Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 418

ตอนที่ 418

บทที่ 418 ฉันไม่ได้สนิทกับคุณ

เห็นได้ชัดว่า พวกนักข่าวในที่นี้ก็แปลกใจมากเช่นกัน และถามคำถามกับมู่เหิงว่า เขาต้องการจะทำอะไร

เขามองนักข่าวรอบๆ ตัวเขา และยิ้มออกมาเบาๆ“ตอนนี้บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป มีน้องชายของผมที่มีอำนาจเพียงคนเดียว ผมไม่ใช่คนของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปแล้ว ขอให้ทุกคนดูที่ตัวตนของผมจริงๆ ตอนนี้ผมได้เป็นรองผู้จัดการทั่วไปของบริษัทฉีซื่อกรุ๊ปแล้วครับ”

“ไม่แปลกใจเลยที่ประธานมู่ไม่มาร่วมงาน พี่ชายของตัวเองไปร่วมงานกับบริษัทคู่แข่ง มู่เหิงนี่ทำเกินไปจริงๆ”ตู้ยิงพูดด้วยความโกรธ

เวินจิ้งสีหน้าเรียบนิ่ง และแม้ว่าเธอจะไม่ได้อยู่ใกล้มาก เธอก็สามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจน จากคำพูดของมู่เหิงที่ได้ให้สัมภาษณ์เมื่อสักครู่ ว่าได้ซ่อนความเกลียดชังบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปไว้

เขาได้ร่วมงานกับบริษัทฉีซื่อกรุ๊ปแล้ว นั่นหมายถึง บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปต่างฝ่ายต่างได้เริ่มสงครามขึ้นแล้ว

เรื่องนี้ มู่วี่สิงรู้มานานแล้ว เขาเพิ่งลงจากเครื่องบิน ก็ได้มีผู้สื่อข่าวกลุ่มหนึ่ง ได้ปิดล้อมทางออกของสนามบินไว้

มู่วี่สิงสวมเสื้อและกางเกงเป็นสีดำทั้งหมด ออร่าของเขาทั้งน่าทึ่ง และน่ากลัว

และที่เขาเป็นแบบนี้ เย็นชาจนผู้คนไม่กล้าเข้าใกล้

“ประธานมู่ ขอถามเกี่ยวกับ การที่มู่เหิงได้ย้ายไปร่วมงานกับบริษัทฉีซื่อกรุ๊ป คุณมีความคิดเห็นยังไงบ้างคะ?”

“ได้ยินมาว่าก่อนหน้านี้ มู่เหิงต้องการจะยึดอำนาจคุณ คุณจึงส่งเขาไปดูแลธุรกิจทางฝั่งแอฟริกาเหนือ และเขากลับมาในครั้งนี้ ก็เพื่อจะกลับมาล้างแค้นคุณ ใช่ไหมครับ?”

“บริษัทฉีซื่อกรุ๊ป กับบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปเคยเป็นคู่แข่งกันอยู่เสมอ ครั้งนี้มู่เหิงได้ย้ายไปร่วมงานกับบริษัทฉีซื่อกรุ๊ป คือเขากำลังยืนหยัดที่จะต่อสู้กับบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ใช่ไหมคะ?”

“……”

คำพูดของนักข่าว แต่ละประโยคนั้นตรงไปตรงมา,มู่วี่สิงยังคงแสดงสีหน้าเรียบนิ่ง,ดวงตาสีดำลึกยังคงแสดงความเยือกเย็นไม่มีที่สิ้นสุด

บอดี้การ์ดได้เปิดทางให้เขาได้เดิน เมื่อเดินไปจนถึงหน้ารถ เขาก็ได้ทิ้งประโยคอันแสนเศร้าไว้หนึ่งประโยค

“ไม่ว่าจะเป็นบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป หรือว่าตระกูลมู่ ไม่มีใครสามารถทนต่อการทรยศได้”

ภาพข่าวที่ถูกถ่ายทอดสด เวินจิ้งมองผู้ชายรูปหล่อ บนหน้าจอโทรศัพท์มือถือ ริมฝีปากค่อยๆ ยกขึ้น

“ประธานมู่หล่อมาก!มู่เหิงที่ไร้ค่าคนนั้น ทำอะไรกับบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปไม่ได้แน่นอน”ตู้ยิงที่นั่งข้างๆ ปรากฏใบหน้าที่หลงใหล

มู่วี่สิงแท้จริงแล้ว หล่อมากๆๆๆ!

“อืม ทำไม่ได้แน่นอน”เวินจิ้งก็พยักหน้า

ในขณะเดียวกัน ก็ร่างหนึ่งที่อยู่ด้านหน้าเดินเข้ามา เวินจิ้งมองไปที่ฉีเซิน แล้วขมวดคิ้วขึ้น

“ทำไม มู่วี่สิงถึงไม่มาล่ะ ปล่อยให้อดีตภรรยาของเขามาเข้าร่วมแทนเหรอ?”ฉีเซินพูดติดตลก

“ฉีเซิน อย่ามาพูดไร้สาระนะ”เวินจิ้งโกรธ

“ใช่เหรอ?ไม่คิดว่าพวกเธอที่หย่ากันแล้ว เธอจะยังทำงานหนักเพื่อเขาขนาดนี้”ฉีเซินหรี่ตาลงมอง อย่างท้าทาย

เวินจิ้งไม่อยากที่จะสนใจเขา หมุนตัว เตรียมที่จะเดินออกมา

ตู้ยิงกำลังรอเธออยู่ที่ด้านนอกแล้ว

แต่ฉีเซินไม่ปล่อยให้เธอออกไป“ไหนๆก็มาแล้ว กินข้าวด้วยกันซักมื้อก่อนไหมล่ะ?ยังไงก็คนสนิทกัน”

“ฉีเซิน ฉันไม่ได้สนิทกับคุณ!”

“หลังจากที่เธอเคยเป็นพี่สาวของผมในช่วงระยะเวลาหนึ่ง แค่ไว้หน้าให้กันแค่นี้ ทำให้ผมไม่ได้เหรอ?”ฉีเซินทำน้ำเสียงเศร้าสร้อย

เวินจิ้งยิ้มอย่างเยือกเย็น“ก็คือไม่ให้”

เมื่อพูดจบ ก็หันตัวเดินออกมาอย่างรวดเร็ว

ปลายนิ้วเรียวของฉีเซินจับไปที่คางของตัวเอง จุ๊ๆ กรงเล็บของผู้หญิงคนนี้ ยังคงเฉียบคมเหมือนเดิม

เมื่อหันตัวกลับ มู่เหิงก็ไม่รู้ว่าเขาได้เดินเข้ามาเมื่อไหร่

“ไม่ต้องไปสนใจผู้หญิงแค่คนเดียว รอแค่พวกเราทำลายบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป เธอยังไม่ใช่ผู้หญิงที่จะนอนใต้ร่างคุณ”มู่เหิงพูดด้วยรอยยิ้ม

ฉีเซินกระดกเหล้าเข้าปาก แต่ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่น คงต้องใช่แน่นอน

แต่แค่ เธอคือเวินจิ้ง

เขารู้จักกับเธอมาก็นานแล้ว เขารู้จักนิสัยของเธอดี

“ก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่งเท่านั้น ฉันจะสนใจทำไม?”ฉีเซิน ดื่มเหล้าที่เทจนเต็มแก้ว อย่างไม่สนใจ

ตอนบ่าย เวินจิ้งและตู้ยิงกลับไปบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปด้วยกัน

มู่วี่สิงก็เพิ่งจะกลับมาถึง เมื่อเวินจิ้งกำลังลงจากรถ ก็เห็นเข้ากับร่างสูงที่อยู่ไกลๆ

ไม่เคยคิดว่าเมื่อเขาสวมเสื้อผ้าสีดำไปบนตัวเขา มันจะดึงดูดความสนใจคนอื่นๆ ได้มากขนาดนี้

เธอหยุดยืนนิ่ง แต่ตู้ยิงได้วิ่งเข้าไปหาเขา เพื่อรายงานเรื่องการประชุมของวันนั้นให้เขาฟัง

เวินจิ้งไม่ได้มีเรื่องอะไรแล้ว ก็เตรียมตัวที่จะกลับตระกูลหลิน

แต่ตู้ยิงก็เรียกให้เธอกลับไป มู่วี่สิงกำลังจะมีประชุม

เวินจิ้งขมวดคิ้ว แม้ว่าเธอจะไม่ค่อยเต็มใจ แต่ก็ทำได้แค่ตามขึ้นไปที่ห้องทำงานเท่านั้น

เธอที่นั่งอยู่ข้างๆ ตู้ยิง แทบจะไม่ได้พูดอะไรเลย นั่งฟังทั้งสองคนพูดถึงความคืบหน้าของการวิจัยและการพัฒนายา บางครั้งถ้ามีคำถามหรือปัญหา ถามกับเวินจิ้ง เธอถึงจะตอบ

น้ำเสียงและอารมณ์ยังคงเย็นชามาตั้งแต่ต้น

“เวินจิ้ง ในส่วนนี้เธอเป็นคนรับผิดชอบเหรอ เธอคิดว่าการวิจัยและการพัฒนาครั้งนี้ จะเสร็จสิ้นภายในปีนี้ไหม?”ตู้ยิงถาม

เวินจิ้งขมวดคิ้ว และส่ายหัว

“ฉันเข้าร่วมโครงการนี้ยังไม่ไม่นาน ปีนี้ คิดว่ายังไงก็ไม่เสร็จค่ะ”

“ถ้าผมทำมันสำเร็จภายในปีนี้ล่ะ?”มู่วี่สิงมองมาที่เธอ

“ปีนี้ก็เหลืออีกแค่ห้าเดือนแล้วค่ะ”เวินจิ้งขมวดคิ้ว

เธอแค่ไม่อยากที่จะต้องมากังวลในเรื่องต่างๆ ถึงได้รีบทำตามกระบวนการให้ทัน

“เวินจิ้ง แม้ว่าห้าเดือนจะเป็นช่วงเวลาที่ไม่นาน ผมจะดู ว่าคุณพร้อมจะยินยอมที่จะสละเวลาทั้งหมดให้กับการวิจัยนี้ไหม”มู่วี่สิงพูดจี้จุดอย่างตรงประเด็น

เวินจิ้งเม้มริมฝีปาก ใบหน้าของเธอค่อยๆ ก้มลง

เธอเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยหลินไห่ ปกติเธอจริงจังและทุ่มเทกับการเรียนมาตลอด และเธอก็ใช้วันหยุดมามีส่วนร่วมในการวิจัยและการพัฒนานี้

ตอนนี้จะให้เธอเปลี่ยนจุดโฟกัสเพื่อมาทำงานนี้ แล้วเธอจะต้องมีพลังมากขึ้น

“บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ขาดคนมากขนาดนั้นเชียวเหรอ?”เวินจิ้งถามเสียงนิ่ง

ตู้ยิงหน้าซีดขึ้นมาทันที กล้าที่จะพูดแบบนี้กับประธานมู่……เธอถึงกับต้องปาดเหงื่อ เพราะเวินจิ้งเลยจริงๆ

มู่วี่สิงยิ้มเย้ยหยัน“สำหรับคนที่มีความสามารถ ผมคิดว่าทุกบริษัทก็คงขาดอยู่”

“เวินจิ้ง,มันจะดีกว่า ถ้าเธอแค่บอกว่าจะทำการทดสอบนี้ ให้เสร็จทันก่อนเวลา,ได้ไหม?”ตู้ยิงดึงเธอเข้าไปชิดตัว แล้วพูดเสียงเบา

ประธานมู่ได้พูดแล้วว่าเป็นคำสั่ง ไม่สามารถขัดขืนได้

เวินจิ้งมองไปที่ผู้ชายที่อยู่ข้างหน้า กัดริมฝีปาก ผ่านไปสักพักเธอจึงพูด“ฉันจะพยายามทำให้ดีที่สุด แต่ฉันไม่สามารถสัญญาว่าจะเสร็จในปีนี้ได้”

เธอไม่เคยสัญญาอะไรที่ไม่มีความแน่นอน

ตู้ยิงมองไปที่มู่วี่สิงอย่างกระวนกระวายใจ เมื่อครู่เธอเหมือนจะได้ยิน น้ำเสียงของมู่วี่สิงที่ไม่พอใจอยู่มากๆ

แต่ในตอนแรก เธอคิดว่าอย่างน้อยมู่วี่สิงจะตำหนิเวินจิ้ง แต่กลับไม่มีเลย

“อืม ผมหวังว่า นักศึกษาเวินจิ้งจะไม่ทำให้ผมผิดหวังนะ”

เมื่อออกจากห้องทำงาน ตู้ยิงกลัวจนเหงื่อออกทั้งตัว เวินจิ้งสีหน้ายังคงเรียบนิ่ง

“เวินจิ้ง ตอนที่เธออยู่ต่อหน้าประธานมู่……ทำไมเธอถึงนิ่งขนาดนั้นได้!แล้วเธอยังกล้าที่จะปฏิเสธเขาอีก!ฉันชื่นชมเธอจริงๆ!”

เวินจิ้งยิ้ม“ถ้าเราพูดไปแล้ว แต่ไม่สามารถทำให้มันสำเร็จได้ ก็เหมือนกับเราได้เข้าไปเกี่ยวข้องแล้ว หลังจากนั้นมันจะปัญหาขึ้นจริงๆ นะ”

“ก็จริงนะ แต่ว่าช่วงนี้บริษัทฉีซื่อกรุ๊ป ได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ฉันคิดว่าตอนนี้ประธานมู่ต้องการให้การวิจัยนี้ทำเสร็จให้เร็วที่สุด เป็นเพราะว่าอยากจะจัดการกับบริษัทฉีซื่อกรุ๊ป ”ตู้ยิงคิด

“เรื่องของผู้บริหารใหญ่ ไม่สามารถคาดเดาได้เลย”

กลับมาจัดการเรื่องต่างๆ ที่ห้องทดลอง ก็ตอนกลางคืนแล้ว คืนนี้หลิงอี้ผ่านมารับเธอกลับด้วย

“ขอโทษที่รบกวนด้วยนะ”เวินจิ้งขมวดคิ้ว

“ช่วงนี้เธอทำงานที่บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ผมมารับคุณได้ตลอด”

“ฉันไม่ค่อยพูดมากเท่าไหร่นะ แต่รถของคุณหลิงทำไมถึงมีแต่เศษเล็กเศษน้อยล่ะ”เวินจิ้งหาเรื่องอื่นเพื่อที่จะเปลี่ยนเรื่องคุย

ตอนนี้เป็นเวลากลางคืน ถ้ามาเร็วกว่านี้อีกหน่อย พนักงานของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปเดินกันไปมาให้เยอะแน่นอน ถ้าเห็นเข้าต้องนำไปพูดกันให้ทั่วแน่นอน

“แต่คุณนายหลินก็ได้ให้รถกับคุณไว้คันหนึ่งแล้วนี่ รถคันนั้นแพงกว่าคันที่ผมขับนี่อีก”หลิงอี้ยิ้ม

“ปกติฉันก็ขับรถไม่เป็นอยู่แล้ว”เวินจิ้งส่ายหน้า

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท