Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 333

ตอนที่ 333

บทที่333 ในสายตามีแค่เขาคนเดียว

“บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป……เห้อ ยาพวกนี้ล้วนเป็นยาตัวใหม่ของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป? วันนี้ศาสตราจารย์เพิ่งพูดกับเราว่ายาพวกนี้น่าอัศจรรย์มากเลยนะ…… ” หลิงเหยาพูดอย่างตกใจ

เธอไม่รู้เลยว่ายาตัวใหม่นี้เป็นการค้นคว้าของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป

“ตอนนี้โรงพยาบาลแย่งกันจองนาพวกนี้อยู่เลยนะ ร้านยามากมายก็ไม่มีของแล้ว ” หลิงเหยาพูด

เวินจิ้งขมวดคิ้ว แต่ก่อนเธอทำการค้นคว้าร่วมกับมู่วี่สิง ยาพวกนี้ก็นับว่าเธอค่อนข้างที่จะรู้เป็นอย่างดี

มู่วี่สิงเริ่มการค้นคว้ามาตั้งห้าปีที่แล้ว ถึงวันนี้ที่วางขายในตลาด ได้รับเสียงตอบรับมากมาย

“มันดีมากขนาดนั้นเลยเหรอ? ”

“แน่นอน ถึงแม้เป็นมู่วี่สิงที่ทำการค้นคว้า ในชื่อเสียงด้านอุตสาหกรรมนั้นไม่มีใครเทียบได้อย่างแน่นอน อีกทั้งยาพวกนี้ได้รับการทดลองในต่างประเทศก่อน ผลลัพธ์ดีมากๆ เพราะฉะนั้นตอนนี้วางขายในประเทศก็ดึงดูดผู้คนมากมายแย่งกันอยากได้ ”

“แต่ก่อนคุณก็ทำงานในบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปมาระยะหนึ่ง อย่าบอกว่าคุณไม่รู้? ” หลิงเหยามองเธอ

“ฉันเคยทำการค้นคว้ากับมู่วี่สิงจริง แต่ก็รู้ไม่เยอะมาก ” เวินจิ้งส่ายหัว เธอกลับไม่ใช่ผู้ศึกษาค้นคว้าหลัก

“อ่อ ฉันควรจะซื้อหุ้นของบริษัทมู่วี่สิงตั้งนานแล้ว ไม่อย่างนั้นตอนนี้ก็ขายได้เงินเยอะแยะแล้ว ”หลิงเหยาพูดถอนลมหายใจ

เวินจิ้งยิ้มๆ “คุณผู้หญิงหลิงไม่ได้ขาดเงินสักหน่อย ”

“ใครบอก ค่าเรียนปริญญาโทเป็นฉันที่จ่ายเอง ฉันไม่อยากเพิ่งพึ่งคนในครอบครัวตลอด ตระกูลหลิงในตอนนี้ไม่เหมือนแต่ก่อน หลายปีที่แล้วเกือบจะล้มละลายแล้ว เป็นเพราะว่าตระกูลหลินของพวกคุณที่จัดการเรื่องเงินถึงได้ผ่านมาได้ ”

ตอนที่ตระกูลหลิงมีความยากลำบากนั้น คือหลิงอี้คนเดียวนี้โอบอุ้มตระกูลหลิงไว้

“ตอนนี้ทุกอย่างผ่านมาได้แล้ว ” เวินจิ้งพูดปลอบ

ถึงแม้ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ติดต่อกับหลิงเหยา แต่ว่าเวินจิ้งก็พอจะรู้และเข้าใจนิสัยของเธอ

ไม่มีความเย่อหยิ่ง แถมยังเป็นคนที่เข้าถึงได้ง่าย

“อืม ฉันหวังอนาคตฉันจะสามารถช่วยแบ่งเบาภาระพี่ชายได้บ้าง ตอนนี้ฉันสามารถเรียนแพทย์ได้ ก็เพราะมีพี่ชายที่ค่อยสนับสนุนฉัน ”

ทันใดนั้น โทรศัพท์ของหลิงเหยาก็ดังขึ้น เป็นสายเรียกเข้าของมู่ซือซือ

“อะไรนะ? คุณมามหาวิทยาลัยหลินไห่? ทำไมถึงไม่บอกฉันก่อน? ”

“ฉันมาทำธุระพอดี ก็เลยคิดว่าจะมาเล่นกับคุณด้วย ”

“โอเคได้ คุณอยู่ที่ไหน? ”

“อยู่ที่หน้าประตูหอพักของคุณแล้ว ”

หลิงเหยาขมวดคิ้ว มองเวินจิ้งแป๊บหนึ่ง

หลิงเหยาก็เคาะประตูขึ้น

“ซือซือมาแล้ว ” วางสายโทรศัพท์ หลิงเหยาพูดกับเวินจิ้ง

ใบหน้าของเวินจิ้งไม่ได้แสดงอาการอะไร

หลิงเหยาเดินไปเปิดประตูอย่างใจจดใจจ่อ เป็นอย่างที่คิด มู่ซือซือเห็นเวินจิ้ง สีหน้าก็เปลี่ยนทันที

แต่ว่าอารมณ์ของเธอไม่ได้ตื่นเต้นเหมือนแต่ก่อนแล้ว

“ที่แท้คุณกับเวินจิ้งก็พักอยู่หอเดียวกัน ” มู่ซือซือขมวดคิ้ว

“โรงเรียนเป็นคนจัดให้ พวกเราไปเที่ยวกันเถอะ ‘ หลิงเหยาไม่ได้ให้มู่ซือซือเข้ามา

“ฉันเข้าไปดูแป๊บหนึ่งได้ไหม? ให้คนที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้อย่างฉันเข้าไปดู ให้อิจฉาซะหน่อย”

พูดเสร็จ มู่ซือซือก็เข็นรถวีลแชร์เข้ามาเลย

หลิงเหยาเดินข้างเธอ มีความกังวลนิดหน่อย

แต่มู่ซือซือกลับนิ่งเงียบ จนกระทั่งบุกเข้าไปหยุดอยู่ที่ด้านหน้าของเวินจิ้ง

“ครั้งที่แล้วตอนที่ฉันเข้าโรงพยาบาล ขอบคุณเธอมากนะที่ดูแลฉัน ”

เวินจิ้งหันหน้ากลับไป มองมู่ซือซือสีหน้าที่จริงใจของเธอ พูดนิ่งๆ “มันเป็นสิ่งที่ฉันควรจะทำ ”

จะกระทั่งออกจากหอพัก หลิงเหยายังคงมีความแปลกประหลาดใจนิดหน่อย

เธอคิดว่ามู่ซือซือต้องโกรธมากแน่ แต่เธอไม่ได้โกรธเลย

“เหยาเหยา ทำไมคุณถึงไม่บอกฉันสักคำว่าคุณพักกับเวินจิ้ง ” มู่ซือซือไม่พอใจนิดหน่อย

“ฉันรู้สึกว่าไม่จำเป็น……”

“คุณก็คิดว่าฉันเหมือนคนบ้าที่ชอบกัดคนไปทั่วเหรอ? ”

“ไม่ใช่แน่นอน! ” หลิงเหยาส่ายหัว

“ตอนนี้เธอหย่ากับพี่ชายฉันแล้ว ฉันก็ไม่ได้เกลียดอะไรเธอมากขนาดนั้น วางใจเถอะ ” มู่ซือซือน้ำเสียงนิ่งๆ

……

พลบค่ำ เวินจิ้งรับโทรศัพท์มูเฉิงอย่างแปลกใจ

“คุณปู่ ” เวินจิ้งเคยชินกับการเรียกแบบนี้ นึกขึ้นได้ก็รีบเปลี่ยนคำพูดทันที “มู……”

มูเฉิงพูดตัดเธอ “เรียกปู่แหละดีแล้ว เวินจิ้งอ่า มะรืนเป็นวันครบรอบวันเกิดแปดสิบปีของปู่ ปู่อยากให้หนูมาร่วมงานด้วย ”

“คุณปู่ หนูเข้าร่วมกลัวว่าจะไม่เหมาะสม……” เวินจิ้งพูดอย่างลำบากใจ

หลังจากที่หย่ากับมู่วี่สิง เธอและตระกูลมู่ก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องพัวพันกัน

“ปู่อยากเจอหนู บัตรเชิญได้ส่งไปแล้ว หนูปฏิเสธไม่ได้นะ ”

เวินจิ้งเงียบ ไม่ได้พูดไปสักครู่ใหญ่

สำหรับมูเฉิง เวินจิ้งเคารพนับถือมาก และก็ขอบผู้อาวุโสคนนี้มาก

แต่ว่าถ้าไปเข้าร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ก็ต้องเจอมู่วี่สิงแน่นอน

แต่เธอก็เหมือนกับไม่ได้ขับไล่……แถมยังตั้งตารอคอยอีกต่างหาก

วันต่อมาเป็นวันเสาร์ เวินจิ้งก็ไปห้องทดลองของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปปกติเหมือนเดิม

ช่วงนี้นักข่าวบันเทิงมากมายมักจะมารอที่หน้าประตูทางเข้าของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป เวินจิ้งลงจากรถ ก็มองเห็นผู้ชายที่ถูกกลุ่มคนรอบล้อมอยู่ตรงกลางจากที่ไกลๆ

จิตใต้สำนึก เวินจิ้งก็หยุดย่างก้าวอย่างกะทันหัน

สายตาหยุดอยู่ที่ใบหน้ารูปหล่อของมู่วี่สิง ผู้คนมากมาย แต่ในสายตาของเธอมีแค่เขาคนเดียว

เสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงสู่สีดำ สง่างามและมีเกียรติ ถึงแม้จะอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย แต่บรรยากาศนั้นก็ล้ำเลิศโดดเด่นมาก

ผู้ชายคนนี้ทำให้เธอรู้สึกว่ายิ่งเป็นคนแปลกหน้ามากขึ้น

ภายในคืนเดียวเกือบจะโค่นล้มบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปและบริษัทฉีซื่อกรุ๊ป แต่บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปอยู่ในขั้นวิกฤติกลับพลิกกลับมาได้ แม้กระทั่งยังเป็นวิสาหกิจtop1ของหนานเฉิงได้อย่างมั่นคง ฝีมือของเขาเก่งกาจมากกว่าใครๆ

แต่ว่าในตอนนี้ เวินจิ้งก็หยุดอยู่ที่รู้จักมู่วี่สิงในฐานะหมอเท่านั้น

ถึงแม้เขาจะรับตำแหน่งเสนาบดีผู้ควบคุมการบริหารของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว แต่มู่วี่สิงในสายตาของเธอยังคงมีออร่าหมออยู่

แต่ว่าตอนนี้ ทั้งหมดทุกสิ่งทุกอย่างไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว

เขาเป็นหัวหน้า และระยะห่างของเธอก็เหมือนจะยิ่งไกลมากยิ่งขึ้น

ไม่ได้หยุดเดินอีกต่อไปแล้ว เวินจิ้งรีบขึ้นไปบนบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป

แต่ตอนที่เพิ่งเดินเข้าไปในลิฟต์ มู่วี่สิงก็กลับเดินตามเข้ามาแล้ว

ข้างกายของเขายังมีผู้บริหารระดับสูงอีกมากมาย ทุกคนล้วนระมัดระวัง

เห็นเวินจิ้ง สายตาของผู้ชายนั้นก็ตกตะลึง

มู่วี่สิงเดินเข้ามาแล้ว คนอื่นก็ไม่กล้าเข้ามาแล้ว

ลิฟต์ในขณะนั้นมีแค่มู่วี่สิงและเวินจิ้งเท่านั้น

พื้นที่เล็กๆ เวินจิ้งรู้สึกได้ถึงกลิ่นบนร่างกายที่คุ้นเคยของเขาอย่างชัดเจน

เหมือนกับว่าฝังอยู่ในกระดูก

เห็นมู่วี่สิงเหมือนจะเคลื่อนตัวมาทางเธอ เวินจิ้งก็ถอยหลัง โดยทันที “คุณอย่าเข้ามา ”

ได้ยินเสียง ผู้ชายคนนั้นถึงมองมาที่เธอ

อารมณ์ที่ลึกซึ้งในดวงตานั้นทำให้คนมองไม่ออก

“คุณยังไม่ได้กดลิฟต์ ” มู่วี่สิงพูดเตือน

เวินจิ้งเขินๆ เพิ่งรู้ว่ามู่วี่สิงจะกดลิฟต์……

“ไม่มีเรื่องอะไรจะพูดกับผม? ” มองเวินจิ้งที่ตื่นเต้นเล็กน้อย มู่วี่สิงก็กลับเข้าใกล้เธอ

“ประธานมู่อยากให้ฉันพูดอะไร? ” เวินจิ้งมองเขาอย่างไร้เดียงสา

“เมื่อตอนอยู่หน้าประตูเมื่อกี้ไม่ใช่มองผมตลอดเหรอ? ” มู่วี่สิงฉีกยิ้ม

ก็ประมาณห้านาที

เวินจิ้ง : ……

“คุณตันทางแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะเดินเข้าไป ” เวินจิ้งหาข้ออ้างไปเรื่อย

“เหรอ? ” มู่วี่สิงเลิกคิ้ว กลับเข้าใกล้เวินจิ้งมากไปอีก แขนยาวยกขึ้นมา เขาดึงเธอเข้ามาไว้ในอ้อมกอด

รอบๆตัวล้วนเป็นลมหายใจของมู่วี่สิง คางของเวินจิ้งถูกเขาเชยคางขึ้นมา ทันใดนั้น เธอก็สบตาเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้

“มู่วี่สิง คุณปล่อยฉัน ” สายตาของเวินจิ้งกลับเปลี่ยนเป็นโกรธ

เธอไม่อยากใกล้เขามากเกินไป……

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท