Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 431

ตอนที่ 431

บทที่ 431 ฉันก็จะคิดถึงคุณเหมือนกัน

มู่วี่สิงบีบริมฝีปากอันบอกบาง แต่ไหนแต่ไรเขาก็ไม่ชอบอธิบาย ในเวลานี้ ก็ไม่ได้เอ่ยปาก

เมื่อตอนที่โจวหย่านขู่เขาให้แต่งงานกับเธอ เธอถึงจะช่วยเวินจิ้งชี้แจงอุบัติเหตุทางการแพทย์ในครั้งนั้น

แต่หลังจากนั้น เขาต้องการตรวจสอบคนที่อยู่เบื้องหลังของโจวหย่านใช้กลยุทธ์เดียวกันของอีกฝ่ายโต้กลับ

เขาไม่เคยคิดที่จะแต่งงานกับโจวหย่านแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว

“มู่วี่สิง ทำไมตอนนั้นคุณถึงคิดที่จะแต่งงานกับเธอ ชอบเธอเหรอ?” เวินจิ้งถามด้วยความตื่นเต้น

นี่คืออดีตที่เธอไม่อยากถาม

กลัวคำตอบที่ทำให้เธอผิดหวัง

“งานแต่งครั้งนั้น แท้จริงแล้วมันจะไม่เกิดขึ้น” คิดอยู่ตั้งนาน มู่วี่สิงถึงจะเอ่ยปาก

เวินจิ้งรู้สึกประหลาดใจ “ดังนั้น คุณเลยจัดการมันตั้งแต่เนิ่นเลยใช่ไหม?”

ทำไมคนในครอบครัวของโจวหย่านถึงพึ่งจะพาตัวเธอไปในวันแต่งงาน ทั้งหมดนี้ เธอนึกว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญ

“อื่ม ผมจะไม่แต่งงานกับเธอ”

“แล้วทำไมคุณถึงตอบตกลงงานแต่งครั้งนี้” เวินจิ้งถามอย่างเงียบๆ

ในหัวสมองส่งประกายความคิดบางอย่าง หรือว่าเป็นเพราะเธอ?

พอดีเวลานั้น โจวหย่านได้ช่วยเธอไว้

แต่……แต่ในเวลานั้นเธอไม่อยากนำเรื่องทั้งสองมาเชื่อมโยงกัน

“ผมจะตรวจสอบตระกูลโจว”

“โอ้”

“อย่าคิดอะไรเรื่อยเปื่อยเลย รอคุณออกจากโรงพยาบาล พวกเราค่อยแต่งงานกันใหม่” มู่วี่สิงกล่าวอย่าไม่สงสัย

เวินจิ้งทำปากจู๋ และสีหน้าที่ต่อต้าน “ไม่ ไม่อยากเลอะเทอะแบบนี้”

“เลอะเทอะ?” มู่วี่สิงขมวดคิ้ว

“แน่นอน การแต่งงานครั้งก่อนเร่งรีบมาก ครั้งนี้จะเป็นแบบนี้อีกไม่ได้”

“คุณนายมู่ต้องการอะไร?”

“ไม่อนุญาตให้เรียกฉันแบบนี้ ฉันยังไม่ใช่คุณนายมู่” เวินจิ้งพูดอย่างเคร่งขรึม

มู่วี่สิงยิ้มแล้วพูด “อื่ม จิ้งจิ้ง?”

เขาจำชื่อเล่นของเวินจิ้งได้เสมอ

เมื่อคำพูดจบลง เวินจิ้งก็เหม่อลอยครู่หนึ่ง ในความทรงจำที่ประทับใจ ก็เคยมีเด็กผู้ชายคนหนึ่งเรียกเธอแบบนี้

“จิ้งจิ้ง”

“หา” เวินจิ้งจ้องมองผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า “ได้”

“บอกผมสิว่า คุณนายมู่ต้องการอะไร?” มู่วี่สิงยกคางเธอขึ้นมา

“พวกเราต้องคบกันก่อน” เวินจิ้งพูดด้วยสีหน้าที่ตั้งอกตั้งใจ

นี่เป็นขั้นตอนที่พวกเขาข้ามไปในตอนแรก แต่ตอนนี้ เธอต้องการทีละขั้นตอน

“เอาที่คุณว่าครับ”

จากนั้นเวินจิ้งก็ได้ถอดแหวนออกมาก่อน

เธอส่งแหวนให้กับมู่วี่สิง “รอให้พวกเราถึงขั้นมั่นในตอนนั้น ค่อยสวมแหวน”

“ไม่นานหรอกครับ” มู่วี่สิงม้วนริมฝีปาก

แก้มของเวินจิ้งแดงระเรื่อ เห็นมู่วี่สิงจะขึ้นมานอน เธอตะลึงเล็กน้อย

“มู่วี่สิง……คุณจะทำอะไร”

“นอนหลับ”

“นี่มันห้องผู้ป่วยฉันนะ”

“โรงพยาบาลนี้เป็นของผม”

เวินจิ้ง……

“คุณขี้โกงนี่” ทำแบบนี้ได้อย่างไร

“ยังไม่ได้เล่นเลย” รอยยิ้มใต้ดวงตาของมู่วี่สิงยิ่งลึกล้ำ แล้วสวมกอดเวินจิ้ง “นอนเถอะ แฟนจ๋า”

……

หนึ่งสัปดาห์ต่อมา เวินจิ้งด้านหนึ่งพักฟื้น อีกด้านหนึ่งกำลังอ่านหนังสือล่วงหน้าเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับภาคเรียนใหม่

กังวลแต่ความคืบหน้าของฝั่งบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป เธอถามมู่วี่สิง “ฝั่งบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปคุณหาคนมาแทนฉันได้แล้วหรือยัง?”

จริงแล้ว เธอดูเหมือนอยู่ในโรงพยาบาลนี้มาเดือนหนึ่งแล้ว

แต่ว่าความคืบหน้าของการวิจัยและพัฒนาไม่สามารถล่าช้าได้อีกต่อไป

“หลังจากคุณออกจากโรงพยาบาลแล้ว ยังอยากจะไปบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปไหม?” มู่วี่สิงถามเธออย่างจริงจัง

“อยาก” เวินจิ้งพยักหน้า

นอกเหนือจากจะสามารถให้ตัวเองได้เรียนรู้เพิ่มเติมมากขึ้นอีก ยังสามารถพบเจอมู่วี่สิงอีกด้วย

“ผมไม่ได้จัดเพื่อนร่วมงานคนอื่นไป หลังจากคุณออกจากโรงพยาบาล ร่างกายของคุณหายดีแล้วก็สามารถไปได้”

“มู่วี่สิง ขอบคุณนะ” เวินจิ้งพูดด้วยความจริงใจ

หลังจากที่เธอเข้าโรงพยาบาล มู่วี่สิงก็มาเฝ้าเธอตลอด

เธอเหมือนกับรบกวนเวลาของเขามานานมากแล้ว

“คุณจะกลับไปทำงานที่บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปเมื่อไร” เวินจิ้งถาม

“รอจนกว่าคุณจะออกจากโรงพยาบาล”

“อย่านานขนาดนี้ ฉันอยู่ที่นี่คนเดียวได้”

“คุณคิดว่าผมวางใจได้เหรอครับ?” มู่วี่สิงพูดด้วยสีหน้าบูดบึ้ง

“มีอะไรไม่วางใจคะ” เวินจิ้งพูดพึมพำ

“ตอนนี้ผม แม้แต่ก้าวเดียวยังไม่อยากห่างจากคุณ”

เวินจิ้งกลั้นไม่ไหวที่จะยิ้มออกมา เธอก็ไม่อยากห่างเหม็นกัน……

วันรุ่งขึ้นตื่นมา ตำแหน่งด้านข้างลำตัวเย็นๆ

มู่วี่สิงไม่อยู่

เวินจิ้งลุกขึ้นนั่ง โทรศัพท์ที่อยู่ด้านข้างมีข้อความที่ส่งผ่านวีแชทมาหนึ่งข้อความ

คือมู่วี่สิงส่งให้เธอ จิ้งจิ้ง วันนี้ผมไม่อยู่โรงพยาบาลนะ ทานข้าวให้ตรงเวลานะครับ ผมจะคิดถึงคุณนะ

เวินจิ้งอ่านมันทีละคำ อ่านซ้ำไปซ้ำมาใช้เวลาไปห้านาทีเต็มๆ

จิ้งจิ้ง

เธอดูเหมือนจะชอบให้มู่วี่สิงเรียกเธอแบบนี้

จะตอบกลับก็พิมพ์ๆลบๆ ในที่สุดเวินจิ้งก็ตอบกลับไปห้าคำ ฉันก็คิดถึงคุณ

อารมณ์ในวันนี้ทั้งวันดูเหมือนกับสดใสและสวยงามเพราะข้อความนี้

เวลานี้ บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป

มู่วี่สิงกำลังประชุม เมื่อเห็นข้อความ ริมฝีปากอันบอกบางก็ได้ม้วนขึ้นมา

ผู้บริหารระดับสูงต่างมองหน้ากันใหญ่ในทันใด หนึ่งเดือนที่ไม่ได้เจอท่านประธาน พอกลับมาดูไม่ค่อยเหมือนเดิม……

แต่โดยธรรมชาติแล้วทุกคนก็ไม่กล้าพูด

รีบจัดการเรื่องราวของเดือนนี้จนเสร็จ มู่วี่สิงก็ออกจากห้องประชุมไปอย่างรวดเร็ว

ในห้องสำนักงาน มู่วี่สิงกำลังดูรายงานที่เกาเชียนยื่นให้ คิ้วหมองลง

เช้าวันนี้บริษัทฉีซื่อกรุ๊ปประกาศล้มละลาย ตามที่คาดไว้

แต่มู่เหิง กลับจัดตั้งบริษัทใหม่ในวันนี้ ขอบเขตบริหารเหมือนกับบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปทั้งหมด

ด้วยกำลังของมู่เหิงแล้ว ไม่สามารถทำได้เช่นนี้แน่ เว้นแต่ว่ามีใครบางคนอยู่เบื้องหลังเขา

“ท่านประธานมู่ นี่เป็นบัตรเชิญที่มู่เหิงส่งมา วันหยุดสุดสัปดาห์หน้าเป็นงานเลี้ยงเปิดบริษัทใหม่ของเขา”

มู่วี่สิงยิ้มเย้ยหยัน เหล่ตาดูครู่หนึ่ง “จดไว้ในตารางประจำวัน ฉันจะดูสิว่าเขาคิดจะทำอะไร”

เมื่อพูดจบ ก็ปิดคอมพิวเตอร์แล้วออกจากห้องสำนักงาน

เกาเชียนมองดูเวลา ท่านประธานมู่อยู่บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปเพียงแค่สองชั่วโมง……

หมู่นี้มู่วี่สิงแทบจะไม่เข้ามาที่บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปเลย ผู้ถือหุ้นอาวุโสเริ่มจะไม่ค่อยพอใจแล้ว เรื่องนี้ได้แพร่กระจายไปถึงหูมู่เฉิงนานแล้ว

ได้รับโทรศัพท์จากคุณปู่ มู่วี่สิงก็ไม่ได้แปลกใจ

“ภรรยาเป็นอย่างไรบ้าง?”

“ทุกอย่างราบรื่นดีครับ”

“เป็นอย่างนั้นก็ดี วี่สิง อย่าลืมตำแหน่งหน้าที่ของเธอด้วยนะ ตำแหน่งในมหาวิทยาลัยหลินไห่และโรงพยาบาล เธอไม่สามารถดูแลทั้งสองได้” น้ำเสียงเย็นชาเล็กน้อยของมู่เฉิง

เมื่อได้ยิน มู่วี่สิงก็ขมวดคิ้ว

“คุณปู่ครับ ผมรู้ตัวเองดีครับ”

มู่เฉิงฟังออกว่า มู่วี่สิงคิดว่าเขาพูดเป็นเล่น

“เธอรู้ตัวเองดีอย่างไร หากเธอรู้จักตัวเองดี ทำไมถึงรับตำแหน่งของโรงพยาบาล”

“คุณปู่ครับ ท่านก็รู้อยู่เสมอว่า ความคิดของผมแต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยอยู่กับบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป” น้ำเสียงของมู่วี่สิงสงบเสงี่ยมเสมอต้นเสมอปลาย

“ท่านคิดว่าทั้งตระกูลมู่ ยังจะมีใครที่มีคุณสมบัตินั่งตำแหน่งนี้เหมาะสมกว่าท่าน”

“ผมจะจัดผู้จัดการมืออาชีพที่เหมาะสม”

“สารเลว” มู่เฉิงโกรธมาก “บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปเป็นรากฐานของตระกูลมู่มาเป็นเวลากว่าร้อยปี ฉันจะไม่ยอมให้มันไปตกอยู่ในมือของคนภายนอกเด็ดขาด”

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว รู้จักนิสัยของมู่เฉิง เขาก็ไม่ได้พูดต่ออีก

เพียงแต่พูดเบาๆว่า “สมาชิกคณะกรรมาธิการจะไม่เปลี่ยนแปลง คุณปู่ครับ ความคิดของท่านคงที่เกินไป”

ไม่ได้พูดอะไรอีก มู่วี่สิงก็ได้วางสายโทรศัพท์ไป

……

หนึ่งสัปดาห์ต่อมาเป็นวันที่ฉีเซินขึ้นศาล บริษัทฉีซื่อกรุ๊ปถูกสงสัยว่าเป็นผู้ผลิตยาเลียนแบบรายใหญ่ ซึ่งเป็นบุคคลคุมอำนาจในบริษัทฉีซื่อกรุ๊ป ดังนั้นเขาต้องรับผิดชอบทั้งหมด

ก่อนขึ้นศาล เขาได้ติดต่อหลินเวย เพื่อขอพบตัวเขา

“ฉีเซิน คุณยังมีคำพูดอะไรที่อยากจะพูดอีก” หลินเวยพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

สำหรับลูกชายที่ตัวเองเลี้ยงดูจนเติมใหญ่คนนี้ ตอนนี้ก็เหลือเพียงอารมณ์ความผิดหวังเท่านั้น

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท