Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 371

ตอนที่ 371

บทที่ 371 ปฏิเสธผู้ชายคนนี้

“ทำไมถึงมาแล้ว?” มู่วี่สิงเป็นคนเก็บอารมณ์เป็น เวลานี้มองดูเวินจิ้ง สีหน้ากลับคืนสู่ภาวะปกติแล้ว

“เกาเชียนบอกว่า คุณเก็บตัวอยู่แต่ในห้อง” เวินจิ้งพูดเสียงเบา

“หากคุณไม่เป็นไร ฉันจะกลับแล้ว” เวินจิ้งรู้สึกละอายเล็กน้อย หันตัวกำลังจะออกไป

แต่มู่วี่สิงเร็วกว่าได้จับข้อมือเธอไว้ได้ทัน เวินจิ้งล้มเอนไปพิงในอ้อมอกของเขาโดยไม่ทันตั้งตัว

ตรงหน้า ใบหน้าที่หล่อเหลาและน่าหลงใหลของเขา

หัวใจเธอเต้นเร็วมาก…

“เป็นห่วงฉันเหรอ?” น้ำเสียงของมู่วี่สิง คือมั่นใจ

เวินจิ้งก็ปิดบังอารมณ์ได้ไม่มิด ได้เขียนไว้บนหน้าแล้ว

“เธอคิดว่า ฉันจะเกิดอะไรขึ้น?” มู่วี่สิงมองเธอ

เวินจิ้งส่ายหน้าอย่างไม่ลังเล

มู่วี่สิงที่เธอรู้จัก มีประสิทธิภาพ และมีความแข็งแกร่งมากพอ

เธอไม่เคยได้เห็นในมุมอ่อนแอของเขา

เธอไม่เคยเชื่อ ว่าเขาจะมีมุมอ่อนแอ

“งั้นก็ใช่แล้ว เพื่อเธอ ฉันไม่ให้ตัวเองเกิดอะไรขึ้นหรอก”

คำพูดนี้ ราวกับว่าได้กระแทกเข้าไปในหัวใจที่นุ่มนวลของเวินจิ้ง

คำพูดที่ต้องการพูดก็ถูกกลืนลงไปทันที

“ฉันสำคัญมากเลยเหรอ?” เธอมองเขา

“สำคัญมาก” มู่วี่สิงจับศีรษะหลังของเธอ แล้วผลักเธอไปที่ประตู ตามด้วยจูบที่คุ้นเคย

แต่ครั้งนี้ เวินจิ้งหยุดเขาไว้

“อย่าจูบไม่เรื่อย” น้ำเสียงของเธอเรียบเฉย

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ความเย็นชาในสายตาของมู่วี่สิงแทบจะทะลักออกมา

น้ำหนักในมือยิ่งเพิ่มขึ้น

เวินจิ้งผลักเขาออกไม่ไหว แต่เธอกลับต่อต้าน

ไม่ชอบความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจน ที่เกิดขึ้นกับมู่วี่สิงแบบนี้

เขาไม่รู้…ว่าจะตามใจตัวเอง?

“เธอคือผู้หญิงของฉัน” ปลายนิ้วเรียวยาวบีบคางของเวินจิ้งไว้ สายตาของมู่วี่สิงลึกซึ้งและลุกไหม้

แต่เวินจิ้งมีสติมาก

มีสติจำเป็นต้องให้ตัวเองปฏิเสธ

ปฏิเสธผู้ชายคนนี้!

“ฉันไม่ใช่ คุณมู่ได้โปรดระวังคำพูดของตัวเองด้วย ฉันไม่ใช่ภรรยามู่แล้ว” เวินจิ้งพูดทีละคำ

“งั้นเหรอ?” สายตาของมู่วี่สิงหรี่ลงอย่างอันตราย

ในเวลานี้ เวินจิ้งรู้สึกกลัวเล็กน้อย

ผู้ชายตรงหน้านี้ ทรงพลังมาก

เธอไม่เคยเห็นด้านที่รุนแรงของเขา แต่ตอนนี้ เหมือนว่าจะมีแนวโน้มดังกล่าว

เธอใช้แรงต่อต้านมากยิ่งขึ้น

แต่มู่วี่สิงกลับปิดประตู ยิ่งไปกว่านั้น ยังล็อคประตู

ทั่วห้องทำงาน มีเพียงสองคน

เขานำเธอไว้ในอ้อมแขนของตัวเอง วินาทีต่อมา ดันไปตรงโซฟา

“มู่วี่สิง!” เวินจิ้งถลึงตาใส่เขาด้วยความโกรธ

“เด็กดี เรียกสามี” น้ำเสียงของมู่วี่สิงอ่อนโยนลง

กลับยิ่งทำให้เวินจิ้งรู้สึกหวาดกลัว

“ไม่…” เธอส่ายหัวตลอด

แต่มู่วี่สิงได้คล่อมตัวเธอไว้ ก้มศีรษะลงกัดไปที่ลำคอของเธอ

เพียงครู่เดียว เวินจิ้งตัวสั่นไปหมด รับรู้ได้ถึงอุณหภูมิในฝ่ามือของเขาที่เคลื่อนไหวบนผิวของเธอ

เขาต้องการทำอะไร! เธอชัดเจนดี!

น้ำตาในดวงตา เธอพยายามใช้แรงผลักเขาออก

“มู่วี่สิง คุณออกไป…”

ไอ้น้ำตาบ้าก็มาหยดลงบนหลังมือของเขา ผู้ชายหยุดชะงัก เงยหน้าขึ้น เวินจิ้งได้น้ำตานองหน้าแล้ว

เขาหยุดการกระทำ

เปลวไฟในดวงตาเหมือนถูกน้ำเย็นดับทันที

ขณะที่นั่งขึ้นมา เวินจิ้งพยายามอย่างสุดความสามารถหนีออกจากอ้อมแขนของเขา

สายตาผิดหวังมาก

“สารเลว!” พูดคำที่โกรธอออกไป เวินจิ้งรีบวิ่งออกไป

เธอบ้าไปแล้วที่ไปเป็นห่วงเขา จึงวิ่งออกมาจากบริษัทมู่ซื่อ

คำพูดนั้นมันยังคงวนเวียนอยู่รอบๆหูของมู่วี่สิง สีหน้าของเขายับยู่ยี่ วินาทีต่อมา หยิบกุญแจรถแล้วไล่ตามไป

เวินจิ้งได้วิ่งออกจากบริษัทมู่ซื่อแล้ว น้ำตาก็ไหลลงมาไม่หยุด ทำให้สายตาของเธอพร่ามัว

ณ เวลานี้ เธอไม่รู้ว่าตัวเองจะไปไหน แต่ว่า อยู่ให้ไกลจากมู่วี่สิงได้มากเท่าไหร่ยิ่งดี

ทันใดนั้น มีเสียงแตรดังเข้ามาในหู ฝีเท้าของเวินจิ้งได้หยุดชะงักลง เมื่อหันไป รถคันสีขาวได้พุ่งมาอย่างรวดเร็ว

ระหว่างสติหลุด ได้มีมือข้างหนึ่งยื่นมา ใช้แรงดึงเธอไปอีกฝั่ง และรถได้เคลื่อนผ่านกระโปรงเธอไป เวินจิ้งตกใจจนยืนไม่ไหว ขาอ่อนแทบจะล้มลง

มู่วี่สิงกอดเธอไว้อย่างมั่นคง

“เวินจิ้ง มองทางด้วย!” มู่วี่สิงดุใส่เธอ

เมื่อเวินจิ้งได้สติ สีหน้าขาวซีดมาก

มองดูใบหน้าที่หล่อเหลาของมู่วี่สิง สายตาที่เป็นห่วงของเขาปิดไม่มิด

เขากลัวเหรอ?

เวินจิ้งหัวเราะออกมาอย่างกะทันหัน

มู่วี่สิงผู้ใจเย็น ก็กลัวเป็นเหรอ?

“ยิ้มอะไร?” เขาโอบเธอเดินไปยังทางเดินทางเท้า

“ไม่มีอะไร ถ้าหากเมื่อกี้ฉันถูกชนตาย คุณจะเป็นยังไง?” เวินจิ้งถามทันที

ผู้ชายตรงหน้าคนนี้ จะเสียใจไหม?

เมื่อได้ยินที่พูด มู่วี่สิงกลอกตา

อยากจะโกรธ แต่เมื่อได้สบตาของเวินจิ้งแล้ว ก็พูดไม่ออก

เป็นเวลานาน เขาถึงจะพูดเบาๆ: “ฉันต้องเจ็บปวดจนไม่อยากมีชีวิตอยู่”

เวินจิ้งยังคงยิ้ม แต่ยิ้มไปยิ้มมา น้ำตาก็ไหลลงมา

คุณไม่ชอบฉันจริงๆเหรอ?” เธอคว้าคอเสื้อของเขา

ถ้าหากไม่ชอบเธอ ทำไมต้องมีอารมณ์แบบนี้

เขาสามารถเพิกเฉยได้อย่างสมบูรณ์ ไม่ใช่เหรอ?

เมื่อได้ยินเช่นนี้ มู่วี่สิงมองเธอ และไม่ได้ตอบ

เขาอุ้มเธอขึ้นมา เดินไปยังรถคันสีดำที่จอดอยู่อีกฟาก

“เธออยากฟังคำตอบอะไร?” เขาถามเธอ

เวินจิ้งกระพริบตามองเขา ตอนที่เขาช่วยเธอรัดเข็มขัดนิรภัยนั้น ทันใดนั้นเธอก็โอบคอของเขาไว้ ก้มหัวแล้วจูบอย่างดูดดื่ม

มู่วี่สิงรีบเปลี่ยนการกระทำ เริ่มรุก

ทั้งสองคนจูบกันอย่างลืมตัว

ผ่านไปเนิ่นนาน ไม่มีทีท่าว่าจะแยกจากกัน

ครึ่งชั่วโมงหลัง รถได้จอดตรงทางเข้าโรงพยาบาล

“ฉันกลับไปที่วิทยาลัยเอง”

เวินจิ้งผลักประตูลงจากรถ

มู่วี่สิงกลับจับข้อมือเธอไว้ ไม่ยอมให้เธอดิ้น

“อยู่กับฉันก่อน” น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนมาก

เวินจิ้งมองดูหน้าข้างๆของเขา แต่ก็ผลักออก

มู่วี่สิงเม้มริมฝีปากบาง เห็นว่าเวินจิ้งจะโบกเรียกแท็กซี่ เขาได้ลากเธอเข้ามาในรถ แล้วล็อคไว้

“รอฉันก่อน”

สิ้นเสียง เขาก็รีบเดินไปในโรงพยาบาล

ไม่ได้ขึ้นไปเยี่ยมมู่ซือซือ เขาเดินไปที่ห้องทำงานของโรงพยาบาล

“คุณหมอมู่” น้ำเสียงของอีกฝ่ายสุภาพ

“สถานการณ์ของฉีเซิน นายพูดให้ฉันฟังหน่อย”

มู่วี่สิงมองดูใบตรวจ แล้วก็ฟังคำชี้อแจงไปด้วย

ฉีเซินร่างกายช้ำนอกหลายที่ เขาได้ไปขอให้ออกใบรายงานการบาดเจ็บด้วยตัวเอง มู่วี่สิงมองดู สายตายิ่งอยู่ยิ่งลึก

หลักฐานชิ้นนี้ เป็นที่น่ารังเกียจอย่างยิ่งต่อมู่ซือซือ

แต่ว่าเขามองออก สำหรับสถานการณ์ร่างกายของมู่ซือซือ เป็นไปไม่ได้ที่จะทำร้ายฉีเซินได้หนักขนาดนี้

ครึ่งชั่วโมงต่อมา มู่วี่สิงออกจากโรงพยาบาล

นั่งเข้าไปในรถ อารมณ์ของเวินจิ้งนิ่งมาก

“ส่งเธอกลับวิทยาลัย”

“ค่ะ” น้ำเสียงของเวินจิ้งเย็นชา

ทั้งสองคนไม่มีคำพูดตลอดทาง จนกระทั่งรถจอดลง

มองดูเวินจิ้งลงจากรถ และปิดประตู ในที่สุดร่างผอมบางก็ลับตาไป

เขาเอนหลังพิงเก้าอี้ ยังไม่ได้ไปไหน

เวลาหลายคืน เขาก็ใช้เวลาเช่นนี่

สามวันต่อมา โรงพยาบาล

การฟื้นตัวของฉีเซินดีขึ้น เดี๋ยวก็ได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ทันใดนั้นร่างของมู่เหิงก็ปรากฏตัวที่ห้องผู้ป่วย

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท