Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 504

ตอนที่ 504

บทที่ 504 ชอบปั่นหัวฉันอยู่เรื่อย

มู่วี่สิงผลักหล่อนออกด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ ก่อนจะเริ่มทำหน้าที่ต่อไป

โจวหย่าน ก้มศีรษะอยู่ เป็นเพราะถูกมู่วี่สิงกดเอาไว้ หล่อนเลยขยับเขยื้อนไม่ได้

พอเห็นเขาเขียนอาการของหล่อนลงไปในประวัติผู้ป่วย “ฟึ่บฟึ่บฟึ่บ” เสร็จ แล้วทำท่าจะออกไป โจวหย่าน ก็เรียกรั้งเขาไว้ทันที

“มู่วี่สิง ต่อไปคุณจะเป็นคนดูแลอาการของฉันใช่หรือเปล่า?” โจวหย่านถามอย่างเคร่งเครียด

“อื้อ” มู่วี่สิงส่งเสียงรับ แล้วเดินออกไปอย่างรวดเร็ว

รอยยิ้มที่มุมปากของโจวหย่านค่อย ๆ ขยายขึ้น หล่อนพักที่โรงพยาบาลตลอดไปเลยได้ไหมเนี่ย แบบนี้ก็ได้เจอมู่วี่สิงทุกวันเลยสินะ

คล้ายกับอ่านความคิดของผู้เป็นลูกสาวได้ เลี่ยวหยงจึงเดินเข้ามา “สัปดาห์หน้า คุณหมอมู่ จะลงมือผ่าตัดรักษาลูกด้วยตัวเอง แม่ขอร้องตั้งนานกว่าเขาจะยอมรักษาลูกให้”

“จริงเหรอคะ? ที่แท้ก็คุณแม่นี่เองที่เป็นคนขอร้องเขา” โจวหย่านทอดถอนใจ

“แม่ช่วยให้เขาได้ตำแหน่งกลับมา นึกไม่ถึงว่าอำนาจในโรงพยาบาลจะแข็งแกร่งขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณพ่อของแม่ ก็คุณตาของลูกนั่นแหละที่เป็นหุ้นส่วนใหญ่ในโรงพยาบาล แม่เองก็กลัวว่าจะช่วยไม่ได้เหมือนกัน”

ไม่มีผู้บริหารคนใดในโรงพยาบาลยอมให้มู่วี่สิงกลับมารับตำแหน่งเลยสักคน ดูท่ามู่วี่สิงคงจะถูก “ขึ้นบัญชีดำ” แล้ว

“ก่อนหน้านี้ คุณหมอมู่ไม่ได้ทำงานหรือคะ?” โจวหย่านถามอย่างสงสัย

“อือ เขาโดนเด้งแล้ว”

“รอลูกผ่าตัดเสร็จ แม่จะพาลูกกลับไปอยู่ประเทศC” เลี่ยวหยงกล่าวโดยไม่เปิดโอกาสให้โต้แย้ง

“ไม่ได้นะคะ หนูไม่กลับหรอก” โจวหย่านเบะปากน้อย ๆ แสดงสีหน้าไม่ยินยอม

“ถ้าแกไม่ยอมกลับไปกับแม่ แม่จะพาแกกลับเดี๋ยวนี้เลย แล้วต่อไปนี้แกก็อย่าฝันว่าจะได้เจอมู่วี่สิงนั่นอีก” เลี่ยวหยงตีสีหน้าเคร่ง

ว่ากันเรื่องวิธีการ โจวหย่านจะเปรียบเทียบหล่อนได้

โจวหย่านได้แต่โอนอ่อนผ่อนตาม อย่างไรเสียพอผ่าตัดเสร็จ หล่อนก็ค่อยขอร้องให้พี่ชายช่วยให้หล่อนอยู่ต่อก็ได้

ตอนนี้หล่อนอุตส่าห์ทำให้คุณปู่มู่ถูกใจตัวหล่อนได้แล้ว จะให้ยอมแพ้ระหว่างทางได้อย่างไร

หล่อนจะต้องแต่งงานกับมู่วี่สิงให้ได้

ประเทศF

โจวเซินเพิ่งจะมาถึง เสร็จจากการประชุมบริษัทย่อยทางฝั่งนี้แล้ว ก็ต้องรีบไปที่มหาวิทยาลัยFต่ออย่างกับม้าไม่หยุดวิ่ง

ในห้องสำนักงาน อาจารย์ผู้หญิงอายุไม่มากท่านหนึ่งกล่าวอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์ “ถ้าเธอยังไม่กลับมาอีก วุฒิดอกเตอร์นี่ก็ไม่ต้องเอามันแล้วนะ?”

โจวเซินกดหัวคิ้วอย่างเหน็ดเหนื่อย “พักนี้ต้องรับช่วงดูแลกิจการของตระกูลโจว งานเยอะมากเลยครับ”

“แต่สำหรับฉัน ใครก็ไม่มีอภิสิทธิ์ทั้งสิ้น ถ้ายังอยากได้ใบจบของเธอล่ะก็ เดือนหนึ่งอย่างน้อยต้องมีเวลามาเข้าเรียนให้ได้ครึ่งหนึ่ง”

“ครับ ผมจะพยายาม”

“ยังต้องพยายามอีกเหรอ ฉันว่าฉันทำเรื่องลาออกให้เธอไปเลยดีกว่า” ศาสตราจารย์ทำท่าจะเดินออกไปพบอธิการบดี

โจวเซินรีบเข้าไปขวางศาสตราจารย์เอาไว้ “ให้เวลาผมอีกหนึ่งสัปดาห์นะครับ ถ้าเรื่องที่เมืองหนานเสร็จสิ้นเมื่อใด ภายในปีนี้ผมจะพยายามเข้าเรียนให้มากขึ้น”

“ฉันจะรับฟังไว้ก่อนแล้วกัน เด็กอย่างเธอ ชอบปั่นหัวฉันอยู่เรื่อย” ศาสตราจารย์กล่าวอย่างเสียไม่ได้ หล่อนมองโจวเซิน “อีกไม่นานบัณฑิตวิทยาลัยของ มหาวิทยาลัยF ที่ตั้งอยู่ที่เมืองหนานก็คงสร้างเสร็จ เดือนหน้าฉันก็คงจะต้องไปอยู่ที่โน่น เธอเองก็จะได้ไม่ต้องวิ่งมานี่แล้ว”

ได้ฟังดังนั้น โจวเซินก็พลันเบิกคิ้ว เดิมทีบัณฑิตวิทยาลัยมีกำหนดเปิดทำการในปีหน้า ไม่นึกว่ากำหนดเวลาจะร่นเข้ามาเร็วถึงเพียงนี้

“งั้นผมรอศาสตราจารย์ที่เมืองหนานเลยแล้วกัน ช่วงนี้ก็ไม่มาอีกแล้วนะครับ”

“ชิ ไม่อยากมาเหยียบที่ประเทศFเลยสินะ” ศาสตราจารย์ส่ายหน้าอย่างเอือมระอา

“นักธุรกิจใหญ่งานรัดตัว ประเทศF ไม่ค่อยมีกิจการของตระกูลโจว ให้สะสางน่ะครับ”

“แต่ตอนนี้นายยังเป็นนักศึกษา นายยังเรียนไม่จบ! เรื่องงานต้องเอาไว้ทีหลัง” ศาสตราจารย์ยังคงอดเตือนไม่ได้

แต่เห็นได้ชัดว่า โจวเซินไม่ได้สนใจฟังเลยสักนิด “ผมรับรองว่าผลคะแนนของผมผ่านเกณฑ์แน่ วางใจได้ครับ”

พูดจบ ก็เดินอาด ๆ ออกไป

กลับมาถึงเมืองหนาน โจวเซินก็รีบไปที่โรงพยาบาลก่อน

พอรู้ว่ามู่วี่สิงยอมรักษาโจวหย่าน เขาก็รู้สึกแปลกใจ

ถึงอย่างไรการกลับมารับหน้าที่ที่โรงพยาบาลของมู่วี่สิงก็มีเสียงคัดค้านอยู่ไม่น้อย

“ดูเธอมีความสุขจังเลยนะ มู่วี่สิงยอมรักษาเธอ ดีใจมากสิท่า?”

“ก็ดี…” พอเห็นโจวเซิน รอยยิ้มบนใบหน้าของโจวหย่านก็จางลงไปไม่น้อย

“หลังจากผ่าตัดเสร็จ เธอยังอยากจะกลับไปที่ตระกูลมู่ไหม”

เขาทราบความประสงค์ของคุณนายโจวดี อย่างไรเสียคงต้องพาโจวหย่านกลับประเทศC เป็นแน่

“อยาก…อยากมากด้วย” โจวหย่านพยักหน้ารับหนัก ๆ

“ตอนนี้คุณปู่มู่ชอบเธออยู่ เอาใจเขาเข้าไว้ ตำแหน่งคุณนายมู่ของเธอจะไปไหนได้”

ห้างซินเทียนดี้

เวินจิ้งกับอั้ยเถียนเดินมาตลอดทั้งบ่าย แต่ไม่ได้ซื้ออะไรให้ตัวเองเลย ทว่ากลับซื้อของในแผนกของใช้สำหรับเด็กไปไม่น้อย กะว่าจะซื้อไปให้ซูยิง

มื้อค่ำของทั้งสองก็ยังมาฝากท้องที่บ้านของซูยิง

คฤหาสน์เหิงซาน เป็นรังรักของลี่หนานเฉิงกับซูยิง ลี่หนานเฉิงใช้เวลาในการออกแบบไปถึงห้าปีเต็ม ๆ กว่าจะสร้างจนเสร็จ แค่การตกแต่งภายนอกที่โอ่อ่าหรูหราก็ทำให้ทั้งคู่ถึงกับตะลึงจนต้องหยุดชมดูกันเลยทีเดียว

ซูยิงออกมาเปิดประตูต้อนรับด้วยตัวเอง พอเห็นทั้งคู่หอบข้าวของถุงเล็กถุงใหญ่มาด้วย ก็หัวเราะ “มาแต่ตัวก็พอแล้ว พวกเธอสองคนใส่ใจกว่าคนเป็นแม่อย่างฉันเสียอีก”

“พวกเราไปเดินดูโน่นดูนี่ที่ห้างไปเรื่อยน่ะ เห็นของอะไรน่ารัก ๆ ก็ซื้อมาหมดเลย ถึงอย่างไรพวกเราก็เป็นแม่ทูนหัวของลูก ย่อมต้องรักลูกเป็นเรื่องธรรมดา” อั้ยเถียนตอบ

พอเดินเข้าไปในบ้าน เวินจิ้งเห็นการตกแต่งเต็มไปด้วยสีขาวบริสุทธิ์ทั้งหลัง ดูสูงสง่าแต่ไม่คร่ำครึ ทั่วทุกมุมล้วนแต่พิถีพิถัน ก็เอ่ยปากชม “เธอมาพักอาศัยที่นี่ในช่วงตั้งครรภ์ ฉันก็วางใจแล้ว”

ซูยิงเผยสีหน้าอุธัจขัดเขินออกมา หล่อนเองก็นึกไม่ถึงว่าลี่หนานเฉิงจะแอบสร้างเคหาสน์อันแสนวิจิตรแห่งนี้ไว้ให้หล่อน หล่อนชอบบ้านหลังนี้ทั่วทุกจุดเอามาก ๆ

เขารู้รสนิยมของหล่อนดีอยู่แล้ว

ทั้งสามคุยสัพเพเหระอยู่ในห้องรับแขก จนกระทั่งท้องฟ้าค่อย ๆ มืดค่ำลงโดยไม่รู้ตัวกันเลย ขณะที่เตรียมจะไปกินข้าวที่ห้องอาหาร จู่ ๆ ซูยิง ก็ควานมาเกาะเวินจิ้งเอาไว้ คนทั้งคนพลันหมดสติ เกือบจะล้มลงกับพื้น

“ซูยิง!”

อีกครึ่งชั่วโมงต่อมา โรงพยาบาล

เวินจิ้งกับอั้ยเถียนรออยู่ข้างนอกอย่างหวั่นใจ ผ่านไปไม่นานลี่หนานเฉิงก็ตามมาถึงอย่างรีบร้อน สีหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกกังวลใจ

“ยิงยิงสลบไปได้อย่างไร…”

เวินจิ้งขมวดคิ้ว มิได้ตอบคำ

ระหว่างที่กำลังเดินทางมาที่โรงพยาบาลเมื่อครู่ หล่อนได้ตรวจดูอาการของซูยิง คร่าว ๆ เกรงว่านี่คงเป็นสัญญาณของการแท้ง

แต่เรื่องนี้ หล่อนจะยังไม่บอกลี่หนานเฉิง

เพราะถ้าหากช่วยเอาไว้ได้ จะดีที่สุด

ยามนี้ โทรศัพท์มือถือของเวินจิ้งพลันดังขึ้น เป็นสายเรียกเข้าของมู่วี่สิง

วันนี้เขาอยู่ที่โรงพยาบาลทั้งวัน ส่วนเวินจิ้งเองตอนนี้ก็อยู่ที่ โรงพยาบาลหลินไห่ อีกเดี๋ยวมู่วี่สิงก็จะลงมาหาหล่อน

เพิ่งวางสายได้ไม่นาน คุณหมอก็เดินออกมา

“คนไข้แท้งแล้วนะครับ” น้ำเสียงของผู้เป็นแพทย์ดูหนักใจนัก

วินาทีต่อมา ลี่หนานเฉิงก็เข้าไปกระชากคอเสื้อของหมอราวกับใกล้จะเสียสติแล้ว ขณะที่เห็นหมัดหนึ่งกำลังจะอัดใส่ เวินจิ้งกับอั้ยเถียนก็รีบรั้งเขาไว้

“ลี่หนานเฉิงใจเย็นหน่อยสิ!” เวินจิ้งกล่าวเสียงกร้าว

เห็นได้ชัดว่าคุณหมอตกใจกับท่าทีของลี่หนานเฉิงจนสติเตลิด ไม่กล้าพูดอะไรต่อไปชั่วขณะ

ลี่หนานเฉิงหอบหายใจ จ้องหน้าหมอเขม็ง ผ่านไปครู่ใหญ่ถึงสงบสติอารมณ์ลงได้

“ภรรยาผมเป็นอย่างไรบ้าง?”

“ตอนนี้คนไข้ปลอดภัยแล้วครับ”

“เธอ…ทำไมเธอถึงแท้งได้”

“ร่างกายของคนไข้มีส่วนประกอบของยาทำแท้งปริมาณไม่น้อย ผมคิดว่าคุณต้องไปถามตัวคนไข้เองแล้วล่ะครับ”

ลี่หนานเฉิงอึ้งไปนานแล้ว ทำไมถึงได้…

ซูยิง ไม่มีทางทำร้ายลูกของเรา!

เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!

ลี่หนานเฉิงอัดเข้ากับกำแพงหมัดหนึ่งอย่างแรง ความโศกเศร้าที่ฉายผ่านดวงตายังคงส่งผ่านออกมาอย่างไม่มีวันจบ

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท