Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 332

ตอนที่ 332

บทที่332 วิกฤติ

“ก็แค่เป็นไม่สบายนิดหน่อย อีกไม่กี่วันก็ออกโรงพยาบาลได้แล้ว ”

เวินจิ้งเปิดดูประวัติคนไข้ หลินเวยติดเชื้อแบคทีเรีย เกรงว่าน่าจะเป็นปัญหาการกินยาแต่ก่อนที่หลงเหลืออยู่

ผลตรวจสอบปัจจุบันเป็นไปในทางที่ดี นับว่ายังดี

แต่ว่าตอนนี้คงจำเป็นรอเฝ้าดูอาการที่โรงพยาบาล

“แป๊บหนึ่งหนูจะนัดตรวจสอบร่างกายให้แม่ ” เวินจิ้งไม่วางใจ

หลินเวยเผยรอยยิ้มที่ยากที่จะเห็นออกมา “เสี่ยวจิ้งอา เห็นลูกเป็นห่วงแม่ แม่ดีใจมากๆ ”

เวินจิ้งไม่ไหวติง สูดหายใจเข้าลึกๆ “แม่เป็นญาติหนู หนูก็ควรเป็นห่วง ”

“แม่คิดว่าลูกยังโกรธอยู่ ”

“อืม ยังโกรธอยู่นิดหน่อย ” เวินจิ้งไม่ปฏิเสธ

“อั๊ย ” หลินเวยถอดลมหายใจ “แค่ลูกยังเป็นห่วงแม่ ก็เพียงพอแล้ว ”

ด้านนอก ฉีเซินเพิ่งกลับมาจากการปฏิบัติงานนอกสถานที่ เห็นหลิงอี้ รู้สึกไม่พอใจนิดหน่อย

“ดูเหมือนว่าแม่ของผมจะสนิทคนนอกอย่างคุณมากกว่านะ ”

หลิงอี้พูดนิ่งๆ “ตอนที่คุณนายหลินเป็นลมล้มไป ผมอยู่ตรงนั้นพอดี ”

ตอนที่เวินจิ้งกำลังจะออกไปนั้น ก็เห็นฉีเซินพอดี

“แม่ผมเป็นไงบ้าง? ”

“สถานการณ์ตอนนี้ดีอยู่ ไม่ต้องห่วง ” เวินจิ้งพูดนิ่งๆ

พูดเสร็จ ก็เดินจากไป

“ผมไปส่งคุณกลับโรงเรียน ” เสียงหลิงอี้ดังขึ้นอยู่ข้างๆ

เวินจิ้งอยากจะพูดว่านั่งรถกลับเองก็ได้ ฉีเซินพูดแทรกว่า “เวินจิ้ง คุณรอผมแป๊บหนึ่ง ผมมีเรื่องที่อยากจะพูดกับคุณเป็นการส่วนตัว ”

“ส่วนตัว ” สองคำนี้ เป็นการบอกหลิงอี้อย่างสุดความสามารถ

เวินจิ้งขมวดคิ้ว มองไปที่หลิงอี้ “เดี๋ยวอีกแป๊บหนึ่งฉันก็กลับเองได้ ”

“ผมไม่วางใจ ”

“ที่นี่ห่างจากโรงเรียนไม่มาก ”

ที่จริงเวินจิ้งก็ไม่คิดที่จะรอฉีเซิน ไม่มีเรื่องอะไรที่ต้องพูดกับเขา

เดินออกจากโรงพยาบาล รถของหลิงอี้ยังคงยืนหยัดที่จะรอเธอ

เวินจิ้งขึ้นรถแท็กซี่ทางด้านหลัง กลับโรงเรียน เธอรีบที่จะกลับไปเขียนรายงานอีกมากมาย แต่ว่าก่อนที่จะพักผ่อนเธอก็ยังหาดูข่าวของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป

ไม่มีข่าวอะไรทั้งสิ้น

เธอก็เข้าไปดูราคาหุ้นโภคภัณฑ์ของวันนี้ ราคาหุ้นต่ำกว่าแต่ก่อนมาก

นอนพลิกตัวไปพลิกตัวมา ในหัวสมองของเวินจิ้งก็ค่อยๆปรากฏใบหน้าของมู่วี่สิงขึ้นมา สะบัดไม่ออก

……

สามวันต่อมา บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป

ตอนเช้ามู่วี่สิงไม่ได้เข้ามา ประกาศยกเลิกการประชุมผู้ถือหุ้นไป

ผู้ถือหุ้นมากมายมากันหมดแล้ว มู่เหิงรีบลุกขึ้นมา “วันนี้เป็นวันประชุมผู้ถือหุ้นประจำครึ่งปีของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ไม่เคยเปลี่ยนวันมาก่อน ถ้ามู่วี่สิงไม่มา งั้นผมก็จะเป็นผู้รับผิดชอบเอง ”

เกาเชียนรีบวิ่งเข้ามา เปิดทีวีที่อยู่ด้านหน้า ด้านบนกำลังถ่ายทอดข่าวอยู่

วันนี้ วันนี้เป็นวันจำหน่ายยาตัวใหม่สามตัวที่บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปคิดค้นอย่างเป็นทางการ สำหรับข่าวที่ตีแผ่ออกไปนั้น ทำให้ราคาหุ้นของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปวันนี้เริ่มฟื้นตัวอย่างน่าอัศจรรย์

“ความหมายของประธานมู่ก็คือ รอให้ดูยอดขายของราคายาตัวนี้สักอาทิตย์หนึ่งก่อนค่อยประชุมก็ไม่สาย ”

“อะไร ที่แท้มู่วี่สิงก็หมายความว่าอย่างนี้? ยาประเภทแบบเดียวกันในท้องตลาดมีมากมาย เขายังคิดว่าเขาสามารถสงวนสิทธิ์ตลาดไว้เพียงคนเดียวได้เหรอ? ” มู่เหิงพูดไม่เพราะเธอ

“ผมแต่ว่าบอกความหมายของประธานมู่ การประชุมผู้ถือหุ้นเลื่อนไปอาทิตย์หน้า หวังว่าทุกคนจะรู้กันอย่างทั่วถึง ”

พูดเสร็จ เกาเชียนหมุนตัวกลับออกไป

ถึงแม้ผู้ถือหุ้นจะไม่พอใจ แต่ตอนนี้มู่วี่สิงก็ยังคงเป็นเสนาบดีผู้ควบคุมการบริหารอยู่ ตอนนี้ประธานคณะกรรมการบริหารมูเฉิงไม่อยู่ มู่วี่สิงก็มีอำนาจสิทธิ์ใหญ่ที่สุด คำพูดของเขาไม่มีใครสามารถโต้แย้งได้

“ทุกท่าน ตอนนี้สถานการณ์บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปทุกคนก็รู้ดีอยู่แล้ว ตอนนี้ผมถือหุ้นมากกว่าสามสิบเปอร์เซ็นต์ มีแค่ผมเท่านั้นที่จะรับตำแหน่งเสนาบดีผู้ควบคุมการบริหาร ถึงจะพาบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปพ้นขีดอันตรายได้! ” มู่เหิงนั่งลงที่นั่งผู้บริหารอย่างกะทันหัน ตั้งสัตย์ปฏิญาณต่อหน้าทุกคน

“มู่เหิง ตอนนี้ประธานมู่ไม่อยู่ พวกเราก็ไม่มีทางที่จะตัดสินใจ ”

“เขาไม่มาเข้าร่วมการประชุมผู้ถือหุ้น ก็แสดงว่าสละสิทธิ์ตัวเอง……”

“ไม่ได้ๆ มู่เหิง ในเมื่อตอนนี้ยาตัวใหม่ของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปวางขายแล้ว ราคาหุ้นก็เพิ่มขึ้นแล้ว งั้นก็รอสักระยะค่อยประชุมก็ได้ ”

ผู้ถือหุ้นรู้เรื่องการแย่งชิงในตระกูลมู่ แต่ว่าในบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปก็ยังมีคนของมูเฉิงไม่น้อย แต่มูเฉิงให้สิทธิ์กลับมู่วี่สิงมา นี้ก็เป็นเหตุผลที่มู่วี่สิงยังคงยืนอย่างมั่นคงในบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป

สำหรับมู่เหิง ถึงแม้เขาจะเอาชนะอีกฝ่ายด้วยวิธีการทุกรูปแบบ แต่ว่าถ้าจะโค่นล้ม ยังไงก็คงต้องได้รับการยอมรับก่อน

แต่ว่าตอนนี้ ยังไม่ถึงเวลา

ผ่านไปไม่นาน ผู้ถือหุ้นค่อยๆทยอยออกไป มู่เหิงมองทีวี สายตาค่อยๆแพร่ความเย็นชาออกมา

เขาโทรศัพท์หาฉีเซิน “สำหรับเรื่องที่บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปออกยาตัวใหม่ ประธานฉีไม่ควรทำอะไรเลยเหรอ? ”

“คุณคิดว่าผมควรทำอะไร? ”

ฉีเซินขมวดคิ้ว ยาที่บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปพวกนี้ล้วนเป็นยาสมองและเส้นประสาท แต่ว่ายาประเภทนี้ที่ขายดีที่สุดก็เป็นของบริษัทฉีซื่อกรุ๊ป เขาก็ไม่กังวลอะไร

“ตอนนี้ยาประเภทที่เกี่ยวกับสมองและเส้นประสาทอยู่ในมือของบริษัทฉีซื่อกรุ๊ป รีบเพิ่มแรงขายให้มากที่สุด ห้ามให้ยาของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปยึดพื้นที่ในตลาดเด็ดขาด! ” มู่เหิงพูดอย่างเย็นชา

“เจอะเจอะ มู่เหิง ผมคิดว่าคุณเป็นคนของบริษัทฉีซื่อกรุ๊ปของพวกเราซะแล้ว ”

มู่เหิงหัวเราะ “พวกเรามีศัตรูคนเดียวกัน ไม่ใช่เหรอ? ”

ตัดสายโทรศัพท์ ฉีเซินมองดูราคาหุ้นของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปในช่วงนี้ สีหน้าท่าทางก็นิ่งสงบ

ในเวลานี้ ผู้ช่วยเดินมารายงาน ว่าฉินเฟยมาแล้ว

“ประธานฉี ข่าวของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปวันนี้คุณเห็นแล้วหรือยัง? ” ฉินเฟยนั่งลงตรงหน้าเขา

“อืม ”

“คุณยังนิ่งอยู่ หรือว่ายังไม่รู้สึกว่าตอนนี้บริษัทฉินซื่อกรุ๊ปได้รับแรงกดดันแล้ว? ”

เธอศึกษาดูยาตัวนี้ของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปมาแล้ว และตามรายงานผลที่เธอทดลองมา ยาเหล่านี้เหนือกว่ายาที่ขายดีที่สุดของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปทุกด้าน

และในตอนนี้ มู่วี่สิงก็กำลังเอายาตัวนี้มาขายให้กับบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป

เธอสงสัยจุดประสงค์ของมู่วี่สิงมาตั้งนานแล้ว บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปตกอยู่ในขั้นวิกฤติแท้ๆ แต่กลับใช้สิทธิ์ที่จะทิ้งยาที่ขายดีที่สุดในราคาถูกนั้นอย่างไม่ต้องสงสัยเลยว่าบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปจะพลิกกลับขึ้นมายากกว่าเดิม

“แต่ว่าพวกยาเหล่านี้ ผมไม่เชื่อว่าบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปจะพลิกกลับขึ้นมาได้ ”

แต่ว่าไม่กี่วันต่อมา บริษัทฉินซื่อกรุ๊ปและบริษัทฉีซื่อกรุ๊ปก็รู้สึกถึงความวิกฤติ

ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลหรือว่าร้านยา ยาของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปเกือบจะผูกขาดตลาดทั้งหมด บริษัทฉินซื่อกรุ๊ปได้เอายาที่ขายดีที่สุดมาจากบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ยอดขายลดลงมาก

ไม่ทันไร ข่าววงการบันเทิงก็รายงานยาตัวใหม่สามตัวของการค้นคว้าของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปเต็มไปหมด ยาเหล่านี้มีความก้าวหน้าอย่างมากในการรักษาโรคทางระบบประสาท

ราคาหุ้นของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปก็ยิ่งพลิกกลับขึ้นไปอีกเท่าตัว นักข่าวที่รอต่ออยู่ด้านนอกบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปทุกวันนั้นเยอะมากจนนับไม่ได้ ล้วนที่อยากจะสัมภาษณ์มู่วี่สิง

เดิมทีบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปอยู่ในช่วงวิกฤต แต่ยาที่ออกมาใหม่กลับช่วยชีวิตเอาไว้ได้พอดี ทั้งยังทำให้บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปบรรลุผลกำไรได้หลายเท่าตัว

ปัจจุบันนี้ มู่วี่สิงเป็นเสนาบดีการบริหารของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ทั้งยังถูกเรียกว่าพ่อมดทางธุรกิจ ผู้ชายที่วัยรุ่นนี้ ไม่เพียงแต่เป็นคุณหมอที่มีชื่อเสียงโด่งดัง และความสามารถด้านการค้าขายก็มีความเก่งกล้าพอๆกัน

เวินจิ้งดูรายงานต่างๆบนอินเทอร์เน็ต ใบหน้าก็ปรากฏสีหน้าตกใจออกมา

บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปจากวิกฤตเปลี่ยนเป็นปลอดภัยแล้ว บริษัทฉีซื่อกรุ๊ปและบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป ทั้งสองกำลังเจอวิกฤต ไม่พูดไม่ได้ว่า การรับมือของมู่วี่สิงนั้นฉลาดมากพอสมควร

“กำลังดูอะไรนะ? ” เมื่อตอนที่หลิงเหยากลับมา เวินจิ้งกำลังเหม่อลอย

ช่วงนี้เธอมักจะใจจดใจจ่อสนใจเรื่องของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ตอนนี้สถานการณ์ของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปดีขึ้นมาแล้ว แต่เธอก็เพิ่งค้นพบว่า ตัวเองเหมือนยิ่งไม่รู้จักมู่วี่สิงขึ้นไปอีก

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท