Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 382

ตอนที่ 382

บทที่ 382 แต่งงานกับฉัน ลำบากใจขนาดนั้นเลยเหรอ

เวินจิ้งกัดริมฝีปาก สีหน้าขาวซีดขึ้นเรื่อยๆ

มือยังคงยันอกของผู้ชายไว้ แต่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉีเซิน

กลิ่นอายของเขาทำให้เธอสะอิดสะเอียน

“เวินจิ้ง มู่วี่สิงมีอะไรให้เธอดึงดูด? ฉันก็สามารถทำได้”

“นายไม่ใช่เขา ก็ดึงดูดฉันไม่ได้” เวินจิ้งพูดอย่างโต้แย้ง

“ลึกซึ้งมากจริงๆ แต่ตอนนี้เขาไม่ได้ตอบฉัน ดูแล้ว ก็ไม่ได้สนใจเธอแล้ว” ฉีเซินหยอกล้อ

เวินจิ้งไม่ได้สนใจอยู่แล้ว ในใจของเธอหวังเพียงมู่วี่สิงอย่าถูกเขาจัดการก็พอ

ระหว่างพวกเขาไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกันนานแล้ว มู่วี่สิงไม่จำเป็นต้องทำสิ่งต่างๆเพื่อเธอ

หากเป็นเช่นนี้ แบบนี้เธอถึงจะสามารถปล่อยวางจากเขาได้อย่างหมดจด

“ฉันไม่ใช่อะไรของเขาอยู่แล้ว เป็นคุณฉีที่ประเมินสถานะของฉันไว้สูงเกิน” เวินจิ้งพูดเรียบๆ

ฉีเซินจับคาง ตอนนี้เวลายังเช้า เขาจะไม่แตะต้องเธอในเวลานี้

“แต่งงานกับฉัน ลำบากใจขนาดนั้นเลยเหรอ?” เขาถามทันที

ตั้งแต่เริ่มรู้จักเขา เวินจิ้งก็ไม่เคยรู้สึกดีกับเขาเลย

แต่ข้างกาย มีผู้หญิงไม่น้อยที่โปรดปรานเขา เขาชินกับการถูกวิ่งตาม

แต่เขากลับคิดถึงแต่เวินจิ้ง ลืมยาก

“ลำบากใจ ลำบากใจมาก!” เวินจิ้งทำหน้าตึง

“เธอยังคิดว่าตัวเองยังสามารถกลับไปคืนดีกับมู่วี่สิงได้? เป็นไปไม่ได้ ฉันรู้ว่าเธอไม่อยากรับช่วงต่อจากบริษัทหลินซื่อ แต่งงานกับฉัน ฉันช่วยเธอจัดการกับบริษัทหลินซื่อให้ดี”

เวิ้นจิ้งหัวเราะเยือกเย็น “ฉีเซิน สิ่งที่นายต้องการมีเพียงมรดกของตระกูลหลินรึเปล่า แม้ว่านายจะแต่งงานกับฉันแล้ว สิ่งเหล่านั้นก็ไม่ใช่ของนาย นานเป็นแค่คนภายนอก”

คนภายนอก

ประโยคนี้ทำให้ฉีเซินโกรธขึ้นมา

ทั้งที่เขาเป็นลูกชายของหลินเวย หลินเจิ้นเป็นปู่ของเขา แต่ตระกูลหลินกลับไม่ยอมรับเขา คิดกับเขาแค่คนภายนอก

น้ำหนักในมือหนักขึ้นเล็กน้อย คางของเวินจิ้งถูกเขาบีบจนเจ็บปวด เธออดไม่ได้ร้องออกมา

“ใช่ ฉันเป็นคนนอก ดังนั้นไม่ว่าวิธีใดๆ ฉันก็ต้องได้ในสิ่งที่เป็นของฉัน!”

สิ้นเสียง เขาสะบัดเวินจิ้งออก ออกไปจากห้องนอนอย่างเยือกเย็น

เสียง “คาชา” ประตูถูกล็อคอย่างรวดเร็ว

เวินจิ้งไม่สามารถโล่งใจได้ นั่งติดโซฟา ท่าทางโกรธเมื่อครู่ของฉีเซินยังอยู่ในหัวสมองของเธอ เธอหลับตาลง หัวสมองก็ค่อยๆเจ็บขึ้นเรื่อยๆ เธอนั่งลงมา ทันใดนั้นก็เบลอขึ้นเรื่อยๆ…

สองชั่วโมงต่อมา

ฉีเซินยืนอยู่ข้างเตียง ก้มตัวลง เขาบังคับปัอนยาให้เวินจิ้ง

สายตาลึกลง สายตาของเขาประกายขึ้น

ไม่นาน เวินจิ้งตื่นขึ้นมา ลืมตาขึ้น สภาพแวดล้อมในดวงตาไม่ใช่คนแปลกหน้า

ด้านข้าง ในที่สุดฉีเซินก็นั่งลงข้างเธอ

เวินจิ้งขมวดคิ้ว นั่งลง

เธอเป็นอะไร?

“เมื่อกี้เธอเป็นลม ตอนนี้รู้สึกยังไงบ้าง?” น้ำเสียงของฉีเซินเย็นชา

“ไม่เกี่ยวกับนาย”

ตอนที่เวินจิ้งเผชิญหน้ากับเขา ไม่มีสีหน้าที่ดี

เพียงแต่ ทั้งที่เธอใกล้จะหายแล้วไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงยังปวดหัวหนักขนาดนี้

“หิวไหม ฉันให้คนใช้ต้มโจ๊กให้” ฉีเซินมองเขา

“อืม” เวินจิ้งพยักหน้า

เพิ่งตื่นขึ้นมาไร้เรี่ยวแรง เธอจำเป็นต้องทานอาหาร

มีแรงแล้ว ถึงจะสามารถหาวิธีหนีออกไปได้

ฉีเซินเป็นคนนำโจ๊กเข้ามาเองกับมือ เวินจิ้งรับไว้ มองเขาอย่างเย็นชา “คุณออกไปได้ไหม?”

เจอหน้าเขา ทันใดนั้นเธอก็กินข้าวไม่ลง

“ได้ มีอะไรเรียกฉัน” ฉีเซินพูดเสียงลึก

ตอนที่ออกไป กลับไม่ได้ปิดประตู

เขายืนอยู่ตรงทางเดิน ท้องฟ้าข้างนอกค่อยๆมืดลง ไม่นาน เบอร์ของผู้ช่วยก็โทรมา

“ประธานฉี มีหุ้นส่วนหลายคนต้องการจะประชุม คุณกลับมาได้ไหม?”

สีหน้าหมดความอดทาของฉีเซินปรากฏขึ้นมา ตอบอย่างเยือกเย็น

ก่อนออกจากบ้าน เขาเดินเข้าไปห้องหนังสือ แกะเชือกให้หลินเวย

“ฉันส่งเธอไปตระกูลหลิน”

“เสี่ยวจิ้งล่ะ?” หลินเวยถามอย่างเป็นห่วง

“เธอดีมาก”

“แกปล่อยเธอไปเถอะ” หลินเวยร้องขอ

ฉีเซินมองผู้หญิงตรงหน้า หลายปีมานี้หลินเวยไม่เคยใช้น้ำเสียงแบบนี้กับเขา

แต่ตอนนี้ เพื่อเวินจิ้ง เธอกลับขอร้องเขา

ฉีเซินหัวเราะเสียงเย็น “ปล่อยเธอไป งั้นใครปล่อยฉันไป?”

สิ้นเสียง สั่งบอดี้การ์ดให้นำตัวหลินเวยออกไป

“ฉีเซิน หากเธอเกิดอะไรขึ้นเพียงแม้แต่น้อย ฉันจะไม่ปล่อยแกไปแน่นอน”

“พูดอะไร แม่ ผมเป็นลูกชายของคุณนะ คุณจะปล่อยผมไปได้อย่างไร?” ฉีเซินหยอกล้อ

“หากแกปล่อยเวินจิ้งไป ฉันจะให้เงินทุนกับบริษัทฉีซื่อ ฉันจะไม่ปล่อยให้บริษัทฉีซื่อต้องพังพินาศ” หลินเวยพูดอย่างโหดร้าย

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉีเซินหยุดครู่หนึ่ง หันไปมองเธอด้วยความเคร่งขรึม “ตอนนี้ผมไม่เพียงแค่ต้องการบริษัทฉีซื่อ ผมยังต้องการเวินจิ้ง”

มู่วี่สิงทำร้ายเขา งั้นเขาก็จะแย่งผู้หญิงที่เขาชอบมากที่สุดมา ปล่อยให้เขา ได้ยอมรับกับความเจ็บปวด

“แกอย่าบ้า เวินจิ้งไม่ใช่คนที่แกจะแตะต้องได้!” หลินเวยโกรธมาก

แต่ฉีเซินไม่ได้สนใจ “แม่ คุณสบายใจได้ ผมจะไม่ทำร้ายเธอ ผมเคยบอกแล้วไม่ใช่เหรอ?”

หลินเวยเม้มปาก ความทะเยอทะยานของฉีเซินปรากฏขึ้น

“กลับไปเถอะ ระยะนี้อย่าออกจากบ้าน” ฉีเซินดันเธอขึ้นรถ มองดูรถออกไป เขาถึงจะไปที่รถอีกคัน

เวินจิ้งอยู่ตรงระเบียงตลอด เห็นว่าฉีเซินออกไป และคุณแม่ก็ถูกเขาส่งตัวออกไปแล้ว

แต่ บอดี้การ์ดข้างนอกเพิ่มความเข้มงวดขึ้น

บริษัทมู่ซื่อ

มู่วี่สิงมองตำแหน่งที่อยู่ในมือถืออย่างชัดเจน หยิบกุญแจรถแล้วออกไป

ครึ่งชั่วโมงต่อมา รถที่ไม่รู้จักคันหนึ่งขับเข้ามาในวิลล่า

เสียงของเครื่องยนต์ทำให้เวินจิ้งลืมตาขึ้น ฉีเซินกลับมาแล้วเหรอ?

เธอหลับตาลง ร่างกายสั่นเล็กน้อย

จนกระทั่งทีเสียงเคาะประตูดังขึ้น เธอมองไปทางประตูอย่างระวัง

หากเป็นฉีเซิน เขาไม่เคยเคาะประตู

“ใคร?”

“มู่เหิง”

สิ้นเสียง ประตูถูกผู้ชายเปิดออก

เวินจิ้งมองเขาด้วยความสงสัย ทันใดนั้นก็ลุกขึ้นมาจากโซฟาทันที

“คุณ…” เวินจิ้งขมวดคิ้ว ทันใดนั้นก็นึกอะไรขึ้นมาได้

มู่เหิงสามารถเข้ามาในนี้ได้ อย่างนั้นก็เห็นได้ชัดว่าเป็นพวกเดียวกับฉีเซิน

“เจอฉันคาดไม่ถึงขนาดนั้นเลยเหรอ?” มู่เหิงนั่งลงข้างๆ ขาวยังไขว่ห้างไว้ ด้วยท่าทางสบายๆ

“ใช่คาดไม่ถึง” เวินจิ้งน้ำเสียงเย็นชา

“ฉันมาดูว่าฉีเซินได้พาตัวเธอมาจริงๆหรือเปล่า เขาไม่มีประโยชน์จริงๆ” มู่เหิงหรี่สายตาลง มองดูเวินจิ้ง ดูแล้วฉีเซินสนใจผู้หญิงคนนี้จริงๆ

อย่างน้อย กินดีอยู่ดี

“ทำไม คุณคิดจะใช้ฉันเป็นเครื่องมือในการข่มขู่มู่วี่สิงเหรอ?” เวินจิ้งพูดประชด

มู่เหิงยิ้มอย้างเยือกเย็น “ตอนแรกฉันคิดว่าเธอกับมู่วี่สิงหย่ากันแล้ว เขาจะลืมเธอ แต่ฉันคิดว่ามันไม่ใช่แบบนั้น ในเมื่อเธอมีคุณค่า น้องชายคนนั้นของฉันก็จัดการกับเขาได้ยาก ต้องใช้วิธี ไม่ใช่เหรอ?”

น่ารังเกียจ

เวินจิ้งด่าในใจ สีหน้าเย็นชามาก

“ด่าฉันในใจเหรอ? ฉันก็เป็นคนแบบนี้ ใครให้ตั้งแต่เล็กจนโต คุณปู่ก็ลำเอียงรักแต่มู่วี่สิง แม้ว่าเขาจะได้เป็นคุณหมอ ก็ยังคงเอาบริษัทมู่ซื่อเหลือให้เขา ฉันก็เป็นหลานชายของเขา ช่างไม่ยุติธรรมเลย

“นั่นเพราะคุณไม่มีความสามารถ” เวินจิ้งโต้แย้ง

เรื่องบางอย่างของตระกูลมู่เธอรู้ดี อย่างน้อยในแง่ของความสามารถทางธุรกิจ มู่เหิงกลับเทียบกับมู่วี่สิงไม่ได้เลย”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท