Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 512

ตอนที่ 512

บทที่ 512 จะมีจุดอ่อนไม่ได้

ใบหน้าของมู่วี่สิง ตึงเครียดขึ้น มองไปทางเวินจิ้ง ขมวดคิ้วขึ้น แล้วมุ่งเดินตรงไปยังชานชาลาสูง

โจวหย่านเมื่อเห็นใบหน้าที่เคร่งขรึมของเขา รู้สึกหวาดกลัว เดินถอยหลังออกไปโดยไม่รู้ตัว

“ยืนอยู่ตรงนี้แหละ”มู่เฉิงพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น

โจวหย่านถึงต้องหยุดการก้าวขา

มองไปที่มู่วี่สิง ที่ค่อยๆ เดินเข้ามาใกล้ ทีละก้าวๆ หัวใจของเธอเต้นเร็วขึ้น และกังวลมากขึ้นด้วย

“คุณปู่”

“มาแล้วเหรอ”มู่เฉิงลุกขึ้นยืนด้วยไม้ค้ำ ขณะเดียวกัน โจวหย่านและมู่วี่สิงก็แยกกันไปยืนขนาบทั้งสองข้างของท่าน

เวินจิ้งมองไปยังฉากเบื้องหน้า บนชานชาลาสูง ก็รู้สึกตาพร่ามัว

มู่วี่สิงที่วันนี้ สวมชุดสูทแฮนด์เมดสีดำ โจวหย่านที่อยู่ในชุดเดรสโปร่งสีขาว ดูเหมือนมู่เฉิงจะเป็นพยาน ถ้าทั้งสองคนยืนอยู่ด้วยกัน มันจะต้องเป็นคู่ที่สมบูรณ์แบบ

ความคิดนี้ ปรากฏขึ้นในความคิดของเวินจิ้ง ใบหน้าของเธอค่อยๆ ซีดลง

ในวินาทีถัดมา คำพูดของมู่เฉิง ก็ดังขัดจังหวะขึ้นมา“วันนี้เป็นงานฉลอง ครบรอบร้อยปีของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป และเป็นงานหมั้นของหลานชายของฉัน ระหว่างมู่วี่สิงกับโจวหย่านด้วย!”

งานหมั้น——

เวินจิ้งเมื่อได้ยินสองคำนี้ หัวของเธอก็รู้สึกหนักขึ้น และเธอรู้สึกเวียนหัว

แก้วไวน์ในมือของเธอ ก็ร่วงหล่นจากมือเธอ มือของโจวเซิน รีบเข้าไปจับเธอไว้แน่น

เมื่อเห็นใบหน้าซีดของเวินจิ้ง ริมฝีปากบางของเขา ก็ค่อยๆ กระตุกรอยยิ้มขึ้น

ในเวลานี้ แขกโดยรอบ ก็ได้กระจายไปทั่วตั้งแต่แรกแล้ว และงานเลี้ยงนี้ ได้จัดให้มีผู้สื่อข่าวจำนวนมาก ให้มาร่วมงานนี้ด้วย ไฟกระพริบส่องสว่างขึ้น โดยไฟได้จับไปที่ ภาพของชายและหญิงคู่หนึ่งที่ดูเหมาะสมกัน กำลังขึ้นมาบนเวที

มู่เฉิง จับมือของทั้งสองคนขึ้นมา สายตามองไปยังมือ ที่กำลังจะจับกัน มู่วี่สิงก็ปล่อยมือออก

สายตาที่แหลมคมเหมือนเหยี่ยว ตวัดสายตามอง เขาก้าวฝีเท้าผ่านมู่เฉิง แล้วเดินเข้าไปตรงหน้าของโจวหย่าน

และในขณะนั้น สายตาของโจวหย่านเต็มไปด้วยความรัก และความประหม่ามองไปยังมู่วี่สิง

เธอยกมือขึ้นช้าๆ พยายามจะจับฝ่ามือใหญ่ของมู่วี่สิง แต่ยังไม่ทันได้ตอบสนองอะไร มู่วี่สิงก็เอื้อมมือออกมา ไปถอดมงกุฎที่อยู่ด้านบนศีรษะของเธอออก

มงกุฎนี้ เป็นสินสอดของภรรยาที่เสียชีวิตไปของมู่เฉิง และต่อมา ก็ได้ส่งมอบให้แม่ของเขา หลังจากที่ท่านได้เสียชีวิตลง มันก็ถูกเก็บไว้ใน พิพิธภัณฑ์ของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป

แต่ตอนนี้ มันถูกสวมไว้บนศีรษะของโจวหย่าน ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ

ถือมงกุฎไว้อย่างแน่น แล้วเขาก็ก้าวเดินลงจากเวทีสูง

สีหน้าของมู่เฉิง ดูไม่ดีเลย เขาสั่งให้คนที่อยู่รอบข้าง หยุดมู่วี่สิงทันที

แต่ในเวลานี้ ทั้งตัวของมู่วี่สิง แสดงออร่าความรุนแรงออกมา ดวงตาของเขาน่าสะพรึงกลัว ซึ่งทำให้ผู้คน กลัวที่จะเข้าไปใกล้

เวินจิ้งที่ตัวแข็งทื่อมาแต่แรก เมื่อเห็นกลุ่มคนค่อยๆ ก้าวถอยเป็นทาง เพื่อเปิดทางให้กับ มู่วี่สิงที่ห่างออกไปไม่กี่เมตร ที่กำลังเดินมาทางเธอ

เลนส์กล้องของนักข่าว ต่างก็ตกมาที่ตัวของเวินจิ้ง แต่ในสายตาของเธอ เธอเห็นแต่ผู้ชายที่หล่อเหลา และมีเกียรติที่อยู่ตรงหน้าเธอเท่านั้น

เขาถือมงกุฎไว้ในมือ ราวกับว่าเป็นสมบัติที่ต้องทะนุถนอมที่สุด

ในที่สุด ฝีเท้าของเขาก็หยุดลงตรงหน้าเธอ

เขาคุกเข่าลง เข่าอีกข้างตั้งชันขึ้น ใบหน้าซีดเซียวของเวินจิ้ง ตอนนี้เปลี่ยนเป็นประหลาดใจ

มู่วี่สิงกำลังทำอะไร……

“เวินจิ้ง ตลอดชีวิตนี้ ผมจะแต่งงานกับคุณ มงกุฎนี้เป็นสินสอดของคุณย่าผม จะส่งต่อให้กับสะใภ้ของตระกูลมู่เท่านั้น และคุณ เป็นคนเดียวที่ผมได้เลือกไว้แล้ว มันเป็นของคุณเท่านั้น”

ในตอนนั้น ดวงตาของเวินจิ้งได้กลายเป็นสีแดง เธอพยายามเม้มปิดริมฝีปาก เพื่อไม่ให้ตัวเองมีเสียงร้องไห้ออกมา

แต่น้ำตายังคงไหลหยด มือของเธอสั่นเทา ไม่เคยเจอมาก่อน

เธอไม่ได้ลืมว่า เมื่อกี้ มงกุฎนี้ถูกสวมอยู่บนหัวของโจวหย่าน

จริงๆ แล้ว คืนนี้มู่เฉิง ต้องการให้มู่วี่สิงและโจวหย่าน หมั้นกัน!

“เวินจิ้ง คุณเป็นของผม”มู่วี่สิงลุกยืนขึ้น แล้วสวมมงกุฎบนศีรษะของเวินจิ้ง

มงกุฎก็ไม่ได้เบา ฝังด้วยเพชร และอัญมณีที่ล้ำค่าเป็นเม็ดๆ มงกุฎนี้ มีมูลค่าหลายร้อยล้าน

เวินจิ้งตะลึง จนทำอะไรไม่ถูก บุ้ยปาก แต่เธอกลับพบว่า ตัวเองไม่สามารถส่งเสียงได้

จนกระทั่ง มู่วี่สิงสัมผัสไปที่ตัวเธออย่างอบอุ่น เขาพาเธอออกจากห้องจัดงานเลี้ยงนี้ โดยไม่สนใจกับสายตาชื่นชม และอิจฉารอบด้าน

“มู่วี่สิง เธอหยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ!”ไม่ไกลนัก น้ำเสียงที่กำลังโกรธของมู่เฉิง ก็ดังขัดขึ้นมา

เขาไม่คาดคิดว่า มู่วี่สิงจะกล้าหักหน้า อดีตประธาน ในงานเลี้ยงคืนนี้!

ในสายตาของเขา ยังเห็นว่าเขาเป็นปู่อยู่ไหม!

โจวหย่านเมื่อเรียกสติกลับคืนมาได้ ก็รีบช่วยคุณปู่ เดินเข้าไปหามู่วี่สิงทันที

เมื่อเห็นบนหัวของเวินจิ้ง สวมมงกุฎที่เธอเคยสวม เธอก็พูดด้วยความโกรธว่า“คุณเวินคะ โปรดถอดมงกุฎนี้ออกมาด้วยค่ะ นี่เป็นของขวัญจากคุณปู่ที่มอบให้กับฉัน”

เวินจิ้งเงยหน้าขึ้น มองไปที่ใบหน้าที่ไม่พอใจของโจวหย่าน เธอก็ยิ้มออกมาเบาๆ แล้วบีบฝ่ามือใหญ่ของมู่วี่สิงแน่น

“เมื่อกี้นี้ มู่วี่สิงได้พูดชัดเจนแล้วไม่ใช่เหรอ ว่ามงกุฎนี้เป็นของลูกสะใภ้ตระกูลมู่เท่านั้น เธอใช่เหรอ?”

“แน่นอนต้องเป็น……”

แต่เมื่อสบเข้ากับ สายตาเคร่งขรึมของมู่วี่สิง น้ำเสียงของโจวหย่านก็เงียบหายไป

“นั่นเป็นเพียงความคิด ความปรารถนาของเธอ”เวินจิ้งพูดอย่างไม่แยแส

“คุณปู่ครับ เวินจิ้งเป็นภรรยาของผม และนี่เป็นความจริงที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้!”มู่วี่สิงด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“ฉันไม่ยินยอม!”

ในตอนนี้ มู่เฉิงไม่สนใจ ว่ารอบด้านจะมีกี่สายตากำลังจ้องมองอยู่ ความโกรธทำให้เขาไม่มีสติ และไม่มีเหตุผล

“การแต่งงานของผม ไม่ต้องการได้รับการยินยอมจากใคร”

เมื่อพูดจบ ก็ดึงเวินจิ้งให้หันกลับ แล้วเดินจากไป

โจวหย่านต้องการที่จะตามให้ทัน แต่วิ่งไปได้ไม่เพียงกี่ก้าว ก็สะดุดเข้ากับชุดเดรสของตัวเองล้มลง และทันใดนั้น ก็มีเสียงอุทานดังขึ้นรอบด้าน

“จริงๆ แล้ว เป็นความปรารถนาของคุณโจวมาตลอด……เมื่อกี้คุณหมอมู่โรแมนติกมากอ่ะ!”

“ใช่สิ อิจฉาผู้หญิงคนนั้น ที่อยู่ข้างเขาจริงๆ คงจะมีความสุขมากเลย……”

“……”

“หยุดพูดเรื่องไร้สาระได้แล้ว ฉันนี่แหละ ที่เป็นภรรยาของมู่วี่สิง!”โจวหย่านลุกขึ้นยืนอีกครั้ง แต่ในขณะนี้ ภายในห้องจัดงานเลี้ยง ไม่มีร่างของมู่วี่สิงอีกต่อไป

มู่เฉิงได้รับการช่วยเหลือจากส้งวี่ ภายในหัวใจรู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก ใบหน้าของเขาแสดงความผิดหวัง

“ไอ้เลว!”มู่เฉิงตวาดออกมาด้วยความโกรธ

นักข่าวหลายคนที่มาร่วมงานในคืนนี้ และพรุ่งนี้ไม่รู้ว่า เขาที่หักหน้าคุณปู่ จะถูกเขียนข่าวว่าอะไรบ้าง จากนักข่าวพวกนั้น!

และคนที่เป็นคนหักหน้าเขา ก็คือหลานชายของเขาเอง!

อา!

“คุณปู่คะ คุณปู่ใจเย็นๆ ก่อนนะคะ คุณปู่ก็รู้อารมณ์ของพี่ชายดี นี่จะเป็นเหมือนกรรมตามสนองไหมคะเนี่ย”มู่ซือซือพูดอย่างรวดเร็ว

มู่วี่สิงจะสามารถประนีประนอมได้ยังไง ในเมื่อคุณปู่ของเขายังบังคับเขาอยู่

ไม่อย่างนั้น เขาก็สืบทอดบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปไปนานแล้ว

วิธีการของคุณปู่เมื่อกี้นี้ ก็ทำให้เธอรู้สึกผิดหวังมากเช่นกัน

“ฉันทำเพื่อประโยชน์ของเขา!เธอดูสิ ตอนนี้บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปมันเป็นยังไง เขากำลังถูกเวินจิ้งครอบงำอยู่ แล้วเขาจะดูเหมือนคนที่มีอำนาจได้ยังไง!”

“นั่นก็เป็นสิ่งที่คุณปู่บังคับ พี่ชายได้จัดการให้ส้งวี่เข้ามาช่วย เพราะพี่ชายไม่ได้ต้องการอำนาจ หนูก็คิดว่าส้งวี่ไม่เห็นจะมีปัญหานี่คะ”มู่ซือซือบ่นพึมพำ

เธอมองผู้ชายของเธอในแง่ดี

เมื่อได้ยิน ส้งวี่ก็อมยิ้มขึ้นมา และลูบหัวของมู่ซือซือด้วยความรัก

มู่เฉิงเปลี่ยนสีหน้า มองส้งวี่ที่อยู่ข้างๆ และก็ไม่พูดอะไรต่อ

เขายังคงรับไม่ได้จริงๆ ถ้าส้งวี่จะมารับช่วงต่อเพื่อดูแลบริษัท ถ้าหลานชายของเขาเชื่อฟัง นั่นมันคงจะดีขึ้นมาก……

“คุณปู่คะ คุณปู่ก็อย่าให้โจวหย่านมาที่บ้านของพวกเราอีกเลย พี่ชายไม่ชอบเธอจริงๆ นะคะ”

มู่ซือซือต้องการที่จะสานความสัมพันธ์ ระหว่างคุณปู่และพี่ชายมาตลอด ไม่อย่างนั้น เธอที่อยู่ระหว่างตรงกลาง มันจะทำให้เธอลำบากใจนะ!

“เขาไม่ได้ต้องการผู้หญิงที่เขาชอบ เขาจะมีจุดอ่อนไม่ได้”มู่เฉิง พูดด้วยอารมณ์ที่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ลึกซึ้ง

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท