Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 415

ตอนที่ 415

บทที่ 415 กำลังจะได้เป็นสามีของเธอ

วันอาทิตย์ เวลาเก้าโมงเช้า

มู่วี่สิงยังคงอยู่ที่ห้องทำงาน โดยไม่รอให้พี่ชายไปถึงที่โรงแรม มู่ซือซือก็โทรหาเขาด้วยความกังวล

“อีกสักพักพี่ก็จะถึงแล้ว”

เขาแค่ตอบกลับไป ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ ยังไม่ได้นอน เพียงแค่นั่งอยู่บนโซฟาตลอดทั้งคืน

ในหัวของเขา เต็มไปด้วยคำพูดปฏิเสธของเวินจิ้ง

เขาบีบที่หัวคิ้วอย่างเหนื่อยล้า เขาสั่งให้เกาเชียนเข้ามา

เปลี่ยนเป็นชุดเจ้าบ่าว แล้วเขาก็ออกจากบริษัท

เกาเชียนมองไปที่bossอย่างใจจดใจจ่อ วันนี้เป็นวันแห่งความสุขของประธานมู่ แต่ใบหน้าของเขา มีเพียงใบหน้าที่เย็นชาไม่มีที่สิ้นสุด

แม้แต่ก่อนวันแต่งงานเขาหนึ่งวัน ก็ยังทำงานจนล่วงเวลาขนาดนี้

เขาไม่กล้าที่จะพูด หรือถามอะไรมาก เกาเชียนขยันขันแข็งขับรถต่อ

โรงแรมหนานเฉิง

ช่างแต่งหน้ากำลังแต่งหน้าให้กับมู่ซือซือ เธออยากจะยิ้มออกมา แต่ก็ไม่สามารถที่จะยิ้ม หรือหัวเราะได้เลย

ก่อนงานแต่งงานทั้งฝ่ายชาย และฝ่ายหญิง ไม่สามารถพบกันได้ แต่ว่าเมื่อคืนเธอไม่พบมู่วี่สิงเลย เธอรู้สึกกระวนกระวายใจ

ความรู้สึกยังคงอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งโจวเซินเดินเข้ามา

เขาอยู่ในชุดสูทสีกรมท่า ดูหรูหรา และสง่างาม

แต่โจวหย่านรู้จักเขาเป็นอย่างดี เขาก็คือหมาป่า ที่อยู่ในร่างแกะนั่นเอง

“มาแล้วเหรอ”โจวหย่านน้ำเสียงเรียบนิ่ง

“สุดท้ายก็จะได้แต่งงานกับมู่วี่สิงแล้ว เป็นความปรารถนาของเธอนี่”โจวเซินเดินเข้ามา มองน้องสาวแสนสวยของตัวเองผ่านกระจก

แม้ว่าอายุของเธอจะน้อย แต่หลังจากผ่านหนึ่งปีแห่งการทดสอบนี้มาได้ เธอก็ดูโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก

มันเป็นสิ่งที่พิเศษจริงๆ

“ก็ใช่น่ะสิ ขอบคุณนะพี่ชาย”โจวหย่านยิ้มอย่างไม่จริงใจออกมา

“ฉันออกไปเดินข้างนอกนะ มีเรื่องอะไรโทรเรียกพี่ชายได้เลยนะ”โจวเซินหมุนตัวออกไป

ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของโจวหย่านค่อยๆ ลดลง

ทุกนาที ทุกวินาทีของเวลา ค่อยๆ ผ่านไป เวลาของพิธีงานแต่งงานก็ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

โจวหย่านเรียกให้เพื่อนเจ้าสาวเข้ามาหา“วี่สิง เป็นยังไงบ้าง?”

“คุณมู่อยู่ข้างนอกงานแล้วล่ะ”

“งั้นพวกเราออกไปกันเถอะ”

ในเวลาเดียวกัน ด้านนอกของโรงแรม

เวินจิ้งนั่งอยู่บนรถแท็กซี่ มองดูแสงไฟที่ระยิบระยับของโรงแรม โดยไม่มีการขยับเคลื่อนไหวไปไหนเลย

“คุณครับ ถึงแล้วนะครับ”คนขับได้เตือนอย่างหมดความอดทน

“อ่า โอเคค่ะ”เวินจิ้งดึงสติกลับคืนมาได้

แล้วผลักประตูรถออกมา แต่ขาของเธอกลับไม่ขยับ

เธอมาทำอะไร

เธอหลับตาลง ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความเสียใจ

เพียงแต่ เธอไม่สามารถควบคุมมันได้

ในขณะเดียวกัน ก็มีร่างสูงเดินมาหยุดอยู่ด้านข้างเธอ

“หลี่ซี่?”เวินจิ้งขมวดคิ้ว

“ใช้ได้นี่ ดีที่ยังจำชื่อของผมได้”หลี่ซี่อยู่ในชุดสูทสีขาว ทำให้เขาเป็นชายหนุ่มที่ดูพิเศษ

ใบหน้าของเวินจิ้งไม่แสดงสีหน้าใดๆ ยืนนิ่ง เตรียมวางแผนที่จะหนีออกมา

หลี่ซี่ขวางเธอไว้“ในเมื่อก็มาแล้ว ก็เข้าไปด้วยกันนะครับ”

“ฉันไม่ได้จะเข้าไปนะ คุณหลี่”เวินจิ้งขมวดคิ้วขึ้น แสดงท่าทีรำคาญ

หลี่ซี่ยกมือขึ้น แล้วจับไปที่ปลายคางของเวินจิ้ง“ผมอยู่นี่ ไว้ใจผม ว่าจะไม่มีใครรังแกคุณได้”

เวินจิ้งยังคงไม่ยอม

หลี่ซี่รู้สึกสิ้นหวัง อยากที่จะเอาชนะ

ถึงแม้ว่าเขาจะดูธรรมดา แต่มีเงิน ผู้หญิงทุกคนแทบจะไม่เคยปฏิเสธเขาเลย

เวินจิ้ง กลับปฏิเสธเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า

“ฉันไว้หน้าเธอแล้วนะ แต่เธอยังหน้าด้านอีก”หลี่ซี่โกรธมาก พูดด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างโมโห

สีหน้าของเวินจิ้งยังคงเรียบนิ่ง หลี่ซี่ไม่สนใจเธอ และเดินเข้าไปข้างในงานแล้ว

สวนดอกไม้บนชั้นดาดฟ้า ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม ภายในสวนถูกประดับด้วยลูกบอล และดอกไม่สีขาวบริสุทธิ์เต็มสวน

มู่วี่สิงได้มาถึงแล้ว เขาอยู่ในชุดเจ้าบ่าวสีดำพอดีตัว ตัวเขามีเสน่ห์ เปล่งประกายออร่าออกมา แต่มันได้ช่วยเพิ่มความลึกลับ และน่าค้นหาให้เขาด้วย ทำให้ผู้หญิงจำนวนไม่น้อยหยุดมองไปที่เขาตลอด

หลังจากนั้นไม่นาน,โจวหย่านเดินออกมาช้าๆ พร้อมกับเพื่อนเจ้าสาว

สายตาของเธอ จดจ่อไปที่ใบหน้าอันหล่อเหลาของมู่วี่สิง ซึ่งทำให้เธอทั้งสับสน และหลงใหล

ชายผู้มีเกียรติคนนี้ กำลังจะได้เป็นสามีของเธอแล้ว

ริมฝีปากเล็ก ค่อยๆ ยิ้มกว้างขึ้นอย่างช้าๆ เธอเร่งฝีเท้าเดินให้เร็วขึ้น อย่างไม่เป็นธรรมชาติ

เพียงแค่ ภายในงานเลี้ยงที่เงียบสงบแห่งนี้ แต่กลับมีเสียงบึ้งตึงเสียงหนึ่ง โพล่งออกมา

ผู้หญิงแต่งตัวหรูหราคนหนึ่ง เดินเจ้ามาพร้อมกับกลุ่มบอดี้การ์ด ระหว่างคิ้วและตา สามารถระบุได้อย่างชัดเจน ว่าคล้ายกันกับโจวหย่าน

เสียงนี้ มันเป็นเสียงที่โจวหย่านคุ้นเคยเป็นอย่างดี

ตัวของเธอแข็งทื่อ เธอไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว

สีหน้าของเธอค่อยๆ ซีดลง ปลายเล็บของเธอแทบจะจิกเข้าไปในเนื้อผิวหนัง

ในที่สุด ฝีเท้าของเลี่ยวหยง หยุดยืนอยู่ตรงหน้าเธอ เธอยกมือขึ้นเพื่อเตรียมที่จะตบ

“เพียะ——”

ทุกคนในงาน อ้าปากค้างในทันที

โจวหย่านมองดูผู้หญิงสูงอายุที่อยู่ตรงหน้า น้ำตาค่อยๆ เอ่อขึ้นมาในดวงตา

เธอเม้มริมฝีปากอย่างแรง เพื่อไม่ให้น้ำตาร่วงลงมา

“แม่”สุดท้าย เธอก็ร้องไห้ออกมา

และเลี่ยวหยงก็ได้สั่งให้บอดี้การ์ดของเธอ นำคนออกไปจากห้องนี้ให้หมด ไม่ให้มีส่วนเกินเหลืออยู่

“งานแต่งนี้ยกเลิก”

เพียงแค่หนึ่งประโยคที่เยือกเย็น ไม่มีคำอธิบายอื่นๆ เพิ่มเติม

“แม่คะ หนูไม่ไป!”โจวหย่านพยายามอย่างหนักที่จะต่อสู้ แม้กระทั่งพยายามที่จะรั้งมู่วี่สิงไว้

เพียงแต่คู่ต่อสู้ของตัวเอง ที่เป็นบอดี้การ์ด และผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างเธอ ยังผลักไสไล่ส่งเธออย่างเย็นชา

“วี่สิง คุณช่วยหยุดแม่ของฉันที!”โจวหย่านอดไม่ได้ที่จะร้องไห้คร่ำครวญออกมา เมื่อเห็นว่าระยะห่างระหว่างเธอกับมู่วี่สิงนั้น ยิ่งไกลและไกลออกไป เธอไม่ได้พร้อมยอมรับมันนะ

เธอตั้งตารอให้มาถึงวันนี้ อย่างยากลำบาก

แต่ใบหน้าของผู้ชายช่างเฉยชา ดวงตาของเขา ไม่เคยหันมามองโจวหย่านเลย

แขกที่อยู่รอบๆ เห็นฉากนี้ แต่ก็ไม่รู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น

“วี่สิง!วี่สิง!”ในขณะที่โจวหย่าน ต้องการเพียงแค่ความช่วยเหลือจากมู่วี่สิง

แม้ว่าเธอจะกรีดร้อง จนคอแทบแตก แต่เธอกลับเห็นเพียงแค่ มู่วี่สิงหมุนตัวเดินจากไป

และเธอก็ถูกบอดี้การ์ดนำตัวเข้าไปในรถ

ข้างๆ หู มีเสียงของแม่ที่กำลังโกรธอยู่“ใครเป็นคนตัดสินใจเรื่องนี้!”

โจวหย่านหดคอของเธอด้วยความกลัว และไม่พูดอะไร

เลี่ยวหยงรู้เรื่องนี้มานานแล้ว และตะคอกออกมาด้วยความโกรธเคือง“ฉันไม่ควรจะปล่อยให้เธออยู่กับโจวเซิน!งานแต่งงานครั้งนี้ ฉันไม่มีวันยอมรับมันได้ ยอมแพ้ซะเถอะ”

“จนกว่าหนูจะตาย!”โจวหย่านก็สวนตอบแทบจะขาดใจ!

……

ทางเดินของโรงแรม เวินจิ้งไม่คิดว่าตัวเธอเองจะหลงทาง ไม่ว่าจะเดินไปทางไหน ก็หาห้องน้ำไม่เจอสักที

มันหันตัวกลับ ตั้งใจที่จะเดินออกมาตามเส้นทางเดิม แต่ไม่คิดว่าจะได้ชนเข้ากับ อ้อมกอดที่แข็งแกร่งเข้า

“ขอโทษค่ะ”

“จะไปไหนเหรอครับ?”เสียงทุ้มน่าฟัง ดังก้องอยู่ในหูของเธอ

แต่เวินจิ้งตอนนี้ ไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะมาสนใจ และไม่ได้สนใจผู้ชายคนนี้

โจวเซินขมวดคิ้ว มองไปที่เวินจิ้ง และเขาพูดขึ้นมาอย่างเงียบๆ“ทางนี้ไม่มีทางออกนะครับ,ต้องการให้ผมนำทางคุณไหม?”

เวินจิ้งหยุดเดิน แล้วหันไปมองผู้ชายคนนั้น

ลักษณะรูปร่างของเขาดูลึกลับ หล่อเหลา บวกกับชุดเสื้อผ้าที่โดดเด่น ทำให้ยิ่งสะดุดตา

ใบหน้าของเวินจิ้ง ไม่แสดงอาหารใดๆ แล้วพูดเบาๆ ว่า“งั้นต้องรบกวนคุณแล้วค่ะ”

ไม่คิดว่าโจวเซินจะไม่ได้พาเธอไปประตูใหญ่ของโรงแรม แต่กลับพาเธอมาด้านหลังของสวนดอกไม้

ไม่มีงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่ตามที่คาดไว้ แต่มีเพียงฉาก ที่กำลังดูยุ่งวุ่นวายอยู่

แขกเกือบจะกลับออกไปกันหมดแล้ว พนักงานกำลังทำความสะอาดกันอยู่

งานแต่งงาน……ทำไม่จบเร็วจัง?

โจวเซินประหลาดใจขึ้นมาทันที ซ่อนความคิดไว้ในดวงตา ได้แต่กำหมัดแน่น

ในขณะเดียวกัน,ก็มีลูกน้องของเขารีบวิ่งเข้ามา เพื่อจะรายงานเรื่องต่างๆ ให้กับเขา แต่เขาได้ส่งสัญญาณให้หยุดก่อน

ดวงตาอันแสนลึกลับของเขา ก้มลงไปมองเวินจิ้ง,“ผมจะพาคุณออกไปก่อน”

“ขอบคุณค่ะ”เวินจิ้งตอบออกไปเบาๆ

แต่ก็ยังอดมองไปที่ลานกว้างนี้ไม่ได้ ว่างานแต่งงานนี้มันจบลงแล้วจริงๆ……หรือถูกขัดจังหวะกลางทาง

เมื่อนึกถึงความเป็นไปได้ เธอก็รู้สึกดีใจ

แต่ก็ต้องรีบลบความคิดนี้ไปอย่างรวดเร็ว

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท