Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 440

ตอนที่ 440

บทที่ 440 ความสัมพันธ์ฉันชู้สาว

“อยู่กินข้าวเป็นเพื่อนฉันก่อน เดี๋ยวฉันไปส่ง”

เห็นว่าเวินจิ้งจะปฏิเสธ มู่วี่สิงเลยพูดต่อ “เธอไป ฉันก็ไม่อยากกินข้าวแล้ว”

เวินจิ้งโวยวาย ทำไมเหมือนจะรู้สึกว่าตัวเองโดนมู่วี่สิงบงการอยู่ตลอดนะ

ออกมาจากบริษัทมู่ซื่อก็ดึกมากแล้ว หลินเวยโทรหาเธอ พอรู้ว่ามู่วี่สิงอยู่ด้วยเลยวางใจ

รถยนต์ได้จอดลงที่หน้าบ้านตระกูลหลิน เวินจิ้งมองไปที่ความมืดนอกหน้าอย่างเงียบๆ ก็เริ่มรู้สึกไม่ค่อยสบายหัว

พักนี้มักจะเป็นแบบนี้ บอกไม่ได้ว่าทรมาน แต่ก็ไม่ชิน

“ไม่สบายเหรอ?” มู่วี่สิงเข้ามาใกล้ แล้วถามอย่างเป็นห่วง

เวินจิ้งส่ายหน้า ดึงสติกลับมาแล้วปลดสายเข็มขัดนิรภัย

มู่วี่สิงประทับจูบลงบนหว่างคิ้วของเธอ อ่อนโยนมาก

“พรุ่งนี้ไม่ตรวจที่โรงพยาบาล ไว้ฉันจะมารับ”

“โอเค งั้นฉันกลับและ” เวินจิ้งพูดแบบนี้ แต่สายตาก็ยังไม่ละจากร่างของมู่วี่สิง

“ราตรีสวัสดิ์”

เวินจิ้งอาลัยอาวรณ์ ขณะที่กำลังจะเปิดประตูก็โดนมู่วี่สิงล็อกไว้ แล้วประทับจูบลงบนปากเธอ

เห็นเวินจิ้งไป มู่วี่สิงใช้เวลาอยู่สักพักถึงจะสตาร์ทรถ

หยิบบุหรี่ขึ้นมาจุด แต่สุดท้ายก็ดับลง

แล้วเสี้ยงหงก็โทรเข้ามา เขารับมัน “ตรวจเจอแล้ว หลังจากอุบัติเหตุทางรถยนต์หมอที่ทำการผ่าตัดให้เวินจิ้งอยู่ที่เมืองB มีความเกี่ยวข้องกับฉีเซินจริงๆ คุณจะมามั้ย?”

“อืม พรุ่งนี้ถึง”

คืนนี้ มู่วี่สิงไม่ได้พักผ่อน แต่กลับนั่งเครื่องบินส่วนตัวไปเมืองB

เสี้ยงหงมารับ ตอนนั้นฟ้ายังไม่สว่าง เสี้ยงหงขับรถด้วยตัวเอง

“ตอนนี้เขาทำงานอยู่ที่คลินิกเอกชนที่หนึ่ง ฉีเซินให้เงินเขาสามล้าน ในนามลูกค้า” เสี้ยงหงพูดไปพลางรายงานเรื่องที่สืบมาได้

สายตาของมู่วี่สิงดูเคร่งขรึมมาก รายงานผลเลยโดนเขามัดรวบ

“ผมเพิ่งจะได้รับข่าวนี้มา แต่ว่าดูเหมือนจะมีคนอื่นคอยตามเขาอยู่ด้วย ผมเลยให้ลูกน้องคอยเฝ้าไว้ก่อน”

“อืม งั้นก็แสดงว่าเรื่องนี้มีคนอื่นรู้ด้วย สืบต่อไป”

มู่วี่สิงหลับตาลง แต่ออร่าบนร่างนั้นดูน่ากลัวมาก

เขาที่เป็นแบบนี้ เสี้ยงหงไม่ได้เห็นมาหลายปีแล้ว

เจ็บปวด ดิ้นรน และหวาดกลัว

เขานึกว่า มู่วี่สิงไม่ได้มีความรู้สึกพวกนี้แล้ว

แต่คนแบบเขา ทำไมถึงยอมให้มีจุดอ่อนกันนะ

เขาส่ายหัว พูดไม่อยู่แล้ว

หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง รถก็มาจอดลงด้านล่างตึกที่พักตึกหนึ่ง

ถึงแม้เสี้ยงหงจะเรียกบอดี้การ์ดมากลุ่มนึง แต่พอเปิดประตูเข้าไป ในนั้นก็ไม่มีใครสักคน!

มู่วี่สิงเดินเข้าไป กวาดสายตาดูรอบๆ แล้วถามบอดี้การ์ดน้ำเสียงเย็นชา “พวกนายมานานแค่ไหน”

“หนึ่งวันก่อนพวกเราก็มาซุ่มดูแล้วครับ!ไม่ได้ออกห่างไปไหนเลย”

แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมในนี้กลับไม่มีคน……

“น่าจะหนีไปได้ไม่นาน ออกไปทางระเบียง” มู่วี่สิงพูดเสียงเย็นชา

“ผมจะไปตรวจกล้องวงจรปิดเดี๋ยวนี้ครับ”

“ไม่มีประโยชน์ กล้องวงจรปิดไม่ได้เปิด” มู่วี่สิงออกมาจากห้อง เห็นไม่เห็นจุดแสงกล้องวงจรปิดที่ระเบียง

“ฉันพลาดไปแล้ว” เสี้ยงหงพูดอย่างเจ็บปวด

พอเห็นอีกฝ่าย นั้นไม่ง่ายเลย

มู่วี่สิงเลยหรี่ตาที่เย็นชา แล้วออกคำสั่ง “ล็อกเมืองBทั้งเมืองเอาไว้”

“นายยังไม่กลับใช่มั้ย อยู่ที่นี่อีกสักสองสามวัน ต้องตามหามันเจอแน่ๆ ”

ออกมาจากบ้านพัก ทั้งสองก็ได้ไปโรงแรมในเครือบริษัทมู่ซื่อ มู่วี่สิงตัดสินใจจะอยู่ที่นี่สักสามวัน

อั้ยเถียนมาพร้อมกับเสี้ยงหง พอเห็นมู่วี่สิง ก็หลุดสายตาหยาดเยิ้มออกมา

เธอยังจำคุณหมอมู่ได้

“คุณหมอมู่ มาแล้วเหรอ!” อั้ยเถียนไม่ได้เจอมู่วี่สิงมานานมากแล้ว

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว สายตามองไปที่ระหว่างอั้ยเถียนกับเสี้ยงหงอยู่ครู่

แต่ก่อนทั้งสองสนิทกันมาก ถึงกับคิดว่าช่วงนี้ที่เสี้ยงหงกลับบ้านเดิมไป เพราะว่าอั้ยเถียน

“เสี้ยงหง ปิดมิดมากนะ” มู่วี่สิงพูดไปหัวเราะไป

“ฉันไม่ได้ครึ่งของนายหรอก”

อั้ยเถียนไม่เข้าใจสิ่งที่ทั้งสองคนพูด รอจนมู่วี่สิงไปแล้ว เธอจึงถามเสี้ยงหง “เมื่อกี้พวกนายพูดไรกัน”

“เด็กน้อยเผือกให้น้อยๆ หน่อย”

“ฉันไม่ใช่เด็กนะ!”

“อื้ม เธอเป็นผู้หญิงของฉัน”

“คนบ้า……”

…….

ได้รับโทรศัพท์จากอั้ยเถียน เวินจิ้งก็แปลกใจเล็กน้อย

ทั้งสองไม่ได้ติดต่อกันมาเกือบเดือน เมื่อก่อนที่ข่าวการหย่าของอั้ยเถียนดังออกมา จากนั้นอั้ยเถียนก็หายหน้าหายตาไป

ในที่สุดตอนนี้เธอก็ติดต่อมา เวินจิ้งอดไม่ได้ที่จะโมโห “อั้ยเถียน ยัยคนนี้ กล้าหายหัวไปได้ยังไง”

“ฉัน……ฉันไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ ยังไม่เข้าที่” อั้ยเถียนพูดเสียงเบา

เธอกับเสี้ยงหงกลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง ก็ยังไม่ได้หย่าอย่างเป็นทางการ

“งั้นตอนนี้ล่ะ?”

“ตอนนี้ดีขึ้นหน่อย ดีขึ้นแล้ว ไม่พูดเรื่องฉันและ!” อั้ยเถียนจะพูดเรื่องมู่วี่สิง

“มู่วี่สิงอยู่ที่เมืองB เธอกับเขาช่วงนี้เป็นไงบ้าง”

“เมืองB? เมื่อคืนฉันยังอยู่กับเขาอยู่เลย” เวินจิ้งบ่น

ถึงแม้เมืองBจะอยู่ไม่ไกลจากหนานเฉิง แต่ทำไมมู่วี่สิงจู่ๆ ก็ไปที่นั่นล่ะ

“น่าจะทำงานอะไรสักงานกับเสี้ยงหง แต่จะเป็นเรื่องอะไรฉันก็ไม่รู้ ตอนนี้พวกเธอคบกันอยู่?”

“ความสัมพันธ์ระหว่างคนรัก”

คำนี้ออกมา น้ำเสียงของเวินจิ้งก็เปลี่ยนเป็นหวานเยิ้ม

อั้ยเถียนก็ฟังออก “โอเคโอเค รู้อยู่แล้วว่าพวกเธอต้องกลับมาคบกัน”

“ที่ไหนเล่า เป็นเรื่องเหนือความคาดหมาย”

เกินคาดของเธอจริงๆ

เธอไม่เคยคิดเลยจริงๆ ว่าจะได้คบกับมู่วี่สิงจริงๆ จังๆ แบบนี้

“มาเมืองBมั้ย เธอหยุดพอดี พวกเราไม่ได้เจอกันนานแล้วด้วย” อั้ยเถียนถามอย่างตื่นเต้น

“ฉันคิดก่อน……” เวินจิ้งลังเล

“ยังจะคิดอะไรอีก!ฉันซื้อตั๋วให้ไปรับเธอที่สนามบิน บริการตลอดการเดินทาง”

“เธอไม่ต้องอยู่เป็นเพื่อนเสี้ยงหงเหรอ? ไม่ง่ายเลยนะที่เธอจะมีอิสระ”

การแต่งงานครั้งก่อนอั้ยเถียนลำบากยังไง เวินจิ้งเธอรู้ดี

“อืม ฉันอยู่เป็นเพื่อนเสี้ยงหง เธอก็อยู่กับหมอมู่ไง”

“ฉันไม่รู้แผนงานของเขาเลย ไม่รู้ว่าเขามีธุระสำคัญรีเปล่า ฉันไม่อยากไปรบกวนเขา”

มู่วี่สิงเป็นคนที่ยุ่งมากๆ เธอรู้อยู่แล้ว

“ชิๆ ให้ระยะห่างเขาขนาดนี้? ไม่กลัวว่าข้างกายของหมอมู่จะมีสาวๆ เหรอ” อั้ยเถียนเตือน

“ฉันรู้…….”

“ถ้าเธอมา เสี้ยงหงปล่อยฉันทิ้งไว้ พวกเราก็ออกไปเที่ยวกัน”

เวินจิ้งหัวเราะ แล้วตอบตกลงเลยตามเลย “ฉันจะจองตั๋วเครื่องบินเดี๋ยวนี้”

ตอนที่ออกมาจากบ้านตระกูลหลิน หลินเวยก็กลับมาพอดี

“เสี่ยวจิ้ง จะย้ายไปอยู่กับมู่วี่สิงเหรอ?” หลินเวยขมวดคิ้ว

เห็นเวินจิ้งลากกระเป๋าเดินทาง เลยคิดว่าจะย้ายออกไป

“ไม่ใช่ค่ะ หนูจะไปเมืองB อีกไม่กี่วันก็กลับ”

“งั้นก็ดี ให้คนขับรถไปส่งสิ ถึงแล้วโทรบอกแม่ด้วยนะ อย่าลืมกินยาล่ะ” หลินเวยพูดต่อ

“หนูรู้แล้ว แม่”

เห็นลูกสาวออกไป หลินเวยก็ขมวดคิ้ว ไม่วางใจเลยโทรหามู่วี่สิง

“หมอมู่ สุขภาพของเวินจิ้ง ฉันเป็นห่วงมาตลอด……”

……

ที่เมืองB

เวินจิ้งกับอั้ยเถียนไม่ได้เจอกันนาน พอเวินจิ้งลงจากเครื่อง อั้ยเถียนก็พาเธอไปกินชาบูเผ็ดๆ ก่อนสักมื้อ

แต่ว่า เวินจิ้งกินไม่ได้

เวินจิ้งหยุดที่หน้าร้านชาบู เวินจิ้งทำหน้ามุ่ย

“นั่นสิ เธอเพิ่งผ่าตัดมาได้ไม่นาน พวกเราไปกินของรสอ่อนกัน” อั้ยเถียนตีไปที่หน้าผากของตน ลืมไปเลยจริง

ทั้งสองเลยไปที่ร้านโจ๊กฝั่งตรงข้าม แต่พอนั่งลง ก็โดนบอกว่าที่ตรงนี้ถูกจองไว้แล้ว

โต๊ะติดหน้าต่างมองเห็นทะเล เวินจิ้งเพิ่งจะเห็นว่าที่ตรงนี้บรรยากาศดีแค่ไหน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท