Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 509

ตอนที่ 509

บทที่ 509 ทำเองเจ็บเอง

มู่วี่สิงนั่งอยู่บนโซฟา ไม่แปลกใจที่คุณปู่เดินขึ้นมา

“ผู้สมัครผู้บริหารระดับสูง นายเลือกใคร” มู่เฉิงทำหน้านิ่ง

“ส้งวี่”

เมื่อได้ยินดังนั้น มู่เฉิงนิ่งไปครู่หนึ่ง

เรื่องที่ส้งวี่และมู่ซือซืออยู่ด้วยกันนั้น มีคนรู้ไม่น้อย

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงจะหาคนอื่น ทว่าคิดไม่ถึงว่าจะเป็นส้งวี่

“ผมจำได้ว่าเขาเป็นลูกชายตระกูลส้ง เขาดูแลกิจการของตระกูลส้งจำนวนไม่น้อย”

ความหมายของสิ่งที่พูดนั้น ก็คือส้งวี่สามารถแบ่งเวลามาทำได้หรอ?

“ทายาทผู้สืบทอดของตระกูลส้งนั้นไม่ใช่ส้งวี่ ดังนั้น บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปสามารถให้เขาเข้ามาดูแลได้อย่างวางใจ” มู่วี่สิงพูดเสียงเรียบ

ถ้าหากคนๆนี้คือส้งวี่ มู่เฉิงเองก็คงจ้องจับผิดอะไรไม่ได้ในระยะเวลาสั้นๆ

เพียงแต่ความสามารถของส้งวี่นั้น เขาเองก็ไม่ค่อยมั่นใจ

เพราะอย่างไรเสียก่อนหน้านี้เขาก็เป็นจิตแพทย์ ถึงแม้ว่าจะเรียนด้านธุรกิจมาแล้ว แต่มีประสบการณ์ไม่มากนัก

“วี่สิง ถึงแม้จะเป็นแบบนี้ แต่บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปก็ต้องมีคุณมาบริหารจัดการ” น้ำเสียงของมู่เฉิงเคล้าไปด้วยความโมโห

“ผมไม่ได้บอกว่าผมไม่บริหาร เพียงแต่ตำแหน่งประธานนั้น ผมไม่คิดจะนั่งในตำแหน่งนี้นาน”

นับตั้งแต่ส้งวี่ดำรงตำแหน่งประธานแล้วนั้น มู่วี่สิงก็คิดอยากจะให้อำนาจทั้งหมดแก่เขา

ทางด้านมู่เฉิง เวลานี้ก็เข้าใจความหมายของมู่วี่สิงแล้ว

“ส้งวี่ไม่ใช่คนในตระกูลมู่ของเรา!” มู่เฉิงกล่าวพูดด้วยความโมโห

“คุณปู่ครับ งานแต่งงานของเขาและซือซือได้กำหนดเอาไว้แล้ว เขาเป็นคนตระกูลมู่ของเรา”

มู่เฉิงทำหน้านิ่ง ในสายตาเขานั้น นอกจากมู่วี่สิงแล้ว ไม่มีใครเหมาะสมกับตำแหน่งประธาน

“นายต้องให้อำนาจกับคนอื่นจริงๆใช่ไหม!” แววตาของมู่เฉิงแปรเปลี่ยนเป็นสิ้นหวัง

มู่วี่สิงเม้มปาก ดวงตาสีนิลหรี่เล็กลงมา

“ผมรับปากคุณปู่ว่าจะรับช่วงบริหารบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ตอนนี้ผมก็รับช่วงต่อแล้ว คุณปู่ครับ ตอนนี้เรื่องทุกอย่างของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ไม่เกี่ยวข้องกับคุณปู่แล้ว” มู่วี่สิงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“แล้วถ้าฉันไม่อนุญาตล้ะ!ฉันไม่เห็นด้วยที่จะให้ส้งวี่มานั่งในตำแหน่งนี้!ตำแหน่งนี้ มีแค่นายเท่านั้น!” มู่เฉิงกระแทกไม้เท้าอย่างแรง กล่าวพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่สามารถต่อรองได้

มู่วี่สิงเริ่มหน้าซีด “ถ้าคุณปู่รู้สึกเสียใจที่ยกบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปให้ผมดูแล ผมก็จะไม่เข้าร่วมงานใดๆของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป”

พูดจบ ก็เดินออกไปโดยไม่แม้แต่จะหันหน้ากลับมา

เวลานี้ มู่เฉิงโมโหมากจริงๆ เขารู้ดีว่านิสัยของมู่วี่สิงนั้นดื้อด้านแค่ไหน แต่ว่าตระกูลมู่ มีแค่เขาเพียงคนเดียวเท่านั้นที่มีความสามารถในการบริหารและรับช่วงบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป!

แต่ใจของมู่วี่สิงกลับไม่อยู่ในบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป!

แบบนี้จะไม่ให้มู่เฉิงโมโหได้อย่างไร!

มู่วี่สิงยกตำแหน่งประธานบริษัทให้กับส้งวี่ เขาก็เป็นเพียงประธานใหญ่เท่านั้น วันข้างหน้าก็ไปออกแค่งานใหญ่ๆ แต่ว่าบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ตกอยู่ในกำมือของส้งวี่

ไม่ง่ายเลยกว่าที่มู่เสิงจะใจเย็นลงได้ ในหัวของเขามีแต่คำพูดหยาบคายของมู่วี่สิงเมื่อครู่

ถึงขั้นกล้ามาขู่คนแก่อย่างเขา!

สมแล้วที่เป็นหลานที่เขาเลี้ยงมากับมือ!

มู่วี่สิงเป็นคนที่พูดจริงทำจริง หนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา เขาไม่ได้เข้ามาในบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปอีกเลย และไม่สนใจเรื่องทุกอย่างของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป นอกจากไปเปิดคลินิกอาทิตย์ละหนึ่งวันที่กำหนดเอาไว้แล้วนั้น นอกเหนือจากนั้นก็อยู่ที่การ์เด้นมูเจียวานเพื่ออยู่เป็นเพื่อนเวินจิ้ง มีบ้างบางครั้งที่จะสอนพิเศษให้เธอ

เวินจิ้งมองดูผู้ชายที่ยืนข้างๆ ช่วงนี้มู่วี่สิงว่างมาก…..เธอรู้สึกไม่ชินจริงๆ

“คุณไม่ไปบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปหรอคะ แบบนี้คุณปู่ไม่โมโหหรอคะ?” เวินจิ้งถามด้วยความเป็นห่วง

มู่วี่สิงไม่ได้ไปทำงานหลายวันแล้ว และไม่ค่อยทำงานอะไรด้วย แบบนี้ตอนนี้บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปจะทำยังไง…..

“โมโหสิ” มู่วี่สิงตอบเสียงเรียบ

มู่ซือซือโทรหาเขาหลายสาย บอกว่าคุณปู่โมโหเป็นอย่างมาก

“แล้วคุณ……เวินจิ้งขมวดคิ้วด้วยความลังเล

“ผมต้องการให้คุณปู่ยอมทิ้งอำนาจทั้งหมดในบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ถ้าท่านทำไม่ได้ เช่นนั้นก็สู้ไม่ต้องยกบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปให้ผมแต่แรกยังจะดีเสียกว่า” มู่วี่สิงเอ่ยพูดเสียงเรียบ

เวินจิ้งไม่เข้าใจเรื่องธุรกิจ แต่ความคิดของมู่วี่สิงนั้นเธอรู้ดี

รับช่วงบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป แต่เขาไม่คิดที่จะบริหาร

แต่ทว่านี่กลับตรงกันข้ามกับความต้องการของมู่เฉิง

“ช่วงนี้ฉันเห็นว่าสถานการณ์ของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปไม่ดีเท่าไหร่ หุ้นตกลงมาก” เวินจิ้งพูดขึ้น

เหตุเพราะมู่วี่สิง เธอจึงคอยติดตามข่าวของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปอยู่บ่อยๆ

ตอนนี้สิ่งที่เกิดขึ้นกับบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปกลายเป็นข่าวใหญ่ในแวดวงธุรกิจ แต่ทว่ามู่วี่สิงที่เป็นถึงประธานกลับทำตัวว่างๆ

เวินจิ้งเป็นห่วงแทนเขา

“ตกถึงระดับหนึ่งแล้วก็จะไม่ตกอีก บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปอยู่มาหลายปีแล้ว ไม่ใช่ว่าจะล้มก็ล้มง่ายๆ ถือโอกาสในครั้งนี้ จัดการเรื่องไม่ดีด้วย”

ทุกการก้าวเดินของมู่วี่สิง ไม่เคยผิดมาก่อน

เวินจิ้งมองดูชายหนุ่มที่พูดขึ้นนั้น แววตาของเธอเคล้าไปด้วยความนับถือ

เมื่อได้ยินมู่วี่สิงพูดแบบนี้ เธอเองก็วางใจแล้ว

เธออ่านหนังสือต่อ มู่วี่สิงจะคอยให้ความรู้กับเธอบ้างเป็นครั้งคราว เวินจิ้งรู้สึกอิ่มเอมใจและมีความสุขในทุกวัน

นอนพิงอยู่ในอ้อมกอดของมู่วี่สิง เวินจิ้งหาวฟอดใหญ่ ตอนเย็นเริ่มรู้สึกอ่อนเพลีย

ขณะที่กำลังจะนอนหลับนั้น กลับตกใจตื่นเพราะเสียงโทรศัพท์ เป็นเสียงโทรศัพท์ของมู่วี่สิง

มู่วี่สิงปรายตามอง รับสาย

“คุณหมอมู่ วันนี้ตอนเช้าโจวหย่านอ้วก คุณช่วยกลับมาดูหน่อยได้ไหมคะ?” พยาบาลสาวพูดด้วยความกังวล

มู่วี่สิงขานรับ แล้วตัดสายไป

แน่นอนว่าเวินจิ้งเองก็ได้ยินสิ่งที่ปลายสายพูด จึงลุกขึ้นแล้วไปช่วยหยิบเสื้อกันหนาวให้กับมู่วี่สิง

“ไปกับผมไหม หื้ม?”

“ไม่ไปค่ะ ครั้งที่แล้วตอนที่ฉันอยู่ที่โรงพยาบาล แฟนคลับของคุณแทบจะระเบิดตัวฉันทิ้ง” เวินจิ้งนึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้น เหล่าแฟนคลับปากร้ายมาก

เมื่อได้ยินแบบนั้น มู่วี่สิงขมวดคิ้วเป็นปม โอบกอดเอวบางเอาไว้ “มีผมอยู่ ไม่มีใครกล้าทำร้ายคุณหรอก”

แน่นอนว่าเวินจิ้งรู้ดี แต่เธอไม่ค่อยอยากเจอหน้าโจวหย่าน

คล้ายว่าอ่านความคิดของเวินจิ้งออก มู่วี่สิงจึงไม่ได้พูดอะไรอีก

จูบหน้าผากของเธอ แล้วพูดอย่างอ่อนโยน “คืนนี้รอผมกลับมากินข้าวนะครับ”

“ค่ะ งั้นเดี๋ยวฉันออกไปซื้อผัก”

หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง มู่วี่สิงไปถึงโรงพยาบาล โจวหย่านอ้วกหนักมาก มู่วี่สิงสั่งให้ฉีดยาลดการอาเจียนให้เธอ แล้วเจาะเลือดไปตรวจ รอผล

โจวหย่านทรมานมาก สีหน้าของเธอซีดขาว

“คุณหมอมู่คะ คุณช่วยอยู่เป็นเพื่อนฉันหน่อยได้ไหมคะ……” โจวหย่านมองดูมู่วี่สิงหน้าเศร้า

“ผมจะอยู่ที่นี่อีกหลายชั่วโมง สองวันนี้กินอะไรเข้าไป?” มู่วี่สิงเอ่ยถามด้วยความอดทน

“กิน…..กินเนื้อวัวค่ะ” โจวหย่านพูดเสียงเบาลงเรื่อยๆ

เธอจำได้ว่ามู่วี่สิงเคยบอกให้ระวังด้านการกิน แต่เมื่อวานตอนที่ออกไปเดินเล่นเห็นคนขายเนื้อย่าง เธอหิวขึ้นมา พี่ชายก็เลยซื้อกลับมาให้กิน

ใครจะไปคิดว่าวันนี้จะอ้วกหนักขนาดนี้

มู่วี่สิงทำหน้านิ่ง “หาเรื่องใส่ตัว”

โจวหย่านเบ้ปาก “ใช่ค่ะ ฉันหาเรื่องใส่ตัว”

ทั้งๆที่รู้ว่ามู่วี่สิงไม่ได้ชอบเธอ แต่เธอก็ยังจะชอบเขา หาเรื่องให้ตัวเองแท้ๆ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว จ่ายยาให้เล็กน้อย เมื่อเห็นว่าอาการของโจวหย่านคงที่แล้ว จึงกลับไปที่ห้องทำงาน

บนโซฟาเต็มไปด้วยของขวัญมากมาย สีหน้าของมู่วี่สิงดูเข้มขรึมไม่น้อย พยาบาลเดินเข้ามา “คุณหมอมู่ค่ะ ทั้งหมดนี้แฟนคลับของคุณเป็นคนส่งมาให้ค่ะ แฟนคลับของคุณมีอำนาจมาก จะห้ามยังไงก็ห้ามไม่ไหว”

ในโรงพยาบาลมีข้อห้ามไม่ให้รับของขวัญ แต่แฟนคลับกลับเอาของขวัญมาวางทิ้งไว้ตรงประตู และดันไม่ทิ้งชื่อเอาไว้ จึงทำได้เพียงจัดการแบบนี้

“เปิดออก แล้วแยกประเภทจากนั้นส่งไปที่บ้านเด็กกำพร้า” มู่วี่สิงออกคำสั่ง

“ค่ะ”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท