่วี่สิเย็นชาจนน่ากลัว

มู่ซือซือสั่นเทา นี่เป็นครั้งแรกที่พี่ชายโกรธเธอมากขนาดนี้……….

เพียงแต่…….เธอไม่คิดว่าเธอทำผิด

“ฉันไม่ได้ยุ่งอะไรนะ ตอนนี้พวกเธอหย่ากันแล้ว พี่ ฉันแค่ต้องการเตือนสติพี่ให้อยู่กับความเป็นจริงนี้” มู่ซือซือพูดอย่างจริงจัง

“หย่ากันแล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่ใช่คนของฉัน” มู่วี่สิงหรี่ตาลงอย่างดูอันตราย

พูดจบ ก็คุกเข่าลงไปต่อหน้ามู่ซือซือ ควานหารูปถ่ายในถังขยะ

เธอเกือบจะถูกหั่นเป็นชิ้นๆ มู่วี่สิงเลือกหยิบมันออกมาทีละชิ้นๆ อย่างอดทน

มู่ซือซือตกตะลึงอย่างมาก หรือนี่เธอคนนั้นจะมีอิทธิพลอยู่เหนือพี่ชายเหรอ…..

ไม่คิดว่าเขาแทบจะพลิกถังขยะเพื่อรูปถ่ายรูปเดียว……

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน