Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 511

ตอนที่ 511

บทที่ 511 ในสายตาของคุณมู่ มองได้แค่ฉันคนเดียว

โจวหย่านรู้สึกงุนงง คุณปู่มู่ได้วางแผนจัดเตรียมปูทางเดิน ให้มู่วี่สิงต้องเดินตามตั้งแต่แรกแล้ว เขาคือคนของตระกูลมู่ ดังนั้นเขาต้องรับช่วงต่อของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป

ซึ่งก็เหมือนกับเธอ ตอนนี้เธอเป็นคนของตระกูลโจวแล้ว และตอนนี้โจวเซิน มีอำนาจในตระกลูโจว ดังนั้นเธอต้องฟังเขาทุกอย่าง

เติบโตมาในครอบครัวที่ร่ำรวย เรื่องพวกนี้โจวหย่านเข้าใจดี

“สิ่งที่เขาต้องทำ ก็คือกลับมาที่บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ไม่ใช่มัวแต่อยู่ที่โรงพยาบาล”น้ำเสียงของโจวหย่านต่ำลงเรื่องๆ

ประโยคนี้ ไม่ได้มีความมั่นใจที่จะพูดออกไปเลย

นี่คือสิ่งที่มู่เฉิงบอกเธอ ในสิ่งที่เธอต้องทำ คือชักจูงให้มู่วี่สิง กลับไปที่บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ถ้าเธอมันทำได้ มู่เฉิงจะทำให้เธอกับมู่วี่สิงได้หมั้นกัน

แต่ว่า เธอน่ะเหรอ ที่จะเป็นคนโน้มน้าวมู่วี่สิงได้อย่างไร

และในขณะนั้น ชายที่ว่าก็เดินผลักประตูเข้ามา

เมื่อเห็นโจวหย่าน มู่วี่สิงขมวดคิ้วขึ้นอย่างรำคาญ

“คุณหมอมู่คะ วันพรุ่งนี้ ฉันต้องออกจากโรงพยาบาลแล้ว”โจวหย่านเดินเข้าไปหาเขา

“อืม”มู่วี่สิงตอบอย่างไม่แยแส

“พรุ่งนี้ เป็นงานเลี้ยงฉลองครบรอบหนึ่งร้อยปีของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ฉันกับคุณปู่จะไปร่วมงานด้วย”

“โจวหย่าน คนแบบคุณ ไม่มีวันที่จะได้เป็นคนของตระกูลมู่”ประโยคของมู่วี่สิง หยุดทุกความคิดของโจวหย่าน

เมื่อพูดจบ มู่วี่สิงก็ไม่ได้อยู่ต่อ และดึงเวินจิ้งให้ออกมา

“พรุ่งนี้คุณจะไปใช่ไหมคะ?”โจวหย่านตะโกนถามออกไปอย่างกระวนกระวายใจ

ช่วงนี้มู่วี่สิง ไม่ได้สนใจเรื่องของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปเลย ดังนั้นงานเลี้ยงนี้ มู่เฉิงเป็นคนจัดเตรียมการ แต่ยังไง ทางบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ต้องบอกให้มู่วี่สิงทราบอยู่แล้ว

ใบหน้าของมู่วี่สิง ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ กลับทิ้งไว้เพียงแค่ภาพของความเย็นชา

เขาเดินอย่างรวดเร็ว เวินจิ้งต้องวิ่งเหยาะๆ ถึงจะตามมู่วี่สิงได้ทัน หลังจากขึ้นรถ ใบหน้าตึงของมู่วี่สิง ก็อ่อนลง

“งานเลี้ยงของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปในวันพรุ่งนี้ คุณจะไปไหมคะ?”เวินจิ้งมองไปยังผู้ชายที่อยู่ข้างๆ เธอ

“อืม”มู่วี่สิงพยักหน้า และเลิกคิ้วขึ้นอย่างเหนื่อยหน่าย

เวินจิ้งขมวดคิ้วขึ้น แล้วยื่นมือออกไป ช่วยเขาบีบนวดให้ผ่อนคลาย

“คุณจะไปกับผมไหม หืม?”มู่วี่สิงมองมาที่เธอ อย่างต้องการคำตอบ

เวินจิ้งกัดริมฝีปาก และไม่ตอบคำถาม

งานเลี้ยงของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ยังไงก็ต้องเจอกับคุณปู่มู่ แต่ตอนนี้คุณปู่มู่ไม่ชอบเธอ เธอไม่ต้องการที่จะไปปรากฏตัวต่อหน้าเขา เพื่อให้ตัวเองขายหน้า

และเมื่อกี้นี้โจวหย่าน ก็ได้พูดแล้วว่า เธอจะไปร่วมงานด้วย

“ถ้าไม่ไปกับผม คุณปู่ต้องให้โจวหย่านเป็นคู่ควงในงานเลี้ยงแน่เลย”มู่วี่สิงพูดอย่างจงใจ

เมื่อได้ยิน ในดวงตาของเวินจิ้ง ก็แสดงความไม่พอใจออกมา แล้วก็รีบจับแขนของมู่วี่สิงทันที

เขาเป็นของเธอ

เธอแค่ไม่อยากให้โจวหย่านอยู่ใกล้เขา

ในดวงตาของมู่วี่สิง ระยิบระยับไปด้วยรอยยิ้ม จับไปที่ใบหน้าเล็กของเวินจิ้ง แล้วจูบที่หน้าผากเธอ

“ฉันแค่จะไปปรากฏตัวต่อสาธารณะ ฉันยังเป็นคนของตระกูลมู่ ซึ่งขาดไม่ได้”

บ่ายของวันรุ่งขึ้น เกาเชียนได้นำชุดเดรส ราคาแพงหลายชุดมาให้ เวินจิ้งถือชุดพวกนั้นเข้าไปในห้องลองเสื้อผ้า เพื่อที่จะลองใส่ หลังจากเลือกได้หนึ่งชุด เธอก็นำชุดที่เหลือ อีกสองชุดเพื่อส่งคืนกลับไป

แต่เกาเชียนได้ออกไปแล้ว มู่วี่สิงก็เข้ามากอดเธอ “ชุดเดรสพวกนี้ เอาไว้ที่นี่เถอะ ที่การ์เด้นมูเจียวาน มีชุดพวกนี้น้อยเกินไป”

“ฉันก็ไม่ค่อยได้ไปร่วมงานเลี้ยงบ่อยนะคะ”เวินจิ้งคิดว่ามันไม่ค่อยจำเป็น

ชุดเดรสหรูหราพวกนี้ แต่ละชุดราคาหลักหมื่นหลักแสน เธอคิดว่าถ้าได้ใส่มันแค่ครั้งเดียวล่ะก็ แค่เช่ามาใส่ก็เพียงพอแล้ว

อย่างไรก็ตาม มู่วี่สิงเขาเป็นคนใจกว้างมาเสมอ แถมยังขะมักเขม้น ช่วยเธอแขวนไว้ในตู้เสื้อผ้าอีก

งานเลี้ยงฉลองครบรอบร้อยปีของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป จัดขึ้นในโรงแรมสไตล์รีสอร์ทแห่งหนึ่ง โรงแรมแห่งนี้บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป เพิ่งสร้างเสร็จเมื่อไม่นานมา โรงแรมทั้งหรูหรา และงดงาม

เวินจิ้งก้าวลงมา บนรองเท้าส้นสูง และควงที่แขนมู่วี่สิง

เวินจิ้งไม่ใช่คนแปลกหน้า สำหรับแขกหลายๆ คน คนที่อยู่ข้างกายของมู่วี่สิง เป็นเธอมาตลอด

เมื่อเห็นพี่ชายมาร่วมงาน มู่ซือซือก็รีบผลักรถเข็นเข้าไปหาเขาทันที ส้งวี่คอยอยู่ข้างๆ เธอ

“ฉันคิดว่าพี่จะไม่มาร่วมงานแล้วซะอีก”มู่ซือซือขมวดคิ้วขึ้นอย่างช่วยไม่ได้

“อืม”ใบหน้าของมู่วี่สิงซีดเผือด

เพียงเวลามองไปที่เวินจิ้ง ก็มีอารมณ์บางอย่าง เกิดขึ้นในดวงตาเขา

“คุณปู่ยังไม่มา เมื่อกี้มีแค่ฉันคนเดียว ที่เป็นคนของตระกูลมู่ มีคนจำนวนไม่น้อย มาล้อมรอบถามฉัน เกี่ยวกับเรื่องเมื่อไม่นานมานี้ของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป จนฉันหมดคำที่จะพูดแล้ว”มู่ซือซือพูดด้วยความรำคาญ

โชคดีที่ยังมีส้งวี่คอยอยู่ข้างๆ เธอ และเขาก็ช่วยสกัดกั้น พวกคนที่ชอบนินทาพวกนั้นให้ด้วย

“ทำงานหนักเลยสิ น้องสาวของพี่”ใบหน้าของมู่วี่สิงดูอ่อนโยนขึ้น

แต่เมื่อเผชิญหน้ากับแขกที่มาร่วมงาน ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา และเคร่งขรึม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวกับบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป เขาไม่ตอบอะไรเลย

บรรดาแขกเหรื่อ ต่างอดไม่ได้ที่จะผิดหวัง เมื่อเร็วๆ นี้ ราคาหุ้นของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปได้ดิ่งตัวลง และหลายๆ โครงการก็ถูกระงับ ทุกคนต่างคาดเดากันว่า เกิดจากความไม่ลงรอยกันภายใน ระหว่างผู้บริหารรับสูงของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป และสถานการณ์ต่างๆ ก็เกิดขึ้นหลังจากที่มู่วี่สิง มารับช่วงต่อบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปได้ไม่นาน หากสถานการณ์เช่นนี้ยังคงดำเนินต่อไป บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปคงยากที่จะแบกรับไหว

คำพูดเหล่านี้ ค่อยๆ แพร่กระจายไปทั่วงานเลี้ยง เมื่อมู่วี่สิงได้ยินเข้า ก็ทำได้เพียงแต่ขมวดคิ้วขึ้น

เวินจิ้งมองไปที่ใบหน้าสงบนิ่งของชายของเธอ แต่ไม่สามารถคาดเดา ความคิดของเขาได้เลยจริงๆ

ในเวลานั้น ไม่ไกลนัก ก็มีร่างหนึ่งที่คุ้นเคยเดินเข้ามา คือโจวเซินที่อยู่ในชุดสูทสีกรมเข้ม

มือข้างหนึ่งใส่เข้าไปในกระเป๋ากางเกง มืออีกข้างถือแก้วไวน์ไว้ และกำลังเดินมาทางเวินจิ้ง

“เวินจิ้ง พวกเราเจอกันอีกแล้วนะ”โจวเซินยกแก้วไวน์ขึ้น เพื่อแสดงให้เห็นว่า เขาต้องการที่จะชนแก้วกับเวินจิ้ง

แต่เวินจิ้งไม่สนใจเขา

“คุณโจว”พยักหน้าให้เขาอย่างสุภาพ แล้วหันไปคุยกับมู่วี่สิงต่อ ด้วยเสียงเบาๆ

สายตาของมู่วี่สิง ก็ไม่ได้มองไปทางโจวเซิน

โจวเซินที่จับแก้วไวน์ไว้ในมือ ค่อยๆ บีบแก้วในมือแน่นขึ้น

ในเวลานั้น ในที่สุดตัวเอกของงานเลี้ยงก็ได้เข้ามา

มู่เฉิงที่อายุมากแล้ว ถือไม้เท้า และเดินเข้ามาด้วยความช่วยเหลือของโจวหย่าน ออร่าของเขา ยังคงเปล่งประกายไปด้วย ความยิ่งใหญ่ และความน่าเกรงขาม

โจวหย่านที่อยู่ข้างๆ สวมด้วยชุดเดรสโปร่งสีขาวบริสุทธิ์ บนศีรษะประดับด้วยมงกุฎเพชรอันงดงาม การแต่งหน้าของเธอสวยงามอย่างน่าตกใจ และไร้ที่ติ

เธอเหมือนกับนางฟ้า ที่หลุดเข้ามายังโลก ทั้งอ่อนโยน และสวยงาม

สายตาของผู้ชายเกือบทั้งหมด อดไม่ได้ที่จะจับจ้อง มองไปยังร่างของโจวหย่าน

เมื่อได้มาร่วมงานเลี้ยงกับมู่เฉิง ตัวตนของโจวหย่านก็ถูกพูดถึงในทันที

แต่ตระกูลโจว ไม่ค่อยมีชื่อเสียงมากนัก จึงไม่ค่อยมีใครรู้จักโจวหย่าน

แต่ในคืนนี้ เธอทำให้คนทั้งเมืองต้องตกตะลึง

เวินจิ้งมองไปยัง ผู้หญิงที่อยู่ในชุดเดรสโปร่งสีขาว จากระยะไกล ถ้าค่ำคืนนี้ไม่ใช่งานเลี้ยงของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป เธอคงจะคิดว่า นี่เป็นงานหมั้นของโจวหย่านเป็นแน่

“วันนี้ คุณผู้หญิงโจว สวยมากนะ”เวินจิ้งพูดเสียงเบา

มู่วี่สิงขมวดคิ้วเล็กน้อย สายตาของเขากวาดไปทั่วร่างของโจวหย่าน โดยไม่หยุด

“ไม่ว่าจะสวยขึ้นแค่ไหน ก็ไม่เคยเข้าตาผมอยู่ดี”น้ำเสียงของมู่วี่สิงลึกขึ้น

เวินจิ้งมองไปยังมู่วี่สิง เมื่อเขามองมาที่เธอ ความรักที่ลึกซึ้งของเขา ก็ไม่สามารถปกปิดได้

“ในสายตาของคุณมู่ มองได้แค่ฉันคนเดียว”เวินจิ้งพูดอย่างมีเลศนัย

“ถ้าอย่างงั้น มันก็ขึ้นอยู่กับว่า คุณผู้หญิงเวิน ทำอะไรบ้าง”มู่วี่สิงเลิกคิ้วขึ้น บรรยากาศที่สวยงามแผ่กระจาย

ความใกล้ชิด และการเคลื่อนไหวของทั้งสองคนจากทางนี้ ถูกมู่เฉิงมองเห็นทั้งหมด สีหน้าของเขาเศร้าหมองลง เขาสั่งให้ผู้ช่วยโทรหามู่วี่สิง ให้มาตามลำพัง

“ฉันอยู่ที่นี่รอเธอ”

มู่วี่สิงไม่อาจยอมรับ จับไปที่มือเล็ก และพาเธอไปกับเขาด้วย

แต่ผู้ช่วย แสดงความลำบากใจ“คุณปู่มู่ได้พูดไว้แล้ว ว่าคุณมู่เท่านั้นที่สามารถเข้าไปได้ครับ”

“งั้นผมก็จะไม่เข้าไป ขวางหูขวางตาเขาแล้ว”เมื่อพูดจบ มู่วี่สิงก็หยุดการก้าวเดิน

“คุณชาย”

เวินจิ้ง ที่เห็นฉากที่อยู่ด้านหน้า ก็ค่อยๆ คลายมือที่จับออก“คุณเข้าไปก่อนเถอะ คืนวันนี้คุณก็มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย อย่าทะเลาะกับคุณปู่เลยค่ะ”

ตลอดเวลา เธอไม่ต้องเห็นมู่วี่สิง และมู่เฉิงต้องมีปัญหากัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท