Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 469

ตอนที่ 469

บทที่ 469 ไม่มีใครทำร้ายเธอได้

“อื่ม”มู่วี่สิงตอบ

“เกลียด” เวินจิงพึมพำ อยากจะโกรธ แต่ก็ยังโกรธไม่ได้

เธอมองมู่วี่สิงอย่างจริงจังและพูดว่า”วันหลังอย่าทำเพื่อฉันแบบนี้อีกนะ”

งานของเธอ ไม่มีแล้วหาใหม่ได้

แต่มู่วี่สิงไม่เหมือน

“เพื่อคุณ ฉันจะทำแบบนี้อีก”มู่วี่สิงย่างเคร่งขรึม

ตราบใดที่เป็นของเวินจิ้ง เขาก็เต็มใจจะทำทุกอย่างเพื่อเธอ

“มู่วี่สิง”เวินจิ้งทำหน้าโกรธ

รอยยิ้มบนใบหน้าของผู้ชายมากขึ้น เขายกคางของเวินจิ้งขึ้น”ที่รัก กินข้าวเถอะ อย่าคิดมาก”

“ซึ่งคุณชอบฉันตั้งแต่ตอนนั้นเหรอ”เวินจิ้งถามต่อ

ตอนนี้มีคำถามมากมายในสมองของเธอ

ในเมื่อมู่วี่สิงทำหลายอย่างเพื่อเธอตั้งแต่แรก มันเป็นแค่เพราะเธอเป็นคุณหญิงมู่เหรอ

ถ้าคุณหญิงมู่เป็นคนอื่น เขาจะทำแบบนี้เหมือนกันไหม

“ครับ”

ครับ

ดวงตาของเวินจิ้งเบิกกว้างทันที นี่มุ่วี่สิงยอมรับแล้วเหรอ

“คุณพูดอีกครั้งสิ คุณชอบฉันตั้งแต่เมื่อไหร่”เวินจิ้งจ้องมองผู้ชายที่อยู่ต่อหน้าโดยไม่ขยับเลย จะไม่พลาดการเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อยของอารมณ์เขา

แต่มู่วี่สิง … เก็บอารมณ์ได้ดีมากจริงๆ

สีหน้าของเขาไม่ได้เปลี่ยนสักนิดเลย ก็ยังอ่อนโยนที่มีต่อเธอเหมือนปกติ

“จิ้งๆ มันไม่สำคัญหรอก คุณแค่ต้องรู้ว่า ตอนนี้ฉันชอบคุณก็พอ”

เวินจง …

ทำไมเธอรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้กำลังหลีกเลี่ยงคำถามของเธออยู่

แต่คำพูดของมู่วี่สิงทำให้เธอมีความสุขมาก

หลังจากกินข้าวเสร็จเข้าไปในโรงพยาบาล ส้งวี่อยู่กับมู่ซือซือตลอด วันนี้หลิงเหยาต้องกลับไปโรงพยาบาล เธอก็เลยออกไปตั้งแต่เช้าแล้ว

“พี่ชาย เวินจ้ง”มู่ซือซือทักทายพวกเขาก่อน

“ตอนเช้าตรวจร่างกายเสร็จแล้วเหรอ”มู่หยูเดินเข้ามาและหยิบประวัติทางแพทย์ของมู่ซือซือมาดู

“อื่ม ขาของซือซือยังไม่รู้สึกตัวเลย”ส้งวี่เดินมา สีหน้าของเขาเศร้าหมอง

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว”หลังจากแผลหายแล้ว ทำการฟื้นฟูต่อเหมือนเดิมนะ”

“พี่ ฉันยังมีโอกาสลุกขึ้นยืนไหม”มู่ซือซือถาม ไม่ได้ผิดหวังมาก

เธอรู้ว่าสถานการณ์ของตัวเอง จริงๆแล้วอยากจะลุกขึ้นยืนอีกครั้ง ก็มีแต่จะลองแค่นั้นเอง

“ได้สิ เชื่อพี่นะ”มู่วี่สิงเดินไปข้างหน้า และรับรองอย่างจริงจังว่า

ส้งวี่อยู่กับมู่ซือซือตลอด มู่วี่สิงพาเวินจิ้งไปที่ห้องทำงานและหมอออร์โทพีดิกส์กำลังรอมู่วี่สิงอยู่ สองคนจะคุยสถานการณ์ของมู่ซือซือ

ตอนแรกเวินจิ้งคิดจะออกไปข้างนอก แต่มู่วี่สิงจับข้อมือของเธอแล้วดึงเธอให้นั่งอยู่ข้างๆเขา

“ไม่ต้องออกไปหรอก”

เวินจิ้งรู้สึกประหลาดใจ แต่ทั้งสองคนเริ่มพูดคุยแล้ว เวินจิ้งนั่งลงอย่างเงียบๆ

ขาข้างหนึ่งของมู่ซือซือเป็นอวัยวะเทียม ดังนั้นตอนนี้มันเป็นขาอีกข้างหนึ่งที่ต้องลุกขึ้นยืน แต่มันก็ยากที่จะฟื้นตัวได้เพราะว่าได้รับความบาดเจ็บถึงเส้นประสาทและกระดูก

แต่ว่าได้รับการผ่าตัดมาก่อน และหายดีขึ้นแล้ว

แต่การล้มครั้งนี้ของมู่ซือซือ เนื้อเยื่อขาบอบบางแตกอีกครั้ง เพราะฉะนั้นมันจึงเป็นปัญหาที่ยาก

แต่ทั้งคู่เป็นแพทย์ที่ได้รับความเชื่อถือมากที่สุดในศัลยกรรมกระดูกและระบบประสาท พูดคุยทั้งคืนในที่สุดก็ได้สรุปแผนการที่เป็นไปได้

เวินจิ้งมีความง่วงนอน แม้ว่าเธออยากฟังต่อมาก และสามารถเรียนรู้ความรู้ใหม่ๆได้มากมาย แต่เธอง่วงเหลือเกิน …

จนถึงเช้าวันรุ่งขึ้น มุ่วี่สิงและแพทย์ศัลยกรรมกระดูกค่อยจบการสื่อสาร ห้องทำงานนั้นเงียบสงบลง มู่วี่สิงมองผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมแขนของเขา แล้วจูบลงที่คิ้วของเธอ

“ขอบคุณนะ จิ้งๆ”

ไม่ได้พักผ่อน มู่วี่สิงไปที่ห้องของมู่ซือซือ

เมื่อเวินจิ้งตื่นขึ้นมา ไม่มีใครอยู่ในห้องทำงานเลย

ตอนนี้เกือบถึงเที่ยงแล้ว

เธอก้มหน้าลงด้วยความเสียใจภายหลัง รีบใส่รองเท้าออกไปทันที เจอมู่วี่สิงเดินมาทางนี้พอดี

“ไปกินอาหารกลางวันกับคุณ และส่งกลับไปโรงเรียน”

ตอนบ่ายเวินจิ้งมีเรียน มู่วี่สิงได้ตารางเรียนของเธอตั้งนานแล้ว

“ซือซือเป็นยังไงบ้าง” เวินจิ้งถามอย่างกังวล

“กำลังทำการพักฟื้นอยู่ พรุ่งนี้เธอจะออกจากโรงพยาบาล เดือนหน้าเธอจะสอบเข้าวิทยาลัยผู้ใหญ่ มันพลาดไม่ได้”

มู่ซือซือช้าไปตั้งสามปีแล้ว

ถึงแม้ว่ามู่วี่สิงสามารถเลี้ยงเธอได้ ก็ไม่อยากให้เธอออกไปทำงาน

แต่มู่ซือซือของความฝันของตัวเองมาโดยตลอด พี่ชายคนนี้ ทำได้แค่เคารพและสนับสนุนเธอ

เดินผ่านห้องผู้ป่วย เวินจิ้งเข้ามาคุยกับมู่ซือซือ ความสัมพันธ์ระหว่างสองใกล้ชิดกันมากขึ้นในช่วงเวลานี้

มู่ซือซือเป็นคนที่ตรงไปตรงมา จริงๆแล้วเป็นคนที่เข้ากันได้ง่ายมากและมีจิตใจดีด้วย

มันเป็นแค่แยกความรักและความเกลียดชังอย่างชัดเจนมาก เพราะฉะนั้นเมื่อก่อนรู้ว่าเวินจิ้งและฉีเซินมี

ความสัมพันธ์ที่เป็นพี่น้องกัน ยังไงเธอก็สนิทกับเวินจิ้งไม่ได้

แต่ตอนนี้ทั้งสองได้รู้จักกันมากขึ้น ก็ได้ทำความเข้าใจกันอย่างเรียบร้อยแล้ว

ส่งเวินจิ้งกลับไปถึงโรงเรียน มู่วี่สิงก็เลยไปบริษัทมู่ซือกรุ๊ป

เมื่อจัดการงานทุกอย่างเสร็จก็ตึกมากแล้ว ลี่หนานเฉิงเคาะประตูและเข้ามา

“ฉันรู้ว่าคุณต้องทำงานอยู่แล้ว”ลี่หนานเฉิงนั่งลงบนโซฟา

“ใช่”วางปากกาลง มู่วี่สิงเดินไปที่บาร์แล้วเปิดขวดไวน์

ลี่หนานเฉิงรายงานอยู่ในหูของเขา”ช่วงนี้มู่เหิงได้อยู่อย่างสบายแล้ว โรงพยาบาลเอกชนหลายแห่งกำลังถูกตรวจสอบอยู่และถูกสั่งปิดชั่วคราว คงขาดทุนจนอยากตายแล้วมั้ง พรุ่งนี้ฉันจะจัดให้นักข่าวควบคุมความกระแสของประชาชน แค่ต้องทำให้ผู้ป่วยโกรธขึ้นมา เหิงอวี่กรุ๊ปต้องตายแน่”

มู่วี่สิงฟังอย่างเย็นเฉย และหยิบไวน์สองแก้วมา ทับขายาวนั่งอย่างสง่างามบนโซฟา

“ในปัจจุบันมู่เหิงเริ่มตื่นตัวแล้ว พรุ่งนี้จะได้ไปด้วยอย่างราบรื่นหรอก”มู่วี่สิงขมวดคิ้ว

แถมเรื่องนี้ นักลงทุนที่อยู่เบื้องหลังอย่างโจวเซินไม่มีทางอยู่นิ่งๆ

“อย่างไรก็ตาม งานแถลงข่าวของพรุ่งนี้ต้องเปิดเผยเรื่องของเหิงอวี่กรุ๊ป ทำให้เดือดร้อนบ้างก็ดี”เสียงของลี่หนานเฉิงเยือกเย็นมาก

“ใช่” มู่วี่สิงตอบ สีหน้าของเขาอ่อนโยนเสมอ

“เป็นห่วงมู่ซือซือเหรอ”ลี่หนานเฉิงถาม

ช่วงนี้ความรักของมู่วี่สิงไปได้อย่างราบรื่น งั้นเรื่องที่ทำให้มู่ซือซือต้องเป็นห่วง ก็มีแต่มู่ซือซือล่ะ

“อื่ม อยากส่งเธอไปต่างประเทศ”

“ก็ดีเหมือนกัน แต่มีส้งวี่อยู่เคียงข้างเธอ ไม่มีใครสามารถทำร้ายเธอได้หรอก”

“ถ้ามีความผิดพลาดล่ะ”มู่วี่สิงกำกำปั้นอย่างแน่น

มีเรื่องที่มากมายในโลกใบนี้ที่เราคาดเดาไม่ได้

ไม่มีเรียนในวันเสาร์ เวินจิ้งมาที่บ้านตระกูลหลินแต่เช้า ในช่วงเวลานี้หลินเวยพูดบ่อยๆว่าให้เธอมาช่วยงานของบริษัทหลินซื่อ ช่วงนี้เวินจิ้งไม่ได้ยุ่งมาก ไม่ได้เข้าร่วมในการวิจัยและพัฒนาของบริษัทมู่ซือกรุ๊ปต่อไป ก็เลยมีเวลามาช่วยแม่ของเธอจัดการงานของบริษัทหลินซื่อ

เพียงแค่เช้าวันเดียว ข่าวที่เกี่ยวกับบริษัทเหิงอวี่กรุ๊ปหลอกลวงผู้ป่วยไปรู้กันหมดทั้งเมืองแล้ว

มีนักข่าวได้รู้ว่าโรงพยาบาลเอกชนที่ของบริษัทเหิงอวี่กรุ๊ปมีอุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ผู้ปฏิบัติงานทางการแพทย์ไม่ได้เป็นหมออย่างอาชีพ หลอกลวงผู้บริโภคจำนวนมาก ในปัจจุบันรัฐบาลได้รับรีพอร์ตจำนวนหลักหมื่น และบริษัทเหิงอวี่กรุ๊ปอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ

โรงพยาบาลเอกชนเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่สำคัญที่สุดของบริษัทเหิงอวี่กรุ๊ป ก็เป็นแหล่งกำไรที่สำคัญที่สุดเหมือนกัน แต่ตอนนี้อุตสาหกรรมเหล่านี้เกือบจะอยู่ในภาวะหยุดชะงัก และการดำเนินงานของบริษัทเหิงอวี่กรุ๊ปก็ตกอยู่ในหยุดเดินเหมือนกัน

มู่เหิงปวดหัวมาก และติดต่อกับโจวเซินตลอด แต่ผู้ช่วยของเขาเป็นคนที่รับโทรศัพท์ตลอด และบอกว่าโจวเซินไม่ได้อยู่ในหนานเฉิง

เพราะฉะนั้นมู่เหิงจึงสั่งคนไปติดตามโจวเซิน เขาจะนั่งเที่ยวบินสองทุ่มมาถึงหนานเฉิงในคืนนี้ เขารีบไปรอเขาที่ที่สนามบินทันที

เรื่องของบริษัทเหิงอวี่กรุ๊ป เขามีแต่ขอความช่วยเหลือจากโจวเซินท่านั้น

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท