Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 338

ตอนที่ 338

บทที่338 ก็อยู่ข้างเธอ

“พี่ไม่ได้จีบเธออยู่เหรอ? เบอร์ก็ไม่มี น่าโมโหจริงๆเลย! ”

“เธอก็อาจจะไม่อยากรับสายของพี่ก็ได้ ”

“พี่ พี่นี้น่าสงสารจริงๆ แต่ว่าฉันว่าพี่มีโอกาสแน่นอน ตอนนี้เวินจิ้งตัดความสัมพันธ์กับมู่วี่สิงอย่างชัดเจนแล้วนะ! ”

“หมายความว่าไง? ”

“ก็เหมือนกับที่พูดไป อาทิตย์นี้มู่วี่สิงมาบรรยายที่โรงเรียน เวินจิ้งก็ไม่ไป ไม่มีความสนใจแม้แต่นิดเดียว งั้นก็แสดงว่าใจได้ตายไปจากเขาจริงๆแน่นอน ”

หลิงอี้นิ่งเงียบ มีบางครั้งที่หลบหนีคนคนหนึ่ง ก็เป็นเพราะว่ายังวางคนนั้นไม่ลงก็ได้นะ

“มู่วี่สิงจะมาบรรยาย? แต่ก่อนเขาเกลียดการเปิดเผยหน้าในที่สาธารณะมากที่สุด ” หลิงอี้ขมวดคิ้ว

แต่ว่าครั้งนี้เขากลับตอบตกลงแล้ว?

“ดูเหมือนว่าก็เป็นความจริง แต่ก่อนเขานิ่งเงียบ แต่ว่าเขาไม่เพียงแต่มาทำการบรรยายที่โรงเรียนเท่านั้น ทั้งยังดูเหมือนว่าจะถูกเชิญมาสอนด้วย……”

“พี่รู้แล้ว ” หลิงอี้วางสายโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว

ผ่านไปไม่นาน ผู้ช่วยเดินเข้ามาในห้องทำงาน

“ประธานหลิง วันนี้ตอนเช้าบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปได้ประกาศล้มละลายแล้ว ”

ได้ยินคำพูดนั้น หลิงอี้เปลี่ยนสีหน้า “ฉีเซินไม่ได้ช่วย? ”

“ตอนนี้บริษัทฉีซื่อกรุ๊ปก็ไม่ดี ตลาดยาไม่น้อยของบริษัทฉีซื่อกรุ๊ปมีอัตราลดลงมากอย่างรวดเร็ว บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปยังมียาตัวใหม่ที่จะวางขายในตลาด ล้วนเป็นการโจมตีบริษัทฉีซื่อกรุ๊ปโดยตรง ”

หลิงอี้เลิกคิ้ว บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปรอบรู้เรื่องนี้มากนะ……

……

มู่วี่สิงออกจากโรงเรียนก็เป็นเวลาสายแล้ว เมื่อออกมา นักเรียนไม่น้อยล้อมรอบเข้ามาเรื่อยๆ

และพอดีที่เวินจิ้งถูกศาสตราจารย์ไป๋เรียกมาพอดี มองเห็นผู้ชายที่ถูกล้อมอยู่ตรงกลางมาตั้งแต่ไกล

เขาเป็นคนที่โดดเด่นมาตลอด ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขานั้นสะดุดตามาก และเผยด้านที่สง่างามและอ่อนโยนออกมา

แต่ตอนนี้เธอก็กลับยิ่งรู้สึกไม่รู้จักเข้าใจเขาขึ้นไปอีก

จงใจเดินอ้อมแล้วเข้าตึกไป สายตาของมู่วี่สิงนั้นก็ไปสะดุดที่ร่างกายของเวินจิ้ง

ขมวดคิ้ว เขาไม่ได้พักอยู่อีกต่อไป

เวินจิ้งมองแผ่นหลังที่ยาวของเขา ยากที่จะละสายตาออกไปได้แล้ว……

……

ผ่านไปพริบตาก็เป็นวันศุกร์แล้ว วันนี้สำหรับนักเรียนของมหาวิทยาลัยหลินไห่นั้น เต็มไปด้วยการตั้งตารอคอย

ช่วงนี้บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปเป็นที่นิยมอย่างมาก เดิมทีมู่วี่สิงก็เป็นคนสูงส่ง และช่วงนี้ยังประสบความสำเร็จในได้การค้นคว้ายาตัวใหม่อีกด้วย การบรรยายในครั้งนี้ได้รับความสนใจจากนักเรียนในโรงเรียนเป็นอย่างมาก

หลิงเหยาวางแผนที่จะไปจองที่นั่งในห้องบรรยายก่อน เห็นเวินจิ้งที่ไม่ได้แยแสอะไร เธอเดินเข้าไป “เวินจิ้ง คุณจะไม่ไปฟังการบรรยายของมู่วี่สิงจริงๆเหรอ? ”

เวินจิ้งส่ายหัว “ฉันไม่มีความสนใจ ”

“จริงป่ะ? คุณคงไม่ใช่เป็นเพราะเพื่อที่จะหลบหน้ามู่วี่สิงถึงไม่ไปใช่ไหม ”

“ไม่ใช่……” คำพูดของเธอ แม้แต่ตัวเธอเองก็ยังไม่เชื่อ

เพื่อที่จะหลบหน้ามู่วี่สิงจริงๆ แต่ในความเป็นจริง เธออยากไปมากๆ

“ก็ได้ ไม่ไปก็ไม่ไป แต่ว่าเขาเป็นศาสตราจารย์ประสาทและสมองนะ คุณเป็นนักเรียนภาควิชาระบบประสาทและสมอง ไม่ไปฟังก็คงน่าเสียดายแย่ ”

คำพูดของหลิงเหยาวนอยู่ในหัวไม่ออกไปไหน

เวินจิ้งมองหนังสือที่อยู่ตรงหน้า ค่อยๆกลายเป็นท่าทางของมู่วี่สิง

จับผมอย่างร้อนอกร้อนใจ เวินจิ้งเปลี่ยนเสื้อผ้า แบกกระเป๋าออกไปด้านนอก

เมื่อตอนที่เธอมานั้นก็สายไปซะแล้ว ด้านในและด้านนอกของห้องบรรยายเต็มไปด้วยนักเรียน ด้านในไม่มีที่นั่งเหลือตั้งนานแล้ว

มู่วี่สิงยังไม่มา เวินจิ้งเดินวนไปมา ทางเข้าประตูเต็มไปด้วยคน ไม่มีทางที่จะเข้าไปได้

ดูเหมือนว่า จะฟังการบรรยายไม่ได้แล้ว

วางแผนที่จะกลับ หันไปเห็นศาสตราจารย์ไป๋เดินมาพอดี

“เวินจิ้งอา มาฟังการบรรยายเหรอ? ”

“ใช่ค่ะ แต่ว่าคนเยอะเกินไป……” เวินจิ้งขมวดคิ้ว

“คุณตามอาจารย์มาเถอะ ด้านข้างอาจารย์มีที่นั่งอยู่ ”

เดิมทีเวินจิ้งโล่งใจแล้ว แต่ว่าตอนนี้ไป๋สือพาเธอเข้าไป เธอกลับรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาแล้ว

แต่ว่าห้องบรรยายมีคนตั้งเยอะแยะมากมาย มู่วี่สิงคงไม่เห็นเธอหลอกมั้ง?

แต่คิดไม่ถึงว่า ที่นั่งไป๋สือกลับอยู่แถวแรกสุด……

เดิมทีที่นั่งข้างเขาเป็นที่นั่งของคณบดี แต่ว่าคณบดีไปราชการด้านนอกชั่วคราว

“ช่วงนี้ในเรื่องการวิจัยค้นคว้ายาของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปนั้น คุณรู้สึกว่ายังไงบ้าง? ” ไป๋สือถาม

ปัจจุบันเวินจิ้งเป็นนักเรียนคนเดียวที่เขาดูแล ใส่ใจเธอเป็นอย่างมาก

อีกทั้ง เขาก็มองเด็กคนนี้ไว้ดีแล้ว

“ทีมการค้นคว้าวิจัยของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปนั้นเป็นสุดยอดของหนานเฉิง ฉันได้เข้าร่วมแล้ว ได้เรียนรู้อะไรได้มากมาย ”

“อืม การค้นคว้าวิจัยที่สำคัญตอนนี้ของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปก็คือยาประสาทและสมอง คุณก็สามารถเรียนรู้กับมู่วี่สิงได้ แต่ว่าทำไมอาจารย์รู้สึกว่า ช่วงนี้พวกคุณมีอะไรแปลๆไป? ” ไป๋สือขมวดคิ้ว

ถ้าว่ามู่วี่สิงมาบรรยายที่มหาวิทยาลัยหลินไห่ เวินจิ้งที่ทำหน้าที่เป็นคุณนายมู่ก็จำเป็นต้องมีที่นั่ง แต่ว่าเมื่อกี้เธอยืนอยู่ด้านนอกตลอด

เวินจิ้งนิ่งเงียบไป ผ่านไปสักครู่ใหญ่ถึงพูดขึ้น “ศาสตราจารย์ค่ะ พวกเราหย่ากันแล้ว ”

ไป๋สือมีความตกใจนิดหน่อย สำหรับเขาแล้วตอนแรกที่มู่วี่สิงแต่งงานนั้นก็ทำให้เขามีความแปลกประหลาดใจอยู่

และอีกอย่างทั้งสองคนเพิ่งจะแต่งงานกันได้ไม่นาน

“เรื่องส่วนตัวอาจารย์ก็จะไม่ถามแล้ว แต่ว่าตอนนี้เขาเป็นศาสตราจารย์พิเศษของมหาวิทยาลัยหลินไห่ หลังจากนี้พวกคุณหลีกเลี่ยงที่จะไม่พบเจอกันไม่ได้ ”

“ฉันรู้ค่ะ ศาสตราจารย์ ” เวินจิ้งยิ้มๆ ไม่อยากให้ศาสตราจารย์กังวลใจ

ผ่านไปไม่นานมู่วี่สิงก็มาถึง เวินจิ้งหยิบสมุดขึ้นมา เกือบจะก้มหน้าจดอยู่ตลอดเวลา น้ำเสียงทุ้มต่ำจากลำคอที่ไพเราะของมู่วี่สิงเข้ามาในหู เธอเงยสายตาขึ้น ชั่วพริบตาเดียว ทั้งสองคนก็สบตากันมากกว่าครึ่งวินาที

สีหน้าของผู้ชายเคร่งขรึมนิ่งเงียบ ไม่มีความรู้สึกเกินเลยใดๆ

เวินจิ้งก้มสายตาลง สนใจเนื้อหาที่มู่วี่สิงบรรยาย

ช่วงเวลาที่มีนักเรียนถามคำถาม มีคนใจกล้าที่จะถามเรื่องส่วนตัวของมู่วี่สิง

“คุณหมอมู่ ได้ข่าวมาว่าคุณแต่งงานแล้ว ภรรยาของคุณก็มีอาชีพเดียวกันกับคุณใช่หรือไม่? ”

ได้ยินคำถาม เวินจิ้งเงยหน้าขึ้น

อยากจะรู้คำตอบของมู่วี่สิงจริงๆ

“อืม ตอนนี้เธอมีฐานะเหมือนพวกคุณ เป็นนักเรียน ”

ไป๋สือมีความประหลาดใจนิดๆ หันไปมองเวินจิ้ง สายตาลึกซึ้ง

การบรรยายได้เสร็จสิ้นลงแล้ว มู่วี่สิงเดินเข้ามาหาไป๋สือ การบรรยายจบเวินจิ้งก็จะจากไป

ไป๋สือกลับเรียกเธอไว้ “เวินจิ้ง คุณอยู่ก่อน ”

เวินจิ้งจำเป็นต้องหยุดย่างก้าวอย่างจำใจ และมู่วี่สิง……ก็อยู่ข้างๆเธอ

แค่สายตาของเขากลับไม่ได้อยู่ที่ตัวของเธอ

ทั้งสองคนพูดคุยกันเกี่ยวกับปัญหาของภาควิชา เวินจิ้งพูดแทรกไม่ได้ รอบข้างมีนักเรียนไม่น้อยที่เดินเข้ามา ล้วนอยากจะมาถามคำถามมากมายกับมู่วี่สิง

เวินจิ้งถูกกลฝูงคนเบียด แต่ข้างเธอก็คือมู่วี่สิง แค่ผลัก ก็ล้มไปทางมู่วี่สิงอย่างเป็นธรรมชาติ

ลมหายใจที่คุ้นเคยเตะเข้ามาที่จมูก แขนที่มั่นคงโอบกอดเธอ

ปรายตาขึ้น สายตาของมู่วี่สิงกำลังมองที่เธอ ขมวดคิ้วนิดหน่อย

“ทุกคนไม่ต้องเบียด หลังจากนี้ผมจะอยู่ที่โรงเรียน” มู่วี่สิงยิ้มอย่างอ่อนโยน

“แฟนคลับของคุณเยอะจริงๆ ผมไม่รบกวนคุณแล้ว ” ไป๋สือมองฝูงคน ส่ายหัวอย่างจนปัญญา และพูดต่อว่า “ดูแลนักเรียนของผมให้ดี ”

พูดประโยคนี้จบ แก้มของเวินจิ้งก็แดงก่ำขึ้นมา

คำพูดของศาสตราจารย์ไป๋นี้หมายความว่ายังไง……

“ศาสตราจารย์ ผมไปหาท่านช้าหน่อย ”

“คุณปล่อยฉันก่อน คุณหมอมู่ ” เวินจิ้งยังคงถูกเขาโอบไว้อยู่ ท่าทางไม่เป็นธรรมชาติไปทั้งตัว

มู่วี่สิงเลิกคิ้ว “คุณแน่ใจว่าคุณจะออกไปตอนนี้ได้? ”

นักเรียนที่ห้อมล้อมพวกเขา อย่างน้อยก็มีร้อยกว่าคนขึ้นไป

“อืม คุณปล่อยฉันก่อน ” เวินจิ้งพูดอีกครั้ง

มู่วี่สิงปล่อยมือจริงๆ แต่เวินจิ้งถอยหลังไปหนึ่งก้าว ก็กลับถูกฝูงคนผลัก และตกลงไปในอ้อมแขนของมู่วี่สิงอีกครั้ง

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท