Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 397

ตอนที่ 397

บทที่ 397 อย่าทำให้ของผมวุ่นวาย

“ดังนั้นเธอกำลังพูดว่ามีคนใส่ร้ายเธอ?” อธิการบดีหรี่ตาลง

“ฉันคิดว่า ใช่”

“ไร้สาระ เวินจิ้ง เธอยังกล้าปฏิเสธ? เธอก่อเรื่องในมหาวิทยาลัยหลินไห่ของเราก็ไม่ใช่ครั้งสองครั้งแล้ว ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยอย่างรุนแรงแล้ว คุณธรรมของเธอไม่ผ่าน ผมคิดว่าคุณควรที่จะหยุดพักการเรียนก่อนแล้วค่อยๆสำนึก” คำพูดของอธิการบดีเฉียบคมมาก

เวินจิ้งอึ้งไป คำพูดของอธิการบดีเป็นการลงโทษว่าเป็นความผิดของเธอแล้ว

“อธิการบดี ขอท่านเชื่อฉัน เรื่องนี้ฉันถูกใส่ร้ายจริงๆ”

“งั้นก็เอาหลักฐานออกมา” อธิการบดีเชิดหน้า

เวินจิ้งเงียบไป สักพักหนึ่งค่อยพูดขึ้นว่า “พยาบาลที่เอาของให้ฉันในวันนั้นอีกไม่กี่วันก็จะกลับมาจากต่างประเทศแล้ว ฉันอยากถามเธอต่อหน้า”

“เวินจิ้ง กล้องวงจรปิดได้อธิบายทุกอย่างแล้ว เธอแค่อยากที่จะถ่วงเวลา” เย่เฉียวพูดอย่างสงสัย

“ฉันแค่อยากพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจของตัวเอง”

“ไร้สาระ” ที่อธิการบดีขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ

เวินจิ้งมองดูท่าทางของทั้งสองคน แล้วก็เข้าใจทั้งหมดทั้งมวลแล้ว

อยู่ที่นี่ เธอไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะได้อธิบาย

แต่เธอก็ยังคงอยากที่จะลองดู

“อธิการบดี ขอท่านให้โอกาสฉันอีกสักครั้ง หนึ่งสัปดาห์ ฉันต้องการเวลาแค่หนึ่งสัปดาห์”

“เอาล่ะ งั้นก็ให้เวลาเธอหนึ่งสัปดาห์ ถึงตอนนั้นหากเธอยังไม่สามารถเอาหลักฐานออกมาได้ ผมก็จะไล่เธอออกทันที”

สีหน้าเวินจิ้งขาวซีด เธอพยักหัว “ขอบคุณท่านอธิการบดี”

หลังจากที่เวินจิ้งไปแล้ว เย่เฉียวมองดูอธิการบดี “อธิการบดี ทำไมท่านยังจะให้เวลาเธออีก”

“ไม่อย่างนั้น หากผมไม่ให้โอกาสเธอเลยสักครั้ง คนข้างนอกจะคิดยังไงกับมหาวิทยาลัยของเรา ยังไงเธอก็ยังเป็นคนของมหาวิทยาลัยหลินไห่ ภาพลักษณ์ภายนอกยังไงก็ยังต้องปกป้องอยู่”

“แต่…”

“เธอสืบหาอะไรไม่เจอหรอก” อธิการบดีพูดอย่างเยาะเย้ย

ออกมาจากห้องทำงานแล้ว เวินจิ้งก็หดหู่หงอยเหงาไม่มีชีวิตชีวา

เวลาหนึ่งสัปดาห์ เธอไม่มีความมั่นใจว่าจะสามารถหาหลักฐานมาได้

พยาบาลที่เอาอุปกรณ์ให้เธอคนนั้น หากไม่ยอมพูดความจริงออกมา อนาคตของเธอก็นับว่าจบแล้ว

เธอเป็นโอกาสเดียวของเธอแล้ว

เธอจะต้องติดต่อเธอให้ได้

คิดได้เช่นนี้ เธอก็รีบโทรหาไป๋สือ สายตรงข้ามกลับถูกเปลี่ยนเป็นให้ทิ้งข้อความ

เวินจิ้งแปลกใจ และเพิ่งคิดขึ้นมาได้ว่า ไป๋สือไม่ตอบข้อความของเธอหนึ่งวันเต็มแล้ว

หากเป็นปกติแล้ว เขาไม่เคยเป็นแบบนี้

เวินจิ้งขมวดคิ้ว รีบตรงไปหามู่วี่สิง

บริษัทฉินซื่อกรุ๊ป

เวลาพลบค่ำ เวินจิ้งตรงเข้ามาเลย ถูกพนักงานต้อนรับห้ามไว้อยู่ตรงชั้นหนึ่ง เธอรีบโทรหามู่วี่สิง

แต่ก็ไม่มีคนรับ ตอนนี้เวินจิ้งหวาดกลัวมาก สักพัก เธอโทรไปหาเกาเชียน

มู่วี่สิงไม่ได้อยู่ที่บริษัทฉินซื่อกรุ๊ป เกาเชียนแจ้งที่อยู่ร้านอาหารร้านหนึ่งให้เธอ คืนนี้มู่วี่สิงกำลังนัดเจอกับผู้ร่วมหุ้นคนหนึ่ง

เวินจิ้งลังเล เวลาแบบนี้ เธอไม่ไปรบกวนดีกว่า

แต่สามารถไปรออยู่ด้านนอกร้านอาหาร

ตลอดทาง เธอยังคงพยายามที่จะติดต่อหาศาสตราจารย์ไป๋อยู่ตลอดเวลา แต่ก็ไม่ได้ผล

เกาเชียนได้รายงานการเดินทางของเวินจิ้งให้กับมู่วี่สิงแล้ว เสร็จสิ้นการทานข้าวอย่างรวดเร็ว ตอนที่กำลังจะกลับ เวินจิ้งก็มาถึงพอดี

เมื่อเห็นมู่วี่สิง สีหน้าที่เคร่งเครียดของเธอก็ค่อยผ่อนคลายลง

“ทำไมถึงรีบร้อนขนาดนี้?”

“ฉัน…ฉันติดต่อศาสตราจารย์ไป๋ไม่ได้ คุณสามารถหาเขาเจอไหม?”

“เขาประชุมอยู่ต่างประเทศ พรุ่งนี้ก็น่าจะกลับมาแล้ว” มู่วี่สิงขมวดคิ้ว

“ฉันรู้…แต่เขาไม่ตอบข้อความฉันนานแล้ว ฉันเป็นห่วง…” ในใจเวินจิ้งยังคงมีความรู้สึกไม่ค่อยดี

ศาสตราจารย์ไป๋ไม่เคยไม่ตอบข้อความของเธอนานขนาดนี้

ได้ยินแบบนี้ สีหน้ามู่วี่สิงค่อยๆเคร่งเครียด กอดเวินจิ้งอย่างปลอบโยน เขาโทรศัพท์ไปหาเกาเชียน ให้ไปตรวจสืบดูก่อน

“ยังมีพยาบาลที่ยื่นอุปกรณ์ให้ฉันก่อนเข้าห้องผ่าตัดในตอนนั้น พรุ่งนี้เธอจะสามารถกลับมาไหม?” เวินจิ้งถาม

พวกเขาที่ออกไปประชุมต่างประเทศในครั้งนี้ ได้เลื่อนเวลาออกไปแล้วไม่น้อย ตอนนี้ยังไม่กลับมา

และอธิการบดีให้เวลาเธอ ก็ไม่มาก

“หากพวกเขายังกลับมาไม่ได้ ผมจะพาคุณไปยังประเทศC” น้ำเสียงมู่วี่สิงหนักแน่น

เวินจิ้งพยักหน้า ก็คงต้องเป็นแบบนี้แล้ว

กลางคืน มู่วี่สิงไม่ได้ส่งเวินจิ้งกลับไปยังมหาวิทยาลัย ยังคงพามาที่การ์เด้นมูเจียวาน

เขาลงมือเข้าครัวเอง เวินจิ้งนั่งอยู่บนโซฟา สายตามองดูเงาหลังสง่าของมู่วี่สิง

สักพัก เธอวิ่งไป แล้วกอดเขาอยู่ด้านหลังไว้แน่น

“คิดถึงผม หรือ?” น้ำเสียงต่ำของเขาดังขึ้น

“คิดถึง คิดถึงมาก” เวินจิ้งพยักหัว

ต่อให้มู่วี่สิงอยู่ข้างกาย ก็ไม่พอ

เธออยากที่จะเกาะติดอยู่ข้างกายเขาอยู่ตลอดเวลา

สายตามู่วี่สิงมองอย่างรักใคร่ หันมามองเธออย่างลึกซึ้ง “ว่าง่ายหน่อย ออกไปรอทานข้าว”

“คุณงานยุ่งมาก ปกติก็ให้คนใช้ทำกับข้าวเถอะ” เวินจิ้งไม่อยากให้มู่วี่สิงต้องลำบากขนาดนี้

แต่เขาก็ตั้งใจทำด้วยตัวเองอยู่ตลอด

“ผมไม่ชอบให้ภายในบ้านมีคนที่สาม” มู่วี่สิงพูดขึ้น

ปกตินอกจากคนใช้จะเข้ามาทำความสะอาดแล้ว เวลาอื่นจะไม่มาปรากฏตัว

“งั้นฉันจะช่วย” พูดเสร็จ เวินจิ้งก็พับแขนเสื้อขึ้น

ริมฝีปากบางของมู่วี่สิงอมยิ้ม “อย่าทำให้ของผมวุ่นวาย”

“ฉันไม่ได้ทำ ฉันอยากจะช่วยจริงๆ” พูดเสร็จ ก็สวมผ้ากันเปื้อนอย่างสมจริงสมจัง

ทั้งสองคนช่วยกันทำอย่างเข้ากันได้ดี ถึงแม้เวินจิ้งจะเป็น “นักฆ่าห้องครัว” แต่มู่วี่สิง ก็สอนเธอยังใจเย็น และในที่สุดก็ทำกับข้าวออกมาได้อย่างหนึ่ง

เพียงแต่ในใจยังคงมีเรื่องให้ต้องคิดอยู่มากมาย ดังนั้นจิตใจจึงยังไม่สามารถมีความสุขได้ทั้งหมด

ในห้องหนังสือ ไม่นานเกาเชียนก็โทรศัพท์มา มู่วี่สิงรับสาย

มีข่าวของไป๋สือแล้ว พวกเขาทั้งหมดที่ออกไปประชุมต่างประเทศประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ กลับไม่รู้ว่าทำไมข่าวถึงถูกปิดไว้

เขาขมวดคิ้ว พูดอย่างเย็นชาว่า “ตรวจสืบให้ชัดเจน”

หากข่าวถูกปิดไว้ งั้นรถประสบอุบัติเหตุ…คงจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

ด้านข้าง เวินจิ้งมองดูมู่วี่สิงอย่างกลัวๆ

รอจนเมื่อเขาวางสายแล้ว เธอก็ถามอย่างรีบร้อนว่า “เป็นยังไงบ้าง?”

“ศาสตราจารย์ไป๋ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ พรุ่งนี้พวกเราไปประเทศC”

ในใจเวินจิ้งหนักอึ้ง อุบัติเหตุทางรถยนต์…

“ศาสตราจารย์ไป๋ได้รับบาดเจ็บไหม?”

“ไม่รู้”

“แม้แต่เขายังสืบเรื่องได้อย่างไม่ละเอียด เกรงว่าสถานการณ์ทางด้านนั้นน่าจะไม่สู้ดี”

เช้าวันรุ่งขึ้น ทั้งสองคนรีบเดินทางไปยังประเทศCแต่เช้า

ลงจากเครื่องบินแล้ว เกาเชียนที่มาถึงก่อนแล้ว รายงานมู่วี่สิงว่า “ได้สืบรู้โรงพยาบาลที่เหล่าศาสตราจารย์เข้ารักษาตัวแล้ว ต่างก็ไม่ได้บาดเจ็บหนัก แต่ตามที่ทางโรงพยาบาลด้านนั้นวางแผน จะต้องพักดูอาการหนึ่งอาทิตย์”

“รีบไปดูกัน”

เวินจิ้งตาละห้อย ยังคงสงบเงียบ แต่ฝ่ามือที่เยือกเย็นยังคงเปิดเผยอารมณ์ของเธอ เธอรู้สึกไม่สบายใจ

ห่างจากเวลาที่อธิการบดีรับปากให้เธอไว้ เหลืออีกแค่ห้าวันแล้ว

หากเธอไม่สามารถหาหลักฐานมายืนยันความบริสุทธิ์ใจของตัวเองได้ ความพยายามของเธอทั้งหมดก็จะสูญเปล่าแล้ว

คิดถึงเช่นนี้แล้ว ในใจก็ยิ่งทรมาน

และแล้ว ด้านข้างก็มีแขนหนึ่งยื่นมา มุ่วี่สิงโอบกอดเธอมาแนบอก

“เรื่องราวจะสามารถสืบหาความจริงได้”

เวินจิ้งเงียบ ตามที่เธอเห็นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

ตอนนี้เธอไม่รู้เลยว่าพยาบาลคนนั้นตั้งใจใส่ร้ายเธอหรือเปล่า หากใช่ งั้นหลักฐานเดียวที่มีก็ไม่มีแล้ว

บริษัทฉีซื่อกรุ๊ป

ฉีเซินประชุมเสร็จ ผู้ช่วยรออยู่ด้านนอกอย่างเกรงกลัว

“ประธานฉี มู่วี่สิงกับคุณหนูเวินไปประเทศCแล้ว”

“อะไรนะ? ทำไมไม่ห้ามไว้” ฉีเซินพูดอย่างโกรธเคือง

“ผม…ผมจะห้ามยังไง…” ผู้ช่วยพูดอย่างลำบากใจ

“โง่ที่สุด ทางด้านโรงพยาบาลมีคนเฝ้าอยู่ไหม?”

“มีคน แต่คนของมู่วี่สิงก็อยู่ที่นั่น”

“เศษสวะ” ฉีเซินด่าอย่างโกรธจัด “ทางด้านโรงพยาบาลถ่วงเวลาไว้ให้ได้ อย่างน้อยก็ต้องหลังจากหนึ่งอาทิตย์แล้วค่อยให้พวกเขาออกจากโรงพยาบาล”

“ผมเข้าใจแล้ว”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท