Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 401

ตอนที่ 401

บทที่401 เธอปรารถนาอยู่เสมอ

เมื่อเวินจิ้งได้รับโทรศัพท์จากเกาเชียนเธอยังอยู่โรงพยาบาล และรีบกลับไปโรงเรียนทันที

หากโจวหย่านกลับมาแล้ว พวกเธอก็สามารถไปหาอธิการบดีอธิบายเรื่องนี้ได้เลย

เพียงว่าเวินจิ้งคิดไม่ถึงว่า โจวหย่านก็คือเย่เฟยเฟยนี้เอง

มองไปสีหน้าที่ตกใจของเวินจิ้ง โจวหย่านไม่คิดจะอธิบายอะไรเพิ่มเติม”ฉันไม่แน่ใจว่าจะสามารถช่วยคุณได้หรือเปล่า ฉันแค่อยากช่วยมู่วี่สิงเท่านั้นเอง”

ท่าทางของโจวหย่าน ยังหยิ่งเหมือนเคย

“ไม่ว่ายังไงก็ตาม ก็ต้องขอบคุณที่คุณยอมมาหนานเฉิงค่ะ”เวินจิ้งพูดเบาๆ

“ฉันจะอยู่ที่หนานเฉิงต่อตลอด”โจวหย่านบอกว่า

เวินจิ้งไม่ได้คิดคำพูดของเธออย่างรายละเอียด ทั้งสองมาถึงที่ห้องทำงานของอธิการบดี เกาเชียนได้เอาวิดีโอออกมาอีกครั้งและพบหลักฐานว่าวิดีโอนั้นถูกตัดต่อใหม่ โจวหย่านก็อธิบายว่าเมื่อเธอได้รับเครื่องมือผ่าตัด ก็ถูกบอกว่ามันถูกฆ่าเชื้อโรคไปแล้ว ดังนั้นเธอจึงบอกเวินจิ้งแบบนี้

“เรื่องนี้ฉันต้องยืนยันสถานการณ์อีกครั้ง”อธิการบดีได้ตัดสินทันที

เวินจิ้งขมวดคิ้วแล้ววางแผนที่จะไปโรงพยาบาลด้วยตัวเองอีกครั้ง

ออกจากห้องทำงาน โจวหย่านก็ไปอย่างรวดเร็ว และเกาเชียนกำลังจะออกไป แต่เวินจิ้งเรียกเขาไว้

“ช่วงนี้มู่วี่สิงยุ่งมากเหรอ”เวินจิ้งถาม

ในเมื่อโจวหย่านก็มาแล้ว แต่ทำไมมู่วี่สิงยังไม่กลับล่ะ

เขาธุระอย่างอื่นต้องจัดการเหรอ

เธอคิดถึงเขามากจริงๆ คิดถึงเขาตลอดเวลา

“คุณมู่ยุ่งมากจริงๆครับ”เกาเชียนพูดอย่างปิดปาง

จริงๆแล้วก็ไม่ได้ยุ่งมาก … แต่สถานการณ์ของตอนนี้เขาไม่กล้าพูดมากไป

“ฝากขอบคุณเขาด้วยนะคะ ขอบคุณที่เขาหาโจวหย่านเจอและให้เธอกลับมาช่วยฉันอธิบายด้วย”เวินจิ้งบอกว่า

เรื่องนี้ไม่ว่าผลสุดท้ายจะเป็นยังไง เธอก็ติดบุญคุณของมู่วี่สิงอยู่แล้ว

เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะตอบแทนเขายังไง

“ครับ งั้นฉันไปก่อนนะครับ คุณเวิน” เกาเชียนรีบตามโจวหย่านไป และส่งเธอขึ้นรถอย่างเคารพ

รถคันนั้น เวินจิ้งจำได้อย่างชัดเจนว่านั้นเป็นรถของมู่วี่สิง

ดวงตาของเธอสั่นไปเล็กน้อย แต่ไม่กล้าคิดมาก

ในเวลานี้ ที่โรงพยาบาล

มู่วี่สิงอยู่ในห้องทำงานของคณบดีโรงพยาบาลตลอด ถึงแม้ว่าปากคำของโจวหย่านจะชี้แจงให้เวินจิ้งแล้ว แต่เหตุการณ์ทางการแพทย์นี้ ก็ยังต้องมีคนรับผิดชอบเรื่องนี้อยู่ดี

“ศาสตราจารย์มู่คะ เวินจิ้งเป็นแค่นักเรียน ฉันจะปรึกษากับอธิการบดีและให้เธอพักการเรียนเป็นระยะเวลาหนึ่ง รอให้เรื่องนี้ผ่านไปค่อยกลับมา คุณคิดว่าไงคะ”คณบดีถาม

ในเมื่อเกิดเรื่อง เขาจำเป็นต้องอธิบาย

ไม่งั้นคนที่จะต้องรับผิดชอบก็คือเขาเอง

สิ่งที่โชคร้ายที่สุดในขณะนี้ก็คือผู้ป่วยที่ติดเชื้อยังไม่ตื่นขึ้นมา ซึ่งเป็นสิ่งที่แย่สุด

“ไม่ได้ เธอจะพักเรียกไม่ได้ เรื่องนี้เธอไม่ได้ทำผิด”มู่วี่สิงพูดอย่างจริงจัง

“ฉันรู้ค่ะ แต่เรื่องนี้เธอต้องเป็นคนที่รับผิดชอบเท่านั้นค่ะ…”เสียงของคณบดีก็เบาลงเรื่อยๆ

เขาไม่กล้าขาดใจมู่วี่สิง แต่เขาก็ต้องรักษาตำแหน่งคณบดีไว้

และทางโรงเรียนให้แรงกดดันตลอด ให้การจัดการเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด เขาไม่รู้จะทำยังไงดี

ตาของมู่วี่สิงแคบลง กำมืออย่างแน่นและดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความเย็นชา

สักพัก มู่วี่สิงออกจากห้องทำงานของคณบดีและมาที่หอผู้ป่วยด้านล่าง

ญาติของผู้ป่วยร้องไห้ตลอดเวลาอยู่ข้างๆ เมื่อเห็นมู่วี่สิงที่ใส่เสื้อคลุมสีขาว พวกเขาก็ร้องไห้และเรียกร้องความรับผิดชอบ

ญาติของผู้ป่วยได้ร้องเรียนเหตุการณ์นี้ตลอด แต่คณบดีระงับมันชั่วคราว

เขาขมวดคิ้ว หยิบบันทึกการแพทย์ของผู้ป่วย เนื่องจากสมองติดเชื้อ มันเป็นอันตรายอย่างหนักถ้าจะผ่าตัด

แต่ว่า ก็ไม่ได้บอกว่าไม่มีความนั่นใจสักนิดเลย

“ไม่ต้องเป็นห่วง เขาจะตื่นขึ้นแน่นอน”มู่วี่สิงพูดเสร็จก็ไปที่ห้องทำงานของคณบดีอีกครั้ง

“อะไรนะ คุณจะผ่าตัดให้เขาเหรอ”คณบดีตกใจมาก

จริงๆแล้วเขาก็เคยคิดวิธีนี้เหมือนกัน แต่สิ่งที่ไม่สามารถควบคุมได้มากเกินไปสำหรับการผ่าตัดครั้งที่สองแม้แต่ไป๋สือก็ไม่มีความมั่นใจเลย

ทั้งโรงพยาบาลก็ยิ่งไม่มีหมอคนไหนจะเห็นด้วย

แต่ตอนนี้มู่วี่สิงเสนอออกมาเอง

“ศาสตราจารย์มู่ คุณแน่ใจเหรอ… “คณบดีรู้สึกไม่มั่นใจ

หากครั้งนี้เกิดปัญหาอีก ตำแหน่งของเขาก็จะเก็บไม่อยู่แน่

แต่ก็รู้เลยว่า ในเมื่อมู่วี่สิงกล้าที่จะเสนอออกมาก ก็แสดงว่าเขามีความมั่นใจแน่นอน

“ท่านคณบดี ฉันจะผ่าตัดด้วยตัวเอง แถมอาคารใหม่อีกสองหลัง คุณยังต้องพิจารณาเหรอ”มู่วี่สิงก้มลง ตาของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจ

คณบดีปฏิเสธไม่ได้

“ศาสตราจารย์มู่ งั้นฉันมีเงื่อนไขอันหนึ่งได้ไหมคะ”คณบดีถาม

“บอกมา”

“คุณมาทำงานในโรงพยาบาลของเราสัปดาห์ละหนึ่งวัน มันไม่มากเกินไปใช่ไหมคะ”คณบดียิ้มอย่างชาญฉลาด

เรื่องนี้เขาคิดมาตั้งนานแล้ว

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ตอบอย่างเย็นชา”เช้าหนึ่ง”

“ได้ครับ”

เพิ่งออกจากโรงพยาบาล โจวหย่านก็รออยู่ข้างนอก เมื่อเห็นมู่วี่สิงเธอก็วิ่งไปหาและจับแขนของเขา

มู่วี่สิงไม่ได้ผลักออกไป โจวหย่านได้ให้นักข่าวแอบถ่ายรูปอยู่แต่ตรงข้ามแล้ว

คิ้วที่เย็นชาของเขาขมวดขึ้น

“คุณจะกลับบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปอีกเหรอ ตอนนี้ก็สายมากแล้ว ไปทานอาหารเย็นดีไหมคะ”โจวหย่านยิ้มอย่างสดใส

“อื่ม”มู่วี่สิงตอบ แล้วพาเธอไปที่ร้านอาหารจีน

ห้างที่ทานข้าวก็กว้างขวางมาก แต่โจวหย่านก็ติดกับตัวของมู่วี่สิงตลอด ตักข้าวให้เขาอย่างใส่ใจ แต่มู่วี่สิงไม่ได้กินกี่คำ และไม่ได้กินที่เธอตักให้สักคำ

ตาของโจวหย่านค่อยๆเต็มไปด้วยความผิดหวัง

เธอเองก็กินอย่างไม่อร่อย

มู่วี่สิงยุ่งมาก อยู่โรงพยาบาลทั้งวัน ไม่ได้ทำเรื่องของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปตั้งเยอะ

ไม่สักพักเขาก็เรียกเกาเชียนเข้ามาโดยตรงและรายงานเขาอยู่ข้างๆ

อาหารค่ำสำหรับสองคน … ก็กลายเป็นของสามคน

โจวหย่านก็ยิ่งไม่ดีใจไปอีก แต่การมองมู่วี่สิง ก็เป็นเรื่องที่ชื่นชอบเหมือนกัน

อาหารมื้อนี้กินไปสามชั่วโมงเต็มๆ มู่วี่สิงใช้สองชั่วโมงครึ่งมาทำงาน เขาส่งโจวหย่านไปที่อพาร์ตเมนต์ในเมืองแห่งหนึ่งก่อน แล้วเขาค่อยกลับไป

แต่โจวหย่านไม่ได้ลงจากรถ มองไปที่ผู้ชายที่อยู่ข้างเธอ”ฉันอยากอยู่กับคุณ”

“ไม่สะดวก”มู่วี่สิงไม่ได้มองเธอด้วยซ้ำ

โจวหย่านก้มตาลด พูดอย่างกล้าหาญว่า”เรากำลังจะแต่งงานแล้ว พักอยู่ด้วยกันทำความเคยชินอย่างดีก่อนไม่ได้ดีเหรอคะ”

“ไม่ว่าจะชินหรือไม่ชิน คุณก็ต้องแต่งงานกับฉันไม่ใช่เหรอ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงเย็นชามาก

โจวหย่านไม่ได้พูดอะไรอีก มองเห็นได้ชัดว่า มู่วี่สิงไม่ชอบเธอมาก

“คุณเคยสัญญากับฉันว่า คุณจะแต่งงานกับฉัน คุณจะไม่ผิดสัญญาใช่ไหมคะ”น้ำเสียงของโจวหย่านก็เย็นชาลง

“ไม่ กลับไปเถอะ พักผ่อนดีๆ”มู่วี่สิงพูดอย่างเหนื่อย

“พรุ่งนี้คุณกินข้าวเย็นกับฉันได้ไหมคะ”โจวหย่านถาม

“ได้”มู่วี่สิงไม่ได้ปฏิเสธ

เมื่อโจวหย่านกลับไปแล้ว เกาเชียนที่อยู่ที่นั่งคนขับหันมา”คุณมู่ เรื่องข่าวระหว่างคุณกับคุณโจวทางหนังสือพิมพ์ถามว่าจะต้องปิดไว้ไหมครับ”

“ไม่จำเป็น”

เวินจิ้งเพิ่งกลับหอพักจากอาคารทดลอง หลิงเหยามองเธอด้วยสายตาแปลกๆตลอด

“มีอะไรเหรอ” เวินจิ้งขมวดคิ้ว

ตอนนี้การลงโทษของโรงเรียนไม่ได้ลงมา เธอยังสามารถไปเรียนอย่างปกติ แต่จริงๆแล้วเธอผิดหวัง

ในทุกๆวัน

ความหวังที่จะสนับสนุนเธอก็กำลังหายไปทีละนิด

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท