Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 439

ตอนที่ 439

บทที่ 439 ฉันคือสามีในอนาคตของเธอ

 

วินาทีถัดมา มู่เหิงทั้งร่างนั้นราวกับไม่มีแรงยืน ล้มลงบนโซฟา มือสั่นเทาก็ชี้หน้ามู่เหิง

มู่เหิงก็ตกใจ มันไปกระทบต่อสภาพจิตใจของปู่ เขาก็รีบเขาไปพยุงคุณปู่ทันที คนรับใช้ก็รีบวิ่งไปเอายามาทันที พอกินยา อารมณ์ของคุณปู่ก็เหมือนจะดีขึ้นเล็กน้อย

“คนที่จะสืบทอดบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป มีแค่มู่วี่สิง!” มู่เฉิงอาการดีขึ้นเล็กน้อย พูดเสียงดังฟังชัด

“คุณปู่ ปู่ก็รู้ดีว่าคุณทวดออกกฎของผู้สืบทอดบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปไว้ตั้งนานแล้ว จะเปลี่ยนไม่ได้”

“ทวดของแกไม่อยู่ ตอนนี้ฉันมีสิทธิ์เปลี่ยน!”

มู่เหิงกัดปาก ความโกรธภายในตาก็ลอยขึ้นมา

“คุณปู่ ดูเหมือนว่าปู่จะไม่สนใจใยดีผมกับคุณพ่อแล้วจริงๆ ”

“หลายปีที่ผ่านมาเรื่องที่พวกแกสองคนทำล้วนอยู่ในสายตาฉัน!ตระกูลมู่ถูกพวกแกทำเละเทะ แกยังจะกล้าพูด!” มู่เฉิงกระแทกไม้เท้าลงอย่างแรง

“ถ้าหากคุณปู่ทำตามธรรมเนียมเดิมให้ผมสืบทอดบริษัทต่อไป ก็คงไม่เกิดเรื่องพวกนี้” มู่เหิงบ่น

“ออกไปซะ” มู่เฉิงโกรธ จนไม่อยากจะพูดต่อ

มู่วี่สิงก็กลับมาพอดี ก็มีอีกเรื่องนึง

ใครก็ไม่สนใจ มู่เหิงเดินขึ้นชั้นบนไปเอง

เพราะว่าเมื่อก่อนมู่วี่สิงไม่ยอมลาออกจากโรงพยาบาล ทำให้มู่เฉิงยังโกรธอยู่ถึงทุกวันนี้

“ไอ้น้อง งานเลี้ยงวันนั้นกลับซะเร็ว งานสนุกมั้ย?” มู่เหิงเดินเข้ามา

“นายอยากจะแสดงให้คนภายนอกว่าความสัมพันธ์ในตระกูลมู่ของพวกเรานั้นแน่นแฟ้น ฉันก็ร่วมมือด้วยแล้ว” มู่วี่สิงไม่ได้ตอบคำถามของเขา

มู่เหิงคิด เขารู้ดีทุกอย่าง

“เหอะๆ ไอ้น้องชายนี่ฉลาดดี สถานการณ์ของมู่ซื่อกรุ๊ปตอนนี้ดูเหมือนจะไม่ค่อยดีสินะ พ่อไม่ได้ออกมาวันนึง ชื่อเสียงก็ยิ่งตกต่ำนะ”

ยังไงมู่เฟิงก็เป็นคนตระกูลมู่ เขาเกิดเรื่อง บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปก็ต้องได้รับผลกระทบ อีกอย่างตอนนี้คำสารภาพของมู่เฟิงก็ชี้ไปที่การยักยอกเงินของมู่วี่สิง สถานการณ์ของมู่ซื่อกรุ๊ปเลยยิ่งย่ำแย่ลงไปอีก

“นายอยากจะช่วยมู่เฟิง นายก็ไปรับผิดเอง” มู่วี่สิงยังคงทำหน้านิ่ง

“เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับฉันนี่ อีกอย่างไอ้น้องชาย นายคงจะต้องระวังให้มากๆ นะ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่คนที่เข้าไปอาจจะเป็นนาย” มู่เหิงพูดอย่างเยือกเย็น

มู่วี่สิงหรี่ตา ในตานั้นเยือกเย็นราวกับน้ำแข็งจะเกาะ

ตกเย็น มู่วี่สิงไปประชุมที่บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป

ประชุมเสร็จก็มืดแล้ว เกาเซียนยังมีเรื่องอีกมากจะรายงาน

“คุณมู่ เกี่ยวกับเรื่องที่มู่เฟิงให้ร้ายว่าคุณยักยอกเงิน ผมได้ให้หลักฐานกับสถานีตำรวจไปแล้ว พรุ่งนี้จะยื่นให้ทนาย”

มู่วี่สิงออกคำสั่ง “พรุ่งนี้ควบคุมการออกความเห็นด้วย มู่เหิงคงไม่ปล่อยไปเฉยๆ แน่”

ที่ชั้นหนึ่ง

เวินจิ้งลงจากรถ มองไปที่สถาปัตย์กรรมตึกสูงระฟ้า ถึงแม้จะมืดแล้ว แต่ว่าทั้งตึกก็ยังคงเปิดไฟสว่างอยู่

ตอนกลางวันนัดหลิงเหยาไปกินข้าว แถวๆ ตึกบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป เวินจิ้งเลยมาเสี่ยงโชค ดูว่าจะได้เจอกับมู่วี่สิงรึเปล่า

แต่ว่าวันนี้เขาพามู่ซือซือไปที่ศาล กลัวว่าตอนนี้อาจจะยังอยู่ที่บ้านเก่า

พอคิดแบบนี้ เวินจิ้งเลยถอยหลังออกมา

โทรไปหาเลยแล้วกัน

แต่แค่กดโทรออก ด้านหน้าก็มีเงาร่างโผล่มา และกลิ่นที่คุ้นเคยลอยมาแตะจมูก

งงอยู่สักพัก โทรศัพท์ก็โดนชายหนุ่มแย่งไป

“นี่!”

เงยหน้าขึ้น จ้องตาก็มู่วี่สิง เสียงก็หยุดชะงักไปอีกรอบ

“มาหาฉันเหรอ?” มู่วี่สิงมองเธอ

เวินจิ้งพยักหน้า “ฉันเพิ่งไปกินข้าวกับหลิงเหยามา”

“ฉันยังไม่ได้กินเลย” มู่วี่สิงขมวดคิ้ว แล้วเอาโทรศัพท์ใส่ลงกระเป๋าของเธอ

“งั้นฉันพานายไปกิน” เวินจิ้งคล้องแขนของมู่วี่สิงก่อน

แต่พอนึกได้ว่าที่นี่มันบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป เลยรีบปล่อยมือทันที

แต่มู่วี่สิงก็ล็อกแขนของเธอไว้ เวินจิ้งโดนดึงเข้ามาไว้ในอ้อมแขน

ผู้ร่วมงานที่เดินผ่านไปผ่านมาต้องค่อยๆ จับจ้องมา เวินจิ้งก้มหน้า ไม่อายคนอื่นบ้างเลย……

“มู่วี่สิง ปล่อยฉัน”

ถึงแม้เธอจะมาทำงานที่บริษัทมู่ซื่อได้ไม่นาน แต่ก็พอมีเพื่อนร่วมงานที่รู้จักบ้าง

“เธอเป็นแฟนฉัน ทำไมฉันต้องปล่อย” มู่วี่สิงเริ่มจะไม่แฮปปี้เท่าไหร่นัก

“นายคือประธานมู่ไง!” เวินจิ้งย้ำ

เขาคือ……บุคคลที่มีตำแหน่งสูง

ตอนนี้เธอก็เป็นแค่เด็กที่ยังเรียนไม่จบ เธอไม่อยากจะเปิดเผยความสัมพันธ์ของทั้งสอง

“ฉันเป็นสามีในอนาคตของเธอ”

พูดจบ มู่วี่สิงก็เดินเข้าไปในตึกสูงข้างหน้าเธอ

เดินมาจนถึงในลิฟต์ ดิ้นยังไงเขาก็ไม่ยอมปล่อยมือ

จ้องไปที่เขาอย่างไม่พอใจนัก แต่ใครบางคนก็ยังคงทำหน้าเย็นชา

เขาโกรธแล้ว

แต่เธอก็โกรธอยู่เหมือนกัน

ทั้งสองไม่มีใครพูด จนถึงชั้นบนสุด มู่วี่สิงพาเวินจิ้งไปที่ห้องทำงาน จากนั้นก็ไปทำงานของตน

ตอนแรกเวินจิ้งอยากจะถามเขาว่าทำไมถึงรู้ว่าเธออยู่ด้านล่าง แต่เห็นสีหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงแล้ว เลยไม่ได้ถาม

นั่งลงบนโซฟา นึกขึ้นได้ว่ามู่วี่สิงยังไม่ได้กินข้าว เลยจะสั่งอาหารให้เขา

เธอรู้รสปากของมู่วี่สิง หลังจากที่เลือกแล้วก็เหลือแต่ร้านอาหารในโรงแรมที่มีระดับ กัดฟันสั่งสปาเกตตี เวินจิ้งเงยหน้า ภาพของมู่วี่สิงที่นั่งทำงานตึงเครียดก็เข้ามาในสายตาเธอ

พอนึกถึงการกระทำที่ก้าวร้าวของเขาเมื่อกี้ อารมณ์ก็ไม่ดีอีกครั้ง

อุณหภูมิในห้องทำงานกำลังดี โซฟาก็ทำจากหนังที่นำเข้าจากอิตาลี ทั้งนุ่มและสบาย บรรยากาศแบบนี้ แถมเพิ่งจะกินอิ่มเวินจิ้งเลยค่อยๆ โดนความง่วงเข้าครอบงำ

ง่วงจัง

หนังตาจะเบิกไม่ขึ้นแล้ว

ตอนที่มู่วี่สิงเงยหน้า ก็เห็นเวินจิ้งอยากจะลืมตาแต่ก็ลืมไม่ขึ้น

ปากบางก็อ่อนโยนลงเล็กน้อย เขาหยิบชุดสูทด้านข้างแล้วเดินเข้าไป คลุมให้เวินจิ้งที่สวมเสื้อบางๆ

แล้วนั่งยองลงข้างเธอ ไม่ได้ขมวดคิ้วแต่อย่างใด

“จิ้งจิ้ง”

เธอหลับแล้ว

หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง เวินจิ้งก็โดนเสียงเคาะประตูปลุกให้ตื่น แล้วลุกขึ้นนั่ง เสื้อสูทบนร่างเลยหล่นลงมา

เธอหยิบขึ้นมาแล้วไปเปิดประตูทันที เป็นเกาเซียนที่เอาอาหารมาส่ง

“คุณเวิน”

เวินจิ้งรับกล่องข้าวมา แล้วเดินไปที่ข้างโต๊ะ มู่วี่สิงยังคงก้มหน้าทำงานอยู่

“มู่วี่สิง” เธอเรียกเขา

“อืม” ใครบางคนก็ยังคงเย็นชาไม่เงยหน้า

เวินจิ้งทำแก้มป่อง แล้วงอเอว “กินข้าวก่อนดีมั้ย?”

“วางไว้”

“กินตอนนี้เลยนะ?”

เวินจิ้งคิดว่าอารมณ์ที่ดีๆ ของตนเอามาใช้ง้อผู้ชายคนนี้หมดแล้ว

ถ้าเขายังจะเล่นแบบนี้……งั้นเธอจะโกรธจริงๆ แล้วนะ!

ในที่สุด มู่วี่สิงก็เงยหน้า

มองไปที่หน้าของเธอที่ฉีกยิ้มออกมา แล้วขมวดคิ้ว

“ฉันไม่หิว”

เวินจิ้ง:……

ไม่ง้อแล้ว!

“ไม่กินก็ตามใจ”

พูดจบ เวินจิ้งก็โยนเสื้อสูทลงตรงหน้าเขา แล้วคิดจะกลับบ้านตระกูลหลิน!

แต่พอเดินถึงประตู มู่วี่สิงก็กดรีโมตล็อกประตู

อีกนิดเดียวเวินจิ้งก็จะชนเข้ากับประตูแล้ว หันกลับมา สายตานั้นโมโหมาก

ปากบางของมู่วี่สิงนั้นเกิดรอยยิ้ม แล้วเดินเข้ามาโอบเธอ

ผลักออกหน่อย เวินจิ้งก็โดนเขาอุ้มมาพิงที่กำแพง

“ห้ามไป จิ้งจิ้ง” เขาพูดเสียงเบา

ปากบางก็จูบลงไปที่ต้นคอของเธอ แล้วไล่ขึ้นมาด้านบน จับแก้มแดงๆ ของเธอไว้

เวินจิ้งรู้สึกอ่อนยวบไปทั้งตัว มู่วี่สิงมักจะมีฝีมืออยู่เสมอ

แต่เธอไม่ลืม ว่าตัวเองยังโกรธอยู่!

มองมู่วี่สิง แล้วสะบัดหน้าหนี “ฉันจะกลับบ้านแล้ว”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท