Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 378

ตอนที่ 378

บทที่ 378 ฉันยอมให้เธอเกลียดฉัน

กลางคืน เวินจิ้งไม่คิดว่ามู่วี่สิงจะให้หลิงเหยามา

เธอยังเอาหนังสือมาให้เธอไม่น้อย

หนึ่งชั่วโมงก่อนได้รับสายจากมู่วี่สิงทำให้แปลกใจมาก ก็รีบมาทันที

“ว่าไงนะ มู่วี่สิงเอามือถือเธอไว้…มิน่า ฉันส่งข้อความหาเธอก็ไม่ตอบกลับสักที” หลิงเหยาพูดกะทันหัน

“แต่ว่าที่มู่วี่สิงต้องทำแบบนี้ต้องมีเหตุผล เขาก็ไม่ใช่คนโรคจิตอะไร” นี่เป็นสิ่งที่หลิงเหยากลับไปคิดเมื่อคืน

โรคจิต

เมื่อได้ยินคำนี้ เวินจิ้งกลับเห็นด้วย

“เขาเป็นแบบนั้น” เวินจิ้งพูดเสียงเย็นชา

“เมื่อกี้เขาโทรหาฉัน น่าจะอยากให้ฉันมาอยู่เป็นเพื่อนเธอ ยังเตือนให้ฉันเอาหนังสือมาให้เธออ่าน”

ไม่ว่าหลิงเหยาจะพูดแบบนี้ เวินจิ้งก็ไม่สามารถเข้าใจมู่วี่สิงได้

“ตอนนี้ฉันแค่อยากรีบออกจากโรงพยาบาล” นี่เป็นความคิดของเวินจิ้ง

“ฉันดูแล้วคงต้องใช้เวลาอีกหน่อย เธอผ่าตัด ต้องตรวจเช็คทุกวัน” หลิงเหยาเปิดดูเวชระเบียนของเวินจิ้ง

“ฉันอยากย้ายโรงพยาบาล นี่เป็นสถานที่ของมู่วี่สิง ฉันหไม่อยากถูกเขาควบคุม”

หลิงเหยามองเวินจิ้งด้วยความเจ็บปวด แม้ว่าเธอจะไม่เข้าใจการกระทำของมู่วี่สิง แต่ที่นี่ เป็นโรงพยาบาลที่ดีที่สุดของหนานเฉิง

เวินจิ้งอยู่ที่นี่สามารถได้รับการรักษาที่ดีที่สุด

อีกอย่าง มู่วี่สิงเป็นหมอ มีเขาอยู่ หลิงเหยาสบายใจ

“เธอคิดอย่างนี้จริงเหรอ?” หลิงเหยาขมวดคิ้ว

“อืม แต่ว่าฉันไม่มีมือถือ ไม่สามารถติดต่อแม่ได้” ในสายตาของเธอ หลินเวยเป็นคนเดียวที่สามารถพาเธอออกไปจากที่นี่ได้

“ฉะนสามารถช่วยเอติดต่อได้ แต่ว่า พี่ชายบอกกับฉันว่า มู่วี่สิงมีบางอย่างที่ต้องทำ เขาปกป้องเธออยู่”

“เขากำลังกักขังฉัน” เวินจิ้งหน้าเข้ม

เวลานี้คำพูดอะไรก็ฟังไม่เข้าหู โกรธมา

ตั้งแต่มู่วี่สิงย้ายโรงพยาบาลให้เธอเป็นการส่วนตัว แล้วก็เอามือถือของเธอไป เธอไม่สามารถให้ตัวเองเชื่อเขาได้

“เธออย่ามองในแง่ร้าย แบบนี้ไม่ดีต่อการฟื้นฟูร่างกาย เฮ้อ ฉันก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว…” หลิงเหยาก็ยุ่งเหยิงไปหมด

มองออกถึงความเป็นห่วงของหลิงเหยา ใบหน้าของเวินจิ้งถึงจะปรากฏรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย “เหยาเหยาขอบใจที่เธอมาดูฉัน ที่จริงฉันก็แค่บ่นๆ กองกำลังของมู่วี่สิงฉันพอจะรู้ เขาไม่อนุญาตให้ฉันออกจากโรงพยาบาล ฉันก็ไม่สามารถออกไปได้ ได้แค่รอ”

“ฉันให้พี่ชายช่วยหาวิธี”

ทั้งสองคนใช้เวลาคุยกันไม่นาน เวินจิ้งจำเป็นต้องตรวจ เวลาก็ดึกแล้ว หลิงเหยาก็ใกล้ถึงเวลาต้องกลับไปแล้ว

เห็นมู่วี่สิงออกมา หลิงเหยาขวางเขาไว้

ราศีของมู่วี่สิวเหมือนว่าจะแข็งแกร่ง ตอนที่เผชิญหน้ากับเขา หลิงเหยาประหม่าเล็กน้อย

“คุณหนูหลิง ที่อยู่ของเวินจิ้งโปรดเป็นความลับ” มู่วี่สิงเปิดปากก่อน

“ทำไมฉันต้องฟังคุณ” หลิงเหยาโต้แย้ง

“หากไม่เชื่อฟังฉัน เธอก็อยู่ที่นี่ไม่ต้องออกไปแล้ว” มู่วี่สิงพูดเรียบๆ

ตอนที่เผชิญหน้ากับคนอื่น ความอดทนของเขามีจำกัด

“คุณน่าจะรู้ หากเป็นแบบนี้ต่อไป เธอจะเกลียดคุณ”

ความเจ็บปวดและความพยายามของเวินจิ้งอยู่ในสายตาของเธอ

“ฉันยอมให้เธอโกรธฉัน”

หลิงเหยามองดูมู่วี่สิงด้วยความประหลาดใจ ไม่ได้พูดอะไรชั่วคราว

เธอสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของเวินจิ้งที่มีต่อมู่วี่สิง แต่มู่วี่สิง เธอมองเขาไม่ออกจริงๆ

ออกจากโรงพยาบาล หลิงอี้รอเธออยู่ข้างนอก

หลิงเหยาหยุดพูด

“อยากพูดอะไร?” หลิงอี้รู้ความคิดของน้องสาว

“เราสามารถพาเวินจิ้งออกมาได้ไหม?” หลิงเหยาถาม

ตอนนี้อารมณ์ของเวินจิ้งต่ำมาก เธอกลัวว่าจะมีผลกระทบกับการพักฟื้นของเธอ

อีกอย่าง เธอดูออกว่าเวินจิ้งอึดอัดมาก

เธอแค่อยากออกไป

“เธอเป็นยังไงบ้าง?” หลิงอี้ถามด้วยความเป็นห่วง

เรื่องของเธอ เขาพยายามควบคุมไม่ให้ไปใส่ใจ แต่ก็อดไม่ได้

“ตอนนี้มู่วี่สิงกักตัวเธอไว้ มือถือก็ยึดไป ไม่ให้เธอติดต่อกับใคร”

“ร่างกายของเธอยังไม่ดีขึ้นมาก อาจจะต้องนอนโรงพยาบาลสักระยะ” หลิงอี้ขมวดคิ้ว

“แต่เวินจิ้งสถานการณ์ไม่ดี จะรักษาร่างกายได้ยังไง มู่วี่สิงกำลังบังคับเธอ” น้ำเสียงของหลิงเหยาร้อนใจเล็กน้อย

หากเป็นเธอ ที่ถูกกักขังไว้ในห้องผู้ป่วย ไม่มีมือถือ ติดต่อกับใครไม่ได้ แค่หนึ่งชั่วโมงเธอก็จะบ้าตายแล้ว

นับประสาอะไรกับสถานการณ์ของเวินจิ้งที่อยู่ที่นี่มาสองวันติดแล้ว

เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของหลิงอี้เคร่งขรึม เมื่อมองไปที่โรงพยาบาลที่ได้รับการคุ้มกันไว้ การที่จะพาเวินจิ้งออกไป ยากมาก

“ถ้าหากเธอดีขึ้นแล้วยังไม่ปล่อยตัวเธอ เราค่อยหาวิธีพาเธอออกมา”

ก็พิจารณาถึงสุขภาพร่างกายของเวินจิ้งด้วย

หลิงเหยาเชื่อพี่ชาย ก็คงก็เป็นแบบนี้

สามวันต่อมา

เช้าวันนี้เป็นวันที่คดีหมิ่นประมาทของฉินเฟยเริ่มขึ้น หลักฐานมั่นคง ฉินเฟยถูกตัดสินจำคุกหนึ่งปี เข้าคุกทันที

ฉีเซินและมู่เหิงมาที่ศาล

“การเคลื่อนไหวของมู่วี่สิงเร็วมาก เกรงว่าเรื่องของฉินเฟยจะถูกตรวจสอบอีก” ฉีเซินหรี่สายตา

“ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือหาที่อยู่ของเวินจิ้งให้พบก่อน” สีหน้าของมู่เหิงเคร่มขรึมมาก

“ฉันเจอแล้ว แต่ว่าไม่สามารถลงมือได้”

“ตอนนั้นนายส่งเธอไปโรงพยาบาลเพื่อขอความช่วยเหลือ ก็รู้สึกเสียใจ ฉันไม่เชื่อว่านายจะลงมือกับผู้หญิงคนนั้นจริงๆ” มู่เหิงพูดเสียงเย็นชา

“หากเกิดเรื่องขึ้นจริงๆ เราเอาอะไรไปขู่มู่วี่สิง รอข่าวจากฉัน ภายในหนึ่งสัปดาห์ ฉันจะพาตัวเธอออกมา” ฉีเซินพูด

“ฉันรับฟังไว้ก่อน ระยะนี้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยากำลังจับตาดูนายอยู่ ยาตัวใหม่ของนายตอบสนองได้ดี คว้าส่วนแบ่งการตลาดจำนวนมากของบริษัทมู่ซื่อ

“อย่างนั้นต้องรบกวนประธานมู่ช่วยเหลือ” ฉีเซินเผยรอยยิ้มที่เยือกเย็น

โรงพยาบาลหนานเฉิง

เวินจิ้งให้ความสนใจกับการเรียนทุกวัน ในที่สุดอารมณ์ของเธอก็ค่อยๆปรับเปลี่ยน

และสิ่งสำคัญที่สุดคือ ไม่เห็นมู่วี่สิงอีกเลย ข้างกายมีเพียงหลี่ซานที่คอยดูแลเธอ

รู้ว่าเธอเป็นคนของมู่วี่สิง เวินจิ้งไม่ได้พูดคุยกับเธอมากนัก

ช่วงนี้หลิงเหยายุ่งกับการเรียน จนวันศุกร์ถึงจะได้มาเยี่ยมเธอ

“เธอจะออกจากโรงพยาบาลได้เมื่อไหร่ ห้องพักมีแค่ฉันคนเดียว หากในไหนฟ้าร้องฉันตกใจจนร้องไห้” หลิงเหยาใบหน้าเล็กลำบากใจ

เวินจิ้งยิ้มๆ “เหมือนว่าสัปดาห์หน้าจะได้ออกไปแล้วการตรวจของเช้าวันนี้ไม่ค่อยแข็งแล้ว แต่ยังไงก็ต้องตรวจอยู่ดี”

“งั้นก็ดี การบ้านของเธอส่งให้ฉันเถอะ ฉันช่วยเธอส่งให้ศาสตราจารย์ไป๋สือ”

แม้ว่าเวินจิ้งจะนอนโรงพยาบาล แต่ยังคงเรียนรู้อย่างแน่วแน่ รักษาการพูดคุยกับไป๋สือ

“เธอขยันจริงๆ ที่หอพักไม่มีเธอมากระตุ้นให้ฉัน ฉันขี้เกียจจะตายอยู่แล้ว”

“งั้นก็ไปห้องสมุด เธอชอบไปเดทกับเจียงฉือไม่ใช่เหรอ?”

“ใครชอบไปเดทกับเขากัน!” เมื่อพูดถึงชื่อนี้ แก้มของหลิงเหยาก็แดงขึ้นมาอัตโนมัติ

“พวกเธอไปห้องสมุดศึกษาด้วยกันได้ ให้เขากระตุ้นเธอ”

“ไม่เอาไม่เอา เวินจิ้ง ฉันไม่ได้อะไรกับเขา”

“ฉันก็ไม่ได้พูดว่าเธอไปอะไรกับเขา” รอยยิ้มของเวินจิ้งแอบแฝงมากขึ้น

หลิงเหยาทำแก้มตุ่ย ทั้งสองคนเริ่มพูดเล่นกันในห้องผู้ป่วย

มู่วี่สิงยืนอยู่นอกประตู มองดูรอยยิ้มที่หายไปนานของเวินจิ้ง ตอนที่เผชิญหน้ากับเขา เธอไม่ได้ยิ้มอย่างจริงใจแบบนี้มานานแล้ว

หันตัว เขาก็ออกจากโรงพยาบาล

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท