Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 373

ตอนที่ 373

บทที่ 373 ผมจะแตะต้องเธอ

“ที่นี่มีคนไหม?” มู่วี่สิงตรงมาลากเก้าอี้ข้างๆ

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เพื่อนทั้งสองคนตรงหน้าก็ตกตะลึง เมื่อเห็นมู่วี่สิงเดินมา ทันใดนั้นก็รู้สึกประหม่าเล็กน้อย แต่สิ่งที่มากกว่าคือเคารพบูชา

“ประธานมู่ ตอนนี้ไม่มีคนนั่ง” มีเพื่อนคนหนึ่งเอ่ยปาก

สังเกตถึงกลิ่นอายของมู่วี่สิง เวินจิ้งกัดริมฝีปาก รู้สึกประหม่าเล็กน้อย

สุดท้ายเธอก็ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา เพื่อนทั้งสองได้สนทนากับมู่วี่สิง และถามถึงเวินจิ้งเป็นครั้งคราว เธอถึงจะสามารถเข้าร่วมการสนทนาได้

จนกระทั่งอาหารของมู่วี่สิงถูกเสิร์ฟมา

ได้สั่งก๋วยเตี๋ยวไก่ฉีกเหมือนของเวินจิ้ง

ไม่เอาเผ็ด ซีอิ๊วเยอะ

นี่ไม่ใช่รสชาติที่มู่วี่สิงชอบ…

เวินจิ้งขมวดคิ้ว อยากจะเพิกเฉย

แต่เพื่อนตรงข้ามสังเกตพบ พูดอย่างไม่คาดคิด “รสนิยมของประธานมู่และเวินจิ้งเหมือนกัน!”

มู่วี่สิงยกมุมปากขึ้นบางๆ “ก็ไม่เลว”

เวินจิ้ง: …

เธอไม่ยักจะรู้ว่ามู่วี่สิงก็หันมาชอบรสชาติแบบนี้แล้ว เขาชอบจืดๆหน่อย พวกซีอิ๊วเหล่านี้แทบจะไม่วางไว้บนโต๊ะให้เห็น

แต่ตอนนี้…

เวินจิ้งไม่ได้คิดอะไรมาก อยากรีบกินให้เสร็จแล้วขึ้นไปข้างบนก่อน

เพื่อนทั้งสองถามมู่วี่สิงแต่เรื่องความรู้ในอาชีพของเขาตลอด เวินจิ้งทานเสร็จก็ไปก่อน

มู่วี่สิงกลับเรียกเธอไว้

“เวินจิ้ง เดี๋ยวมาที่ห้องทำงานของฉันหน่อย”

“ประธานมู่ มีธุระอะไรรึเปล่าคะ?” เวินจิ้งหยุดชะงัก

“เรื่องงาน” คำพูดของมู่วี่สิงรัดกุม ไม่ได้พูดอะไรเยอะ

ในที่สุดเพื่อนทั้งสองก็พบเบาะแสบางอย่าง และสายตามองไปที่มู่วี่สิงและเวินจิ้ง แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรในตอนนี้

มู่วี่สิงคือเจ้านาย และก็เป็นอาจารย์ของเธอ เวินจิ้งแทบจะไม่สามารถไม่ฟังเขาได้

เดินตามมู่วี่สิงมาตลอดทางที่ชั้นบนสุด สีหน้าของเวินจิ้งซีด

ในที่สุดใบหน้าของมู่วี่สิงก็นิ่งอยู่หน้าเดียว ไม่ได้ช่างพูดเหมือนเมื่อตอนที่อยู่ที่ร้านอาหารเมื่อครู่

เมื่อเข้าไปที่ห้องทำงาน ผู้ชายได้เข้าไปอยู่ในโหมดของการทำงาน มีผู้บริหารไม่น้อยรอรายงานอยู่ด้านนอก แต่ก็ไม่กล้าเข้าไป

เวินจิ้งเดินตามมู่วี่สิง ยืนอยู่ห่างจากเขากี่เมตร

“ประธานมู่ มีธุระอะไรให้ฉันจัดการเหรอคะ?” เวินจิ้งถามอย่างมีมารยาท

“เดี๋ยวช่วยฉันบันทึกรายงานการประชุม” มู่วี่สิงโยนสมุดจดบันทึกให้เธอโดยตรง

เวินจิ้ง: …

“คุณมีผู้ช่วยเกาไม่ใช่เหรอ?”

“เดี๋ยวเขาต้องไปสถานีตำรวจไปจัดการคดีของมู่ซือซือ” มู่วี่สิงพูดเสียงเยือกเย็น

“แล้วคนอื่นๆล่ะ?” บนหน้าของเวินจิ้งเขียนคำต่อต้านอย่างชัดเจน

เมื่อได้ยินเช่นนี้ มู่วี่สิงเงยหน้าขึ้น สายตาเยือกเย็นมาก

เย็นจนทำให้เวินจิ้งตัวสั่น ไม่กล้าพูดอีก

เธอนั่งข้างๆ ผู้บริหารหลายคนเข้ามารายงานสถานการณ์การขายยาตัวใหม่หลายตัวของช่วงนี้

เมื่อก่อนเวินจิ้งได้ทำงานข้างกายของมู่วี่สิงเป็นระยะเวลานาน เรื่องเหล่านี้ทำได้เรียบร้อยดี แม้ง่ายตัวใหม่ของบริษัทมู่ซื่อในปัจจุบันดูเหมือนจะมีโมเมนตัมที่ดี ยอดขายเพิ่มขึ้นตลอด แต่เหมือนว่าจะมียาตัวใหม่ในตลาด และค่อยๆครองตลาดนี้

“เรื่องนี้วันนี้จำเป็นต้องตรวจสอบออกมาให้ได้ ฉันต้องการรายละเอียดของยานี้” มู่วี่สิงพูดเย็นชา

ทุกคนผงกหัว ไม่นานห้องประชุมก็กลับคืนสู่ความเงียบอีกครั้ง

เวินจิ้งนำบันทึกรายงานการประชุมเรียบเรียงให้เรียบร้อยแล้วยื่นให้มู่วี่สิง เสียงมือถือของเขาดังขึ้น เธอจึงยืนอยู่ข้างๆอย่างเงียบๆ

สายที่โทรเข้าคือเกาเชียน มู่วี่สิงกดเปิดลำโพง ยืนหันหลังให้เวินจิ้งแล้วผะนหน้าไปทางหน้าต่าง

เสียงของเกาเชียนดังออกมาจากมือถืออย่างชัดเจน “ประธานมู่ ทางตำรวจตอบกลับมาว่า ฉีเซินได้ยกฟ้องคดีแล้ว”

มู่วี่สิงไม่เอะใจเลย สั่งไปสองสามคำจากนั้นก็วางสาย

“ออกไปเถอะ” เดินมา มู่วี่สิงคับสมุดจดบันทึกจากมือเวินจิ้ง

เวินจิ้งพยักหน้า โดยไม่รู้ตัว เธอเงยหน้าขึ้นมามองมู่วี่สิง

ระยะประชันชิดนี้ เธอเห็นใบหน้าความเหนื่อยที่ปิดไม่มิดของเขาอย่างชัดเจน

กี่วันมานี้ เขาคงไม่ค่อยได้พักผ่อน

ระหว่างที่กำลังเหม่อลอย มู่วี่สิงหันหัว ทันใดนั้นก็สบตากับเวินจิ้ง

เธอรีบหลบสายตา แล้วหันกลับไป แต่กลับถูกมู่วี่สิงกอดไว้อย่างแน่นหนา

เธอดิ้นรน แต่ไม่สำเร็จ

มู่วี่สิงพูดที่ข้างหูของเธอด้วยน้ำเสียงที่ลงต่ำ “อย่าดิ้น ให้ฉันโอบกอด”

เวินจิ้งหยุดชะงัก ร่างกายยังคงแข็งทื่อ

ไม่นานมู่วี่สองก็ปล่อยเธอ เวินจิ้งแทบจะวิ่งออกไป

เข้าใกล้มู่วี่สิงเมื่อไหร่ ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่เหนือการควบคุม

ปราสาทตระกูลหลิน

ช่วงนี้หลินเวยพักอยู่ที่นี่ ไม่ได้กลับไปตระกูลฉี

รถสปอร์ตสีน้ำเงินเบรกอยู่ตรงประตู ฉีเซินลงจากรถด้วยความโมโห

พ่อบ้านไม่สามารถรั้งเขาไว้ได้ ทำได้เพียงรีบวิ่งไปรายงาน

หลินเวยกำลังซ้อมเปียโนในห้องเปียโน เพลงที่ไพเราะต้องหยุดลงเพราะฉีเซินบุกเข้ามา

เธอหันหัว หว่างคิ้วขมวดเข้าหากัน

“แม่ วิธีการของคุณหยาบคายจริงๆ!” ในน้ำเสียงของฉีเซินมีความเกลียด เพื่อไม่ให้เขาฟ้องมู่ซือซือ หลินเวยได้ข่มขู่ทนายของเขาให้ล้มเลิกการดำเนินคดี

เมื่อตอนที่เขารู้เรื่องนี้ ก็สายเกินไปแล้ว ตำรวจได้ตอบรับแล้ว

ในที่สุดสีหน้าของหลินเวยก็เรียบเฉย “ฉันกำลังช่วยแก”

“หากแกไม่กังวลว่าสักวันฉันต้องตายอยู่บนถนน แกก็ปล่อยคนของตระกูลมู่อีกครั้ง!”

“เรื่องของมู่ซือซือ ไม่ควรจัดการแบบนี้”

“ให้เธอติดคุก เรื่องนี้อาจเป็นร้อย!”

“ฉีเซิน ฟังฉัน ตระกูลมู่ในตอนนี้ไม่ใช่ตระกูลมู่ในตอนนั้นแล้ว แกสู้เขาไม่ไหว” หลินเวยพูดเงียบๆ

บางเรื่อง เธอมองได้อย่างชัดเจน

แต่ฉีเซินมักหมกมุ่นอยู่เสมอ

เขาทำร้ายตัวเองเท่านั้น

นี่เป็นภาพที่หลินเวยไม่ต้องการเห็น

“ไม่ ผมจะเอาชนะตระกูลมู่ได้แน่นอน” ฉีเซินพูดสัญญาอย่างแน่วแน่

“เรื่องปีนั้น เป็นแกที่ผิด”

“นั่นเป็นอุบัติเหตุ!” เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉีเซินแทบจะตีโพยตีพาย

เรื่องที่เขาทำกับมู่ซือซือแบบนั้นได้ เป็นเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ เขาไม่แบกมันไว้หรอก!

“นั่นก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว ตอนนี้ตระกูลมู่ ไม่ใช่คนที่เราจะสามารถไแต่อกรด้วยแล้ว” หลินเวยพูดเน้นๆ

เดิมทีคนของตระกูลฉีก็เบาบางมากแล้ว กองกำลังค่อยๆลดลงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยอาศัยการสนับสนุนจากตระกูลหลินเท่านั้น

และตอนนี้หลินเจิ้งก็ได้จากไปแล้ว บริษัทหลินซื่อมีหลินเวยดูแลรับช่วงต่อ แต่ท้ายที่สุดยังไงก็เทียบกับตระกูลมู่ฝนตอนนี้ไม่ได้เลย

มู่วี่สิงคนนี้ อันตรายและน่ากลัว ทุกคนกลัว

“แม่ จะจัดการกับตระกูลมู่ จัดการแค่กับมู่วี่สิงก็พอแล้ว จุดอ่อนของเขา ก็คือเวินจิ้ง” ฉีเซินหรี่สายตาอย่างเยือกเย็น

เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของหลินเวยก็ซีดขาว

“อย่าแตะต้องลูกสาวของฉันเด็ดขาด!”

“แม่ ผมก็เป็นลูกชายที่คุณเลี้ยงดูมาจนโตนะ แม้ว่า จะไม่ใช่ลูกแท้ๆ แต่คุณก็ไม่ควรลำเอียงขนาดนี้ ใช่ไหม?” วินาทีนี้ สายตาของฉีเซินน่ากลัวมาก

ถูกทำลายโดยความเกลียดชังอย่างสมบูรณ์

หลินเวยใจเย็นมาก และไม่รู้ว่าจะพูดอะไร

เธอรู้จักฉีเซินเป็นอย่างดี เมื่อเขาตัดสินใจจะทำอะไรแล้ว ไม่มีใครสามารถหยุดเขาได้

“หากแกกล้าแตะต้องเวินจิ้ง ก็อย่าหวังว่าต่อไปฉันจะสนับสนุนในสิ่งที่แกจะทำ” หลินเวยพูดอย่างโหดเหี้ยม

สิ่งเดียวที่เธอกังวลก็คือเวินจิ้ง

เธอไม่ได้อยู่ข้างกายเธอมาหลายปี เธอเพียงแค่ต้องการชดเชยให้เธอ ยิ่งไปกว่านั้นไม่ควรให้เธอถูกทำร้าย

“ผมจะแตะต้องเธอ” ฉีเซินพูดด้วยเสียงเยือกเย็น

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท