Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 337

ตอนที่ 337

บทที่337 ไม่มีการป้องกันสักนิด

ช่วงนี้ บริษัทมู่วี่สิงเป็นที่สนใจของผู้คน

เดิมทีบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปไม่ได้มีชื่อเสียงและอำนาจที่ยิ่งใหญ่เท่าไรในเมืองหนานเฉิง แต่ไหนแต่ไรมาจัดการทำงานอย่างเงียบๆ แต่ว่ายาสามตัวใหม่ที่ออกมาวางขายในช่วงนี้เกือบจะถูกผูกขาดในตลาดทั้งหมด เป็นที่ดึงดูดผู้คนใหม่แตกตื่น

บริษัทฉินซื่อกรุ๊ปที่ขายยาประเภทเดียวกันนั้นได้รับหารโจมตีหนักมาก จำนวนในตลาดลดลงอย่างต่อเนื่อง สถานะราคาหุ้นในตอนนี้หยุดชะงักแล้ว แม้กระทั่งกระทบถึงบริษัทแม่บริษัทฉีซื่อกรุ๊ป

ฉินเฟยมาบริษัทฉีซื่อกรุ๊ปหลายวันแล้ว แต่ว่าฉีเซินนั้นไม่ได้พบเธอเลย

เธอรออยู่ที่บริษัทฉีซื่อกรุ๊ปจนถึงตอนค่ำ และไม่ง่ายเลยที่จะขวางรถของฉีเซินไว้ได้

“มีธุระ? ” ฉีเซินขมวดคิ้ว มองดูผู้หญิงที่วิ่งออกมาขวางรถอย่างไม่สนใจอันตรายอะไร

เบรกรถอย่างกะทันหัน ฉินเฟยตกใจจนยืนอยู่ไม่นิ่งตั้งนานแล้ว

วิ่งโซซัดโซเซเข้าไป เธอดึงประตูที่นั่งฝั่งข้างคนขับออก “ฉีเซิน คุณต้องช่วยบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป ”

ตอนนี้ยาที่ขายดีที่สุดของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปเกือบจะขาดหายไปจากตลาดแล้ว อยู่ในสถานะขาดทุนทุกวัน ถ้าเป็นในรูปแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ไม่ช้าก็เร็วบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปก็ต้องล้มละลายแน่!

ได้ยินอย่างนั้น สีหน้าของฉีเซินนิ่งลง ปรายตาลืมขึ้น “ช่วยไม่ได้ ”

ครั้งนี้มู่วี่สิงโจมตีบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปอย่างเห็นได้ชัด และพวกเขาไม่มีการป้องกันอะไรไว้เลย

เขาประเมินค่ามู่วี่สิงต่ำไป

หมอคนหนึ่งที่ทำได้เพียงช่วยชีวิตคนไข้ ยังมีความสามารถในด้านการตลาดด้วยเหรอ?

เขาเพิ่งสติกลับคืนมาได้ ไม่เคยสนใจมู่วี่สิงมาก่อน

“เป็นไปไม่ได้ บริษัทฉีซื่อกรุ๊ปก็มียาตัวใหม่ที่จะวางขายอยู่ไม่ใช่เหรอ? คุณเอายาตัวใหม่ส่งมาให้บริษัทฉินซื่อกรุ๊ป ขอแค่จำนวนยอดขายเพิ่มขึ้นมาแล้ว ก็ช่วยบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปได้แล้ว หรือ……คุณให้เงินทุนกลับบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปนิดหน่อย ”

“ผมให้เงินทุนกับพวกคุณไปไม่น้อยแล้ว ตอนนี้บริษัทฉีซื่อกรุ๊ปเองก็ยากที่จะรับมือ คุณคิดว่าผมจะต้องช่วยคุณ? ” ฉีเซินพูดอย่างเย็นชา

เขาไม่มีความรู้สึกใดๆกับฉินเฟย ที่ช่วยบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปไว้ก็เพราะว่าตอนแรกจะต้องแต่งงานกับฉินเฟยดังนั้นถึงได้ซื้อมา

แต่ตอนนี้สำหรับเขาแล้ว บริษัทฉินซื่อกรุ๊ปไม่มีค่ามาตั้งนานแล้ว

แม้กระทั่งเป็นการดึงบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปให้อยู่มาเรื่อยๆ

เขาพูดเสียงต่ำว่า “บริษัทฉินซื่อกรุ๊ปหลบหนีการล้มละลายไม่ได้ ”

“ไม่——” สีหน้าของฉินเฟยขาวซีด ไม่มีทาง

“คุณจะทำยังไงถึงจะยอมช่วยบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป? ” ฉีเซินในตอนนี้ เป็นคนเดียวที่สามารถจะช่วยเธอได้

ได้ยินอย่างนั้น ฉีเซินมองที่เธอ ส่ายหัว “คุณเป็นหมากรุกตัวหนึ่งที่ไร้ประโยชน์แล้ว ไสหัวไป ”

ฉินเฟยถูกผลักลงจากรถ รถเก๋งขับผ่านเท้าของเธอไป เธอเจ็บจนเข้าไปในกระดูก

น้ำตาค่อยๆไหลออกมาจากดวงตา สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เธอลุกขึ้น ขวางรถแท็กซี่และมุ่งไปที่บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป

ห้องประชุมของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ในตอนนี้

ในการประชุมผู้ถือหุ้น มู่วี่สิงดำรงตำแหน่งเสนาบดีผู้ควบคุมการบริหารบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปต่ออย่างไม่มีความเป็นห่วงใดๆ มู่เหิงที่เป็นรองเสนาบดีผู้ควบคุมการบริหารไม่เข้าร่วมการประชุม

กลับถึงสำนักงาน เกาเชียนเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว

“ประธานมู่ มหาวิทยาลัยหลินไห่ทางนู้นส่งคำเชิญมา หวังว่าอาทิตย์นี้ท่านจะสามารถจัดกิจกรรมการบรรยายได้ ”

เมื่อได้ยิน มู่วี่สิงก็ขมวดคิ้ว ในหัวสมองคิดถึงสีหน้าท่าทางที่เย็นชาของเวินจิ้งที่ลงจากรถเมื่อวานซืน

เขานวดๆหัวคิ้ว “เอามาให้ผมดูหน่อย ”

เกาเชียนยื่นเอกสารออกไป สิ่งสำคัญของการบรรยายก็คืออาชีพแพทย์ระบบประสาทและสมองของมู่วี่สิงในอดีตและการประสบความสำเร็จในด้านอุตสาหกรรมการแพทย์ และมหาวิทยาลัยหลินไห่ยังอยากจะให้มู่วี่สิงมาเป็นศาสตราจารย์พิเศษของโรงเรียน และมาร่วมสอนหนังสืออีกด้วย

แต่ก่อนก็ไม่ใช่ว่าไม่มีคำเชิญแบบนี้ แต่ว่าเขาเททั้งแรงกายแรงใจให้โรงพยาบาลอย่างเดียว และก็ไม่อยากที่จะแบ่งใจไปทำเรื่องอื่นๆด้วย

แต่ว่าตอนนี้ บริษัทมู่วี่สิงทั้งหมดได้ขึ้นมาในตลาดแล้ว ยาตัวใหม่ยังคงค้นคว้าวิจัยอยู่ แต่ว่าไม่มีอะไรที่จะต้องทำให้เขาเป็นกังวลมากมาย

“หาเวลาให้ผมได้พูดคุยกับคณบดีหน่อย ”

เกาเชียนรับคำสั่ง ตรวจสอบตาราง มีแค่วันนี้ตอนบ่ายเท่านั้นถึงมีเวลา

“งั้นก็วันนี้ ”

ในเวลานี้ เคาน์เตอร์ชั้นล่างรายงานว่า ฉินเฟยมาแล้ว

“ให้เธอขึ้นมา ”

ในห้องทำงาน มู่วี่สิงนั่งบนโซฟาอย่างสง่างาม ออร่าที่แข็งแกร่งแพร่ออกมาทั่วร่างกาย

“ประธานมู่ ” ฉินเฟยมีความกลัวมู่วี่สิงนิดหน่อย

ถึงแม้เขาจะแสดงท่าทางที่สง่างามและอ่อนโยนออกมามากพอสมควร แต่วิธีการของเขานั้นทำให้เธอกลัว

“คุณเอายาที่ขายดีที่สุดของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปขายให้ฉัน เป็นการจงใจที่จะทำลายบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปใช่ไหม? ” ฉินเฟยไม่พูดอ้อม พูดตรงเข้าประเด็น

“ผมจำได้ ตอนนั้นเป็นคุณผู้หญิงฉินเองนะที่บุกมาพูดเรื่องการซื้อขายกับผม ” มู่วี่สิงพูดอย่างนิ่งๆ

“ใช่ แต่ว่าไม่นานบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปก็วางแผงยาที่มีประเภทคล้ายกัน ยาที่ยาดีที่สุดในตอนนี้ไม่มีวางแผงขายในตลาดตั้งนานแล้ว ”

“ดังนั้น คุณผู้หญิงฉินอยากจะพูดอะไร? ”

“คุณต้องการที่จะทำลายบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป ที่คุณทำอย่างนี้……เป็นเพราะเวินจิ้งใช่ไหม? ” ฉินเฟยถาม

“เวินจิ้ง? ผมกับเธอไม่มีความสัมพันธ์อะไรกันแล้ว คุณฉิน อย่ามาพูดมั่ว ” มู่วี่สิงขมวดคิ้วและพูดอย่างไม่พอใจ

สีหน้าของฉินเฟยค่อยๆซีดลงมา เธอไม่เชื่อว่าสองคนนี้จะไม่มีความสัมพันธ์ต่อกัน!

“ถ้าคุณจะมาตำหนิต่อว่าผมล่ะก็ ก็เชิญกลับไปได้แล้ว ” สีหน้าของมู่วี่สิงปรากฏขึ้นมา

ฉินเฟยกัดริมฝีปากไว้แน่น สายตาท่าทางไม่พอใจ อาฆาตพยาบาท

“บริษัทฉินซื่อกรุ๊ปจะไม่มีทางล้มเพราะเรื่องนี้แน่นอน! ”

มู่วี่สิงสั่งให้เกาเขียนส่งแขก ให้ออกไปจากบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปแล้ว ฉินเฟยเพิ่งพบว่าโทรศัพท์มีหลายสายที่ไม่ได้รับ

“พ่อ? ”

“สวัสดีค่ะ ขอถามหน่อยค่ะ ใช่คนในครอบครัวของฉินเจิ้งไหมคะ? คุณฉินโรคหัวใจกำเริบ ตอนนี้อยู่ในห้องฉุกเฉิน……”

“อะไรนะ? ฉันจะไปเดี๋ยวนี้……”

……

เวินจิ้งเรียนตอนบ่ายเสร็จ ว่าจะกลับไปที่หอพัก

หลิงเหยาโทรหาเธอ ให้เธอไปโรงยิมทันที

“ไปที่นั่นทำไม? ”

“ไม่ต้องถามเยอะ ยังไงซะมันเป็นเรื่องที่ดี เร็วๆ! ”

เวินจิ้งขมวดคิ้ว ยังไม่ทันได้ถึงโรงยิม ที่นั่นก็มีเสียงผู้คนมากมาย

หลิงเหยาแหวกกลุ่มผู้คนออกมา ดึงเวินจิ้ง “คุณรู้ไหมว่าวันนี้ใครมามหาวิทยาลัยหลินไห่แล้ว? ”

“ใคร? ” เวินจิ้งไม่มีความสนใจใดๆ

“มู่วี่สิงอา! สุดสัปดาห์นี้เขาจะมาทำการบรรยายนะ ตอนบ่ายมาพบคณบดีแล้ว! ”

เวินจิ้ง : ……

เธอรีบออกไป

“เหยาเหยา ฉันกลับแล้วนะ ”

“รอแป๊บหนึ่งมู่วี่สิงก็ออกมาแล้ว คุณไม่รอมาเจอเขาสักหน่อยเหรอ? ”

“ฉันไม่อยากเจอเขา ”

หลิงเหยาขมวดคิ้ว ดูเหมือนว่าเวินจิ้งจะเด็ดเดี่ยวกับการตัดความสัมพันธ์กับมู่วี่สิงให้ชัดเจนจริงๆ

เดิมทีเธอยังไม่เชื่อ……

อีกอย่างมู่วี่สิงฉลาดและหล่อเหลาอย่างนั้น มีผู้หญิงคนไหนบ้างที่ไม่ชอบ……

“โอเคโอเค งั้นก็ไม่เจอ แต่ว่าฉันได้ยินข่าวมาว่าคณบดีอยากจะให้เขามาเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยหลินไห่นะ คุณก็รู้ว่าเขาเป็นหมอประสาทและสมอง ถ้าได้สอนล่ะก็ ไม่แน่ว่าก็จะเป็นอาจารย์ของคุณแล้ว……”

ได้ยินคำพูดนั้น สีหน้าที่เย็นชาของเวินจิ้งก็มีอารมณ์ขึ้นมา

มู่วี่สิงมาสอน?

บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปน่าจะยุ่งมากๆนะ เขาคงหาเวลาออกมาไม่ได้ เวินจิ้งปลอบตัวเองอย่างนี้ ยังไงซะมู่วี่สิงก็ไม่มีทางมาแน่นอน!

แต่ว่า สัปดาห์นี้เขามาบรรยายที่โรงเรียน ก็เป็นเรื่องที่ตอกตะปูไว้บนกระดานแล้วเปลี่ยนแปลงไม่ได้

เรื่องนี้ถูกแพร่หลายในโรงเรียน นักเรียนทุกคนตื่นเต้นเป็นอย่างมาก

ตอนกลางคืน หลิงเหยาได้รับสายโทรศัพท์จากพี่ชาย

“ช่วงนี้เวินจิ้งสบายดีไหม? ”

หลิงเหยาพูดเสียงต่ำ เงยหน้ามองเวินจิ้งที่ตั้งใจอ่านหนังสืออยู่ฝั่งตรงข้าม

ก็เหมือนจะดีอยู่นะ……

ก็ไม่มีอะไรผิดปกติไป……

“แล้วทำไมพี่ไม่โทรไปหาเธอเอง ”

“พี่ไม่มีเบอร์ของเธอ ”

หลิงเหยา : ……

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท