Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 387

ตอนที่ 387

บทที่ 387 ยิ่งเข้าใกล้ ยิ่งจมลึก

หลิงอี้ยืนอยู่ที่ประตูตลอด คำพูดของคุณหมอเขาก็ได้ยิน หว่างคิ้วขมวดกัน

ตอนที่คุณหมอออกมา เขาอยากจะไล่ตามเขาไป กลับเห็นมู่วี่สิงรอเขาอยู่ที่ห้องทำงานตลอด

สายตาของหลิงอี้เข้ม หลบอย่างข้างนอก

“ศาสตราจารย์มู่ เนื้องอกในหัวสมองของเวินจิ้งกำลังแพร่กระจาย คุณแน่ใจว่าจะปิดบังเธออยู่อย่างนี้?”

“คุณก็รู้ หากผ่าตัด ความสำเร็จในการผ่าตัดไม่เกินห้าเปอร์เซ็นต์”

ข้างนอก หลิงอี้ร่างกายแข็งทื่อไปหมด ประโยคนี้เข้ามาในหูของเขาโดยไม่ตกหล่นเลยสักคำ ร่างกายของเขาอดไม่ได้สั่นเทา

เวินจิ้งเป็น…

เขาเกือบจะผลักประตูเข้าไป ทั้งสองคนเห็นเขา เห็นได้ชัดว่าแปลกใจมาก

หลิงอี้โกรธจนคว้าคอเสื้อของมู่วี่สิง “มู่วี่สิง นายยังคงหลอกลวงเธอตลอด!”

มู่วี่สิงสีหน้าเริ่มตึงเครียด ความเจ็บปวดในสายตาเผยออกมา

เขาเพียงแค่ ไม่รู้ว่าจะเอ่ยปากยังไงดี

ความจริงที่โหดร้ายนี้ แม้แต่เขายังยอมรับไม่ได้

นับประสาอะไรกับเวินจิ้ง

เธอเพิ่งสอบเข้าแพทย์ตามฝันได้ เขาไม่ต้องการให้สิ่งเหล่านี้มาบีบคั้นความเจ็บปวด

“หากไม่ผ่าตัด จะเกิดอะไรขึ้น?” หลิงอี้ถามเย็นชา

คุณหมอข้างๆส่ายหัวแล้วพูด “อาจมีเวลาเพียงแค่สามปี นี่เป็นสถานการณ์ที่ดีที่สุด”

สิ้นเสียง หลิงอี้คลายมือรุนแรง ชกหมัดไปที่กำแพง

และข้างนอก ตอนแรกเวินจิ้งจะมาเอาเวชระเบียนกับคุณหมอ กลับไม่คิดว่า จะมาได้ยินข่าวสายฟ้าในวันที่แดดจัด

เหอะ

เธอยิ้มอย่างขมขื่น แท้จริงแล้วแบบนี้นี่เอง

มิน่า เธอมักปวดหัวทรมานโดยไร้สาเหตุ สุขภาพแย่ลง และเป็นลมเป็นครั้งคราว

ระหว่างสามปี…

นี่ยังเป็นสถานการณ์ที่ดี

เวินจิ้งไม่รู้ว่าตัวเองกลับไปที่ห้องผู้ป่วยได้ยังไง นอนลง เธอหลับตาลง ทั้งที่ทรมานมาก แต่น้ำตาไม่ไหลเลยสักหยด

กอดไหล่ไว้ เธอพาตัวเองหลบอยู่ใต้ผ้าห่ม เหมือนว่าแบบนี้ ความโศกเศร้าก็จะถูกซ่อนไว้

จนกระทั่งเสียงฝีเท้าดังมาจากข้างนอกจึงทำให้เธอได้สติ

คนที่เข้ามาคือหลิงอี้

มองสายตาของเวินจิ้ง ตึงเครียดมาก

เขาต้องการบอกความจริงกับเวินจิ้ง แต่ว่าคำพูดนั้นกลับพูดไม่ออก

ทันใดนั้นเขาก็เข้าใจความรู้สึกของมู่วี่สิงแล้ว บางที เขาก็เหมือนกับเขา ไม่โหดร้ายพอ พูดไม่ออก

“ฉันซื้อโจ๊กมาให้เธอ” หลิงอี้เดินเข้าไปใกล้

เปิดโต๊ะเล็กออก ท่าทางของเขาสั่นเทาเล็กน้อย

เมื่อเขาคิดฟุ้งซ่าน โจ๊กร้อนก็หกออกมา

“ขอโทษ…” หลิงอี้รีบทำความสะอาดให้เรียบร้อย

เวินจิ้งส่ายหัวเบาๆ “ไม่เป็นไร คุณกลับไปเถอะ ฉันอยู่คนเดียวได้”

ตอนนี้เธอไม่อยากติดต่อกับใครทั้งนั้น และก็ไม่อยากพูด

“ฉันอยู่เป็นเพื่อนเธอ ฉันนั่งบนโซฟา ไม่รบกวนเธอแน่นอน” สิ้นเสียง หลิงอี้ไม่ได้เข้าไปใกล้อีก

รู้นิสัยของหลิงอี้ ยังไงก็ไล่เขาไปไม่ได้อยู่ดี เวินจิ้งทานโจ๊กอย่างเงียบๆ

ตอนกลางคืน มองการ์ตูนบนมือถือของตัวเอง ทั้งๆที่เป็นการ์ตูนตลก ดูไปดูมาก็อยากจะร้องไห้ขึ้นมา

“หลิงเหยา ฉันอยากอยู่คนเดียวสักพัก” น้ำเสียงของเวินจิ้งเย็นชาเล็กน้อย

หลิงอี้เงยหน้า มองสีหน้าของเวินจิ้ง และขมวดคิ้ว

“คุณกลับไปเถอะ” เวินจิ้งพูดอีกครั้ง

หชิงอี้เห็นการต่อต้านในดวงตาของเธอ ไม่ได้ปฏิเสธ

ถ้าหากเธออยากอยู่ลำพัง เขาก็จะไม่รบกวนเธอ

ปิดประตู หลิงอี้เห็นมู่วี่สิงที่อยู่ข้างนอกตลอด

พิงกำแพง นิ้วของเขาหนีบบุหรี่ไว้

“ให้ฉันม้วนหนึ่ง?” หลิงอี้เดินเข้าไปใกล้

มู่วี่สิงโยนบุหรี่ไปหนึ่งกล่อง เหมือนสองคนที่กำลังพูดคุยเรื่องงานพูดคุยเรื่องส่วนตัวบนทางเดิน

“สามารถผ่าตัดได้ไหม?”

“สามารถ แต่โอกาสประสบความสำเร็จนั้นเป็นศูนย์” มู่วี่สิงสีหน้าเครียด

“งั้นนายคิดจะปิดบังเธอไปตลอด?”

“ช้าหน่อย ตัวเธอเองก็จะรู้เองได้”

“ไม่มีวิธีแล้วจริงๆเหรอ?” หลิงอี้ลดสายตาลง ความเจ็บปวดในดวงตาปรากฏ

เวินจิ้งอายุยังน้อย จะยอมรับกับสิ่งที่โหดร้ายแบบนี้ได้อย่างไร

“ฉันจะหาวิธี ฉันจะไม่ให้เธอตาย” คำพูดของมู่วี่สิง แต่ละคำ มีพลัง

เช้าวันถัดไป เวินจิ้งสามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว

คุณหมอออกยาให้เธอบางส่วน แล้วฉีกป้ายออก

แต่เวินจิ้งรู้ ยาเหล่านี้มีประโยชน์ต่ออาการของเธอ

หลิงอี้ส่งเธอกลับไปวิทยาลัย ระหว่างทางได้บอกให้เธออย่าลืมกินข้าวให้ครบสามมื้อ พักผ่อนให้เพียงพอ อย่าหักโหม

เวินจิ้ง—ตอบรับ สีหน้าเรียบเฉย

ชีวิตในวิทยาลัยทุกอย่างปกติ ใกล้จะปิดเทอมแล้ว ทุกคนกำลังเตรียมตัวสอบ

ทุกวันศุกร์ยังคงเป็นมู่วี่สิงที่มาสอน เวินจิ้งนั่งอยู่แถวหลัง ฟังอย่างตั้งใจ

แต่ครั้งก่อนที่เธอนอนโรงพยาบาลระยะหนึ่ง มีความรู้หลายอย่างที่ตกหล่นไป ตอนนี้เมื่อฟังแล้วไม่ค่อยเข้าใจ

เปิดดูแผนการสอน เธอก็ขมวดคิ้ว

มีการทดสอบเล็กน้อยในห้องเรียน เธอเป็นคนส่วนน้อยที่ไม่ผ่าน ถูกมู่วี่สิง—หลังเลิกเรียนถูกเรียกไปห้องพักครู

เวินจิ้งเป็นกรณีพิเศษ เธอขาดเรียนไม่น้อย สุดท้ายมู่วี่สิงก็เหลือแต่เธอคนเดียว

“ให้ฉันสอนเธอส่วนตัวไหม?” มู่วี่สิงถาม

มองดูผลสอบของเวินจิ้ง เขาขมวดคิ้ว ไม่ใช่แย่ธรรมดา

“ไม่จำเป็น ฉันจะพยายามเรียนให้ทัน”

“ฉันคะแนนบอกแล้ว ทุกคาบเรียนของเธอจำเป็นต้องตั้งใจเรียน หากเธอสามารถเรียนด้วยตัวเองได้ ฉันก็ไม่จำเป็นต้องมาสอนพวกเธอแล้ว

แน่นอน คาบของมู่วี่สิง จะลำบากหากเรียนด้วยตัวเอง

เวินจิ้งรู้อยู่แล้ว แต่เธอไม่อยากรบกวนมู่วี่สิง…

เขารับช่วงดูแลบริษัทมู่ซื่อ ปกติเขามักจัดการทุกอย่าง

“ฉันบอกแล้วว่าฉันเรียนด้วยตัวเองได้” เวินจิ้งหัวแข็ง

“เวินจิ้ง ตัวเธอเองไม่ได้” น้ำเสียงของมู่วี่สิงเย็นเล็กน้อย

ตอนที่เผชิญกับเวินจิ้ง เขาอ่อนโยนและมีความอดทน เวลานี้ นิสัยค่อนข้างหงุดหงิด

เขาไม่ชอบที่เธอต่อต้าน

“ได้ ศาสตราจารย์มู่ต้องการทำยังไง?” เวินจิ้งมองเขา

“ทุกคืนรอฉันที่นี่ ฉันจะมาสอนเธอ”

เวินจิ้งมองเขาตึงเครียด เธอไม่คิดว่ามู่วี่สิงจะมีเวลาว่างมากพอขนาดนั้น

“วางใจ ช่วงนี้ฉันไม่ยุ่ง”

เวินจิ้งยังไม่เชื่อ

“เวินจิ้ง เธอเป็นนักเรียนของฉัน เธอปฏิเสธไม่ได้”

“ฉันรู้แล้ว”

“เริ่มคืนนี้” มู่วี่สิงพูดทิ้งท้ายหนึ่งประโยค

เวินจิ้งรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย แต่ว่า ใครให้มู่วี่สิงเป็นศาสตราจารย์ล่ะ!

กลับถึงหอพัก เวินจิ้งโกรธจนโยนหนังสือลงบนโต๊ะ

หลิงเหยากลับมาตั้งนานแล้ว มองเวินจิ้งด้วยความกังวลเล็กน้อย “เกิดอะไรขึ้น”

“ไม่มีอะไร”

นั่งลง เธอก็เอ่ยปาก “ทุกคืนมู่วี่สิงจะสอนหนังสือฉัน”

“โหะโหะ” หลิงเหยายิ้ม “ไม่เลวนะ”

“ฉันไม่อยากเผชิญหน้ากับเขา” เวินจิ้งมีปัญหา

เธอแค่ต้องการ ใช้ชีวิตที่เหลือให้สงบสุข

“เพราะอะไร ศาสตราจารย์มู่เป็นที่น่าชื่นชมและน่าพอใจขนาดนี้ หรือว่า ตัวเธอเองกลัวว่าจะควบคุมความรู้สึกของตัวเองไม่ไหว?” หลิงเหยาเดินมา

เวินจิ้งจับผม เธอชัดเจนดีว่ามู่วี่สิงดึงดูดเธอขนาดไหน

ยิ่งเข้าใกล้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งจมลึก

จนป่านนี้ ยิ่งอยู่เธอยิ่งควบคุมตัวเองไว้ไม่อยู่แล้ว

ในเมื่อมีเวลาไม่มากแล้ว งั้นก็ควรอนุญาตให้ตัวเองทำตามอำเภอใจบ้างแล้ว

เธอไม่รู้..

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท