บทที่ 481 ยากที่จะควบคุม
“มู่เหิงก็ถือว่าเจ๋งแล้ว ในขณะนี้บริษัทผลิตยายูเหิงก็ล้มละลายล่ะ และเขาก็อยู่ในคุกด้วย” เวินจิ้งพูดเบาๆ
รู้ความเกลียดชังระหว่างมู่วี่สิงและมู่เหิง ด้วยวิธีการของมู่วี่สิง คงไม่ให้โอกาสมู่เหิงได้ออกมาอย่างแน่นอน
“แต่มู่วี่สิงได้สืบทอดบริษัทมู่ซือกรุ๊ป เขาคงไม่สามารถเป็นหมอได้ต่อแล้ว บริษัทมู่ซือกรุ๊ปมีธุรกิจมากมาย เขาต้องยุ่งมากแน่เลย ”
“เขายังเปิดคอร์สรักษาทุกสัปดาห์ แต่มู่เฉิงไม่เห็นด้วย” เมื่อนึกถึงคำพูดที่มู่เฉิงพูดกับเธอ เวินจิ้งถอนหายใจอย่างหงุดหงิด
ในเวลานี้ มู่เฉิงและมู่ซือซือมาพร้อมกัน เป็นคนของตระกูลมู่กันหมด แขกหลากหลายก็ไปทักคุยกัน
ทันใดนั้นเวินจิ้งก็หมดความสนใจทันที
ผ่านไปไม่นานเท่าไหร่ มีร่างสูงเดินมาทางนี้ เมื่อเห็นโจวเซิน ดวงตาของเวินจิ้งก็มีความไม่พอใจเล็กน้อย “คุณเวิน” เสียงที่มีเสน่ห์ของโจวเซินนั้นน่าประทับใจมาก
อั้ยเถียนก็เลยจำเขาได้ เธอมองไปที่เวินจิ้ง หน้าของเธอก็เย็นชามาก
เวินจิ้งพยักหน้าเบาๆ ถือว่าเป็นการตอบสนอง
“ไม่เข้าไปในห้องจัดเลี้ยง ชอบความเงียบงันเหรอ พอดีฉันก็เหมือนกัน” โจวเซินพูดเสร็จก็นั่งลงลงบนเก้าอี้หมุน
การกระทำของเขาสง่างามและดูดีมาก ทำให้น่าประทับใจกับความเป็นสุภาพบุรุษของเขา
โจวเซินอยู่ข้างๆ เวินจิ้งและอั้ยถียนหมดความสนใจที่จะคุยต่อแล้ว
อั้ยเถียนวางแก้วไวน์ลง จ้องมองโจวเซินแล้วจับแขนเวินจิ้งเดินเข้าไปเลย
โจวเซินที่ถูกทิ้งอยู่คนเดียวขมวดคิ้วและเกร็งปลายนิ้วที่ถือแก้วไวน์อยู่อย่างแน่น
“จิ้งจิ้ง โจวเซินคนนั้น รู้สึกแปลกๆ”อั้ยเถียนมองด้านหลังของผู้ชายคนนั้น ดูยังไงก็เหมือนสุนัขจิ้งจอกที่เจ้าเล่ห์
“อย่าไปให้ความสนิทสนมกับเขามากไป”เวินจิ้งเตือน
พระเอกของงานเลี้ยงนอกจากมู่วี่สิงแล้ว มู่วี่สิงก็เป็นอีกคนด้วย
เขาพิงไม้เท้า ใบหน้าของเขาดูมีความแก่ตามภาษาคนสูงวัย แต่ในขณะนี้เขาก็ดูแข็งแรงอยู่
“คุณปู่ ควรพักผ่อนอยู่ที่บ้าน ทำไมมาที่นี่เหรอครับ” มู่วี่สิงมีความไม่พอใจเบาๆ
วันนี้คุณปู่ถูกส่งไปที่โรงพยาบาล กลับบ้านยังไม่ได้พักเท่าไหร่ก็มาที่นี่ละ
“วันนี้เป็นวันสำคัญของหลาน ปู่อยากมาแสดงความยินดีด้วยตัวปู่เอง”
“ใช่ค่ะพี่ชาย ทันทีที่คุณปู่กลับถึงบ้านก็พูดถึงพี่ตลอด ยังไงก็จะมาที่นี่ให้ได้” เสียงของมู่ซือซือก็มีความไม่พอใจเหมือนกัน
กลัวว่าคุณปู่จะเป็นอะไรขึ้นอีก คุณปู่เป็นลมตอนกลางวันทำให้เธอกลัวเหลือเกิน
“คุณปู่ ผมจะส่งคุณปู่กลับไปครับ”
งานแบบนี้นี้ ปรากฏตัวก็เพียงพอแล้ว มู่วี่สิงก็ไม่มีอารมณ์จะคุยกับใครอยู่แล้ว
“ไม่ได้ ปู่อวยพรหลานก็จะกลับไปแล้ว ต่อไปนี้บริษัทมู่ซือกรุ๊ปก็จะเป็นของหลานแล้ว” มู่เฉิงพูดเสร็จจะดื่มไวน์ มู่วี่สิงและมู่ซือซือรีบห้ามไว้
“คุณปู่ อย่าดื่มเลยดีกว่าครับ” มู่วี่สิงแย่งแก้วไป
“ฉันจะไปส่งคุณกลับไปก่อน”
“ไม่ต้องๆ หลานอยู่หาความสนุกต่อเถอะ ปู่แก่แล้ว ปู่จะกลับบ้านก่อน” พูดเสร็จ มู่เฉิงก็โบกมือ
มู่เฉิงใช้ไม้เท้ากลับไปโดยลำพัง มู่วี่สิงจิ๊ปากบาง คิ้วแคบของเขาก็ขมวดเบาๆ
“พี่ชาย คุณปู่ทำเพื่อคุณมากเหลือเกิน” มู่ซือซือส่ายหัวอย่างไม่รู้จะทำไงดี
เมื่อก่อนไม่รู้ว่าทำไมมู่เฉิงถึงรักมู่วี่สิงเป็นพิเศษเพียงคนเดียว แต่วันนี้รู้แล้วว่าที่แท้มู่วี่สิงเป็นลูกเก็บนี่เอง มู่
ซือซือก็เลยเข้าใจแล้ว
ในครอบครัวนี้ มีพี่ชายเพียงคนเดียวที่เป็นทายาทที่ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น
“ที่คุณปู่ทำ ก็เพื่อบริษัทมู่ซือกรุ๊ปต่างหัก” มู่วี่สิงพูดอย่างเย็นชา
ในขณะนี้ มีร่างสูงกำลังเดินมา โจวเซินใส่สูทสีดำ ขายาวเดินมาทางนี้เรื่อยๆ
ออร่าที่แข็งแกร่งทำให้คนอื่นอดมองเขาไม่ได้
แต่เมื่ออยู่ต่อหน้ามู่วี่สิง พวกเขาสองคนมีออร่าพอๆกัน
“คุณมู่ ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ”โจวเซินถือแก้วไวน์
“ไม่คิดว่าคุณโจวจะมาด้วย” น้ำเสียงของมู่วี่สิงลึกซึ้งและเย็นเยือก
ในดวงตาของพวกเขาทั้งคู่ ต่างก็มองหน้าของอีกฝ่าย
“ในเมื่อคุณปู่มู่เชิญมา ฉันก็ต้องให้เกียรติอยู่แล้ว”
ที่อยู่ไม่ไกล เวินจิ้งเห็นมู่วี่สิงเหมือนกำลังคุยกับโจวเซินอยู่ พวกเขาก็เกือบจะดึงดูดความสนใจของผู้หญิงทุกคนในงานไปหมด
โจวเซินน่าจะเป็นผู้ชายคนเดียวที่หน้าตาและออร่าคล้ายกับมู่วี่สิงในงานนี้
“คุณโจวคนนั้น ท่าทางไม่ธรรมดาจริงๆ” อั้ยเถียนกล่าว
“ฉันไม่รู้เหมือนกัน แต่ได้ยินมาว่าเขาสนับสนุนมู่เหิงอยู่ด้านหลัง ไม่รู้ว่าทำไมมางานวันนี้ด้วย”
“น่าจะเป็นเพราะว่ามู่วี่สิงต้องคุยกับคู่แข่งของเขาอย่างลึกซึ้งมั้ง ต้องรู้จักตัวเองและศัตรูอย่างดีถึงจะสามารถชนะการต่อสู้ทุกครั้งได้”
ผ่านไปไม่นาน มู่วี่สิงก็ปฏิเสธแขกหลายคนและเดินมาหาเวินจิ้ง
“ขอโทษนะ แขกในงานคืนนี้ค่อนข้างเยอะ” มู่วี่สิงขมวดคิ้ว
รายชื่อแขกนอกจากจะมีแขกที่เขาจัดไว้แล้ว ยังมีเพื่อนเก่าของคุณปู่อีกมากมาย
“ไม่เป็นไร ฉันแค่มากินของกินอย่างเดียว” เวินจิ้นยิ้ม
มู่วี่สิงมองเธอด้วยความรักและใช้ปลายนิ้วลูบปากของเธอที่ติดครีมเบาๆ
ข้างๆเวินจิ้งมีเค้กเล็กๆครึ่งชิ้นที่ยังไม่กินไม่หมด
ในขณะนี้บริกรส่งไวน์สองแก้วมาให้ เวินจิ้งหิวน้ำก็เลยหยิบมาดื่มเกือบหมดแก้ว มู่วี่สิงยิ้มอย่างไม่รู้ทำไงดี “อยากเมาเหรอ”
“ฉันผิดไปแล้ว” เวินจิ้งตัวแข็งไป
สีหน้าของบริกรเปลี่ยนไปทันที เขาก็เลยเอาไวน์อีกแก้วให้มู่วี่สิง
มู่วี่สิงรับไป แต่แค่จิบเบาๆ
ชั้นสองของห้องจัดเลี้ยง
มู่เฉิงไม่ได้กลับไป แค่ขึ้นมาในห้องหนึ่งในนี้
คนที่อยู่ต่อหน้าคือโจวหย่านที่ใส่ผ้าคลุมสีขาว หน้าตาก็สวยดี แม้ว่าจะดูเด็กไปหน่อย แต่ก็ค่อนข้างเตะตาเขา
เมื่อก่อนเขาชอบเวินจิ้ง ก็เลยไม่พอใจอย่างมากกับเรื่องที่มู่วี่สิงจะแต่งงานกับโจวหย่าน ไม่เคยทำความรู้จักผู้หญิงคนนี้ด้วย แต่ดูจากตอนนี้ก็ใช้ได้
“งั้นฉันอาบน้ำก่อนนะคะ “โจวหย่านพูดอย่างเสียงหวาน
มู่เฉิงพยักหน้าและสั่งให้บอดี้การ์ดลงไปทันที
มู่วี่สิงและเวินจิ้งกำลังจะกลับไป บอดี้การ์ดที่ใส่เสื้อสีดำเดินมาอย่างเงียบๆ “คุณมู่ครับ คุณปู่มู่กำลังรับแขกอยู่ห้องชั้นสอง สภาพร่างกายเหมือนไม่ค่อยดี ท่านให้คุณขึ้นไปดูหน่อยครับ”
“คุณปู่ยังไม่กลับอีกเหรอ” มู่วี่สิงขมวดคิ้ว
“มีเพื่อนเก่าชวนคุยครับ ก็เลยคุยจนถึงตอนนี้ครับ” คำพูดของบอดี้การ์ด ตามคำสั่งของมู่เฉิงเต็มๆเลย
“งั้นคุณไปดูและส่งคุณปู่กลับไปเถอะ ฉันจะกลับไปมหาวิทยาลัยเอง” เวินจิ้งบอก
“ฉันจะให้คนขับรถไปส่งคุณ”
“เอาล่ะ เดี๋ยวฉันจะให้เสี้ยงหงส่งเวินจิ้งกลับไป คุณไปดูมู่เฉิงเถอะ” อั้ยเถียนเดินมา
มู่วี่สิงค่อยๆหันตัวไป แล้วเดินขึ้นไปชั้นสองโดยตรง ผลักเปิดประตู แต่ข้างในว่างเปล่า มีแต่เสียงที่มาจากห้องน้ำเบาๆ
“คุณปู่”
วินาทีถัดไป ประตูที่อยู่ด้านหลังก็ปิดโดยอัตโนมัติและล็อคไปด้วย
มู่วี่สิงก็เกือบรู้เกิดอะไรขึ้นทันที ในเวลานี้ ประตูห้องน้ำถูกเปิดออก โจวหย่านใส่ชุดนอนลูกไม้ที่เกือบโปร่งใสเดินออกมา
ผมยังเปียกอยู่ เธอเงยหน้าขึ้น มองสายตาที่โกรธของมู่วี่สิง แต่เธอก็เข้าหาเขาอย่างกล้าหาญ
“วี่สิง” เธอเรียกเขา
มู่วี่สิงงขมวดคิ้ว อุณหภูมิของร่างกายของเขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเห็นโจวหย่าน ทำให้เขารู้สึกยากที่จะควบคุม
เขาก้มหน้าอย่างเย็นชา พูดอย่างเคร่งขรึมว่า”ออกไป”
โจวหย่านไม่สนใจคำพูดของเขาอยู่แล้ว แต่กลับเข้าหาเขาเรื่อยๆ สุดท้ายก็กอดมู่วี่สิงไว้
“คุณร้อนมาก วี่สิง ฉันช่วยคุณดีมั้ย”