Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 478

ตอนที่ 478

บทที่ 478 พรากชีวิตอย่างนุ่มนวล

งานรวมตัวอยู่ถึงดึกจึงได้ค่อยๆเลิกรากันไป ถ้าผู้หญิงได้จับกลุ่มกันคุยเรื่องหัวใจแล้ว ต่อให้กี่วันกี่คืนก็คงพูดไม่จบ

เวินจิ้งไม่อยากจะบอกลากับอั้ยเถียนและซูยิงเลย แต่เมื่อขึ้นมาบนรถ ความง่วงกลับเข้าจู่โจม

มู่วี่ฉิงพาเธอกลับไปที่การ์เด้นมูเจียวาน เวินจิ้งหลับอยู่บนรถ เธอดื่มเหล้ามานิดหน่อย หน้าของเธอเลยแดงระเรื่อ กระดุมเสื้อถูกปลดออกหนึ่งเม็ด จนเผยให้เห็นไหปลาร้าขาวนวลที่แสนจะเซ็กซี่

ในสายตาละมุนละไมของเขา มันดูยั่วยวนเป็นพิเศษ

ในตอนที่มู่วี่สิงอุ้มเธอขึ้นมา เปลวไฟในดวงตาก็ยิ่งปะทุรุนแรง

แต่ผู้หญิงในอ้อมกอดดันหลับลึก

ฟ้าใกล้จะสว่างแล้ว เมื่อร่างของเวินจิ้งสัมผัสเตียง เธอก็ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวเองเอาไว้ในทันที

มู่วี่สิงอาบน้ำเสร็จก็เดินออกมา จากนั้นก็เอาผ้าขนหนูมาเช็ดหน้าให้เวินจิ้งถึงได้นอนบ้าง

กลิ่นเหล้าบนร่างกายของเธอแรงมาก แต่ว่ากลิ่นตัวที่หอมอ่อนๆของเธอก็พอจะทำให้เขาทนได้

เวินจิ้งนอนจนถึงตอนบ่ายถึงได้ตื่นขึ้นมา บนเตียงกว้างๆมีแค่เธอ ในห้องไม่มีเงาของมู่วี่สิงอยู่เลย

กลิ่นเหล้าบนตัว…..ยังอยู่

เวินจิ้งรู้สึกขัดๆเขินๆ เมื่อวานเธอหลับไปตั้งแต่อยู่บนรถเลยเหรอ……

เธอลงจากเตียง จากนั้นก็รีบเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำทันที แต่เมื่ออาบเสร็จถึงได้พบว่า ในห้องน้ำไม่มีชุดคลุมอาบน้ำอยู่เลย

เมื่อเช็ดตัวให้แห้ง เธอจึงใช้ผ้าขนหนูมาพันรอบตัวเอาไว้ จากนั้นก็แง้มประตูออกช้าๆ “มู่วี่สิง——“

แต่เสียงที่ตอบกลับกลับมีแต่เสียงสะท้อนของเธอเอง

เวินจิ้งขมวดคิ้ว เสื้อผ้าของเธอเลอะเหงื่อไปหมดแล้ว คงเอากลับมาใส่ใหม่ไม่ได้ ภายในห้องนอนมีตู้เสื้อผ้าอยู่ แต่ข้างในเป็นเสื้อผ้าของมู่วี่สิง

เธอวิ่งเท้าเปล่าออกมาจากห้องน้ำ ในตอนที่เพิ่งจะเปิดตู้เสื้อผ้า หน้าประตูก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นมา จากนั้นก็ตามมาด้วย ประตูที่ถูกเปิดออก

เวินจิ้งนิ่งอึ้ง เมื่อเห็นชายหนุ่มที่สวมใส่เสื้อสีขาวกางเกงสีดำเดินเข้ามา มือของเธอก็แข็งค้างอยู่อย่างนั้น

ทันใดนั้นร่างกายก็รู้สึกเย็นๆ นั่นก็เพราะว่าผ้าขนหนูที่พันอยู่บนตัวของเธอมันหลุด……

เวินจิ้งรีบดึงสติกลับมา แต่มู่วี่สิงกลับเห็นไปถึงไหนต่อไหนแล้ว

ขายาวๆก้าวเข้ามาใกล้ จากนั้นเวินจิ้งก็ถูกเขาหมุนตัวให้เข้ามาอยู่ในอ้อมกอด

“ตั้งใจเหรอ? หืม?” เสียงทุ้มต่ำดูยั่วยุเอามากๆ

ใบหน้ารูปไข่ของเวินจิ้งแดงเหมือนมะเขือเทศ

“คุณออกไปเลย!” เวินจิ้งหยิบเอาเสื้อเชิ้ตตัวหนึ่งออกมาจากตู้อย่างกระฟัดกระเฟียด

แต่มู่วี่สิงกลับเร็วกว่าแย่งเอาเสื้อในมือของเธอมาถือไว้

“ผมช่วย”

เสียงนี้พรากชีวิตได้อย่างนุ่มนวล

เวินจิ้งต้านทานไม่ไหวจริงๆ

เธอยกมือขึ้น ปล่อยให้มู่วี่สิงใส่เสื้อเชิ้ตให้เธอแต่โดยดี พร้อมทั้งติดกระดุมให้ทีละเม็ดจนเสร็จ

เสื้อเชิ้ตสีขาวยาวถึงขาอ่อนของเธอพอดี จนขับให้ขาของเธอดูเรียวยาว

เมื่อใส่เสื้อผ้าเสร็จ มู่วี่สิงก็ยังคงนิ่ง

เวินจิ้งจึงดันเขาออก

“ฉันหิวแล้ว”

ปกติหลังจากเธอตื่น มู่วี่สิงจะทำอะไรอร่อยๆไว้ให้

“อืม ผมก็หิวเหมือนกัน”

พูดจบ ก็กดจูบลงมาอย่างเอาแต่ใจ มือของเขาแตะอยู่ที่เอวบางของเวินจิ้ง ดันเธอไปแนบอยู่ข้างๆตู้ การจู่โจมของเขายิ่งทวีความรุนแรงขึ้น

เวินจิ้งรู้สึกราวกับโลกหมุน พื้นที่ตรงตู้เสื้อผ้าดูจะแคบเกินไป ใครบางคนไม่พอใจจนต้องอุ้มเธอไปที่เตียง……

กว่าจะได้กินข้าวก็พลบค่ำแล้ว เวินจิ้งถลึงตาใส่มู่วี่สิงอย่างเคืองๆ แต่ใครบางคนกลับดูสดชื่นซะเหลือเกิน

“ไม่พอใจเหรอ?” มู่วี่สิงรู้อยู่แก่ใจแต่กลับจงใจถาม

“พอใจมาก” เวินจิ้งพูดมุบมิบ

“งั้นมาออกกำลังกายกัน”

เวินจิ้ง “…….”

……

วันต่อมาคือวันงานแถลงข่าวมู่วี่สิงขึ้นรับตำแหน่งประธานบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป เวินจิ้งจึงต้องลาหยุดเพื่อเข้าร่วม

งานแถลงข่าวจัดที่บริเวณชั้นหนึ่งของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป สื่อและนักข่าวต่างก็มาออกันเต็มอยู่หน้าประตูทางเขา

เวินจิ้งไม่อยากจะไปปรากฏตัวร่วมกับมู่วี่สิง เมื่อลงจากรถ เธอจึงแยกกับมู่วี่สิง

แต่กลับถูกชายหนุ่มโอบไว้ในอ้อมกอด “อยู่ข้างผมนะ”

“ไม่ได้ ฉันต้องยืนไกลๆเพื่อให้คุณได้ถ่ายรูป!” เวินจิ้งพูดขึ้นมาอย่างมีเหตุผล

เมื่อครู่เธอเห็นแล้วว่าข้างนอกมีนักข่าวตั้งเท่าไหร่ ถ้าต้องไปอยู่ต่อหน้ากล้องหลายตัวขนาดนั้น เธอคงลนลาน……

“จิ้งจิ้ง” มู่วี่สิงขมวดคิ้ว รู้สึกไม่ค่อยชอบใจ

“เอาล่ะ ฉันจะขึ้นไปแล้ว คุณกับผู้ช่วยเกาก็รีบไปได้แล้ว”

พูดจบ เธอก็เดินเข้าอีกด้านของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป

หลังจากจัดพื้นที่ให้นักข่าวได้นั่งเรียบร้อย อีกไม่นานงานแถลงข่าวก็คงจะเริ่มแล้ว

นี่คงเป็นคำสั่งพิเศษจากมู่วี่สิงแน่ๆ พนักงานต้อนรับถึงได้พาเธอมานั่งแถวแรกอย่างนี้…..

มู่เฉิงและมู่ซือซือก็มาแล้ว แต่ก็อยู่ห่างจากเวินจิ้งพอสมควร

แขกที่เข้าร่วมงานต่างก็แต่งตัวกันอย่างเต็มยศ เวินจิ้งมองเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงยีนของตัวเองแล้ว ก็รู้สึกราวกับตัวเองมาผิดที่

หลังจากผู้อำนวยการบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปทำการกล่าวสุนทรพจน์จบ งานแถลงข่าวก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ

มู่เฉิงและมู่วี่สิงยืนอยู่บนเวที ร่วมลงนามส่งมอบและรับช่วงต่อสัญญากันอย่างเป็นทางการ

ในเวลานี้เองที่แสงแฟลชก็เริ่มวูบวาบขึ้นมา สายตาของเวินจิ้งจึงเห็นแต่เงาสูงโปร่งของเขา

เขาสวมใส่ชุดสูทสำหรับทำงาน เนกไทสีฟ้าดำที่ผูกอยู่เป็นเนกไทที่เธอเลือกให้เองกับมือในวันนี้ อวัยวะทั้งห้าบนใบหน้าปลดปล่อยเสน่ห์ออกมาราวกับจะพรากชีวิตคนมอง

เมื่อสืบทอดบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับมู่วี่สิง ตำแหน่งในโลกธุรกิจก็คงหาใครเหนือกว่าไม่ได้

ตอนนี้เอง ที่เสียงอึกทึกข้างนอกดังขึ้นมาเป็นระยะๆ ตามมาด้วยนักข่าวถูกบอดี้การ์ดผลักออก จากนั้นมู่เหิงก็บุกเข้ามา

“คุณปู่ คุณปู่เข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า?”

มู่เหิงแต่งกายด้วยชุดสูทเหมือนกัน ค่อยๆก้าวเข้ามาทีละก้าว แสงแฟลชจากนักข่าวจึงเปลี่ยนมาสาดใส่ที่เขาแทน

“มู่เหิง แกมาทำไม!” สีหน้าของมู่เฉิงอึมครึม

มู่เหิงเดินขึ้นไปบนเวที มองสัญญาที่ถูกเซ็นต์แล้วเรียบร้อย จากนั้นก็หยิบขึ้นมาแล้วฉีกมันอย่างไม่คิดลังเล!

ผู้คนในงานส่งเสียงฮือฮา

มู่วี่สิงยังคงหน้านิ่ง จากนั้นไม่นานก็สั่งให้เกาเชียนเอาสัญญาฉบับใหม่มา

มู่เหิงจับได้ไมโครโฟน จากนั้นก็เอ่ยปากขึ้นว่า “สวัสดีแขกผู้เข้าร่วมงานและนักข่าวทุกท่าน ผม มู่เหิง เป็นหลานชายคนโตของตระกูลมู่ และมีสิทธิ์สืบทอดบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปแต่เพียงผู้เดียว!”

“มู่เหิง แกหยุดพูดเหลวไหลได้แล้ว!” มู่เฉิงโกรธจนสั่น

“คุณปู่ ตามข้อกำหนดของตระกูลมู่แล้วเนี่ย มีแค่หลานชายคนโตเท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์สืบทอดบริษัท น้องชายผมไม่มีสิทธิ์สักหน่อย!”

“งั้นเหรอ?” มู่วี่สิงเลิกคิ้วใส่อย่างเย็นชา “แต่ฉันจำได้ ว่านายไม่ใช่คนของตระกูลมู่แล้วนี่”

“ฉันเป็นคนของตระกูลมู่! พ่อของฉันคือมู่เฟิง แม่ของฉันคือฉีซีเจ๋ที่เป็นคุณหญิงมู่อย่างถูกต้องตามกฎหมาย! ฉันเป็นลูกคนโตของพ่อกับแม่ สิทธิ์การสืบทอดบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปเป็นของฉันแค่คนเดียว”

“แกไม่ใช่!” หลังจากเสียงสั่นๆมู่เฉิงพูดขึ้นมาด้วยเสียงต่ำๆ ก็แทบจะทรงตัวไม่อยู่

มู่วี่สิงพยุงคุณปู่เอาไว้ และกำลังจะพาคุณปู่ลงจากเวที แต่ถูกห้ามเอาไว้เสียก่อน

“แกเป็นลูกนอกสมรสของมู่เฟิงกับผู้หญิงคนอื่น แกไม่มีสิทธิ์สืบทอดบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป” มู่เฉิงพูดเน้นๆทีละคำ จนดังกล้องไปทั่วบริเวณชั้นล่างของบริษัท

มู่เหิงหน้าซีด ยืนนิ่งอึ้งอยู่กับที่

แม้แต่ตัวมู่วี่สิงก็ไม่คาดคิดเหมือนกัน เรื่องนี้ เขาก็เพิ่งถูกเปิดโลกเหมือนกัน

เสียงข้างล่างเวทีเงียบไปถนัดตา สายตาต่างจับจ้องมาที่มู่เฉิง

มู่เฉิงถือไมโครโฟนขึ้นมา จากนั้นก็พูดชัดๆทีละคำว่า “มู่วี่สิงต่างหากคือหลานชายที่ถูกต้องตามหลักทำนองคลองธรรมของตระกูลมู่ เขาคือคนที่มีสิทธิ์สืบทอดแต่เพียงผู้เดียว และวันนี้เขาก็สืบทอดบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปอย่างเป็นทางการ ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานบริษัทแล้ว! และยังรับผิดชอบงานต่างประเทศของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปด้วย!”

เมื่อเสียงถูกเปล่งออกมา มู่เฉิงก็ทรุดบนเวที ในที่สุดเขาก็ทนไม่ไหวแล้ว

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท