Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 497

ตอนที่ 497

บทที่497 ทำให้คนอื่นอิจฉา

ช่วงเวลาที่ต่อจากนี้ มู่วี่สิงใช้เวลาในการจัดการเรื่องของบริษัททุกวัน บางครั้งก็ออกไปเดินเล่นหาอะไรกินกับเวินจิ้ง หนึ่งสัปดาห์ก็ผ่านไปโดยสิ้นเชิง

ช่วงวันหยุดของมหาวิทยาลัยหลินไห่ก็หมดลงแล้ว เวินจิ้งติดต่อกับศาสตราจารย์ไป๋ ไป๋สือได้รับเอกสารลาออกของเธอแล้ว ตอนนี้ก็กำลังช่วยเธอยื่นเรื่องกลับเข้าเรียนใหม่อีกครั้ง แต่มันต้องใช้เวลา

เวินจิ้งทำได้แค่รอ

ฤดูหนาวของประเทศBมาเร็วมาก เวินจิ้งยืนอยู่ที่หน้าต่าง มองดูหิมะที่ลอยลงสู่พื้นจนหนา อยากจะไปเหยียบหิมะมาก

อาการที่เมืองหนานอบอุ่นกว่า ไม่ค่อยมีหิมะเหมือนที่นี่

เหมือนรู้ว่าเวินจิ้งคิดอะไร มู่วี่สิงเดินเข้ามา เขากอดเธอจากด้านหลัง มือที่ใหญ่ของเขาจับไปที่มือเล็ก ๆ ที่เย็นของเธอแล้วพูดอย่างอ่อนโยน “ถ้าคุณอยาก เราไปภูเขาหิมะสักสองสามวันดีมั้ย”

“ได้หรอ?” เวินจิ้งมองหน้ามู่วี่สิงแล้วพูดด้วยความดีใจ

ที่สสุดแล้วตอนนี้งานเขาก็เยอะมาก ปกติก็ทำงานถึงตีหนึ่งตีสอง สามารถเจียดเวลาออกไปเที่ยวกับเธอหรอ……

แต่น้ำเสียงของมู่วี่สิงหนักแน่นมาก “ผมจะจัดการเอง”

คืนนั้น มู่วี่สิงได้วางแผนไว้เรียบร้อยแล้ว ภูเขาหิมะที่จะไปตั้งอยู่ที่เขาหิมะของเทือกเขาซีประเทศB โปรแกรมค่อนข้างสบาย แต่เวินจิ้งดูคู่มือแล้ว ก็เพิ่มโปรแกรมที่จะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอก

มู่วี่สิงวางแผนไว้ว่าไปเล่นสกีหิมะแล้วก็แช่น้ำพุร้อน เวินจิ้งดูแล้ว พูดด้วยความเศร้า “พวกเราไม่มีชุดและอุปกรณ์อะไรเลยนะ”

นอกจากนี้ เธอยังเป็นนักเล่นสกีอีก……

“เดี๋ยวเกาเชียนจะส่งชุดและอุปกรณ์มา” มู่วี่สิงวางแผนไว้ตั้งแต่แรกแล้ว

เวินจิ้งยิ้ม งั้นก็สบายใจได้ มีมู่วี่สิงอยู่ข้างกาย ดูเหมือนว่าเธอไม่เคยต้องกังวลอะไรเลย

พรุ่งนี้ก็จะออกเดินทางแล้ว เวินจิ้งตั้งหน้าตั้งตารอ คืนนี้หลับได้สบายมาก

และเวลานี้ มู่วี่สิงก็ได้รับสายจากมู่ซือซือ

“พี่ค่ะ โจวหย่านเข้าโรงพยาบาลแล้ว”

“เกี่ยวอะไรกับพี่?” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

“ฉันแค่บอกพี่ไว้ก่อน อาการของเธอไม่ค่อยดีเลย หมอทางสมองบอกว่า ต้องให้ศาสตราจารย์ทางด้านประสาทวิทยามาดู และเมื่อก่อนพี่ก็เคยรักษาเธอ……” เสียงพูดมู่ซือซือเบาลงเรื่อย ๆ เพราะรับรู้ถึงความโกรธของมู่วี่สิง

“พี่ไม่มีทางรักษาเธอ”

“ฉันรู้”

วันต่อมา เวินจิ้งตื่นแต่เช้า เปลี่ยนใส่เสื้อโค้ทหนา ๆ

และมู่วี่สิงก็ถอดชุดสูทออก ใส่เสื้อโค้ทขนสลักแบบสบาย ๆ ดูมีความเป็นผู้ใหญ่แต่ก็ไม่ทิ้งเป็นหนุ่มที่หล่อเหลาในตัวเขา

มาถึงแค่ครึ่งทางของเขาหิมะก็ค่ำแล้ว ทางลำบากพอสมควร แต่การรอคอยระหว่างการเดินทางทำให้เวินจิ้งเอาชนะความเหนื่อยล้าได้ เธอดูมีความสุขตลอดทาง

ใบหน้าที่ยิ้มแย้มตลอดทางของมู่วี่สิง

หลังจากเช็คอินที่โรงแรมแล้ว ทั้งสองจูงมือกันเดินเล่นอยู่รอบ ๆ

พลบค่ำ สวนดอกไม้หลังโรงแรมดูครึกครื้นมาก มีคนก่อกองไฟ แล้วทุกคนก็นั่งล้อมรอบกองไฟพร้อมกับพูดคุยและกินบาร์บีคิวไปด้วย ภูเขาในช่วงค่ำดูเงียบสงบมาก แต่ลานตั้งแคมป์ดูครึกครื้นมาก รอบ ๆ มีไฟส่องสว่างตลอด

เพราะมีลมพัด ทำให้ไฟลุกใหญ่มาก ด้านบนมีดวงจันทร์ การหักเหของแสงจากหิมะ ก็สามารถมองเห็นยอดเขาที่อยู่ไกลออกไปได้

เห็นทั้งสองเดินผ่าน ก็มีคนที่อัธยาศัยดีกวักมือเรียกพวกเขา

“พวกเราก็เพิ่งมารู้จักกันตอนที่มาเที่ยวที่นี่ พวกคุณสนใจมาพูดคุยด้วยกันมั้ย?”

นิสัยของเวินจิ้งเป็นคนขี้กลัว แต่เมื่อออกมาพักผ่อนแล้ว ลองเปิดใจให้สบายดีกว่า

มองไปทางมู่วี่สิง เขารับฟังเธออยู่แล้ว

คนในวงขยับเว้นสองที่นั่ง ให้เวินจิ้งกับมู่วี่สิงนั่งลง แสงจากเปลวไฟส่องสว่างไปที่คนสวยและคนหล่อ เวลานี้ทุกคนต่างพากันอุทานออกมา

“พวกคุณดูเหมาะสมกันมากเกินไปแล้วมั้ง คุณคงไม่ใช่ดาราชายใช่มั้ย?” มู่วี่สิงมีใบหน้าที่หล่อเหลา อยู่ที่ไหนก็โดดเด่น

มู่วี่สิงมองไปที่ตัวเวินจิ้ง โอบเอวเธอให้เธอขยับเข้ามาใกล้เขา

ทำให้คนอื่นอิจฉาจริง ๆ !

“เขา……ถือว่าเป็นดาราก็ได้มั้ง” เวินจิ้งตอบแทนมู่วี่สิง

“หรือว่าเป็นนายแบบ?” มีคนเดา

เวินจิ้งส่ายหัว ตอนนี้มู่วี่สิงเป็นถึงประธาน……เวินจิ้งไม่อยากให้ใครรู้

เพราะในตอนเด็กเคยได้ยินข่าวว่าคนรวยถูกลักพาตัวอยู่ไม่น้อย

ยังคงถ่อมตัว

ทุกคนทายกันหมดแล้ว ก็มีคนพูดด้วยความดีใจขึ้นมาว่า “นึกออกแล้ว เขาคือมู่วี่สิง หัวหน้าแพทย์แผนกประสาทวิทยา!”

“วันนี้ได้เจอตัวจริงสักที……คนที่บ้านฉันอยากจะต่อคิวรักษา แต่ก็ไม่เคยได้คิวเลย”

เวลานี้ ทุกคนล้อมถามเกี่ยวกับเรื่องการแพทย์กับมู่วี่สิง มู่วี่สิงก็ยังคงอ่อนโยนและมีมารยาท แต่ว่าเวินจิ้งเริ่มง่วงแล้ว มู่วี่สิงประคองเธอยืนขึ้น

“ผมกับภรรยาจะไปพักผ่อนแล้ว ขอให้ทุกคนเล่นกันอย่างสนุกนะครับ”

ทุกคนมองมู่วี่สิงและเวินจิ้งอย่างน่าเสียดาย แต่ในเมื่อออกมาพักผ่อน ก็ไม่อยากจะรบกวนมาก

เวินจิ้งหาวออกมาหลายครั้ง ไม่รู้เป็นอะไร รู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่

กลับถึงโรงแรมหัวหนุนลงไปก็หลับไปเลย มู่วี่สิงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ หลังจากตอบกลับอีเมล์เสร็จก็มากอดเวินจิ้ง แต่ก็ต้องตกใจเมื่อสัมผัสถึงความร้อนในตัวเธอ

เหมือนเธอหนาวจนค่อย ๆ ขยับไปกอดเขาไว้ “ฮือ ไม่สบายตัว……”

มู่วี่สิงรู้สึกตัวอีกทีเหงื่อก็เต็มมือแล้ว รีบเรียกเธอ “จิ้งจิ้ง ไม่สบายตรงไหน?”

เธออยากจะอ้าปากพูด แต่เจ็บคอจนคอแน่นมาก ปากที่แดงก่อนหน้านี้ของเธอก็แห้งไม่ไหวแล้ว

เวินจิ้งตื่นมาอีกทีก็เป็นตอนเที่ยงของอีกวัน ร่างกายของเธอยังไม่มีแรง เหมือนว่าเธอฝันร้ายยาวนานมาก ฝันว่าตัวเองป่วยหนักมาก แล้วต้องรักษาด้วยคีโม ผมของเธอก็ร่วงจนหมด น่าเกลียด……

ต่อมา ก็นึกไม่ออกแล้ว

เวินจิ้งทุบหัวของตัวเอง และมู่วี่สิงก็เปิดประตูเข้ามาพอดี เขาปัดหิมะที่ติดบนเสื้อออก แล้วเดินไปสัมผัสที่หน้าผากเธอเพื่อวัดอุณหภูมิ “ไข้ลดแล้ว รู้สึกดีขึ้นมั้ย ผมพาคุณไปทานอะไรหน่อยดีมั้ย?”

เวินจิ้งรู้สึกหิวแล้ว บวกกับของกินที่เธอชอบทั้งนั้น เวินจิ้งตั้งใจกินข้าวได้อย่างเอร็ดอร่อย ไม่พูดไม่จาเลย

รอจนถึงถ้วยเกี๊ยวปูที่เธอกินมันไปแล้วครึ่งหนึ่ง ถูกคนแย่งไปแล้ว

เวินจิ้งเคาะโต๊ะด้วยความหงุดหงิด แสดงถึงความไม่พอใจ มู่วี่สิงก็ถือถ้วยไว้ ไม่พูดจา แล้วจ้องหน้าเธอ

สุดท้ายเวินจิ้งก็ต้องยอม เอานิ้วมือเช็ดคราบน้ำมันที่ริมฝีปาก เป็นการกระทำสุดท้ายของการกินข้าว

รถจอดอยู่หน้าโรงแรม เวินจิ้งขึ้นรถปุ๊บก็รู้สึกเหมือนกระดูกของเธอจะหลุด ร่างกายของเธอล้มลงไปที่อกของมู่วี่สิง

“เหนื่อยมากหรอ?” มู่วี่สิงถาม

“ไม่เท่าไหร่” เสียงพูดเวินจิ้งใสราวกับทอง หันหน้าไป นิ่งสักพักแล้วพูด “ฉันอยากกลับแล้ว”

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว เห็นสีหน้าที่ไม่มีความสุขของเธอ มันต่างจากวันแรกที่มาราวฟ้ากับดิน

“ไม่ง่ายเลยนะที่จะมาถึงภูเขาหิมะแล้ว ไม่เล่นก่อนแล้วค่อยกลับ ต่อไปไม่รู้ว่าจะมีโอกาสแบบนี้อีกมั้ย”

เวินจิ้งครุ่นคิดอย่างจริงจัง แล้วพูดด้วยความภูมิใจ “งั้นคุณเล่น ฉันกลับ”

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว แล้วหัวเราะและพูดว่า “ผมรู้จักสถานที่ที่ดีอยู่ที่หนึ่ง รับรองว่าคุณต้องชอบ พรุ่งนี้เช้าเราก็กลับ โอเค?”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท