Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 476

ตอนที่ 476

บทที่ 476 โชคดีในโชคร้าย

มู่เฉิงมองหลานชาย จากนั้นก็ส่งเสียงหึออกมา แล้วยื่นมือออกไปจะแย่งแก้วเหล้าคืน

แต่มู่วี่สิงกลับทิ้งลงในถังขยะ

มู่เฉิงหันกลับมา จากนั้นก็ยกขวดเหล้าขึ้นดื่มทั้งขวด

ครั้งนี้ มู่วี่สิงตรงเข้าไปโยนขวดเหล้าทิ้ง

“ปู่ครับ ถ้าปู่เมาเหล้าตาย คงไม่มีใครจัดงานศพให้ปู่หรอกนะ” มู่วี่สิงพูดขึ้นมาอย่างเคร่งขรึม

“แก……” มู่เฉิงสะอึก

มีแค่มู่วี่สิงเท่านั้นล่ะที่กล้าพูดกับเขาอย่างนี้

“ไม่ดื่มแล้วก็ได้” มู่เฉิงพูดอย่างรำคาญ

“ปู่ครับ ถึงปู่จะโกรธผม แต่ปู่ก็ไม่จำเป็นต้องทำร้ายสุขภาพตัวเองอย่างนี้นะครับ” มู่วี่สิงพูดเสียงหนัก

“รู้แล้วน่า ฉันเองก็ยังอยากมีชีวิตอยู่นานๆเหมือนกันนั่นแหละ!”

“งั้นก็ลงไปกินข้าวกับผม”

“ไม่หิว”

“คุณปู่ครับ ปู่อยากให้ผมทำอะไรกันแน่” มู่วี่สิงมุ่นคิ้ว น้ำเสียงก็อ่อนลง

ได้ยินดังนั้น มู่เฉิงก็เงียบไปชั่วขณะหนึ่ง

มู่วี่สิงนั่งลงที่โซฟาข้างๆอย่างใจเย็น

“อาทิตย์หน้าฉันจะประกาศให้แกขึ้นสืบทอดบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปอย่างเป็นทางการ พร้อมกับให้แกดำรงตำแหน่งประธานบริษัทด้วย”

และนี่ก็เท่ากับว่า มู่วี่สิงเข้าควบคุมบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปอย่างสมบูรณ์

แต่ว่า สิทธิ์การสืบทอดไม่ได้อยู่ในมือของมู่วี่สิง

“แต่คุณปู่ครับ มู่เหิงยังไม่ได้สละสิทธิ์สืบทอดนะครับ” มู่วี่สิงขมวดคิ้ว

เพราะสิทธิ์ของมู่เหิงมีผลในด้านกฎหมาย

“ไอ้เวรมู่เหิงนั่น ถูกตัดออกจากวงศ์ตระกูลแล้ว! เขาไม่ใช่คนของตระกูลมู่อีกต่อไปแล้ว!” มู่เฉิงพูดขึ้นมาอย่างโกรธๆ

ได้ยินดังนั้น มู่วี่สิงก็รู้สึกแปลกใจ

คิดไม่ถึงว่าคุณปู่จะทำถึงขนาดนี้

“วันจันทร์ฉันจะจัดงานแถลงข่าว วี่สิง แกรีบไปลาออกจากโรงพยาบาลหลินไห่เลยนะ!” น้ำเสียงของมู่เฉิงออกคำสั่งโดยสิ้นเชิง

“คุณปู่ครับ ผมไม่คิดที่จะหยุดตรวจคนไข้หรอกนะครับ” มู่วี่สิงพูดเสียงเย็น

“ผมจะรับช่วงต่อบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปตามความต้องการของคุณปู่ แต่ถ้าคุณปู่อยากให้ผมทิ้งอาชีพหมอ แบบนั้นงานแถลงข่าวที่จะมีในวันจันทร์ ผมคงไม่เข้าร่วม” มู่วี่สิงพยายามพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลที่สุดเท่าที่จะทำได้

แต่มู่เฉิงก็ยังคงไม่พอใจเหมือนเดิม มู่วี่สิงจึงส่งยาไปให้ “ปู่ครับ ปู่น่าจะรู้ ว่านี่คือสิ่งที่ผมยอมให้ได้มากที่สุดแล้ว”

พูดทิ้งท้ายเอาไว้ เขาก็เดินออกไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็สั่งคนรับใช้ให้ยกอาหารเย็นขึ้นมา

มู่ซือซือรออยู่ข้างนอกอย่างอกสั่นขวัญแขวน แต่เมื่อเห็นสีหน้าขมุกขมัวของพี่ชาย ก็ไม่กล้าเอ่ยปากพูดอะไรขึ้นมา

เธอเข็นรถเข็นเข้าไปข้างใน เมื่อเห็นสีหน้าซีดๆของคุณปู่ ก็รู้สึกคิดผิดที่เรียกพี่ชายกลับมา…….

“คุณปู่คะ กินข้าวค่ะ”

มู่เฉิงหายใจเข้าลึกๆ ตอนนี้รู้สึกหายใจคล่องขึ้นมาไม่น้อยเลย “อืม กินก็กิน”

เมื่อเห็นว่าในที่สุดคุณปู่ก็ผ่อนคลาย มู่ซือซือก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก

ภายในห้องหนังสือ มู่วี่สิงยืนหันหลังมองออกไปนอกหน้าต่าง เชิ้ตสีดำที่เขาสวมใส่อยู่ยิ่งขับให้เขามีรังสีทมิฬอยู่รอบกาย

ส้งวี่เคาะประตูแล้วเดินเข้ามา

“คุณปู่พูดอะไรกับนายบ้าง”

ได้ยินดังนั้น มู่วี่สิงก็หันหลังกลับมา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งว่า “วันจันทร์หน้าจะประกาศให้ฉันสืบทอดบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปอย่างเป็นทางการ”

“แล้วในความคิดของนาย มันไม่ใช่เรื่องดีเหรอ?” ส้งวี่ไม่เคยเห็นความยินดีใดๆบนใบหน้าของมู่วี่สิงเลย

“ดีสิ อย่างไรเสียคุณปู่ก็เขี่ยมู่เหิงออกจากวงศ์ตระกูล เพื่อให้ฉันมาสืบทอดแทน”

ได้ยินดังนั้น ส้งวี่ก็นิ่งไปอย่างรู้สึกประหลาดใจ

คุณปู่นี่ก็ร้ายใช่ย่อย

“แล้วนายคิดจะทำยังไงกับที่โรงพยาบาล?”

“ฉันก็จะรักษาคนไข้ต่อไป”

“คงตัดใจทิ้งชื่อคุณหมอมู่ไม่ลงสินะ” ส้งวี่ยิ้มออกมา

“อืม ตัดใจไม่ลงอยู่แล้วล่ะ”

“ก็ขอให้คุณปู่เลิกดึงดันสักทีเถอะ”

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่เขากังวล

ขณะเดียวกัน ณ บริษัทเหิงอวี่กรุ๊ป

เมื่อได้ข่าวว่าอาทิตย์หน้ามู่วี่สิงจะขึ้นรับตำแหน่งประธานบริษัท มู่เหิงก็โกรธจนเนื้อเต้น

เขาต่างหากที่เป็นทายาทของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป เขายังไม่ได้สละสิทธิ์การสืบทอดนี้ซะหน่อย!

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เขาก็มุ่งไปยังบ้านใหญ่ตระกูลมู่อย่างโกรธจัด

ในตอนที่มู่วี่สิงกำลังจะออกไป รถของมู่เหิงก็มาจอดพอดี

เมื่อเห็นมู่วี่สิง มู่เหิงก็ไปขวางเขาเอาไว้

“มู่วี่สิง นายมีสิทธิ์อะไรมาสืบทอดบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป!” มู่เหิงพูดเสียงโกรธ

ได้ยินแบบนั้น มู่วี่สิงก็กระตุกริมฝีปากขึ้นเบาๆ “ฉันไม่มีสิทธิ์ แล้วนายมีสิทธิ์เหรอ?”

“ทำไมฉันจะไม่มี! ฉันคือหลานคนโตนะ!”

“คุณปู่ตัดนายออกจากวงศ์ตระกูลแล้ว ตอนนี้นายไม่ใช่คนในตระกูลมู่แล้ว”

“นายพูดอะไร…….” มู่เหิงเบิกตากว้าง ยากที่จะเข้าใจเรื่องที่ได้ยินมา

“มู่วี่สิง นายกำลังโกหกฉันแน่ๆ! นายโกหกฉัน! คุณปู่จะไล่ฉันออกจากตระกูลมู่ได้ยังไง!”

“ถ้าไม่เชื่อ ก็ไปขอดูทะเบียนวงศ์ตระกูลกับคุณปู่ดูสิ” พูดจบ มู่วี่สิงก็ไม่หยุดเดินอีกต่อไป

มู่เหิงวิ่งเข้าไปในคฤหาสน์อย่างโซซัดโซเซ แต่วินาทีต่อมาก็ถูกบอดี้การ์ดไล่ออกไป แม้แต่ประตูเขาก็ไม่สามารถเข้าไปได้

กระเป๋าเดินทางที่ตอนแรกย้ายกลับมาก็ถูกโยนออกมาด้วย

“คุณปู่——“

เสียงที่ตอบกลับมีแค่เสียงโศกเศร้าของตัวเอง

มู่วี่สิงนั่งอยู่ในรถ ดวงตาเย็นชาจ้องมองสภาพจนตรอกของมู่เหิง นิ้วทั้งห้ากำพวงมาลัยรถเอาไว้แน่น

ในหัวก็นึกย้อนไปตอนอายุสิบปี เขาเห็นมู่เหิงผลักคุณแม่ตกตึกแปดสิบแปดชั้นเองกับตา ฉากนั้นยังฝังลึกอยู่ในหัวของเขามาตลอด

มู่เหิง ต่อให้นายตายไปก็ไม่มีอะไรให้น่าสงสารหรอก

มู่วี่สิงละสายตากลับมา เขาเหยียบคันเร่งอย่างเฉยชา จากนั้นรถหรูก็เคลื่อนตัวออกไปอย่างรวดเร็ว

……

ตระกูลโจว

ผู้ช่วยรายงานสถานการณ์ให้โจวเซินฟังอย่างกล้าๆกลัวๆ “มู่เฉิงตัดมู่เหิงออกจากวงศ์ตระกูล ตอนนี้มู่เหิงสูญเสียสิทธิ์การสืบทอดบริษัทมู่ซื่อกร๊ปไปแล้วครับ”

โจวเซินขมวดคิ้ว ด้วยสีหน้าอึมครึม

“ดูเหมือนว่ามู่เหิงจะไร้ประโยชน์ซะแล้วสิ”

“ช่วงนี้เขามีความเคลื่อนไหวอะไรบ้าง?”

“อุตสาหกรรมโรงพยาบาลเอกชนไปต่อไปไม่ได้แล้วครับ ตอนนี้กำลังมุ่งจัดซื้อผลิตภัณฑ์ยาอยู่ แต่ว่าปัจจุบันยังไม่มีอะไรคืบหน้าครับ”

“โง่อย่างที่คิดไว้จริงๆด้วย ไม่แปลกใจเลยที่มู่เฉิงไม่ส่งต่อบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปให้เขา”

เมื่อโจวเซินอ่านรายงานล่าสุดของบริษัทเหิงอวี่กรุ๊ป ก็แสดงสีหน้าเจ็บใจออกมา นี่เขาลงทุนเงินมูลค่าสิบล้านให้กับขยะหรอกเหรอ สงสัยช่วงนี้สายตาของเขาคงจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่

ที่ดินของเป่ยเจียวานที่ประมูลมาได้เมื่อเดือนที่แล้วก็มีปัญหา เกรงว่าแม้แต่เม็ดเงินที่ใช้ในการประมูลก็คงไม่ได้คืนมา

ผ่านไปพักใหญ่ เขาถึงได้เรียกโจวหย่านมาหา

“พี่ มีอะไรเหรอ? ฉันอยากนอนละ” น้ำเสียงของโจวหย่านดูไม่ค่อยใส่ใจนัก

“วันนั้นที่แกเห็นเอกสารการประมูลที่ห้องทำงานของมู่วี่สิงน่ะ ลองนึกดูสิว่ามันมีอะไรแปลกไปไหม หรือไม่ก็ มู่วี่สิงมีท่าทีแปลกๆบ้างหรือเปล่า”

โจวหย่านขมวดคิ้ว “ไม่นะ นี่พี่คิดว่ามู่วี่สิงจับฉันได้แล้วเหรอ?”

“อืม”

คิดไปคิดมา ก็ดูเหมือนมู่วี่สิงขุดหลุมไว้ให้เขากระโดดลงไป

“ฉันนึกว่าตอนนั้นเขากำลังหลับ ก็เลยแอบอ่านดู”

“แกกลับไปนอนเถอะไป”

โจวเซินยกขาขึ้นไขว่ห้าง ดวงตาเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม “นี่ก็โง่อีกละ”

……

ช่วงสุดสัปดาห์ เวินจิ้งไม่ต้องไปฝึกงานที่โรงพยาบาล เธอจึงนอนขี้เซาอย่างที่นานๆทีจะมีครั้ง ในตอนที่ตื่นขึ้นมาก็เป็นเวลาเที่ยงพอดี

เมื่อลงมาห้องรับแขก ก็เห็นหลินเวยจิบชาไปพร้อมกับสะสางงานไปด้วย

ข่าวที่กำลังออกอากาศอยู่ในโทรทัศน์ คือข่าวที่ดินที่ใช้ในการรักษาพยาบาลของเป่ยเจียวานมีส่วนเกี่ยวข้องกับข้อพิพาทบางอย่าง จึงต้องหยุดบุกเบิก จนตระกูลโจวต้องเผชิญกับความเสียหายมหาศาล

เพราะเธอได้เข้าร่วมงานประมูลในครั้งนั้นด้วย เธอจึงจำได้เป็นอย่างดี

ที่ดินตรงนั้นถูกตระกูลโจวประมูลมาได้ในราคาที่ค่อนข้างสูง

แต่ตอนนี้กลับไม่สามารถบุกเบิกได้ แบบนั้นเงินทุนของตระกูลโจวจึงมีความเป็นไปได้ที่จะสูญเปล่าโดยไม่ได้อะไรคืนมา

“โชคดีที่ตระกูลโจวประมูลไปได้ ไม่อย่างนั้นความซวยคงตกมาอยู่ที่บริษัทหลินซื่อแล้ว” หลินเวยพูดขึ้นมาอย่างดีใจ

ถึงแม้บริษัทหลินซื่อจะมีเงินทุนเพียงพอ แต่ถ้าเงินจำนวนมหาศาลขนาดนี้สูญเปล่าไปเฉยๆ คงส่งผลกระทบต่อบริษัทเป็นแน่

“คงเป็นโชคดีในโชคร้ายล่ะมั้งคะ” เวินจิ้งยิ้ม

และก็โชคดีมากๆเหมือนกันที่บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปประมูลมาไม่ได้

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท