Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 419

ตอนที่ 419

บทที่ 419 เขาเป็นพี่สะใภ้ของเธอเสมอ

“ตอนนี้เธอเป็นคนของตระกูลหลิน ดูแลตัวเองให้ดีหน่อย ได้ไหม?”หลิงอี้น้ำเสียงดูเบื่อหน่าย

แม้ว่า เวินจิ้งจะถือว่ากลับมาสู่ตระกูลหลิน แต่ชีวิตของเธอ ก็ไม่ได้แตกต่างจากเมื่อก่อนมากเท่าไหร่

“ฉันคุ้นชินกับชีวิตเมื่อก่อนแล้ว และไม่ได้วางแผนที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรด้วย”

“เวินจิ้ง แต่ความคิดของเธอเปลี่ยนได้”

คำพูดนี้ เวินจิ้งยังไม่รู้ แต่มันจะเป็นจริงแน่ในอนาคต

ตระกูลมู่

เมื่อรู้ว่ามู่วี่สิงไม่ได้แต่งงานกับโจวหย่าน มู่เฉิงรู้สึกโกรธมาก

ตอนแรงวางแผนที่จะกลับหนานเฉิง แต่มีหลายสิ่งที่ต้องทำ จึงไม่สามารถเดินทางได้ทันที

ภายในห้องนั่งเล่น มู่วี่สิงและมู่ซือซือ ได้วีดีโอคอลกับมู่เฉิง

“คุณปู่คะ พี่ชายทำเกินไปมากเลยค่ะ เขาไม่ได้บอกพวกเราว่า งานแต่งงานจะไม่ได้ดำเนินต่อไปตั้งแต่แรก ซึ่งทำให้หนูกังวลมาโดยตลอด!”

“หนูมีอะไรให้ต้องกังวลเหรอ ทุกวันยุ่งอยู่กับการเตรียมการสอบก็พอแล้ว เรื่องของพี่ชายให้ตัวเขาจัดการเอง”

“ก็กลัวว่าพี่จะถูกคนของตระกูลโจวหลอกให้แต่งงานน่ะสิคะ!”มู่ซือซือบ่นพึมพำ

เพราะมู่วี่สิงเป็นพี่ชายสุดที่รักของเธอไงล่ะ เขาแต่งงานแล้ว……เธอมีความรู้สึกเหมือนถูกปล้นของรักของเธอไป!

นอกเสียจาก เธอจะถูกใจกับพี่สะใภ้คนนั้นมาก!

“ในสายตาเธอ พี่ดูเหมือนคนโง่ขนาดนั้นเลยเหรอ?”มู่วี่สิงขมวดคิ้ว

มู่ซือซือไม่ได้พูดอะไรต่อ เมื่อตอนนั้นในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ที่มู่วี่สิงและเวินจิ้งอยู่ด้วยกัน เธอคิดว่าเขาค่อนข้างสับสน

มู่วี่สิงแค่มองแวบเดียว ก็มองความคิดของมู่ซือซือออก ความคิดของเขาตอนนี้มีเพียงภาพของวันนี้ของผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ดูสงบนิ่ง นั่นทำให้เขาแปลกใจเล็กน้อย

“วี่สิง ถือว่าเป็นคนของตระกูลโจวแล้ว แต่เกรงว่าพวกเขาจะยังไม่ยอมหยุด”มู่เฉิงได้เตือนเขา และรู้ความคิดของมู่วี่สิงตั้งแต่แรก

ประกาศการแต่งงานกับโจวหย่าน กลัวว่าจะมีเพียงแค่มู่วี่สิงเท่านั้น ที่ต้องการจะสำรวจตระกูลโจว

“ได้ครับ แต่อำนาจของตระกูลโจวไม่ได้อยู่ที่หนานเฉิง ผมจะระวังตัวครับ”

หลังจากวีดีโอคอลเสร็จ มู่วี่สิงกำลังจะขึ้นห้อง มู่ซือซือได้เรียกเขาให้หยุดก่อน

“พี่คะ ถ้างั้น พี่ยังคิดถึงเวินจิ้งอยู่ใช่ไหมคะ?”มู่ซือซือถามอย่างรอคำตอบ

“ซือซือ เขาเป็นพี่สะใภ้ของเธอเสมอ จำได้หรือยัง”

มู่ซือซือนิ่งเงียบ ค่อยๆ ขมวดคิ้วขึ้น ไม่คิดว่าผลลัพธ์จะยังคงเป็นแบบนั้นเหมือนเดิม

ในขณะนั้น ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ไม่คิดว่าจะเป็นโจวหย่านที่หายไปหนึ่งอาทิตย์ จะโทรมาหาเธอ

ตอนนี้เธออยู่ต่างประเทศ หลังจากออกจากหนานเฉิง เธอก็ถูกยึดโทรศัพท์ไป จนถึงวันนี้ ถึงได้โทรศัพท์คืนมา

“ซือซือ ตอนนี้มีแค่เธอคนเดียว ที่ฉันกล้าโทรมา……วี่สิง เขาสบายดีไหม?”โจวหย่านตื่นเต้นเมื่อถามออกไป

สิ่งที่เกินขึ้นในงานแต่งงาน ไม่เพียงแต่ทำให้คนของตระกูลโจวขายหน้า ยังมีตระกูลมู่ที่ทำให้ขายหน้าไปด้วย

“เขา……เขาสบายดี”มู่ซือซืออึดอัดที่จะตอบเล็กน้อย

เมื่อก่อนโจวหย่านชอบเอาแต่ใจ โดยที่ไม่สนใจอะไร และเธอยังควบคุมเรื่องต่างๆ ของตระกูลโจว,ดังนั้นมิตรภาพก็ยังคงดีต่อไป

“ซือซือ ฉันไม่รู้ว่ามันจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ฉันขอโทษจริงๆ นะ”โจวหย่านขอโทษออกมาจากใจจริง

เธอรู้ว่า แม่ของเธอไม่เห็นด้วย ที่เธอกับมู่วี่สิงจะอยู่ด้วยกัน ดังนั้นเรื่องงานแต่งงาน จึงต้องถูกปกปิดจากเธอ

แต่ไม่รู้ว่าทำไม,แม่ที่อยู่ต่างประเทศที่แสนไกล ถึงทราบเรื่องได้

“ไม่เป็นไรนะ มันผ่านไปแล้วล่ะ เป็นเพราะตระกูลโจวไม่เห็นด้วย ถ้างั้นเธอก็อยู่บ้านให้สบายใจนะ”มู่ซือซือตอบ

“ไม่ ฉันจะหนีออกไป ฉันอยากแต่งงานกับมู่วี่สิง!”ความมั่นใจของโจวหย่าน ไม่เคยคิดจะยอมแพ้

มู่ซือซือนิ่งเงียบไปสักพัก,เธอรับรู้ได้ถึงความมุ่งมั่นของโจวหย่าน

แต่ความรักที่เธอมีต่อพี่ชายนั้น เป็นเรื่องจริง

เธอเข้าใจความรู้สึกนี้ดีมาก

ในเวลานี้มันค่อนข้างจะทนไม่ไหว

“ซือซือ,วี่สิงเขายังโกรธฉันอยู่ใช่ไหม?”

“โจวหย่าน ฉันคิดว่านะ เธอยอมแพ้ซะเถอะ เรื่องในครั้งนี้ก็กระทบกับตระกูลมู่ไม่น้อย พี่ชายจะแต่งงานกับคุณ ผู้อาวุโสของตระกูลมู่ก็ไม่เห็นด้วย”มู่ซือซือเตือนสติเธอ

เมื่อได้ยิน,โจวหย่านเงียบลงทันที

ในขณะเดียวกัน ก็มีเสียงหนึ่งดังมาจากทางประตู โจวหย่านไม่ทันได้วางสาย รีบซ่อนโทรศัพท์มือถือไว้ทันที

เห็นว่าเป็นพี่ชาย ก็รู้สึกโล่งใจ

“พี่ พี่มาแล้ว”

“ฉันจะหาโอกาสพาเธอออกไปเอง”โจวเซินพูดเสียงต่ำ

โจวหย่านยิ้ม คิดถึงคำพูดของมู่ซือซือเมื่อสักครู่ หรือว่า มู่วี่สิงไม่ต้องการที่จะแต่งงานกับเธออีกต่อไปแล้ว

เธอขู่เขา เขาถึงให้โอกาสเธอแค่เพียงหนึ่งครั้ง แต่ว่าตอนนี้ ไม่มีโอกาสนั้นอีกแล้ว

เธออยากจะร้องไห้

“โจวหย่าน เชื่อพี่นะ”โจวเซินดังขึ้นมา

โจวหย่านเงยหน้าขึ้น และนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง โดยไม่พูดอะไร

“พี่ให้ฉันใกล้ชิดกับมู่วี่สิง พี่ต้องการจะทำอะไร?”

เมื่อเขาได้ยิน โจวเซินสายตาของเขาก็เย็นชาขึ้น“พี่แค่ทำตามความต้องการของเธอ ไม่มีเรื่องอื่นเลย เธอไม่ต้องกังวล”

“ฉันแค่อยากรู้”โจวหย่านกระตุกไปที่ชายเสื้อของพี่ชาย

แต่โจวเซินไม่ได้พูดอะไรมาก

มู่ซือซือ ได้ฟังบทสนทนาผ่านทางโทรศัพท์ คำพูดของโจวหย่านที่พูดออกมา มันชัดเจนทุกคำ

โจวเซิน……เขาต้องการจะทำอะไรพี่ชาย?

……

เช้าวันรุ่งขึ้น เวินจิ้งตื่นสายนิดหน่อย

เพราะคำร้องขอของมู่วี่สิง แผนของงานวิจัยและการพัฒนาต้องเร่งทำให้เร็วขึ้น เมื่อคืนทั้งฝ่ายได้ทำการประชุมหารือกัน เพื่อพูดถึงเรื่องกลยุทธ์ต่างๆ เวินจิ้งเพิ่งจะได้นอนในตอนเช้านี้เอง

ในตอนเช้าเธอกินอาหารเช้าอย่างเร่งรีบ รถของหลิงอี้รออยู่ด้านนอกแล้ว

“ถ้าไม่ขึ้นรถ ผมจะขวางคุณไว้แบบนี้แหละ”

เวินจิ้งขมวดคิ้ว มองไปทางไหนก็ไม่มีช่องว่างให้เธอหนีออกไปได้เลย ใบหน้าแสดงความกระวนกระวายใจ

ดึงที่เปิดประตูฝั่งที่นั่งข้างคนขับ เธอก็รีบขึ้นรถอย่างรวดเร็ว

หลิงอี้ยกริมฝีปากด้วยความพอใจ

“หลิงอี้ ครั้งหน้าไม่ต้องทำแบบนี้อีกนะ”เวินจิ้งไม่พอใจ

“ถ้าคุณยอมที่จะขับรถไปทำงานด้วยตัวเอง ผมถึงจะไม่ไปส่งคุณ”หลิงอี้ตอบ

เวินจิ้งเม้มริมฝีปาก หลิงอี้รู้ว่า เธอไม่ยอมขับรถหรูเหล่านั้นของตระกูลหลินอย่างแน่นอน

เมื่อถึงบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป เวินจิ้งให้หลิงอี้จอดรถที่มุมถนน ที่ไกลจากบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป หลิงอี้ไม่ยอมฟัง แล้วขับมาจอดที่หน้าประตูใหญ่ของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป

เวินจิ้งไม่ขยับตัวไปไหน ไม่ยอมลงรถ

รถของมู่วี่สิงจอดอยู่คันข้างหน้า ภายในสายตา มีเพียงชายที่สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว และกางเกงสีดำ ที่ถูกล้อมรอบไปด้วยคณะผู้บริหาร กำลังเดินเข้าไปในบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป

เพียงไม่นาน ก็มีผู้สื่อข่าวจำนวนมาก หลั่งไหลจากทุกทิศทางเข้ามาล้อมรอบ บอดี้การ์ดมาป้องกันไม่ทัน มู่วี่สิงก็ถูกรายล้อมไปด้วยผู้สื่อข่าวเรียบร้อย

เวินจิ้งเป็นกังวลขึ้นมาทันที

หลิงอี้เลื่อนหน้าต่างรถลง คำถามต่างๆ ของนักข่าวก็ดังเข้ามา

“ประธานมู่ วันนี้ที่บริษัทฉีซื่อกรุ๊ป มีเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับยาตัวใหม่ ยาตัวใหม่ของบริษัทฉีซื่อกรุ๊ป ได้เลียนแบบโครงการการพัฒนายาของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป อยากทราบว่าคุณได้ทราบเกี่ยวกับเรื่องนี้ไหมครับ?”

“บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป จะฟ้องบริษัทฉีซื่อกรุ๊ปไหมครับ?”

“ประธานมู่,ไม่ทราบว่าเรื่องนี้บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ทราบมาก่อนไหมคะ……”

“……”

เวินจิ้ง หลังจากได้ยินคำถามพวกนี้ ก็รีบเปิดดูข่าวในโทรศัพท์มือถือทันที และก็เป็นจริงอย่างที่คิด ข่าวที่เกิดขึ้นกับบริษัทฉีซื่อกรุ๊ป ตอนนี้ได้รับการพาดหัวข่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เพิ่งเกิดขึ้นวันนี้ บริษัทฉีซื่อกรุ๊ปถูกยึด และฉีเซินก็เพิ่งจะถูกจับ!

ช่วงที่ผ่านมา บริษัทฉีซื่อกรุ๊ปกำลังเป็นที่นิยม เจริญรุ่งเรือง ออกตัวยาใหม่มาสู้กับตลาดของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปก็มากมาย,แต่ตอนนี้ก็ถูกเปิดเผยว่า เป็นยาที่เลียนแบบมาจากบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป,แค่เพียงข้อกล่าวหานี้เพียงข้อเดียว ก็สามารถทำลายบริษัทฉีซื่อกรุ๊ปได้แล้ว!

เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ เวินจิ้งได้เคยคาดเดาไว้ และตอนนี้บริษัทฉีซื่อกรุ๊ปก็เกิดเรื่องขึ้นจริงๆ ไม่น่าแปลกใจเลย

วิธีของฉีเซิน เป็นอย่างนี้นี่เอง

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท