Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 456

ตอนที่ 456

บทที่ 456 ภัยพิบัติความหล่อของผู้ชาย

“ฉันจะจัดการให้เรียบร้อย” มู่วี่สิงพูดเสียงเข้ม คิ้วขมวดเบาๆ

“ฉันรู้ แต่เรื่องพวกนี้ฉันสามารถทำได้” เวินจิ้งมองเขา

มู่วี่สิงจับหน้าของเธอไว้ ปลายนิ้วเรียววาดคิ้วของเธอ ดวงตาเต็มไปด้วยความหลงใหล

“จิ้งจิ้ง ขอบใจเธอ”

เวินจิ้งเขย่งปลายเท้าขึ้น สบตากับมู่วี่สิง เธอถาม “ปีนั้น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น”

“การเสียชีวิตของพี่สาวเย่เฉียว ฉันมีคงามรับผิดชอบจริงๆ” มู่วี่สิงพูด

เวินจิ้งเบิกตาโต ทันใดนั้นก็รู้สึกหวาดกลัว

ทันใดนั้น เขาก็กุมปากของมู่วี่สิงไว้

มู่วี่สิงจับข้อมือของเธอไว้ และกระซิบ

ห้าปีก่อน มู่วี่สิงเป็นแพทย์ฝึกหัดข้างกายเจิงยี่ เย่หมิ่นพี่สาวของเย่เฉียวต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะเนื้องอกในสมอง เนื่องจากเป็นเนื้องอกที่อยู่ในตำแหน่งพิเศษ ยากต่อการผ่าตัด เกิดความขัดแย้ง คำแนะนำของเจิงยี่คือสามารถผ่าตัดได้ แต่ในความเป็นจริงยังไม่มีกรณีที่ประสบความสำเร็จในอาการ หากเนื้องอกไม่ถูกตัดออก เย่หมิ่นก็อยู่ได้ไม่นาน แต่พี่สาวของเย่เฉียวได้เห็นด้วยกับการผ่าตัด และต้องเป็นมู่วี่สิงเป็นคนผ่าตัดเท่านั้น

“ทำไมเย่หมิ่นต้องให้คุณเป็นคนผ่าตัด” เวินจิ้งถามอย่างสงสัย

“ฉันปฏิเสธคำสารภาพรักของเธอ”

เวินจิ้ง:…

เวลานี้ในหัวสมองมีเพียงแค่ความคิดเดียว เป็นภัยพิบัติจากความหล่อของผู้ชายจริงๆ

“แล้วคุณเป็นคนผ่าตัดให้เธอหรือเปล่า?” เวินจิ้งถาม

“แล้วคุณเป็นคนผ่าตัดให้เธอหรือเปล่า?” เวินจิ้งถามอย่างสงสัย

“ใช่, มู่วี่สิงตอบ “สถานการณ์ของเธอคล้ายกับเธอ แต่ว่าเขาไม่ได้โชคดีขนาดนั้น เนื้องอกได้เสื่อมสภาพแล้ว การผ่าตัดใช้เวลานานเกินไป ทำให้ไม่สามารถควบคุมเรื่องที่เกิดขึ้นมากมายได้”

“แต่ว่า เย่หมิ่นเป็นคนตัดสินใจที่จะเข้ารับการผ่าตัดด้วยตัวเอง ความเสี่ยงเธอรู้ดี ทำไมตอนนี้เย่เฉียวถึงมาโทษคุณ” เวินจิ้งพูดด้วยความไม่พอใจ

“เขาโกรธที่ตอนนั้นฉันปฏิเสธคำสารภาพรักของเย่หมิ่น ทำให้มีผลกระทบต่ออาการของเย่หมิ่น ทำให้เธอหัวรุนแรงมากขึ้น อารมณ์ของผู้ป่วยนั้นเป็นสิ่งสำคัญมากในการฟื้นตัว จึงมีผลกระทบต่อการตัดสินใจของเธอ ว่าต้องให้ฉันเป็นคนผ่าตัดให้ ตอนนั้น ฉันไม่เหมาะจะเป็นหมอ”

เวินจิ้งเงียบ ไม่ได้พูดชั่วขณะ

ค่อนข้างเศร้า

มู่วี่สิงยกหน้าของเธอขึ้นมา “ดังนั้น ฉันก็มีความรับผิดชอบ”

“ไม่ใช่ความผิดของคุณ” เวินจิ้งโต้แย้ง

เป็นตัวเย่หมิ่นเองที่เป็นคนหวาดระแวง

วันถัดไป เรื่องนี้ในที่สุดก็เผยแพร่ออกมา แต่นอกเหนือจากการพูดของเย่เฉียว เจิงยี่ก็ต้องยอมรับการสัมภาษณ์ อธิบายว่าในปีนั้นผู้ป่วยเป็นคนร้องขอให้ผ่าตัด เขาเป็นที่ปรึกษาของมู่วี่สิง เขาเป็นคนดูแลเรื่องการผ่าตัดทั้งหมด สำหรับการเสียชีวิตของผู้ป่วยในตอนท้าย แพทย์ทั้งสองฝ่ายล้วนต้องรับผิดชอบ แต่ก่อนการผ่าตัด ผู้ป่วยรู้ถึงความเสี่ยงอย่างชัดเจน

นอกจากการชี้แจงของเจิงยี่แล้ว ผู้อำนวยการของโรงพยาบาลที่เกี่ยวข้องก็ออกมาวิจารณ์ ถึงคำถามของเย่เฉียวเป็นการใส่ร้ายผู้อื่น และได้ทำเรื่องร้องเรียนเขาไป

เย่เฉียวเพิ่งได้รับตำแหน่งให้เป็นรองประธานของมหาวิทยาลัยหลินไห่ และยังเป๋นผู้นำของโรงพยาบาล และในตอนนี้ความคิดเห็นของประชาชนค่อยๆ เอนไปทางเขา

เมื่อเวินจิ้งเห็นข่าวดังกล่าว อารมณ์ตึงเครียดของเธอทั้งคืนก็ค่อยๆ ดีขึ้นมา

มู่วี่สิงไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมการประชุมในครั้งถัดไป เวินจิ้งถูกไป๋สือเรียกตัวไปสถานที่ประชุม ยืนยันว่าอารมณ์ของมู่วี่สิงจะไม่เป็นอันตรายก่อนที่จะออกไปอย่างวางใจ

เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ อารมณ์ของมู่วี่สิงในมุมมองของเธอ มันสงบเงียบเกินไป

เรื่องเมื่อวานไป๋สือก็รู้แล้ว และดูเหมือนจะโกรธ

“เย่เฉียวเบลอจริงๆ เรื่องของปีก่อนก็ไม่ยอมปล่อยวางได้สักที คอยใส่ร้ายผู้อื่นไปทั่ว” มู่วี่สิงเป็นแพทย์ที่ไป๋สือชื่นชมมาโดยตลอด และก็เข้าใจศีลธรรมของมู่วี่สิงมาโดยตลอด

ตอนนี้เย่เฉียวกล่าวโทษมู่วี่สิงในที่สาธารณะ ไป๋สือก็เป็นบุคคลหนึ่งที่ทนไม่ได้จึงต้องออกมาพูด

“ศาสตราจารย์ ขอบคุณที่คุณไว้วางใจมู่วี่สิง” เวินจิ้งกล่าวขอบคุณ

“ฉันเชื่อใจเด็กนั่นอยู่แล้ว เขาเป็นคนที่ฉันเฝ้าดูมาตลอด เป็นนักเรียนที่สำคัญที่สุดของฉัน”

ในเวลานี้ ณ โรงแรม

มู่วี่สิงยืนอยู่หน้ากระจกหน้าต่าง แสงอุ่นๆ ส่องเข้ามา

มู่วี่สิงยืนอยู่หน้ากระจกหน้าต่าง แสงอุ่นๆ ส่องเข้ามา แต่ไม่สามารถละลายความเยือกเย็นบนตัวของเขาได้

ข้างหลังมีเสียงของเกาเชียนดังมา “ประธานมู่ หลุมฝังศพของคุณตายมู่ถูกขุดขึ้นมา”

วินาทีต่อมา ดวงตาที่ลึกของมู่วี่สิงซ่อนความล่าเหยื่อไว้ บุหรี่ที่หนีบอยู่ในมือถูกเขาบดขยี้

ขาวยาวเดินเข้ามา รัศมีของเขาทำให้คนหวาดกลัว

เกาเชียนไม่กล้าพูดต่อ

เขากลัวตาย…

“ใครเป็นคนทำ?” มู่วี่สิงถามอย่างเยือกเย็น

“กำลังตรวจสอบ…”

“กลับไปหนานเฉิงเดี๋ยวนี้”

สิ้นเสียง คนก็ได้ออกไปแล้ว

ไม่ถึงสองชั่วโมง เครื่องบินส่วนตัวค่อยๆ ลงท่าอากาศยานหนานเฉิง

เกาเชียนเดินตามหลังบอสด้วยความหวาดกลัว ตอนแรกว่าจะรายงานเรื่องงานแต่ก็ไม่กล้าพูดแล้ว

รัศมีของมู่วี่สิง ช่างน่ากลัวจริงๆ …

กินอาหารค่ำด้วยกันกับไป๋สือ เวินจิ้งจึงกลับโรงแรมไป

การประชุมสองวันก็ใกล้จะเสร็จสิ้นแล้ว พรุ่งนี้ไป๋สือก็จะกลับไปหนานเฉิงแล้ว เวินจิ้งก็คิดแบบนี้ แต่ก็ถามความคิดเห็นจากมู่วี่สิง

เพียงแต่เมื่อกลับไปถึงโรงแรม กลับไม่มีใครสักคน! อีกอย่างมีเพียงกระเป๋าเดินทางของเธอคนเดียว…

เวินจิ้งตัวแข็งทื่อ และมองไปรอบๆ ใจลอยเป็นเวลานาน

มู่วี่สิง…กลับไปแล้ว?

เธอค้นมือถือออกมา ไม่มีแม้แต่สายโทรเข้าและข้อความ

ดวงตาแดงก่ำ เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ อารมณ์ของเธอยังไม่กลับมา

เกิดเรื่องเหรอ?

ทันใดนั้น เธอก็รีบโทรหาม่วี่สิงทันที ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้

ทันใดนั้นก็รีบโทรหาเกาเชียน โชคดี ที่เกาเชียนรับสาย

“คุณเวิน ประธานมู่… ประธานมู่อยู่หนานเฉิง” เกาเชียนบอก

หลังจากลงจากเครื่องมู่วี่สิงก็ขับรถออกไปเอง เขาก็ไม่รู้ว่าบอสไปไหน

“ทำไมเขาถึงกลับไป? ทำไมฉันถึงโทรหาเขาไม่ติด? เกิดอะไรขึ้นรึเปล่า…” เวินจิ้งถามอย่างร้อนรน

มู่วี่สิงเป็นคนที่คอยรายงานตลอด โดยเฉพาะระยะนี้หลังจากที่ทั้งสองได้คบหากัน เขาไม่มีทางหายไปโดยไร้สาเหตุ

ต้องเกิดอะไรขึ้นแน่นอน…

เกาเชียนเงียบ ก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดเรื่องนี้ดีไหม

เป็นเวลานานที่ไม่ได้ยินเสียงของเกาเชียน เวินจิ้งก็ยิ่งร้อนใจ

“ผู้ช่วยเกา เกิดอะไรขึ้นกับมู่วี่สิง!” น้ำเสียงของเวินจิ้งร้อนรนมาก

เป็นเวลานาน กว่าเกาเชียนจะเอ่ยปากพูด “หลุมฝังศพของคุณนายมู่ถูกขุด ประธานมู่จึงรีบกลับมาหนานเฉิง แต่ผมก็ไม่รู้ว่าเขาไปไหนแล้ว…”

เวินจิ้งอึ้ง คุณนายมู่?

เธอไม่ค่อยเข้าใจอะไรเกี่ยวกับแม่ของมู่วี่สิง รู้เพียงแค่ว่าถูกมู่เหิงทำร้ายจนตายในปีแรกๆ

ไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมใดๆ

แต่เธอรู้ สำหรับมู่วี่สิงมีความรักต่อคุณแม่อย่างลึกซึ้ง ตลอดมา จึงได้มีความเกลียดชังมู่เหิงมาก

หลังจากวางสาย เวินจิ้งสงบลง จึงรีบจองไฟล์บินที่กลับไปหนานเฉิงให้เร็วที่สุด

ช่วงเวลานั้นโทรหามู่วี่สิงตลอด เพียงแต่ไม่มีคนรับสาย

เครื่องบินกำลังค่อยๆ บินขึ้น เวินจิ้งจึงวางมือถือลง และเวลานี้เพิ่งสังเกตถึง ผู้โดยสารที่นั่งข้างๆ ตัวเองคือ…เย่เฉียว!

ทันใดนั้นสีหน้าของเธอก็หม่นหมองทันที

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท