Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 392

ตอนที่ 392

บทที่ 392 ไม่หึงแล้วดีไหม

เวินจิ้งหัวเราะ “จะมีน้ำตามากมายขนาดนั้นได้ยังไง”

หลิงอี้มองเธออย่างลึกซึ้ง เวินจิ้งออกมาจากโรงพยาบาลอารมณ์ถึงได้เจ็บปวดขนาดนั้น เขาขมวดคิ้ว หรือว่าเวินจิ้งรู้อะไรแล้ว…

แต่ตอนนี้ก็ไม่กล้าถาม

ปกติเวินจิ้งชอบทานเผ็ด หลังจากที่อั้ยเถียนไม่อยู่หนานเฉิงเธอดูเหมือนไม่ได้ทานอีกเลย ครั้งนี้ทานให้อิ่ม เห็นหลิงอี้ก็ทานจนเหงื่อแตก เวินจิ้งยื่นกระดาษทิชชูให้เขา

“เพื่อนๆของฉันมีน้อยมากที่สามารถทานเผ็ดได้” เวินจิ้งพูด

แม้แต่หลิงเหยาก็ดูเหมือนไม่ชอบทานเผ็ด

หลิงอี้ยักริมฝีปากบาง “ต่อไปถ้าคุณอยากทานเผ็ด เรียกผมได้ ผมว่างตลอด”

ได้ยินแบบนี้ สีหน้าเวินจิ้งอึ้งไป

ต่อให้เคยปฏิเสธหลิงอี้ไปแล้วหลายครั้ง แต่เธอรู้ เขายังไม่เคยตายใจ

สักพัก เธอวางตะเกียบลง “ฉันกับมู่วี่สิงอยู่ด้วยกันแล้ว ต่อให้เขาก็ไม่ทานเผ็ด แต่ฉันก็จะไปทานอย่างอื่นกับเขา”

ได้ยินแบบนี้ หลิงอี้เงียบไป

อยู่ด้วยกันแล้ว

คำพูดนี้ออกมาจากปากของเวินจิ้ง สำหรับเขาแล้วเป็นการทำร้ายจิตใจจริงๆ

เขากำลังพยายามยับยั้งอารมณ์โกรธของตัวเอง

“ตั้งแต่เมื่อไหร่?”

“ก่อนหน้านี้ไม่นาน”

“อืม ผมขออวยพรพวกคุณทั้งสอง” คำพูดนี้ของหลิงอี้ จริงครึ่งหนึ่งปลอมครึ่งหนึ่ง

“ขอบคุณ วันนี้ขอบคุณคุณจริงๆ”

เอาเสื้อคลุมคืนให้กับหลิงอี้ เวินจิ้งไปจ่ายตังก่อนแล้ว แต่เมื่อตอนที่ออกมา กลับเห็นมู่วี่สิงเดินออกมาจากร้านอาหารตรงหน้า

ห้างสรรพสินค้านี้ อยู่ใกล้บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป

เวินจิ้งแปลกใจ หยุดฝีเท้าลง

แต่มือของหลิงอี้แตะอยู่บนไหล่เวินจิ้ง ทันทีนั้นเธอไม่ได้สังเกต

ตอนที่สายตาของมู่วี่สิงมองมา ก็เห็นเป็นภาพทั้งสองคนกำลังสนิทสนมกัน

ฝีเท้าหยุดเดิน เขาให้ผู้บริหารระดับสูงกลับไปก่อน แล้วเขาก็เดินมาทางด้านนี้

“มาได้ยังไง?” มู่วี่สิงเดินมาใกล้ ในสายตาไม่มีหลิงอี้เลย

จับมือเวินจิ้งอย่างเป็นปกติ

“มาทานข้าวพอดี กำลังจะกลับมหาวิทยาลัยแล้ว” เวินจิ้งก้มหน้าลง

เธอรู้สึกว่าสีหน้ามู่วี่สิงค่อนข้างโกรธ

เป็นเพราะเธอมาทานข้าวกับหลิงอี้หรือ?

“หลิงอี้ ฉันไปก่อนนะ วันนี้รบกวนคุณแล้ว” เวินจิ้งพูดก่อน

พูดเสร็จ ก็ควงแขนมู่วี่สิงไว้

มือของหลิงอี้ค้างอยู่กลางอากาศ สายตาเศร้าแว็บผ่านไป

ทั้งร่างกายมู่วี่สิงยิ่งโกรธจัด

เวินจิ้ง เงยขึ้นดู ค่อนข้างตกอกตกใจ

ตอนที่เขาไม่พูดอะไร สีหน้าดูแล้วยิ่งเคร่งขรึม

แต่ปกติมู่วี่สิงอยู่กับเธอ ดูอ่อนโยนเสมอ

“มู่วี่สิง” เธอเรียกเขา

“อืม” มู่วี่สิงใบหน้าขาวซีด

“มู่วี่สิง”

“อืม”

เวินจิ้งขมวดคิ้ว หยุดฝีเท้า

กอดเอวมู่วี่สิง เธอเขย่งเท้า ผู้ชายคนนี้ก็โหดจัง…

“คุณโกรธหรือ” เวินจิ้งพูดอย่างแน่วแน่

“อืม”

เวินจิ้ง…

ผู้ชายคนนี้พูดอย่างอื่นไม่เป็นแล้วหรือ?

หายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าเวินจิ้งยิ้มแย้ม “มู่วี่สิง คุณโกรธอะไรหรือ”

“ไปทานข้าวกับผู้ชายคนอื่น”

เขาไม่ชอบ ไม่ชอบอย่างมาก

เมื่อกี้ตอนที่เห็นเวินจิ้งกับหลิงอี้เดินออกมาด้วยกัน เขาโกรธจนแทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้

เธอเป็นผู้หญิงของเขา

แขนโอบกอดเอวบางของเวินจิ้ง เขาเชยคางเธอขึ้นมา ดวงตาประกายความมืดมน

“ฉันแค่บังเอิญเจอหลิงอี้พอดี”

“เจอที่ไหน?”

เวินจิ้งเงียบ สักพักจึงพูดว่า “ที่โรงพยาบาลหลินไห่”

“โรงพยาบาลหลินไห่ห่างจากที่นี่ไม่ใกล้เลยนะ” มู่วี่สิงรู้ทันเธอ

“แต่ก็มาได้นี่ มู่วี่สิง ฉันไม่ได้มีอะไรกับเขา หลิงอี้ก็รู้ว่าเราอยู่ด้วยกันแล้ว ฉันแค่มาทานข้าวกับเขาเอง” เวินจิ้งกอดเขาไว้ ขยับชิดแนบหน้าอกเขา

แต่มู่วี่สิงก็ไม่หวั่นไหว

เวินจิ้งรู้สึกโกรธ

ปกติมู่วี่สิงจะโกรธเธอน้อยมาก ตอนนี้เป็นแบบนี้ เธอไม่รู้ว่าจะปลอบเขายังไง

“คุณไม่ต้องถึงแล้ว ต่อไปฉันไม่ไปทานข้าวกับเขาอีก”

“ผมไม่ได้หึง” สีหน้ามู่วี่สิงยิ่งเคร่งขรึม ยังไงก็ไม่ยอมรับ

เวินจิ้งหัวเราะอย่างอดทนไม่ไหว ยกมือขึ้นบีบหน้าหล่อๆของมู่วี่สิง อย่างไม่กลัวตาย

“คุณกำลังถึง คุณหมอโง่ ศาสตราจารย์มู่ ท่านประธานมู่….. ไม่หึงแล้วดีไหม…”

น้ำเสียงเวินจิ้งอ่อนหวาน กำลังออดอ้อนเขาอยู่

มู่วี่สิงมองดูท่าทางเวินจิ้งที่เอาใจเขา สักพักสีหน้าที่เคร่งขรึมก็ค่อยๆผ่อนลงบ้าง “เวินจิ้ง ผมแค่เป็นห่วงคุณ”

“เขากอดเธอไว้แน่น”

“เป็นห่วงฉันอะไร?”

“ทั้งหมด”

เขาก็พูดไม่ถูก เพียงแค่เวินจิ้งไม่อยู่ข้างกายเขา เขาก็จะเป็นห่วง

มาถึงมหาวิทยาลัยหลินไห่ ทั้งสองคนตรงไปยังห้องทำงานของมู่วี่สิง

แต่เวินจิ้งปล่อยมือมู่วี่สิงแล้ว

สีหน้ามู่วี่สิงเคร่งเครียดลง

“ขยับมา”

ระยะห่างระหว่างเขากับเวินจิ้ง มีครึ่งเมตรแล้ว

“ไม่ได้ คุณเป็นศาสตราจารย์ ฉันเป็นนักศึกษา” เวินจิ้งพูดอย่างหนักแน่น

“คุณเป็นผู้หญิงของผม”

ในใจเวินจิ้งหอมหวาน แต่ที่นี่มีนักศึกษาไปๆมาๆมากมายขนาดนั้น เธอก็ยังคงไม่กล้า

“มู่วี่สิง คุณระวังตัวเองหน่อย”

“ไม่อยากเปิดเผยความสัมพันธ์ของเรา?” มู่วี่สิงมองดูนาง

ที่จริงเขาก็ไม่ใช่ศาสตราจารย์ประจำของมหาวิทยาลัย เพียงแค่ถูกเชิญมาสอนเท่านั้น เขาไม่ยอมรับการผูกมัดใดๆ

แต่เกี่ยวข้องกับเวินจิ้ง เขาเข้าใจความคิดของเธอ

“แน่นอน ฉันแค่อยากเรียนปริญญาโทให้จบอย่างสงบ”

ตอนที่เรียนปริญญาตรีเธอคบอยู่กับฉืออี้เหิง อาจเป็นเพราะคาดหวังมากเกินไป ต่อมาเมื่อเกิดเรื่องขึ้น จึงเกือบทำให้เธอเป็นบ้า

เธอแค่อยากรักษาความสัมพันธ์นี้ไว้อย่างดี

ต่อให้เพียงแค่สามปี

แววตาของเธอที่มองดูมู่วี่สิง มีแต่ความรัก

“หากยังมองผมแบบนี้อีก ผมอาจจะจูบคุณ” ริมฝีปากบางของมู่วี่สิงยิ้มแย้ม

เวินจิ้งแทบกัดริมฝีปากตัวเอง รีบหันไปมองทางอื่น

ฤดูหนาวภายในมหาวิทยาลัย ลากยาวเงาของคนทั้งสอง

ในห้องทำงานเปิดฮีตเตอร์ไว้ ในที่สุดเวินจิ้งก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาตั้งเยอะ

มองดูใบหน้าหล่อเหลาของผู้ชาย เวินจิ้งก็เริ่มค่อยๆจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว

จนในหัวสมองเกิดความเจ็บปวดขึ้นมา เวินจิ้งส่งเสียงร้อง “โอ๊ย”

“เจ็บ”

“ตั้งใจเรียน”

“ฉันตั้งใจแล้ว” เวินจิ้งตอบกลับอย่างมั่นใจ

เธอตั้งใจแล้วจริงๆ แต่มู่วี่สิงหล่อจริงๆ หล่อมาก

“ห้ามดูผม ดูหนังสือ” มู่วี่สิงขมวดคิ้ว

เขาอยากที่จะให้เวินจิ้งได้กลับไปพักผ่อนเร็วๆ แต่ก็อยากอยู่กับเธออีกสักหน่อย

“อืม” เวินจิ้งตอบรับอย่างว่าง่าย

เวลาผ่านไปเร็วมาก ทำแบบฝึกหัดจนถึงข้อสุดท้ายแล้ว เวินจิ้งค่อยโล่งอก

มู่วี่สิงอยู่ข้างๆ ทำให้เธอยิ่งกดดัน

แต่เวลาเรียนก็ผ่านไปเร็วมาก

“คุณทบทวนให้ฉันแบบนี้ สิ้นเปลืองเวลาอันมีค่าของคุณแล้ว ฉันต้องให้ค่าสอนพิเศษกับคุณไหม?” เวินจิ้งรู้สึกเกรงใจ

ยังไงสำหรับนักธุรกิจอย่างมู่วี่สิง แต่ละวินาทีอ่านนับล้าน

เขากลับมาสอนเธออย่างอดทนแบบนี้

“ค่าสอนพิเศษ?” มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ช่วยเธอเก็บกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว วินาทีต่อมา เวินจิ้งถูกเขาทับอยู่บนโซฟา

มองดูใบหน้าหล่อเหลาที่ใกล้แค่เอื้อม เวินจิ้งรีบกลั้นหายใจ

“ผมต้องการค่าตอบแทนทางร่างกาย” มู่วี่สิงยิ้มอย่างลึกซึ้ง

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท